มาเรียแอนมองชายที่อยู่ตรงหน้าตนอย่างสับสน นางคิดว่าเขาเป็นคนที่ใจดี อ่อนโยน และเฟรนด์ลี่มาก แต่ตอนนี้กลับดูเปลี่ยนไปถนัดตา ดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังเวทย์มหาศาลจากตัวของอีกฝ่าย...
"แกมันก็แค่มนุษย์ไร้น้ำยา จะทำอะไรได้!"
เจ้าไฮยีน่าเหยียดยิ้มเมื่อนึกถึงข้อนั้นว่าเผ่ามนุษย์นั้นมีหลายข้อที่ด้อยกว่าเผ่าอื่น คาเอลหรี่ตามองมัน มือหยิบไม้กายสิทธิ์ที่ทำจากคริสตัลสีฟ้าเขียวน้ำทะเล ทันใดนั้นบรรยากาศรอบข้างก็เงียบลง ใครบ้างล่ะที่จะไม่รู้ว่านั่นคืออะไร ไม้กายสิทธิ์ที่ทำจากคริสตัลสีฟ้าน้ำทะเลนั่นคือผลึกแห่งวารี ที่หายสาปสูญไปนานแล้ว จะมีติดตัวก็เฉพาะตระกูลที่สืบทอดมานาน และมีธาตุน้ำเป็นหลัก
คาเอลร่ายเวทย์ออกมาอย่างรวดเร็ว น้ำที่อยู่ใกล้ๆลอยขึ้นสูงแล้วมาเกาะรวมกันที่ไม้กายสิทธิ์ของคาเอล รวบรวมกลายเป็นดาบที่สร้างจากวารี ไม่ทันที่เจ้าไฮยีน่าจะร่ายเวทย์เสร็จคาเอลก็พุ่งตรงไปหามันอย่างรวดเร็ว
อึก!
มันตั้งการ์ดรับได้ทันทีทำให้ เด็กหนุ่มมนุษย์ทำอันตรายมันได้ไม่มากนัก คาเอลถอยหลัง ปากพึมพำร่ายเวทย์ น้ำทั้งหลายเริ่มก่อตัวขึ้นเหนือหัวคาเอล
"แกมันก็แค่มนุษย์อ่อนแอ!"
เจ้าไฮยีน่าร่ายเวทย์บอลไฟใส่คาเอล แต่คาเอลร่ายให้น้ำมาเป็นโล่กำบัง เมื่อไฟเจอกับน้ำจำนวนมากก็ไม่อาจต้านทานได้ เด็กหนุ่มพุ่งไปโจมตีไฮยีน่าอย่างรวดเร็ว แต่มันยิ้มเหี้ยมแล้วใช้กรงเล็บของมันพุ่งไปโจมตีตรงไม้กายสิทธิ์ของคาเอลจนมันลอยละลิ่วไปไกล น้ำที่ก่อตัวอยู่รอบๆพลันสลายไป คาเอลเป็นประเภทที่ต้องใช้สื่อกลางถึงจะใช้พลังเวทย์ได้ เมื่อไม่มีไม้กายสิทธิ์เขาก็ไร้ค่า
"เหอะ แกหมดเขี้ยวเล็บแล้ว ไอ้มนุษย์!"
เจ้าไฮยีน่าฉีกยิ้มกว้าง คาเอลใช้จังหวะที่มันมัวแต่พูดพล่ามต่อยไปที่ใบหน้าของมันอย่างจัง เพราะเขาเป็นประเภทใช้ไม้กายสิทธิ์จึงฝึกการต่อสู้ระยะประชิดมาแล้ว เด็กหนุ่มพุ่งไปต่อยท้องอีกฝ่ายอย่างแรง
เจ้าไฮยีน่าร่ายเวทย์บอลไฟออกมาสามลูก พุ่งไปทางคาเอล
ตู้ม!!
แต่ก่อนที่บอลไฟจะได้แตะต้องคาเอล ก็มีโล่สีเหลืองอ่อนปรากฎขึ้นมา....กลิ่นไอเวทย์ธาตุแสง
"หยุดแค่นั้นล่ะคะ"
เสียงของมาเรียน่าดังขึ้น ผู้ที่ร่ายเวทย์สร้างเกราะมาป้องกันคาเอลคือนางเอง มีแสงสว่างวนอยู่รอบๆมือของนาง นางคือผู้ใช้ธาตุแสงสายพิเศษ เจ้าไฮยีน่าถอยหลังไปตั้งหลักก่อนจะพยายามไปโจมตีคาเอลอีกครั้ง...
