ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Special Ones

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 7 ปรุงยา - "นี่เป็นสูตรยาของแม่มด ไม่ใช่น้ำมนตร์ของนางฟ้า"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.59K
      6
      25 ต.ค. 53

    บทที่ 7 ส่วนผสมของการปรุงยาที่ดี

    นี่เป็นสูตรยาของแม่มด ไม่ใช่น้ำมนตร์ของนางฟ้า

     

                วันต่อมาคือวันที่ถึงกำหนดนัดหมายรวบรวมวัตถุดิบ

                แผนกระจายคนช่วยหาของของวิลเลียมประสบผลลัพธ์เกินคาด และนั่นก็นำมาซึ่งปัญหาใหญ่ที่เขาไม่ได้เตรียมรับมือไว้

                เขาจะเอาของทั้งหลายเหล่านี้ไปยังกระท่อมแม่มดของแคสซานดราได้อย่างไร...

                ลำพังแค่ของที่เขากับไฮเดนหามาได้ก็มีคนละกระสอบแล้ว วิลเลียมไม่อยากคิดเลยว่า ตอนที่เขาไปรวมรวบของจากร้านค้าในเครือของแม่มดดำผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคจะมีของเพิ่มขึ้นมาอีกมากมายเพียงไร นี่ยังไม่นับของที่ฝากให้ลูเครเซียช่วยหาอีก

                ...เกวียนเล่มหนึ่งน่าจะพอบรรทุกไหว...

                วิลเลียมลองกะประมาณคร่าวๆ

                แต่ถึงกระนั้น การจะขนของพวกเหล่าใส่เกวียนออกนอกเมืองไปก็คงเป็นที่น่าสงสัยอยู่ดี ยิ่งเมื่อวันก่อนมีคดีของหายเกิดขึ้นหลายคดีเสียด้วยสิ

                ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของการให้เกวียนช่วยบรรทุกของก็คือ สุดท้ายพอไปถึงชายป่าแล้ว เขาก็ต้องลงเดินแบกสิ่งต่างๆ ไปยังกระท่อมด้วยตนเอง ป่าอาถรรพณ์ไม่ได้มีถนนตัดผ่านให้รถล้อเข้าไปวิ่งเล่นได้หรอก

                เขาคงต้องหาวิธีขนย้ายที่โจ่งแจ้งน้อยลงและสะดวกกว่านี้

                ชายหนุ่มยังคิดไม่ตก แต่ก็ตัดสินใจแวะไปดูที่ร้านของอาลีก่อน อย่างน้อยถ้าพอติดต่อกับแคสซานดราได้ นางอาจจะมีวิธีช่วยเขาได้บ้าง

                ก็ได้แต่หวังว่า ท่านแม่มดดำผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคจะไม่ใจร้ายกับหุ้นส่วนผู้คนจนเกินไป...

     

                เวลานี้ยังคงเช้าอยู่มาก...เป็นเวลาก่อนที่ร้านอาลีค้าสรรพยุทโธปกรณ์จะเปิดบริการ แต่พ่อค้าต่างสัญชาติก็จำต้องลุกขึ้นมาเปิดประตูต้อนรับคนที่ปาหินใส่กระจกเรียกเขา ด้วยกลัวว่าขืนไม่ทำเช่นนั้นแล้วอีกฝ่ายจะโกรธเอาแล้วเปลี่ยนไปให้หินก้อนใหญ่แทนก้อนเล็กๆ และทำให้เขาต้องจ่ายค่าซ่อมกระจกใหม่

                นายท่านสั่งไว้ว่า ห้ามให้ใครรบกวน นางกำลังรวบรวมสมาธิสำหรับเตรียมปรุงยาในวันนี้อยู่ อาลีบอกประโยคนี้ต่อวิลเลียม เมื่อเขาจะมาขอคุยกับนกแก้วในร้าน

                แต่ว่าถ้าข้าเอาวัตถุดิบให้ได้นางไม่ได้ นางก็ไม่สามารถปรุงยาได้หรอกนะ วิลเลียมอ้าง

                นั่นมันก็เป็นปัญหาของเจ้า ไม่ใช่ปัญหาของนายท่านนี่ พ่อค้าอาวุธว่า

                ชายหนุ่มฟังแล้วก็ต้องยกมือขึ้นมากุมขยับ ทำไมคนพวกนี้ช่างเห็นอะไรเป็นการค้า เป็นผลประโยชน์ เป็นกำไร แบ่งหน้าที่การทำงานกันชัดเจนเด็ดขาด จนกระทั่งดูไร้น้ำใจช่วยเหลือต่อกันเช่นนี้

