วิลเลี่ยมนั่งอ่านหนังสือได้สักพักก็ลุกขึ้นเตรียมออกจากป่า. วันนี้เดธยังไม่มาหาเขาเลย ช่างน่าแปลกเสียจริง แต่ก็สงบไปอีกแบบล่ะนะ...ทำอะไรต่อดีล่ะ?
เขาเดินออกจากป่าเพื่อไปหาซื้ออุปกรณ์สำหรับปรุงยา ตอนนี้เขาเองก็ค่อนข้างจะสนด้านปรุงยาเสียด้วยสิ...สายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่ร้านปรุงยา ซึ่งมีแค่ร้านเดียวในระแวกนี้ เขาเดินเข้าไปทันที แม้จะหวั่นกับราคาสิ่งของเพราะการตกแต่งร้านนั้นดูเบาไม่ได้เลย ดูหรูหราเกินกว่าจะขายของในราคาปกติได้
"ยินดีต้อนรับขอรับคุณหนู"
ชายชราที่ดูคล้ายกับเป็นเจ้าของร้านเดินมาต้อนรับเขา วิลเลี่ยมพยักหน้าแล้วเริ่มเดินไล่ดูอุปกรณ์ทั้งหมด หลายอันนั้นไม่ได้ติดราคา เขาไม่ค่อยมีสมาธิเลยเพราะเจ้าของร้านนั้นตามแนะนำสินค้าอยู่ข้างๆกายเขาไม่ห่าง...
"มีอุปกรณ์ปรุงยาสำหรับนักปรุงยามือใหม่ในราคาปานกลางรึไม่?"
เจ้าของร้านครุ่นคิดพลางมองสำรวจร้านตัวเอง
"รอสักครู่นะคุณหนู"
วิลเลี่ยมพยักหน้าแล้วยืนรอ สักพักเจ้าของร้านก็หอบอุปกรณ์สำหรับปรุงยามาให้ซึ่งมันก็มีฝุ่นเขรอะพอตัว
"ท่านคงมิว่าอะไรใช่หรือไม่? พวกนี้คืออุปกรณ์ปรุงยาสำหรับมือใหม่ที่ขายไม่ค่อยออกน่ะขอรับ จึงอยากจะขายให้คุณหนูในราคาถูกๆ ซัก..10เหรียญเป็นไงขอรับ?"
ตอนแรกวิลเลี่ยมคิดว่าชายชราผู้นี้จะหาของราคากลางๆให้เขาไม่ได้แล้วซะอีก ตรงกันข้าม อีกฝ่ายกลับคิดจะขายของให้เขาในราคาถูก แม้นอุปกรณ์พวกนั้นจะดูเก่าไปบ้างแต่เขาก็มิใส่ใจนัก เขาเพิ่งเริ่มหัดเท่านั้นเอง จะรีบใช้ของคุณภาพสูงไปทำไมกัน
"แต่มันจะมิถูกไปหรือคะ?"
เขารู้สึกไม่ค่อยดีที่จะซื้ออุปกรณ์พวกนี้ในราคาถูกมากเกินไปแบบนี้
"ไม่เป็นไรคุณหนู ยังไงพวกมันก็แทบจะขายไม่ออกอยู่แล้ว"
เมื่อได้รับคำตอบดังนั้นวิลเลี้ยมจึงจ่ายเงินให้อีกฝ่ายแล้วหอบอุปกรณ์ปรุงยากลับคฤหาสต์...จะว่าไป ดยุกอควาเรียสจะว่าเขารึเปล่านะ? แล้วจะเอาไปไว้ที่ไหนกันล่ะ?แม้จะมาอยู่อาศัยนานพอตัวแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถจำทางคฤหาสต์ได้หมดหรอกนะ...