ปรากฎหอกที่สร้างจากธาตุแสงลอยวนอยู่รอบตัวมันจนมันมิสามารถจะขยับเขยื้อนร่างกายของมันได้แม้เพียงนิด
"เจ้าจะรังแกข้าได้ จะต่อว่าข้าได้ แต่เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะแตะต้องเพื่อนของข้าค่ะ"
นางกล่าวเสียงนุ่ม นางเป็นพวกประเภทยอมคน แต่ที่ไม่มีทางยอมเลยคือการที่มีคนมากลั่นแกล้งสหายนาง ถ้ามีปัญหากับนางก็มาลงที่นางสิ ไปยุ่งกับสหายของนางทำไม ถึงแม้เขาจะออกตัวปกป้องนางทั้งๆที่ไม่จำเป็นก็เถอะ....
"กลับไปเถอะค่ะ...นี่ไม่ใช่ประโยคขอร้องแต่เป็นคำเตือนนะคะ..."
น้ำเสียงของนางนิ่งสงบ มันมองไปยังหอกแสงรอบๆ นี่ไม่ใช่หอกแสงธรรมดา มันคือหอกแสงที่จะลดความสามารถในการฟื้นตัวของผู้อื่นจนแทบจะติดลบ ถ้าโดนไปหนึ่งทีคงต้องใช้เวลาเป็นปีเพื่อให้หาย แม้นจะเป็นแผลเล็กๆก็ตาม
มันกำหมัดแน่นก่อนจะทรุดลงกับพื้น
"ข้ายอมแล้ว...ปล่อยข้าไปเถอะ..."
สิ้นเสียง หอกแห่งแสงก็สลายไปกับอากาศ คาเอลมองเด็กสาวด้านหลังเขาอย่างตกตะลึง น-นางมีธาตุแสงสายพิเศษ แค่ธาตุที่หายากยังพอทน แต่นางยังเป็นสายพิเศษอีกด้วย...
"เป็นอะไรไหมคะ?"
นางเอ่ยถามคาเอลอย่างเป็นห่วง เขาส่ายหน้าเบาๆ ยอมรับว่าครั้งนี้เขาประมาทเกินไปจริงๆ เขาเคยฝึกการต่อสู้มามาก แต่ประสบการณ์จริงนั้นแทบจะไม่มีเลย ครั้งนี้ถ้าเขาไม่ได้เรียนการต่อสู้ระยะประชิดมาเขาคงมีรอยแผลเต็มตัวเลยล่ะ...มาเรียแอนพยุงตัวเขาขึ้นแล้วเดินจากไป ทิ้งให้เจ้าไฮยีน่านั่งรับสภาพที่แสนน่าสมเพศของตนเองอยู่ท่ามกลางคนมากมาย
"อารี...เจ้ามีธาตุแสงสายพิเศษหรือ?"
คาเอลเอ่ยถามนาง
"ใช่ค่ะ...เผ่าผีเสื้อส่วนใหญ่จะมีธาตุลมและธาตุแสง ตระกูลข้าเป็นผู้สืบทอดธาตุแสงมาหลายชั่วอายุคนแล้ว..."
ทั้งสองเดินไปหาที่นั่งแถวสวนน้ำชา มาเรียแอนหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดใบหน้าของคาเอล เมื่อเครื่องสำอาง ประทินโฉมทั้งหลายหายไปก็เผาให้เห็นชายหนุ่มรูปงามที่มีผิวสีแทนอ่อนๆ เขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อมากทีเดียว แต่ความหล่อเหลาก็ถูกบดบังเพราะเครื่องสำอางพวกนั้น อารีสะบัดมือไปมาทำให้รอยแผลของคาเอลหายไป
"ขอบคุณมากนะอารี"
เขาพูดขึ้นพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้นาง นางส่ายหน้า
"ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณคาเอล ....ขอบคุณที่ปกป้องอารีนะคะ ทั้งที่มันไม่จำเป็น"
จากนั้นทั้งคู่ก็ใช้เวลาอยู่ในสวนน้ำชาจนท้องฟ้าเป็นสีแดง คาเอลลุกขึ้นเมื่อรู้ตัวว่าได้เวลากลับบ้านของตนเองแล้ว
"บ้านเจ้าอยู่ไหนหรืออารี ให้ข้าไปส่งไหม?"