                แล้วท่านพอจะมีวิธีช่วยข้าบ้างไหม วิลเลียมลองถามอีกฝ่าย เสียงเขาฟังดูน่าเห็นใจ

                ถ้าแค่รถเข็นหรือเกวียนขนของ ข้าก็พอมีให้ท่านยืมอยู่ อาลีกล่าว เขาทราบรายละเอียดของปัญหาของวิลเลียมจากการที่ชายหนุ่มมายืนอธิบายถึงสาเหตุที่เขาจำเป็นต้องติดต่อกับนายท่านก่อนหน้านี้ ขณะที่เขาก็หาวไปฟังไป แต่ว่าถ้าเป็นวิธีที่ดีว่านั้น ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง...

                วิธีอะไร ชายหนุ่มชักสนใจขึ้นมา

                ข้ามีกระเป๋าหนังมังกรลงเวทมิติและเวลาอยู่ใบหนึ่ง กันน้ำทนไฟได้ดี เป็นของหายากชั้นหนึ่งเลยละท่าน อาลีพูดเหมือนกำลังโฆษณาขายสินค้า ดูกระปี้กระเป่าคล้ายตื่นเต็มที่แล้ว ด้วยเวทที่ลงไว้จะทำให้กระเป๋าใบนี้สามารถจุของได้มากเท่าคันรถหนึ่ง และน้ำหนักก็ไม่เพิ่มเกินไปกว่าที่คนธรรมดาจะแบกได้ ทว่าราคาของมันก็ค่อนข้างสูงอยู่พอตัว...

                อย่างนั้นข้าขอยืมมันไปทดสอบใช้งานก่อนละกัน วิลเลียมว่าพลางคลี่ยิ้มกว้าง ท่านจะได้มีคำยืนยันไปโฆษณาลูกค้าคนอื่นๆ

                แต่พ่อค้าอย่างอาลีก็ไม่หลงไปกับรอยยิ้มพิมพ์ใจหรืออุบายของวิลเลียม

                ไม่ได้หรอกท่าน นี่มันของซื้อของขายนะ อาลีปฏิเสธ ถ้าท่านซื้อไปใช้เลยจะเป็นการดีสุด กระเป๋านี่มีประโยชน์สารพัด ลองคิดดูสิว่าต่อไปท่านจะใช้มันเก็บของเดินทางไปด้วยได้มากมาย ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

                เท่าไหร่ ชายหนุ่มถามตรงๆ เขาขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงหรือฟังคารมนักค้าของอาลีแล้ว

                สำหรับท่านวิลเลียมแล้ว ข้าเสนอราคาหกสิบเหรียญทองจากราคาเต็มหกสิบหกเหรียญทอง

                วิลเลียมฟังราคาแล้วนึกทบทวนอีกครั้ง... ไม่รู้ว่าเงินรายสัปดาห์ที่ไฮเดนเก็บออมไว้จากที่พระราชาให้มาจะพอจ่ายไหม... ถ้าไม่พอนี่ก็เป็นการปฏิบัติงานที่ขาดทุนชัดๆ

                สามสิบ เขาตัดราคาลงครึ่งหนึ่ง

                อาลีส่ายศีรษะไปมา

                ขายราคานั้นข้าก็ขาดทุนพอดี ข้าให้ได้แค่หกสิบเหรียญทองเต็มที่แล้ว

                สามสิบห้า วิลเลียมยังไม่ยอม

                ห้าสิบห้า คนขายลองลดราคาให้อีกนิด

                สี่สิบ

                ห้าสิบเอ้า!” อาลีประกาศ ข้าลดให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะท่าน

                สี่สิบเหรียญทอง ไม่อย่างนั้นข้าไม่ซื้อ ชายหนุ่มยังไม่เลิก ก่อนหน้านี้อาลีก็บอกทำนองว่าลดให้ได้เท่านี้เต็มที่แล้ว แต่ต่อมาก็ลดได้อีก ฉะนั้นเขาต้องต่อราคาให้ถึงที่สุด

                โธ่ ท่านวิลเลียม เห็นใจข้าบ้างเถอะนะ พ่อค้าอาวุธร่ำร้อง คราวที่แล้วตอนท่านซื้อ มีดซัดหวนคืน ไป ข้าก็ลดราคาจนขาดทุนจะแย่แล้ว คราวนี้ก็ขอให้ข้าได้กำไรบ้างเถอะ