พอไปถึง เหล่าเมดก็มาช่วยยกของ พ่อบ้านก็เดินมาถามไถ่ว่าเหตุใดจึงซื้ออุปกรณ์พวกนี้มา เขาก็ตอบไป...พ่อบ้านจึงเดินไปปรึกษากับดยุกวินเซ้นต์ที่ยังไม่สามารถลุกจากเตียงได้ แล้วก็ได้ข้อสรุปว่า วิลเลี่ยมสามารถปรุงยาได้ โดยไปใช้ห้องที่อยู่ใต้ดินของคฤหาสต์
เขาได้แต่ยืนงง...ที่นี่มีชั้นใต้ดินด้วยหรือ? พื้นที่ช่างกว้างขวางเสียจริง...วิลเลี่ยมสำรวจดูรอบๆ ห้องใต้ดินนั้นมีทางเดินค่อนข้างยาว อีกทั้งยังมืดด้วย แต่ดูเหมือนจาร?จะเดาออกว่าเขาคิดอะไรจึงสั่งให้เมดที่มีธาตุไฟจุดไฟทางเดิน เดินผ่านไปราวๆสามห้องพ่อบ้านวัยกลางคนก็หยุด
"หวังว่าคุณหนูจะพอใจในห้องนี้นะขอรับ"
วิลเลี่ยมลองเปิดประตูเข้าไปดู พบว่าเป็นห้องที่มีขนาดกว่างขวาง บรรยากาศสลัวๆ สะอาดสะอ้านไร้ฝุ่น ตรงกลางห้องบนเพดานมีหินที่ส่งแสงสว่างไว้โดยเฉพาะ มันมีสีเหลืองใส ดูสวยงามมาก พ่อบ้านมองดวงตาของคุณหนูตนที่ทอประกายแวววาว จึงอดยิ้มออกมาไม่ได้
"พอใจไหมขอรับ?"
"ค่ะ"
ทันทีที่ได้รับคำตอบ พ่อบ้านก็สั่งให้เมดนำอุปกรณ์ไปจัดให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
"ขอบคุณนะคะ"
ทุกคนก้มลง พ่อบ้านและเมดขอตัวไปทำงานอย่างอื่น ซึ่งวิลเลี่ยมก็อนุญาต ดวงตาสีแอเมทิกซ์กวาดมองไปรอบๆ...อืม...ไปหยิบหนังสือมาอ่านควบคู่ไปด้วยดีกว่า
เขาเดินออกจากห้องใต้ดินเพื่อไปหาหยิบหนังสือปรุงยามา สมองครุ่นคิดว่าจะปรุงยาอะไรดี..จะว่าไปซื้อมาแต่สำหรับอุปกรณ์สำหรับมือใหม่ ดูเหมือนจะมีวัตถุดิบสำหรับปรุงยาอยู่ในหม้อปรุงยาแถมมาด้วยในตอนที่แอบส่องข้าวของไว้บ้าง...
"อืม..."
เขาหอบถังน้ำกับหนังสือปรุงยาเบื้องต้นลงห้องใต้ดินไป
"วัตถุดิบสำหรับปรุงโพชั่นฟื้นฟูพลังเวทย์ระดับต่ำพอเลยนี่นา?"
เขาไล่อ่านดูข้อมูลวัตถุดิบในหนังสือ บังเอิญมีครบพอดีแม้นจะเคยเรียนกับอาจารย์ปรุงยามาหลายครั้ง แต่ไม่เคยมาปรุงนอกเวลาเรียนสักครา อยากจะทบทวนบทเรียนตั้งแต่จุดเริ่มแล้วค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆทีละขั้นมากกว่า..
เขาลองปรุงยาตามที่หนังสือบอก แต่ดูเหมือนเขาจะพลาดใส่วัตถุดิบบางอย่างมากไปนิดหน่อย สีโพชั่นจึงเข้มขึ้นอย่างน่ากลัว
"...แย่ล่ะสิ..มันจะระเบิดไหมนะ?"