คาเอลลืมที่จะพูดเสียงแหลมปรี๊ดตั้งแต่ต่อยกับเจ้าไฮยีน่าไปเสียสนิท
" อารีอยู่ที่หอพักที่โรงเรียนสร้างมาให้สำหรับเผ่าอย่างพวกเราน่ะค่ะ ไม่ต้องไปส่งอารีหรอกนะคะ คาเอลกลับไปเถอะนี่ก็ใกล้ค่ำแล้ว"
นางส่งรอยยิ้มให้กับเขา คาเอลพยักหน้า
"ขอบคุณมากนะอารี"
กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะแยกย้ายไปคนละทิศคนละทาง มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในหัวใจของทั้งคู่โดยที่ไม่รู้ตัว....
เช้าวันต่อมา ทุกคนมาโรงเรียนตามปกติ ข่าวของคาเอลกับมาเรียแอนแพร่สะบัดไปทั่ว จนต้องเดือดร้อนอาจารย์ที่ต้องไปลงโทษเจ้าไฮยีน่า ทั้งที่ความเป็นจริงกฎของโรงเรียนสมัยเก่านั้นจะต้องลงโทษทุกคนที่ก่อเรื่อง แต่กฎใหม่นั้นต่างออกไป ผู้ที่เริ่มเรื่องก่อนต้องรับโทษแต่เพียงผู้เดียว...
แล้วการที่มาเรียแอนมีธาตุแสงสายพิเศษทำให้นางเป็นจุดสนใจมากขึ้น เพระานอกจากหน้าตาที่อัปลักษณ์ก็ไม่มีใครรู้เรื่องพลังธาตุของนาง เว้นแต่ชิงหลินที่รู้อยู่แล้ว
ส่วนทางคาเอลนั้นก็เริ่มถูกผู้หญิงรุมล้อม เพราะกลายตอ่หลายคนได้เห็นไม้กายสิทธิ์ของเขาก็เริ่มรู้แล้วว่าตระกูเขามีฐานะขนาดไหน ไหนจะตอนที่เขาไปมีเรื่องกับชายเผ่าไฮยีน่าคนนั้นอีก ตอนนั้นเขาช่างเท่เสียนี่กระไร
"นี่เจ้าไปก่อเรื่องอะไรมาห๊ะ คาเอล!"
ฟรานซิสส์ดุคาเอลยกใหญ่เมื่อได้ยินข่าว ส่วนวิลเลี่ยมเองก็ไปคุยกับคาเอลด้วยเสียงนุ่ม
"เจ้าไม่สมควรใช้กำลังนะคาเอล...ถ้าเกิดคราวที่แล้วบาดเจ็บสาหัสกันจะเกิดอะไรขึ้น"
เขาตำหนิคาเอลเบาๆ เจ้าตัวทำหน้าสำนึกผิด....สักพักหนึ่งวิลเลี่ยมก็เริ่มเทศนาอีกฝ่ายยาวเหยียด จากนั้นกลุ่มของพวกเขาก็เดินไปโรงอาหารกัน ตั้งแต่เปิดเทอมวิลเลี่ยมก็รู้สึกจะมีช่วงเวลาแสนสงบมากขึ้น...
"ว่าไง ว- ไม่สิ ลิซ วันนี้ข้าจะโดดเรียนนะ"
เดธเดินมาใกล้เขาแล้วกระซิบข้างหู วิลเลี่ยมหันขวับไปมองอีกฝ่ายทันที
"นิสัยไม่ดี"
คำพูดนั้นไม่ได้กระทบอะไรเดธเลยแม้แต่นิดเดียว เวลาผ่านไปเรื่อยๆก็ได้เวลาเข้าคาบเรียน แน่นอนว่าวิชาแรกที่เจอวันนี้คือ คณิตศาสตร์ เป็นวิชามหาโหดหินที่ทำให้ทุกคนไม่อยากจะเรียนมากที่สุด ยกเว้นแต่พวกเผ่าอื่นที่เคยเรียนมาบ้างแล้วจึงไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก แม้แต่วิลเลี่ยมก็นั่งงงไปจนกระทั่งหมดคาบ ปกติเวลาเขาคำนวนเขามักจะใช้ลูกคิด....ให้คิดเลขแบบเปล่าๆแน่นอนว่าเขาทำไม่เป็น....