                เจ้าน่ะสิต้องเห็นใจข้า วิลเลียมไม่ใจอ่อนไปด้วย แค่นี้ข้าก็ติดหนี้เงินและสินน้ำใจคนอื่นอยู่มากมายมหาศาลแล้ว แล้วยังต้องมาเสียเวลาต่อรองราคากับเจ้าอีก แทนที่จะให้ยืมของมาใช้เลยสินค้าก็ไม่บุบสลายหรอก เจ้าว่าหนังมังกรนั่นมันทนทานนักไม่ใช่หรือ อีกอย่าง... ถ้าข้าไปพบนายเจ้าสายขึ้นมา ถ้าจะบอกนางว่าทั้งหมดนี่เป็นความผิดของเจ้าที่ไม่ยอมช่วยเหลือข้าด้วย

                กล่าวจบแล้วเขาก็กระตุกยิ้มเหี้ยม นัยน์ตาสีน้ำเงินฉายแววข่มขู่คุกคามขึ้นมา

                อาลีเห็นสีหน้าวิลเลียมแล้วบังเกิดความรู้สึกเกรงกลัว... ทั้งกลัวว่าอีกฝ่ายจะยกเรื่องของเขาไปฟ้องนายท่านแคสซานดราอย่างที่ขู่ไว้ และทั้งกลัวในความโกรธของวิลเลียม

                ชายชาวดาเรเนียผู้นี้ไม่คล้อยตามลูกไม้ของเขาเลยสักนิด พอใช้ไม้อ่อนไปกลับรุนแรงกลับ อาลีคิดว่าเขาคงล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว และตอนนี้สัญชาตญาณพ่อค้าของเขาก็กำลังร้องเตือนว่า ประจบเอาใจคนตรงหน้าไว้ก่อนย่อมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในตอนท้าย

                สี่สิบเหรียญทองก็ได้ขอรับ... อาลีกล่าวอย่างจำยอม แต่ขอท่านอย่าได้เอาเรื่องนี้ไปบอกนายท่านเลย ข้าไม่อยากให้นายท่านต้องลงมาวุ่นวายกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง

                ...เรื่องไม่เป็นเรื่องที่ว่านี่มันเกิดขึ้นก็เพราะเจ้านี่แหละ...

                วิลเลียมคิด แต่ก็ไม่ได้อะไรออกมา เพียงบอก ว่า

                ดี ลงบัญชีข้าไว้ละกัน แล้ววันหลังข้าจะมาจ่าย

                หลังจากนั้นปล่อยให้อาลีจัดการเอาของทั้งหลายที่หามาไว้บรรจุใส่กระเป๋าหนังมังกรให้เลย

                ชายหนุ่มใช่จะไม่เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของการค้าหรือธุรกิจหรอก วิลเลียมแค่ไม่พอใจเวลาที่เขาร้องขอความช่วยเหลือจากใคร แล้วไม่ได้สิ่งที่หวังไว้กลับมาเท่านั้นโดยเฉพาะเวลาที่เขากำลังรีบเช่นนี้... เขาก็จะยิ่งอารมณ์เสียขึ้นมาได้ง่ายๆ ด้วย

     

                วิลเลียมตีสีหน้ายิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดีแวะมาหาเจ้าหญิงลูเครเซียเป็นลำดับถัดไป ทว่าระหว่างทางเดินทางมาถึงพระราชวัง เขาก็ไม่ลืมหยุดแวะตามร้านรายทางเพื่อเก็บรวบรวมของเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน

                หลังจากที่ได้กระเป๋าหนังมังกรมา วิลเลียมก็ใจเย็น และสงบลงบ้าง กระเป๋าจากร้านของอาลีมีคุณสมบัติตรงตามที่คนขายโฆษณาไว้ น่าจะจัดเป็นของหายากจริงดังที่อาลีว่า แต่หากจะถามว่ารู้สึกคุ้มค่าสมราคาที่ต้องจ่ายไหม ชายหนุ่มก็ยังไม่แน่ใจนัก เพราะถ้าเขาคิดจะใช้ขนของครั้งนี้เพียงอย่างเดียว เงินแปดสิบเหรียญทองก็ดูจะเป็นการลงทุนที่เกินตัวไปพอสมควร

                ข้าไม่นึกว่าพี่วิลเลียมจะมาเอาของตั้งแต่เช้า เจ้าหญิงตรัสทักทายญาติผู้พี่ วิลเลียมมาหานางที่ห้องรับรองห้องเดียวกับที่ใช้สนทนากันเมื่อวันก่อน