วิลเลี่ยมพึมพำขึ้นมา
แอ๊ด--
ประตูเปิดขึ้นวิลเลี่ยมจึงหันขวับ ตั้งท่าเตรียมต่อสู้ตามสัญชาติญาน
"มาม่ะ"
มีเสียงร้องขึ้น เขาถอนหายใจทันที สายตามองไปยังเจ้าต้นไม้ที่ค่อยๆปรากฏตัวขึ้นมา ใจหายใจคว่ำหมด..
"อย่าเข้ามาใกล้นะ ข้ากลัวว่าหม้อปรุงยามันจะระเบิดใส่เจ้าน่ะ"
วิลเลี่ยมกล่าวพลางขยับเท้าก้าวออกห่างจากหม้อปรุงยาที่เดือดปุดๆ เจ้าต้นไม้ส่งเสียงร้องออกมามันขยับตัวเข้าไปใกล้หม้อปรุงยา ตรงดอกของมันก้มลงไปใกล้ๆหม้อคล้ายกับกำลังมองหม้อนั้นว่ามีส่วนผสมอะไรผิดพลาดไป
"ระวังสิ"
เขาเดินเพื่อไปดึงเจ้าต้นไม้ออกแต่มันกลับแข็งนิ่ง รากของมันหนึ่งอันเล็กยืด?ขึ้นมาสูงเหนือหม้อเล็กน้อย มือใบมีดมันตัดตรงปลายราก เกิดน้ำสีฟ้ามุกหยดลงไปในหม้อสองหยด สีของโพชั่นเปลี่ยนสีเป็นฟ้ามุก จากนั้นรากอันเล็กๆนับสิบก็ยืดขึ้นมา มันตัดทีละอัน หยดน้ำหลากหลายสี หยดออกมา เจ้าต้นไม้ใส่มันเข้าไปในหม้อปนๆกันแล้วจึงใช้มือใบมีดข้างขวาคนหม้อปรุงยา
โพชั่นกลายเป็นสีรุ้งทอประกายแวววาว กลิ่นหอมและบรรยากาศบริสุทธิ์โชยออกมาจากโพชั่นนั้น ปลายรากของเจ้าต้นไม้เริ่มสมานจนกลายเป็นเหมือนเดิม วิลเลี่ยมค่อยๆชะโงกไปมองโพชั่นที่เดือดปุดๆในหม้อ
"เจ้าทำอะไรกับมัน? ปรุงมันใหม่? แก้ไขมัน?"
เจ้าต้นไม้ไม่ส่งเสียงตอบมือไปมีดยืดยาวไปพันขวดแก้วสำหรับใส่โพชั่น มันยื่นขวดแก้วให้วิลเลี่ยม
เขาไปหาที่ตักมาตักโพชั่นใส่ขวดแก้วแล้วพินิจพิจารณามัน ตั้งแต่อ่านหนังสือปรุงยามาไม่เคยอ่านพบว่ามีโพชั่นที่มีสีรวมกันเกินสามสีมาก่อน มันเป็นโพชั่นชนิดใดกัน?
"กี๊!!"
มันใช้แขนดันมือที่จับโพชั่นไปโดนปากของวิลเลี่ยม
"จะให้ข้าดื่มมัน?"
"กีกี๊!"
เขามีท่าทีลังเลเล็กน้อย ลองโพชั่นที่ยังไม่รู้จัก นับว่าเสี่ยงเป็นอย่างมาก ทางที่ดีรอถามเดธว่ามันคือโพชั่นชนิดใดก่อนมิดีกว่าหรือ?
เมื่อมันเห็นวิลเลี่ยมขมวดคิ้วมองโพชั่นที่มันปรุงเองกับราก มันก็มีท่าทีไม่พอใจ
"กี๊ ก่กีกีกี! กี๊!!!"
