"เจ้ามิสนใจจะทำพันธะสัญญากับข้าจริงๆหรือ?"
เดธกลับมาหาเขาอีกครั้งและตื้อให้เขาทำพันธะสัญญากับอีกฝ่าย วิลเลี่ยมส่ายหน้าในขณะที่ยังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่โดยไม่เงยหน้ามองเขาเลย
"ทำไมล่ะ มีมนุษย์ตั้งมากมายที่อยากจะทำพันธะสัญญากับเทพนะ ไฉนเจ้าถึงมิอยากทำพันธะกับข้ากัน?"
เทพแห่งความตายกล่าวด้วยน้ำเสียงปนความน้อยใจหน่อยๆ เวลาที่ผ่านมา มีผู้คนพยายามอัญเชิญเขาและเทพคนอื่นๆไปบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการทำพันธะสัญญาเพราะต้องการพลัง อำนาจ และอะไรต่างๆนานา แต่หาใช่ว่าพวกเขาจะยอมทำพันธะได้ง่ายๆ แต่สำหรับเดธแล้วครั้งนี้มันต่างออกไป เทพหลายๆตนอาจจะคิดว่าเขาบ้าที่อยากจะทำพันธะสัญญากับวิญญาณที่ผิดธรรมชาติ แต่สำหรับเขาแล้วมันน่าสนุกดีมิใช่หรือ? วิญญาณตนนี้ช่างน่าสนใจ น่าสนใจยิ่งกว่าสิ่งใด มันทำให้เขาอยากจะทำพันธะกับอีกฝ่าย...และการปฏิเสธการทำพันธะกับเขานั้นมันทำให้เขาอยากจะทำพันธะกับสตรีร่างบางผู้นี้มากขึ้นไปอีก
"ข้ามิอยากทำพันธะกับเจ้า"
วิลเลี่ยมตอบเสียงนุ่มแล้วเปิดหนังสือหน้าต่อไป เขายังไว้ใจอีกฝ่ายมิได้ไม่ได้โดยเด็ดขาด
"ก็ได้! แต่ข้าจะตามตื้อเจ้าจนกว่าเจ้าจะใจอ่อน!"
เดธพูดราวกับเด็กเอาแต่ใจ เขานั่งลงกับพื้นข้างๆวิลเลี่ยมแล้วจ้องมองวิลเลี่ยมที่อ่านหนังสืออยู่อย่างกดดัน แต่เจ้าตัวหาได้สนใจไม่ เขานั่งอ่านหนังสือต่อไป...แล้ววนกลับไปอ่านหนังสือศาสนาดังเช่นเดิม....และเขาก็นึกได้ว่า...เขายังมิได้พบเห็นโบสถ์ของที่นี่เลยนี่นา? มันจะเป็นอย่างไรกันนะ?
เมื่อคิดได้ดังนั้นวิลเลี่ยมก็ปิดหนังสืออย่างแรงแล้ววางลงกับพื้น เขาสาวเท้าเดินออกนอกห้องสมุด....แต่ว่าเขานั้นรู้จักแค่ ห้องสมุด ห้องรับประทานอาหาร และห้องนอนของอลิซ อควาเรียสนี่สิ เขายังมิรู้เส้นทางอื่นๆเลย แถมดูท่าว่าที่นี่จะกว้างขวางอยู่พอตัว...
พลันสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเมดที่ยืนอยู่มิไกลมากนัก เขาเดินไปหานาง แล้วขอให้นางร่างแผนที่ทางเดินในคฤหาสต์ให้ ซึ่งตัวของเมดสาวเองก็อดสงสัยว่าทำไมคุณหนูของตนถึงขอให้ร่างแผนที่ทางเดินให้ ตั้งแต่ที่นางฟื้นขึ้นมานางยังมีท่าทีแปลกไปอีกด้วย แต่เมดสาวก็ได้แต่เก็บความสงสัยของตนเองไว้ในใจและไปหากระดาษมาเขียนแผนที่ทางเดินให้คุณหนูของตน
เมื่อวิลเลี่ยมได้แผนที่ทางเดินที่เขียนชื่อห้องต่างๆไว้แล้วเขาก็เดินไปที่ห้องทำงานที่คาดว่าบิดาของ อลิซ อควาเรียส เมื่อไปถึงเขาก็เคาะประตูเบื้องหน้าของตนเอง
"เข้ามาได้"
มีเสียงดังขึ้นมาจากในห้อง วิลเลี่ยมจึงเปิดประตูเข้าไป เขาเห็นชายวัยกลางคนที่ก้มหน้าก้มตาเขียนม้วนกระดาษบางอย่างอยู่ วินเซ้นต์เงยหน้าขึ้น เมื่อได้เห็นว่าคนที่เข้ามาในห้องคือบุตรสาวของตนจึงผละออกจากงานที่ทำอยู่ เขาเดินไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับย่อตัวลงให้อยู่ในระดับสายตาของเด็กสาว
"มีอะไรหรือลูก? อยากได้อะไรงั้นหรือ?"