                พอดีข้าไม่รู้ตารางเวลาของเจ้า เลยมารอไว้ก่อนน่ะ

                เขาบอกไปเช่นนั้น แต่ที่จริงก็พอทราบอยู่แล้วว่าวันหนึ่งหนึ่ง เจ้าหญิงลูเครเซียไม่ได้ทรงมีราชกิจใดเป็นพิเศษนอกจากเข้าเรียนตามที่ราชครูกำหนดมา ส่วนเวลาที่เหลือนั้นค่อนข้างว่าง เจ้าหญิงสามารถใช้ทำกิจวัตรของพระองค์ได้ตามพระทัย ซึ่งเขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่า กิจวัตรของเจ้าหญิงที่ว่าจะมีอะไรบ้าง และก็ไม่ได้ใคร่อยากรู้นัก

                ชั่วโมงถัดไปข้าจะมีเรียนรัฐศาสตร์ แต่ข้าจะบอกให้เมเดียเอาของมาให้พี่วิลเลียมเดี๋ยวนี้แหละ ข้าเก็บไว้ในอีกห้องถัดไปนี่เอง ว่าแล้วก็ทรงสั่งนางกำนัลพี่เลี้ยงตามนั้น

                วิลเลียมไม่ค่อยแปลกใจนักที่เมเดียจะมีส่วนร่วมในเกมล่าสมบัติปลอมๆ นี้ด้วย อย่างไรเขาคงแยกเจ้าหญิงออกจากนางกำนัลประจำตัวได้ยากอยู่แล้ว อีกทั้ง...ที่เขาบอกให้ลูเครเซียเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก็แค่พูดไปให้ดูสมจริงเท่านั้นเอง เขาไม่ได้หวังให้นางปิดปากเงียบจริงๆ หรอก ถึงจะมีใครล่วงรู้หรือเอะใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบ้าง แต่ขอแค่ให้ได้ของที่ต้องการมา ไม่ว่าวิธีไหนก็ใช้ได้ทั้งสิ้น

                เมเดียรู้เรื่องนี้ด้วยหรือ วิลเลียมยังคงถามไปเพื่อความสมจริง

                อื้ม... เจ้าหญิงรับเบาๆ ข้าเผลอหลุดปากบอกนางไป แต่เมเดียไว้ใจได้นะพี่วิลเลียม นางไม่เอาไปบอกใครต่อหรอก พี่วิลเลียมคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม

                เสียงที่ใช้ถามนั้นฟังดูอ่อนลง คงวาดหวังเต็มที่ว่าเขาจะตอบว่าไม่เป็นไร

                เจ้าลงแรงช่วยข้าขนาดนี้ ข้าไม่ว่าอะไรเจ้าอยู่แล้วละ วิลเลียมตอบเอาใจ พลางเอื้อมมาไปลูบพระเกศาสีทองของเจ้าหญิงน้อย เขาจำได้ว่าลูเครเซียชอบให้คนเล่นผมของนาง

                เจ้าหญิงสรวลสำราญอย่างมีความสุขไปกับสัมผัสนั้น

                ว่าแต่ รางวัลของผู้ชนะเกมล่าสมบัติคืออะไรหรือ นางถามขึ้นหลังจากที่เขาเอามือกลับไปแล้ว

                เป็นของสำคัญมากอย่างหนึ่ง... วิลเลียมบอก เอาไว้ถ้าข้าได้มันมาแล้วจะเอามาให้เจ้าดูละกันนะ ตอนนี้อดใจรอไว้ก่อนนะ ลูซ

                ถ้าพี่วิลเลียมว่าอย่างนั้น ข้าจะรอก็ได้ ลูเครเซียพยักหน้าประกอบคำ

                ตอนนั้นเองที่เมเดียกลับเข้ามาในห้องรับรองพร้อมถุงผ้าขนาดใหญ่ใบหนึ่ง วิลเลียมสังเกตเห็นว่า เมเดียมีสีหน้าตายด้านตลอดเวลาที่ยื่นถุงนั้นให้เขา แต่ก็ไม่แปลกสำหรับนางกำนัลคนนี้ นางชอบทำหน้าเฉยชาเหลือจะรับใส่วิลเลียมตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ชายหนุ่มจึงไม่ใส่ใจอะไร

                ขอบใจนะ วิลเลียมกล่าวตามมารยามหลังรับถุงผ้ามา

                จากนั้นเขาก็เอ่ยลาลูเครเซีย

                ข้าต้องไปก่อนล่ะ จะได้เอาของไปนับคะแนน ชายหนุ่มลุกขึ้นเตรียมตัวจากไป ทว่าก็ไม่วายหันมาเตือนส่งท้ายว่า อย่าลืมตั้งใจเรียนด้วยล่ะ ลูซ