ราวกับมันกำลังสื่อว่า 'เจ้าไม่ไว้ใจข้าใช่ไหม!? ทำไมเป็นคนอย่างนี้!?'
"ข้าไม่รู้จักโพชั่นนี้นี่นา...มันอันตรายนะ"
"ก๊าาา!"
มันร้องออกมา ดูเหมือนมันกำลังโกรธอยู่เลย...วิลเลี่ยมถอนหายใจ ถ้ามันกล้ายืนกรานเสียขนาดนั้นว่าจะต้องกินให้ได้ เขาก็กล้าดื่ม วิลเลี่ยมดื่มโพชั่นนี้เข้าไป...มันมีกลิ่นหอม และรสหวาน ต่างจากโพชั่นที่เคยชิมในชั้นเรียนที่ไม่มีรสขมก็ฝาด..
มีแสงเกิดขึ้นรอบตัวของวิลเลี่ยม เข้าไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆเขาก็รู้สึกอยากจะอาเจียนออกมา!
เขารีบไปหาที่ปล่อยที่ง่ายต่อการทำความสะอาดทันที
"โอ้กกก!"
เขาอาเจียนออกมามากมาย ใช้เวลานับสิบนาทีกว่าจะอ้วกมันออกมาหมด
"แค่ก!"
เขาไอออกมา เมื่อเขาอาเจียนเสร็จจนตั้งสติได้ก็ไปมองสิ่งที่ตัวเองปล่อยออกมา มันเป็นของเหลวสีดำ ดูน่าขนลุกยิ่งในตอนที่มองมัน เขาได้กลิ่นหอมบางอย่างออกมาจากใกล้ๆ แต่ในตอนนี้มิใคร่จะสนใจมันนัก
เจ้าต้นไม้ไปหาผ้ามาให้วิลเลี่ยมเช็ดหน้า
"เจ้าปรุงโพชั่นอันใดกัน?"
วิลเลี่ยมกดเสียงต่ำอย่างน่ากลัว เจ้าต้นไม้ดูกระวนกระวาย มันยื่นแขนไปเกี่ยวถังน้ำแล้วให้วิลเลี่ยมดู
เขามองภาพสะท้อนของน้ำในถัง นั่นคืออลิซ อควาเรียส ที่มีความงามมากกว่าที่เคย! แม้นแสงในห้องนี้จะน้อยนิดนัก แต่ก็พอมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเกิดบางอย่างขึ้นกับร่างนี้
ผิวพรรณเปร่งปรั่ง ดูสุขภาพดีขึ้น จากที่ในตอนแรกเขาออกกำลังกายจนผิวเริ่มเป็นสีแทนกลับขาวดุจหิมะ ริมฝีปากสีเชอร์รี่ดูสีสดมากขึ้น ขอบตาจากในคราแรกที่มีรอยดำจางๆเพราะวิลเลี่ยมอดนอนอ่านหนังสือกลับหายไป ผมนุ่มขึ้นและมีกลิ่นหอมของดอกไม้ ดวงตาดูโดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันสว่างไสวยิ่งกว่าเมื่อก่อนเสียอีก มืดที่เคยหยาบกระด้างกลับนุ่มนิ่ม...แม้นเขาจะไม่เคยสนใจเรื่องความงามจนแยกไม่ออกว่าความงามเป็นอย่างไร แต่ในตอนนี้ กลับพูดได้เลยว่า ร่างของอลิซ อควาเรียส ดูงามมากขึ้น ในทาง'ความงามพื้นฐานของสังคมมนุษย์'
พระบิดาทรงโปรด...
เขาพูดขึ้นในใจ เจ้าต้มไม้เอามืดใบมีดจิ้มลำต้นตนเองจึกๆราวกับกำลังโอ้อวดว่านี่คือฝีมือของตนนะมิใช่ผู้อื่น
"มันคือโพชั่นอันใดกันแน่?"