เขาถามด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน
"คือ...ลูกอยากไปโบสถ์น่ะ ค-ค่ะ"
ดยุกวินเซ้นต์แข็งค้าง ทำไมจู่ๆบุตรสาวของเขาถึงอยากไปโบสถ์กัน? อ่า จริงสินะ เขาลืมไปว่านางความทรงจำเสื่อม บางทีนางอาจจะไปอ่านเจออะไรในห้องสมุดกระมั้ง?....แต่นี่ก็เป็นวัยอยากรู้อยากเห็นล่ะนะ? ให้นางไปที่โบสถ์สักครั้งก็ดีเหมือนกันเพราะตั้งแต่เกิดมานางยังไม่เคยไปสักครั้ง แต่ถึงจะอยากให้นางไป แต่ว่าโบสถ์น่ะ....ไม่ได้มีอยู่ทั่วไปหรอกนะ
"ขอโทษนะลูก ที่นี่มิได้มีโบสถ์มากนักหรอกลูก และเมืองที่มีโบสถ์นั้นก็อยู่ไกลจากที่นี่มากด้วย พ่อขอโทษนะ"
วินเซ้นต์พูดด้วยน้ำเสียงอันเบาหวิว แต่วิลเลี่ยมก็ยังได้ยินชัดเจน....อ่า แย่ล่ะสิที่นี่ไม่มีโบสถ์งั้นหรือ?
"งั้น...ลูกขออภัยที่มารบกวนค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ"
วิลเลี่ยมเดินออกจากห้องพร้อมกับปิดประตูให้ด้วย จากนั้นเขาก็เดินกลับไปห้องสมุด
"ไปไหนมาอ่ะ?"
เดธเอ่ยถามวิลเลี่ยมอย่างสงสัย
"ไปหาบิดามา"
"แล้วไปหาทำไมหรือ?"
"ข้าอยากไปโบสถ์...แต่ทว่าบิดาได้บอกข้าว่า โบสถ์นั้นหาพบได้ยาก อีกทั้งเมืองที่มีโบสถ์อยู่นั้นห่างไกลจากที่นี่มากอีกด้วย..."
วิลเลี่ยมพูดพลางก้มหน้าลง จากนั้นเดธก็หายตัวไปอีกครั้ง แต่วิลเลี่ยมก็มิได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะหายไปไหน ตอนนี้เขากังวลเหลือเกินเกี่ยวกับเรื่องโบสถ์...สักพักหนึ่งเขาก็กลับมาอ่านหนังสือ
จู่ๆเดธก็โผล่มาอีกครั้ง
"ข่าวดี ข้าเจอโบสถ์แล้ว"
เขากล่าวขึ้นพลางยิ้มกว้าง วิลเลี่ยมรีบหันขวับไปมองอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาคู่งามทอประกายแวววาวดั่งอัญมณี...
"ข้าไปเจอโบสถ์ร้างแถวๆในป่าไม่ไกลจากที่นี่น่ะ แต่มันมีพวกไม้เลื้อย และอะไรต่างๆอยู่ในนั้นเต็มไปหมดเลย...ยังอยากจะไปอยู่ไหมล่ะ?"
เดธถามวิลเลี่ยมเพื่อความแน่ใจ เจ้าตัวครุ่นคิดสักพักหนึ่งแล้วจึงพยักหน้า แม้จะแอบคิดอยู่ว่าอีกฝ่ายจะหลอกพาเขาไปฆ่าหมกป่ารึเปล่าก็เถอะ?