จากนั้นคาบต่อไปก็เริ่มขึ้น มันเป็นคาบศิลปะที่เปลี่ยนอาจารย์ใหม่เป็นคนจากเผ่าแมงมุม เมื่อเริ่มคาบเรียนอาจารย์ก็ใช้มือทั้งหกข้างวาดรูปด้วยความเร็วสูงจนนักเรียนตามไม่ทัน แล้วก็บ่นพล่ามไปตลอด....เพราะการสอนที่รวดเร็วทำให้นักเรียนหลายคนได้แต่นั่งเอ๋อฟังอาจารย์ไป
คาบต่อๆมาก็ไม่แตกต่างกันซักเท่าไหร่ วิลเลี่ยมเองก็พอฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง จนกระทั่งถึงคาบกินข้าว วิลเลี่ยมผละออกมาจากกลุ่มของตัวเองเพื่อไปหาที่สงบๆอ่านหนังสือ แต่ก็หยุดชะงัดเมื่อเจอกับกลุ่มของเผ่านกฮูกที่เป็นผู้ชาย และหงศ์ ที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน
ดูเหมือนพวกนั้นกำลังคุยเกี่ยวกับคณิตศาสตร์อยู่....วิลเลี่ยมตาทอประกาย ปกติเขาไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอกนะ แต่กลุ่มนี้คุยเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ด้วยท่าทีเปี่ยมสติปัญญาสุดๆ เขาจึงแอบเงี่ยหูฟังว่าพวกเขาสอนอะไรบ้าง แต่เผ่านกฮูกนั้นมีสายตาที่แหลมคมนั้นสังเกตุเห็นได้ว่าวิลเลี่ยมกำลังสนใจกับบทสนทนาอยู่...
แต่ดั่งเดิมเผ่าที่เป็นพวกตระกูลชนชั้นสูงจะมีท่าทีหยิ่งจึงตวัดตามาค้อนวิลเลี่ยมไป
"มนุษย์....เจ้ามีอะไร"
พูดพลางกดเสียงต่ำ
"คือ....ข้าสนใจในสิ่งที่เจ้าพูดกันอยู่....คณิตศาสตร์น่ะค่ะ"
วิลเลี่ยมพูดอย่างตรงไปตรงมา นกฮูกและหงศ์ต่างหันหน้าไปมองกัน ก่อนจะหัวเราะ
"คิก จริงสินะ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่สติปัญญาต่ำเกินกว่าจะเข้าใจคณิตศาสตร์"
เจ้านกฮูกและหงศ์พูดถากถางวิลเลี่ยม ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้ายอมรับแต่โดยดี ดวงตาจ้องมองทั้งสองอย่างใสซื่อ ทั้งคู่ถึงกับชะงักไปเมื่อเห็นสายตาแบบนั้น เอาจริงๆนะคนที่พวกเขาพูดแบบนั้นด้วยมักจะโมโห โวยวาย อะไรต่างๆนานา แต่ยัยนี่กลับยอมรับมันหน้าด้านๆเลย เอาจริงดิ?
"ข้าไม่เคยเรียนมาก่อน...เลยอยากฟังสิ่งที่พวกเจ้าคุยกัน"
พูดพลางทำดวงตาทอประกายแวววาว ทั้งสองตนหันมองหน้ากันก่อนจะถอนายใจอย่างหน่ายๆ เกิดมาเพิ่งเห็นคนที่หน้าดา้นรับขนาดนี้แหละนะ
"มาสิ ข้าจะสอนสิ่งมีชีวิตสติปัญญาต่ำแบบเจ้าเองว่าคณิตศาสตร์เป็นอย่างไร"
เจ้านกฮูกกวักมือเรียกวิลเลี่ยมมานั่งใกล้ๆก่อนจะสอนคณิตศาสตร์ให้เขา ซึ่งวิลเลี่ยมเองก็เอ่ยถามในทุกข้อที่ตนสงสัย เจ้านกฮูกและหงศ์เองก็ช่วยตอบคำถามของวิลเลี่ยม เขาใช้เวลาในการเรียนคณิตศาสตร์จากสองคนนี้เป็นเวลานานจนกระทั่งใกล้ได้เวลาเข้าคาบเรียน
"ข้า แคนดี้ เฟอร์นันโด้"
"ข้า มาร์ชเมลโล่ ฟลัฟฟี่"
นกฮูกและหงษ์แนะนำตัวพร้อมกัน วิลเลี่ยมย่อตัวลงเล็กน้อย
"อลิซ อควาเรียส"
เขาแนะนำตัวเองอย่างสุภาพ
"นานแล้วที่เราไม่ได้เจอคนที่แสวงหาความรู้ใช่ไหม มาร์ชี่"
เขาเรียกเจ้าหงษ์
"แน่นอนแคนดี้ เราค่อนข้างพอใจในตัวเจ้า มนุษย์เพศเมีย ดังนั้นแล้ว พวกเราจึงต้องการจะเป็นคนสอนคณิตศาสตร์ให้เจ้า"
สิ้นคำดวงตาของวิลเลี่ยมก็เริ่มโตขึ้นมา
"จริงหรือ?"