เขาพึมพำเบาๆ มือเสยผมขึ้น แต่มันไม่ค่อยอยู่ทรงจึงตกลงมาบังหน้าเขาเหมือนเดิม หลังจากตอนที่ตัดผมเสร็จเขาก็อาบน้ำแล้วเอามือเสยผม มันจึงจัดทรงง่าย แต่พอผมแห้งมันก็ยากที่จะจัดทรง เขาจึงเอามันทัดหูตนเองไว้
"ทำความสะอาดก่อนแล้วกัน..."
เขาเดินขึ้นจากชั้นใต้ดินเพื่อไปหยิบพวกอุปกรณ์ แต่เหล่าเมดก็กรู่เข้ามาหาเขาแล้วร่ายเวทย์เตรียมสู้ซะนี่...ปกติเมดนั้นมักจะทำเป็นแต่งานบ้านงานเรือนมิใช่หรือ เหตุใดจึงดูคล่องในการร่ายเวทย์นักเล่า? เหตุใดพลังทำลายล้างมันจึงสูงนักเล่า? เมดคนนั้นขี้อายมิใช่หรือไร ทำไมสายตาจึงเหมือนพวกเพชรฆาตเช่นนี้?
วิลเลี่ยมตั้งคำถามในใจ พลางขยับตัวหลบคาถาเวทย์จากเหล่าเมดทั้งหลาย เป็นเพราะเมดของที่นี่แตกต่างจากโลกเดิมของเขากระมั้ง?
วิลเลี่ยมให้คำตอบตนเองเช่นนั้น
"พวกเจ้าทำอะไรล่ะนั่น?! นายท่านนอนไม่หลับนะ!"
จาร์เวียโผล่เข้ามากลางวง เหล่าเมดหยุดร่ายเวทย์ ท่าทีสำรวมขึ้น ก้มหน้างุดๆ สีหน้าเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน...
"มีผู้บุกรุกเจ้าค่ะท่านจาร์เวีย"
พ่อบ้านวัยกลางคนหันไปมองที่วิลเลี่ยมแล้วเดินมาสำรวจ สักพักก็เบิกตาโพล่งอย่างตกใจ นี่มันคือคุณหนูมิผิดแน่!??? แต่เหตุใดคุณหนูจึงงดงามขึ้นขนาดนี้กัน!??
จาร์เวียรีบให้เมดขอโทษขอโพยที่เสียมารยาทกับลูกสาวของนายเหนือหัวยกใหญ่ วิลเลี่ยมก็ให้อภัยแบบมิคิดอะไรมาก
แม้นจะสงสัยแต่ทุกคนได้แต่เก็บงำมันไว้ในใจ อยากจะรู้เหตุใดคุณหนูถึงดูงดงามเจิดจรัสมีราศีมากขึ้นขนาดนี้?
วิลเลี่ยมเดินไปหยิบอุปกรณ์แล้วเดินไปทำความสะอาดชั้นใต้ดินจนสะอาด จากนั้นก็นำขวดแก้วมาใส่โพชั่นในหม้อจนหมด นับรวมๆแล้วได้เป็นสิบขวดเลยทีเดียว
"กี๊!"
เจ้าต้นไม้ร้องขึ้นมา มันยังคงภูมิใจกับผลงานของตนมิหาย วิลเลี่ยมส่ายหน้าก่อนจะหันความสนใจของตนมายังหนังสือปรุงยา แค่ปรุงโพชั่นระดับต่ำเขายังทำแทบจะมิสำเร็จ เขายอมไม่ได้!
วิลเลี่ยมรีบออกไปหาซื้อวัตถุดิบสำหรับปรุงยาเพิ่ม ส่วนเจ้าต้นไม้นั้นรออยู่ในชั้นใต้ดิน
เมื่อเดินออกมา ผู้คนที่ได้ยลโฉมความงามที่เพิ่งขึ้นของวิลเลี่ยม บุรุษมากหน้าหลายตาก็พยายามมาเกี้ยวพาราสีเขา
"โอ้แม่ดอกไม้งาม~"
"ดอกไม้สวรรค์ของข้าโปรดรับรักข้าด้วย"
และอีกมากมาย ยอมรับว่าผิว ผม ตา ดูดีขึ้น แต่เหตุใดบุรุษเพศจึงมาเกาะติดเขาถึงเพียงนี้?