เทพแห่งความตายยิ้มกว้างแล้วจับไหล่ของอีกฝ่าย จากนั้นทั้งคู่ก็มาอยู่ที่โบสถ์ร้างกลางป่า วิลเลี่ยมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆก็มาโผล่ในสถานที่อื่น เขาสอดส่องมองไปรอบๆ ก็พบว่าที่โฐสถ์แห่งนี้นั้นมีสภาพที่เก่าแก่พอตัว แถมยังมีพืชพรรณนานาชนิดอยู่ในนี้เต็มไปหมดด้วย แต่โชคดีที่รูปปั้นพระเจ้านั้นยังมีสภาพที่ดูดีอยู่ในระดับหนึ่ง
"ดูเจ้าจะดีใจมากเลยนะ"
เดธกล่าวขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองไปรอบๆด้วยดวงตาทอประกายแวววาว เจ้าตัวพยักหน้ารัวๆทันที..คงต้องทำความสะอาดและซ่อมแซมสักหน่อย น่าเสียดายที่ตัวเขานั้นมิได้มีความสามารถในการซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง...ถ้าเขามีความสามารถในการซ่อมแล้วล่ะก็ โบสถ์ที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านั้นคงไม่ถล่มลงมาทับเขา...
"แล้วที่นี่คือป่าตรงไหนงั้นหรือ?"
"อืม...ก็ เดินออกมาจากคฤหาสต์ที่เจ้าอยู่ แล้วจะเจอกับตลาด พอเดินตรงไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวซ้ายเมื่อเห็นป้ายเขียนว่า 'ป่าหมื่นพฤกษา' แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆอีกก็จะเจอกับโบสถ์นี่แหละ"
เดธอธิบายแล้วพาตัววิลเลี่ยมกลับไปที่คฤหาสต์...สักพักหนึ่งดยุกวินเซ้นต์ก็มาเคาะประตูห้องสมุด เทพแห่งความตายหายตัวไปอีกครา วิลเลี่ยมเดินไปเปิดประตูให้อีกฝ่าย
"คือ...นี่ก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้วนะลูกรัก..เดี๋ยวพ่อจะพาไปซื้ออุปกรณ์การเรียนนะ? ไปกันไหม?"
วินเซ้นต์ที่ละทิ้งหน้าที่การงานของตนเองมาเพื่อที่จะเชิญชวนบุตรสาวของตนเองไปซื้ออุปกรณ์การเรียน เพื่อเพิ่มระดับความสัมพันธ์ของตัวเขาเองกับนางมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนนั้นวันๆเขาก็ทำแต่งานจนมิได้สนใจนางเลย แต่คราวนี้เขาจะมิทำแต่งานเหมือนกาลก่อน เขาจะใส่ใจในตัวบุตรสาวของตนเองมากขึ้น!
"โรงเรียน...?"
อ่าลืมไปเสียสนิทเลยว่านางนั้นลืมไปแล้วซึ่งทุกอย่างเขาจึงอธิบายแก่บุตรสาวของตนเองพอสังเขป
"แน่นนอนค่ะ"
เมื่อได้รับคำอธิบายแลววิลเลี่ยมก็ตอบรับแทบจะในทันที เขานั้นปรารถนาจะไปโรงเรียนตั้งแต่เขายังเยาว์วัยแล้ว แต่เขาโดนบังคับให้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่บ้านมาตลอดจึงมิได้ไปโรงเรียนเลยสักครั้งในชีวิต....
"อื้ม ไปกันนะ"
จากนั้นวินเซ้นต์ก็จูงมือของอีกฝ่ายไปยังรถม้า แล้วเดินทางไปซื้ออุปกรณ์การเรียนต่างๆ ใช้เวลานานมาทีเดียวกว่าจะเลือกสรรสิ่งของต่างๆได้ครบ ซึ่งทุกอย่างนั้นตัววินเซ้นต์นั้นคือผู้ที่เลือกให้ทั้งหมด เพราะวิลเลี่ยมยังมิได้รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับที่นี่มากนัก
เมื่อเลือกเสร็จวินเซ้นต์จึงนั่งรถม้ากลับคฤหาสต์พร้อมกับบุตรสาวของเขา เวลานี้นั้นท้องฟ้าใกล้จะค่ำแล้ว เขาจึงเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้ของอลิซ แล้วไปส่งนางที่ห้องอาบน้ำพร้อมกับวางเสื้อของนางไว้ให้ใส่ากนั้นเขาจึงไปทำงานของตนเองต่อ
พอิลเลี่ยมอาบน้ำและหยิบเสื้อผ้ามาแต่งตัวเสร็จ ก็เดินกลับห้องนอนของ อลิซ อควาเรียส จากนั้นเขาก็เดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียง...