                ข้าตั้งใจเรียนตลอดอยู่แล้วละพี่วิลเลียม เจ้าหญิงอวดอย่างภาคภูมิ

                ข้อนี้เป็นเรื่องที่ถึงใครอื่นจะไม่ค่อยรู้นัก แต่เมเดีย พระราชา พระราชินี และเหล่าราชครูทั้งหลายต่างทราบกันดีว่า เจ้าหญิงลูเครเซียทรงรอบรู้ตำราเรียนมากแค่ไหน ดูแล้วช่างผิดกับความใสซื่อที่นางมีอยู่เป็นยิ่งนัก

                แน่นอนว่า ท่านชายวิลเลียมที่มักจะเห็นแต่เพียงความคิดและการกระทำ และวาจาอันบริสุทธิ์ของเจ้าหญิง แต่ไม่เคยร่วมเรียนหรือทราบผลการเรียนของพระองค์ย่อมไม่รู้ว่า คำพูดที่นางกล่าวนั้นคือความจริง มิใช่คำกล่าวพล่อยๆ

                อย่างนั้นก็ดีแล้ว

                ครั้งนี้เขาบอกแล้วจากไปจริงๆ

     

                กว่าวิลเลียมจะรวบรวมของมาถึงกระท่อมของแม่มดดำ ณ ป่าอาถรรพณ์ได้ ก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว

                เจ้ามาสาย พอเห็นหน้าผู้มาเยือน แคสซานดราก็กล่าวคำนี้ทันควัน

                วิลเลียมแค่นยิ้ม

                ทำไมเจ้าไม่รู้จักทักทายแบบคนปรกติบ้างนะ

                เขาตั้งใจจะบ่นกับตัวเอง แต่แคสซานดราก็ได้ยิน

                แบบคนปรกติที่ว่านั่นเป็นแบบไหน นางถาม

                ก็อย่างเช่นว่า สวัสดียามบ่าย’, ‘เป็นยังไงบ้าง’, ‘สบายดีไหม’, กินอะไรมาหรือยัง’, ‘เดินทางมาไกลเหนื่อยหรือไม่’, หรือแค่สั้นๆ ง่ายๆ ว่าสวัสดี ก็ยังดี วิลเลียมยกตัวอย่างมาสาธยาย

                ครั้งแรกที่เจ้ามาที่กระท่อมแห่งนี้ข้าก็บอกสวัสดีไปแล้ว แม่มดดำว่า อีกอย่าง ข้าไม่เห็นจะต้องทำอะไรแบบคนธรรมดาทั่วไป พูดประโยคเหล่านั้นไปก็ถือเป็นการเสียเวลาเปล่า ต่อให้เจ้ากำลังไม่สบาย ถึงข้ารู้แต่ไม่มียารักษาก็ช่วยเจ้าไม่ได้เสียหน่อย หรือถ้าเจ้ากำลังหิวโซ แต่ถ้าข้าไม่มีอะไรให้เจ้ากินก็ช่วยเจ้าไม่ได้อยู่ดี เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจะถามไปทำไม

                วิลเลียมฟังเหตุผลของนางแล้วก็ต้องโคลงศีรษะ แคสซานดราช่างเป็นแม่มดดำผู้โหดร้ายเสียนี่กระไร

                อย่างน้อยการที่เจ้าแสดงอาการว่าเป็นห่วงหรืออยากช่วยเหลือก็ช่วยให้ผู้อื่นรู้สึกดีขึ้นได้บ้างแหละน่า

                หญิงสาวเก็บข้อความนั้นไปครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนตอบ...

                ...แต่ตอนนี้เจ้าไม่ได้เป็นอะไร ประโยคของนางเป็นเชิงถามมากกว่าบอกเล่า

                ก็ใช่... วิลเลียมยักไหล่รับ นอกจากเหนื่อยจากการเดินทางนิดหน่อยแล้ว เขาก็ไม่ได้เป็นอะไร

                แล้วจะมาเสียเวลาพูดกับข้าเรื่องนี้ทำไม

                ชายหนุ่มได้แต่ลอบถอนหายใจ สหายเก่าของเขาผู้นี้คงยังจริงจังและเป็นการเป็นงานกับทุกสิ่งยิ่งกว่าผู้ใดที่เขาเคยพบเจอมา แล้วพอโตขึ้นแล้วนางก็ดูจริงจังมากกว่าสมัยเด็กที่เขาจำได้เสียอีก