แม้นจะอยู่ในค่ายทหารมานานนับปีจนคุ้นชินกับบุรุษเพศคนอื่นๆ แต่พอมาอยู่ในร่างอิสตรี อีกทั้งยังโดนเกี้ยว มันทำให้เขาอดขนลุกไม่ได้ ถึงร่างจักเป็นหญิง แต่จิตวิญญาณของเขาคือบุรุษ จะไม่ให้ขนลุกขนพองได้อย่างไร?!
ในตอนนี้ เป้าหมายที่จะมาซื้อวัตถุดิบปรุงยาถูกเปลี่ยนไปเป็น 'หาทางหนีจากบุรุษเพศให้ได้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้' ไปแล้ว
วิลเลี่ยมวิ่งหนีอย่างเร็วไว ไม่น่าเชื่อ เมื่อบุรุษเจอสตรีที่งาม จะทำตัวน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจตนใดในคัมภีร์ที่เคยอ่านมาเสียอีก! สหายในร่างเก่าตอนเขายังเป็นทหารจะเป็นเช่นนี้หรือไม่เวลาพบสตรีงาม? ช่างน่าสงสัย และน่าขนลุกในเวลาเดียวกัน
วิ่งมาได้ไกลพอแล้ววิลเลี่ยมจึงหยุดแอบ ก่อนจะโดนสักคนปิดปากแล้วลากหายตัวไป
"ไง!"
เมื่อได้ยินเสียงเขาก็รู้ทันทีว่าบุคคลปริศนาคือใคร
"เจ้าทำข้าตกใจแทบแย่"
"ถึงจะตกใจ หน้าเจ้ายังคงนิ่งดั่งศิลาเหมือนเดิม"
เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคัก วิลเลี่ยมส่ายหน้า
"เจ้าดู...ดีขึ้นนะ รึเปล่าหว่า?"
เดธพูดอย่างไม่แน่ใจ เขาย่อมสังเกตุความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนตนเองอยู่แล้ว ต่อให้เปลี่ยนไปเช่นใดเขาก็ยังจดจำได้ เทพแห่งความตาย ดมกลิ่นวิญญาณเพื่อจดจำ หาได้มองเพียงรูปลักษณ์ภายนอก หรือชื่อ
"ข้าก็คิดเช่นนั้นหลังจากที่ได้ดื่มโพชั่นที่เจ้าต้นไม้ลงมือปรุง"
"ครรภ์แห่งปัญญา? มันปรุงโพชั่นอันใดให้เจ้า?"
วิลเลี่ยมเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้สหายของตนฟัง เมื่อเดธได้ฟังเรื่องเล่าทั้งหมดก็ทำหน้าแปลกใจสักพักก็ระเบิดหัวเราะออกมา
"โอ๊ยยย!! หนีผู้ชายหัวซุกหัวซุน! ฮ่าๆ!! ไม่ไหวแล้วๆ!"