แต่จะว่าไป....เขารู้สึกว่า....เขานั้นมิชอบสีชมพูดเลยจริงๆเมื่อได้พบกับสีชมพูที่ถูกทาไว้ทั่วห้องแบบนี้จะว่าไปแล้วเขาเองก็คิดว่า ควรจะเอาเวลาไปซ่อมแซมโบสถ์ที่อยู่ในป่านั่นแล้วสิ..
เช้าวันรุ่งขึ้นวิลเลี่ยมก็ตื่นขึ้นมาแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วเลือกมาสักชุดหนึ่ง จากนั้นเขาจึงเดินไปอาบน้ำและแต่งตัว เมดเดินมาเรียกตัวเขาไปรับประทานอาหารเช้าพร้อมกับบิดาของอลิซ อควาเรียส
"ท่านพ่อคะ ลูกอยากจะขอยืมอุปกรณ์ทำความสะอาดได้หรือไม่คะ?"
"เอาไปทำไมหรือลูก?"
"ลูกอยากจะเอาไปทำความสะอาดโบสถ์ร้างที่ลูกไปเจอน่ะค่ะ"
"โบสถ์ร้าง? นี่ลูกไปหาโบสถ์มางั้นหรือ? แถมยังเป็นโบสถ์ร้างด้วย มันอันตรายนะลูก"
วินเซ้นต์ดุบุตรสาวของตนเอง
"นะคะท่านพ่อ ลูกสัญญาว่าจะระวังตัว"
จากนั้นวินเซ้นต์ก็ได้อนุญาตให้วิลเลี่ยมเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดไปทำความสะอาดโบสถ์ได้ วิลเลี่ยมรีบรับประทานอาหารทันที โดยที่ไม่ลืมสวดบท ก่อนและหลังกิน จากนั้นจึงไปหาอุปกรณ์ทำความสะอาดและหอบไปที่ป่า หมื่นพฤกษา ส่วนวินเซ้นต์นั้นได้ส่งพ่อบ้านของเขาไปแอบตามดูลูกสาวของตนเอง เนื่องด้วยพ่อบ้านของเขานั้นมีฝีมือที่ร้ายกาจมาก มากพอที่จะปกป้องบุตรสาวเขาจากภัยอันตรายได้ หลังจากที่ส่งตัวพ่อบ้านไปคอยปกป้องอลิซแล้ว เขาจึงถอนหายใจแล้วเดินกลับไปทำงานของตนเองต่ออย่างหมดห่วง...ละมั้ง?
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
: อ้างอิงจากที่ครูโรงเรียนเรากล่าวเอง
พ่อบ้านคนนี้อาจมีอะไรบางอย่างก็ เป็น ได้ ......
//เเถให้เเล้วนะเออ
จะเรียกว่าลดตัวไปเรียนเวทย์ก็ไม่น่าจะถูกนะ???
บาทหลวงควรจะเคร่งศาสนานั้นถูกแล้ว แต่บาทหลวงคนนี้ก็บอกอยู่ว่าเขาควรมีสติและสิ่งแรกที่ทำคือไปหาข้อมูลในห้องสมุดกับสิ่งที่เขาเจอในปัจจุบันและจะเจอในอนาคต เห็นได้ชัดว่าในอดีตจนถึงปัจจุบันเป็นคนสุขุมเยือกเย็นมีสติรอบคอบใจกว้างไม่ใจแคบ ไม่ตีกรอบว่าสิ่งนั้นควรจะเป็นแบบนี้แบบนั้น เปิดรับสิ่งใหม่ ไม่โวยวายและหาข้อมูล มันก็สมเหตุสมผลอยู่นะ? และการอ่านหนังสือในห้องสมุดของคฤหาสน์เกือบทั้งหมดถ้ายังไม่เปลี่ยนความคิดมันคงไม่ดีกับชีวิตตัวเอง แล้วที่นางเองเป็นคนธรรมดา ถ้าอ่านถึงตอนที่4ความเข้าใจของคุณมันก็ยังไม่เปลี่ยนนะ เรื่องอนาคตใครจะรู้ ขนาดนางเอกอดีตกับปัจจุบันยังคนละคนเลย(("คนละคนเดียวกัน"เข้าใจคำนี้ป่ะ??))
##ถ้าเราเข้าใจอะไรผิดก็ขออภัยด้วยนะคะ