เอ่ยถามเพื่อความแน่ใจว่าทั้งสองไม่ได้โกหกเขาใช่ไหม
"แน่นอน เจอกันคาบเที่ยวของทุกวัน เอาขนมมากินด้วยก็ได้นะ"
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินจากไปเพราะได้เวลาเข้าชั้นเรียนแล้ว วิลเลี่ยมเอลก็เข้าชั้นเรียนของตัวเองเช่นกัน จากนั้นการเรียนก็ดำเนินไปอย่างปกติ ต่างตรงที่ทุกคนในห้องนั้นพบว่าคาเอลได้ลบเครื่องสำอางของตนเองออกทั้งที่ปกติจะฉาบ? ซะหนาเป็นพื้นถนน แต่ก็ไม่ได้ทักอะไร
วิลเลี่ยมเดินกลับบ้านของตนเองหลังจากที่เลิกเรียน เมื่อถึงบ้านเขาก็อาบน้ำแต่งตัว ทานอาหาร แล้วก็ไปนั่งอ่านหนังสือ แต่เดธก็โผล่มาพาตัวเขาไปยังโต๊ะน้ำชาที่มีซาเมน ชิลด์ และมิแลงเกลล์นั่งอยู่
"เจ้าพาข้ามาโดยพลการอีกแล้ว"
วิลเลี่ยมพูดเสียงเรียบ เดธเกาหัวแกรกๆ
"ขอโทษที เราจะมาคุยเรื่องตารางสอนปรุงยาให้เจ้าน่ะ"
เดธพาวิลเลี่ยมเดินไปนั่งที่โต๊ะ จากนั้นเทพแห่งสายฟ้าก็บอกตารางเวลาที่เขาจะต้องมาเรียนปรุงยากับอีกฝ่ายจนเสร็จสรรพ สักพักก็ไปคุยเรื่องสัพเพเหระ ไร้สาระ
"มิเกล เจ้ารู้รึไม่.... ถ้าเกิดมนุษย์รู้สาเหตุที่ตัวเองอ้วนลงพุงคนอยากตะฆ่าเจ้าให้ตาย"
เดธเปิดบทสนทนาออกมา
"ทำไมหรือคะ?"
"เพราะเจ้าชอบไปเสกให้มนุษย์มีร่างกายอุดมสมบูรณ์โดยไม่จำเป็นน่ะสิ!"
เทพสาวหัวเระาแฮะๆเมื่อได้ยินดังนั้น วิลเลี่ยมมองเดธอย่างไม่เข้าใจว่าหมายความว่ายังไง
"อ๋อคือ มิเกลน่ะทำให้ร่างกายเราอุดมสมบูรณ์ได้ ข้อนี้เจ้าน่าจะรู้ดี แต่ว่า นางเป็นพวกประเภท เห็นคนหุ่นดีแล้วจะคิดว่าเขาขาดสารอาหาร เลยเสกให้คนนั้นอุดมสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆจนอ้วนตุ๊ต๊ะ ยิ่งใครที่แค่จิบน้ำเปล่าก็อ้วนแล้วนี่เป็นฝีมือของมิเกลล้วนๆเลยแหละ"
เขาพูดพลางใช้นิ้วโป้งชี้ไปมิเกลที่ยิ้มแห้งๆ
"อ้อ..."
แสดงว่าเขายังถือว่าไม่ผอมจนดูน่าสงสารสินะนางจึงไม่ทำให้เขาอ้วน....เขาคงต้องงดออกกำลังกายบ้างแล้วสิ
-------------------------------------------
เย้ มาแล้ว!! มีภาพประกอบน้องหงษ์กับนกฮูกด้วยนะ!
แฮ่! ยอมรับเลยว่าทรงผมวาดยากมากกก! มากจริงๆ! (ออกแบบทรงผมนานกว่าวาดอีก 555)
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
โอ๊ยยย ชื่อน้องๆและหน้าตาน่ารักมากเลยค่ะ!!!> <
ที่แท้ก็เป็นฝีมือของมิเกลเองเหรอนี่!! เอาไขมันพวกนี้ออกไปจากตัวฉันน้าาาาา!!>A<
ยกเลิกการทำให้คนอื่นอุดมสมบูรณ์ได้แล้ว นี่แค่หายใจยังอ้วนเลย ไม่ต้องเอ็นดูเรามากก็ได้นะ ชิส์!!!
ไปไหนก็มีคนรักคนชอบ ดูสิแค่ไปมองเขาแปปๆก็ได้อาจารย์ส่วนตัวมาแล้ว...
หลงแล้วหลงอีก เฮ้อ-
//ทำไมมันฮาอ่ะะ5555555555555