                หลังจบการทักทายยืดยาวที่ไม่ค่อยจะธรรมดานัก พวกเขาก็เริ่มต้นทำงานกัน

                ในห้องนั้นแคสซานดราตั้งหม้อใส่น้ำไว้อยู่แล้ว พอวิลเลียมมานางก็จุดไฟ แล้วใส่ส่วนผสมหลายๆ อย่างลงไป วิลเลียมกลายมาเป็นลูกมือต้องคอยหยิบของตามที่นางสั่ง มีวาเรนนั่งมองการทำงานของทั้งสองอยู่ที่แท่นยืนนก ส่วนคาเนสนอนขดตัวอยู่บนโต๊ะข้างชั้นหนังสือ

                ซากกิ้งก่าโดนเหยียบทับตายสองซาก แคสซานดราทวนรายการให้เขาได้ยิน

                วิลเลียมหยิบซากสัตว์เลื้อยคลานที่นอนแบนอยู่ในถาดบนโต๊ะให้นางด้วยความรู้สึกขยะแขยงแปลกๆ

                ทว่าแคสซานดราก็รับมันไปจากมือเขาโดยไม่ลังเล แล้วจึงโยนมันใส่ในหม้อต้ม

                ศพค้างคาวแห้งตายเองสามศพ นางว่าต่อ

                ขณะที่วิลเลียมส่งของนั้นให้ เขาก็อดเอ่ยถามไม่ได้ว่า

                เจ้าแน่ใจนะว่า ของพวกนี้ใช้ได้...

                ใช้ได้สิ ก็เมื่อวานข้าเป็นคนไปหามาเอง ของซากที่มีเงื่อนไขการตายแบบนี้ใช่จะหาได้ง่ายๆ นะ แม่มดดำตอบ พลางโยนค้างคาวทั้งสามศพลงหม้อไปอีก

                ข้าหมายถึงว่า ของพวกนี้เป็นส่วนผสมของน้ำยาที่เจ้าปรุงอยู่จริงๆ น่ะ นี่คือสิ่งที่วิลเลียมตั้งใจจะถาม ดูจากรายการของแต่ละอย่างแล้ว เขาไม่คิดว่ามันจะนำมาปรุงเป็นน้ำยาวิเศษอะไรได้เลย

                นี่เป็นสูตรยาของแม่มด ไม่ใช่น้ำมนตร์ของนางฟ้า แคสซานดราบอกด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ ถ้าเจ้าอยากได้ส่วนผสมที่ชื่อฟังเพราะๆ ดีๆ ก็อย่ามาขอให้ข้าช่วยแต่แรกสิ

                วิลเลียมเถียงไม่ออก มันก็ถูกของนาง อีกอย่าง...เขาคงหานางฟ้าที่ไหนมาช่วยทำงานนี้ไม่ได้หรอก

                ทั้งคู่ช่วยกับผสมน้ำยาต่ออย่างเงียบๆ ไปสักพัก จนกระทั่งมาถึงวัตถุดิบสำคัญ...ซึ่งมีหลายชิ้นที่สุด

                ของของคนตามรายชื่ออยู่ไหน คนปรุงยาถาม

                อยู่ในกระเป๋านี่ วิลเลียมชูกระเป๋าหนังมังกรที่เพิ่งซื้อมามาดๆ ให้นางดู

                กระเป๋าหนังมังกรลงเวทมิติและเวลา...จากร้านของอาลีสินะ หญิงสาวพูดหลังจากเห็นมัน เข้าใจคิดดีเหมือนกัน แต่ดูท่าของจะเยอะ ข้าคงต้องใช้เวทมิติและเวลาขยายขนาดก้นหม้อ

                ว่าแล้วแคสซานดราก็ขมุบขมิบปากร่ายเวทบางอย่างใส่หม้อต้มตรงหน้า

                เจ้ารู้จักกระเป๋าใบนี้ด้วยหรือ วิลเลียมถามขึ้นหลังจากที่นางร่ายคาถาเสร็จ

                ก็ข้าเป็นคนทดลองลงเวทมิติและเวลากับหนังมังกรนั่นเองนี่นา

                ทดลอง? วิลเลียมทวนคำ นึกแปลกอยู่บ้างที่แคสซานดราเป็นคนลงเวทเอง แต่แปลกใจยิ่งกว่ากับคำที่นางใช้