เขาขำจนท้องคัดท้องแข็ง
"นั่นมิใช่ประเด็น ประเด็นคือโพชั่นต่างหาก"
วิลเลี่ยมกรอกตาไปมาเมื่อเห็นเด็กหนุ่มกลอ้งไปมากับพื้น สภาพดูไม่ได้
"ฮ่าๆ! โทษทีๆ จากที่เจ้าเล่า มันคล้ายจะเป็น โพชั่นพิเศษชนิดหนึ่ง ซึ่งจะชำระสิ่งสกปรกแปลกปลอมออกจากร่างกาย ทำให้ร่างกายสุขภาพดีขึ้น แต่มันมิได้ทำให้ดูหน้าตาดีขึ้นเพียงอย่างเดียวนะ มันทำให้โรคภัยไข้เจ็บที่ถูกฝังอยู่ในส่วนลึกของร่างกายทุกซอกมุมหายไปเป็นปลิดทิ้งเลยละ โพชั่นนี้ปรุงได้ยากมาก เพราะวัตถุดิบแต่ละอย่างต่างหายสาปสูญไปแล้วในปัจจุบัน อีกทั้งยังต้องอาศัยความสมบูรณ์แบบในการใส่ส่วนผสมด้วย แต่ผู้ที่ปรุงมันคือครรภ์แห่งปัญญา จากตามสิ่งที่เคยศึกษามา รากของครรภ์แห่งปัญญาก็เหมือนกับคลังเก็บเสบียง เวลามันกินสิ่งมีชีวิตไปหล่อเลี้ยงทารกก็จะดูดเข้าไปในรากใช่ไหมล่ะ? เมื่อดูดเข้าไปส่วนหนึ่งจะถูกเก็บไว้ ในลำต้น ราก ทุกอย่างของมันนั้นมีที่เก็บสะสมนับไม่ถ้วนมากกว่าที่ตาเห็น ทุกครั้งที่ดูดกลืนมันก็เหมือนเก็บวัตถุดิบไว้ในตัวมันด้วย และ ดูเหมือนมันจะอยู่มานานนับพันปี จึงดูดสัตว์ที่เป็นส่วนผสมโพชั่นนี้ได้จนครบ"
เดธอธิบายยาวเหยียยดจนวิลเลี่ยมอดมึนหัวไม่ได้
"อีกอย่าง โพชั่นนี้จะทำให้ร่างกายแก่ช้าลงประมาณสิบกว่าปีได้ละมั้ง เพราะมันถูกเอามาจากสัตว์หายาก 'ในตำนาน'ด้วยนี่นา? ข้าจะยกตัวอย่างให้ฟังเท่าที่จำได้นะ น้ำตาฟินิกซ์ น้ำลายยูนิคอร์น น้ำตามังกรหมื่นปี และอีกมากมาย "
จากคำที่เดธเล่า มันทำให้วิลเลี่ยมรู้สึกสะพรึงกับเจ้าต้นไม้นั่นเหลือเกิน มันมีฝีมือมากเข่นใดจึงสังหารและดูดกลืนสิ่งที่เดธร่ายออกมากัน? ในตอนนี้รู้สึกดีใจแล้วล่ะที่ถูกมันเลือกให้เป็นมาม๊าน่ะ..
-------
กรี๊ด มีเวลาลงสักที อ่า ผมไปอ่านเม้นท์มาแล้วล่ะ เยอะมากเลยที่ท้วงเกี่ยวกับคำเรียกแทนตัว ว่า วิลเลี่ยม คือไรท์คิดว่า ในตอนนี้ ตัววิญญาณของวิลที่เข้ามาร่างอลิซ ยังคงคิดว่าเขายังเป็นเขาอยู่ เขาไม่คิดว่าในตอนนี้ตนคืออลิซ อควาเรียสน่ะ จึงให้แทนตัวว่าวิลเลี่ยมคือ...ไรท์มีความคิดแบบนี้จึงบรรยายไปตามที่รีดอ่านนั่นแหละครับ ถ้ามันแย่ก็ขออภัยด้วยน๊า :-;
สวยไปอีกสามสิบปีไปเลยจ้าา
ส่วนตัวโอเคกับที่วิลเลี่ยมแทนตัวแบบนี้นะค่ะ ก็เขาเป็นตัวของเขาเองก็ถูกแล้วนี่นา(นายเป็นตัวผู้จะทำตัวสาวมันก็แปลกไปมั้ย!)