                ก็ตอนนั้นข้าเพิ่งศึกษาเวทด้านนี้ เลยลองกับกระเป๋านั่นดูก่อน เป็นได้ผลสำเร็จดีก็เลยยกให้อาลีออกไปขาย นางเล่าเสมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ข้ากำลังคิดจะย้ายบ้านเข้าไปอยู่ในเมือง แต่อีกใจหนึ่งก็ชอบบรรยากาศในป่านี้ เลยลองศึกษาเวทมิติและเวลา ว่าจะลองทำทางเชื่อมต่อถึงกันดูน่ะ

                อ้อ... ชายหนุ่มกล่าวอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น เพราะเขาไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์นักหรอก ทว่าเพียงเท่านี้ เขาก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า เรื่องที่นางพูดมาดูจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่เกินว่านักเวททั่วไปจะทำได้

                แคสซานดราจัดการเปิดกระเป๋าและเทของทุกอย่างที่บรรจุอยู่ในนั้นลงไปในหม้อ นัยน์ตาสีเทามองผ่านวัตถุทั้งหลายที่เคลื่อนลงไปตามแรงโน้มถ่วงอย่างพิจารณา

                ของบางอย่างเป็นของที่ผ่านมือเป้าหมายได้ไม่นาน นางวิจารณ์ อย่างพวกเหรียญที่เปลี่ยนมือกันง่ายๆ นี่ ไม่น่าเอามาใช้เลย

                นั่นเป็นความคิดของอาลี

                วิลเลียมปัดความผิดไป ถึงแม้เขาจะเห็นด้วยตอนที่อาลีเสนอความคิดนี้ก็ตาม ก็เขาไม่รู้นี่ว่า ของพวกนั้นจะได้มีเงื่อนไขอะไรตั้งมากมาย เขาเข้าใจว่าแค่หาของมาก็คงพอแล้ว

                ...แต่ก็คงพอใช้ได้ละนะ

                แม่มดดำยอมปล่อยผ่าน จำนวนของทั้งหมดที่ได้มานี่ก็มากเกินกว่าจะนางคาดคิดไว้แล้ว ถึงแม้ชายหนุ่มจะขอยืมวาเรนและคนของนางไปช่วยหาของด้วยก็เถอะ แต่ทำได้ขนาดนี้คงก็ต้องชมเชยเขาหน่อยละ

                วิลเลียมมองแคสซานดราเคี่ยวน้ำยาและส่วนประกอบทั้งหลายที่ไม่น่าจะละลายได้เข้าด้วยกัน นางใช้ไม้พายคนของที่ก้นหม้อไปเรื่อย เหมือนไม่ต้องออกแรงมากนัก ชายหนุ่มนึกสงสัยว่านั่นเป็นไปได้อย่างไร แต่เรื่องอะไรที่กับเวทมนตร์หรือแม่มดนี่เขาไม่ค่อยเข้าใจเลย ดังนั้นเขาจึงเฝ้าสังเกตการณ์ต่อไปโดยไม่พูดจา

                แคสซานดราเทน้ำยาอะไรสักอย่างจากขวดใบจิ๋วหยดใส่ในหม้อ วิลเลียมมองดูแล้วก็สงสัยว่าเจ้าสิ่งนั้นคืออะไร เพราะนางไม่เห็นพูดถึง แล้วก็ดูจากรูปลักษณ์ของขวดแล้ว ของที่บรรจุข้างในคงมีความสำคัญทีเดียว

                นั่นน้ำยาอะไรหรือ เขาถาม

                น้ำยาที่จะช่วยให้ปรุงยานี่ได้สำเร็จ

                แล้วมันคืออะไร

                ขี้เล็บของข้า นางบอกพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ชวนให้เชื่อถือแม้แต่น้อย

                วิลเลียมฟังคำตอบแล้วก็เผยอปากอ้าค้างออกมา ใช้ขี้เล็บนี่ฟังดูน่าเหลือเชื่อน้อยกว่าศพกิ้งก่าหรือซากค้างคาเสียอีก แต่เมื่อตั้งตัวได้อีกครั้งเขาค่อยพูดว่า

                ถ้าเจ้าไม่อยากบอก ก็ไม่จำเป็นต้องบอกเป็นอย่างอื่นที่ไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิดก็ได้นะ แคส

                ข้าจำวิธีนี้มาจากเจ้านั่นแหละ วิลเลียม หญิงสาวว่า เวลาเจ้าไม่อยากบอกความจริงอะไรก็มักจะกุเรื่องที่คนฟังแล้วต้องส่ายหน้าขึ้นมาแทน แล้วพยายามยืนยันว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่ใช่หรือ

                ชายหนุ่มยิ้มแหย... ที่นางว่ามานั่นมันวิธีที่เขาใช้จริงๆ และด้วยเหตุนั้นเขาจึงจับได้ว่านางโกหกในตอนแรก

                แต่นั่นมันวิธีเฉพาะตัวของข้านะ แค่มีเจ้ารู้ทันก็แย่พอแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องเลียนแบบเพื่อล้อข้าหรอก ถ้าอะไรที่เป็นความลับก็บอกมาเลยก็ได้ ข้าจะได้ไม่เซ้าซี้อีก แล้วจะขอโทษเจ้าด้วยที่ถามมากความไม่เข้าเรื่อง

                น้ำยานี่เป็นสารลับอย่างหนึ่ง แคสซานดราลองเปลี่ยนวิธีพูดเป็นอย่างที่วิลเลียมแนะนำ ข้าบอกเจ้าไม่ได้หรอก

                ข้าขอโทษด้วยที่ถาม วิลเลียมกล่าวตามที่เคยว่าไว้

                แล้วทำไมข้ากับเจ้าต้องคุยอะไรกันเป็นขั้นเป็นตอนอย่างนี้ด้วยนะ นางบ่น ที่จริงแล้วถ้าข้าอยากพูดอะไร อยากใช้วิธีของเจ้าหรือไม่ มันก็แล้วแต่ข้าสิ ฟังเจ้าพูดขอโทษเหมือนเป็นเพียงมารยาทอย่างนี้แล้วน่าเบื่อจะตาย

                ...อย่างนั้นก็ปรุงยาต่อเถอะ

                ชายหนุ่มไม่รู้จะบอกอะไรนอกจากนั้น อยู่กับแม่มดนางนี้ก็ได้ลองคุยอะไรประหลาดๆ ที่ไม่เหมือนคนอื่นดี แต่บางทีเขาก็จนปัญญาจะโต้นางกลับเช่นกัน โดยเฉพาะถ้านางเปลี่ยนอารมณ์รวดเร็ว เอาใจยากเช่นนี้ด้วย

                แคสซานดราทำตามที่วิลเลียมบอก แม่มดดำนำรายชื่อของคนที่เป็นเจ้าของสิ่งของต่างๆ มาเผากับกองไฟที่ใช้ต้มน้ำยา ร่ายคาถาอีกสองสามคำใส่หม้อปิดท้าย ก่อนประกาศกร้าวให้ได้ยินโดยทั่วกันว่า

                เสร็จแล้ว

                วิลเลียมก้มลองมองน้ำสีขุ่นที่เดือดอยู่ในหม้อต้ม

                พวกเราต้องดื่มเจ้านี่ลงไปหรือ พอนึกถึงส่วนผสมของน้ำยานี่แล้ว เขาก็ไม่อยากกลืนมันลงไปเลย

                ใครว่า เราจะเข้าไปดูในน้ำยานี่ต่างหาก แคสซานดรายิ้มแฝงเลศนัย

                หืม...

                เจ้าต้องเอาหัวจุ่มลงไปในน้ำยานี่ นางบอก

                วิลเลียมไม่รู้ว่า ระหว่างการรับประทานน้ำล้างสารพัดของ กับการเอาหัวจุ่มลงไปในหม้อเดือด อย่างไหนจะเลวร้ายกว่ากัน

                ข้าล้อเล่นน่า แม่มดดำหัวเราะร่า เจ้าแค่เอามือยื่นลงไปในหม้อนี่ก็พอแล้ว

                ถึงจะบอกอย่างนั้น ชายหนุ่มก็ยังคงยืนนิ่ง เขายังไม่แน่ใจว่านางจะล้อเล่นอีกหรือเปล่า

                กล้าๆ หน่อยสิวิลเลียม แคสซานดราเย้า ถ้าเจ้ามัวแต่รีรอเช่นนี้ ข้าจะล่วงหน้าไปก่อนเจ้าละนะ

                กล่าวจบหญิงสาวก็ยื่นมือลงไปสัมผัสกลางน้ำเดือด พริบตานั้นร่างของแม่มดดำก็ถูกดูดเข้าไปในวังวนของน้ำ นางหายลับไปพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ยเขา

                เอาก็เอาสิ วิลเลียมบอกตัวเอง รวบรวมความกล้าสักพัก แล้วยื่นมือไปแตะน้ำเดือดในหม้อตามอย่างหญิงสาวที่ล่วงหน้าไปก่อน

                เขาไม่รู้สึกว่าน้ำนั้นร้อนเลยสักนิด

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×