คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [LuMiN] Love is not Allowed ... บทที่ 5
“แฮ่กๆ ลู่ฮาน...ลู่ฮาน!”
เสียงลมหายใจของผมเริ่มไม่เป็นจังหวะเมื่อต้องวิ่งตามลู่ฮานที่กำลังวิ่งหนีผมอยู่ ผมวิ่งไปจับไหล่กว้างของลู่ฮานก่อนที่เขาจะหันมาและสะบัดมันออก
“ฉันเกลียดคนโกหกที่สุด! นายก็รู้ว่าฉันออกตามหานายมาเป็นปี ทำไมนายถึงได้ทำกับฉันแบบนี้!?”
ลู่ฮานเริ่มตะคอกใส่ผมที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยท่าทางอ่อนแรงจากการวิ่งตามเขามา
“ฉันแค่อยากจะรู้ว่าทำไมนายต้องทุ่มเทกับฉันมากถึงขนาดนี้เองนะ!”
ผมเริ่มโวยวายใส่ลู่ฮานกลับเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มไม่ฟังคำพูดของผม
“คนอย่างนายน่ะฉันเกลียดที่สุด!”
“ลู่ฮาน!!”
ผมเรียกลู่ฮานที่กำลังวิ่งหนีผมไปอีกครั้งหลังพูดจบในขณะที่ผมก็กำลังวิ่งตามเขาเช่นกัน แต่แผ่นหลังของเขานั้นก็ดูเหมือนจะห่างไกลออกไปทุกที...ไม่สามารถเอื้อมมือไปได้เลย ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย
กริ๊งงง!
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำให้ผมตื่นจากฝันที่ทำให้ผมต้องปาดเหงื่อที่อยู่ตามไรผมออก ผมมองเพดานสีขาวสะอาดพร้อมเรียกสติของตัวเองให้กลับคืนมา
มันเป็นแค่ความฝัน แค่ความฝันเท่านั้น...
ผมลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจสองสามทีเพื่อให้ตัวเองไม่รู้สึกขี้เกียจก่อนจะลุกออกจากเตียงแล้วจัดการพับผ้าห่มอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปโรงเรียน
เมื่อจัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเองเสร็จแล้วผมก็เดินลงไปกินข้าวที่แม่ได้เตรียมไว้ให้ แต่ผมก็ไม่เห็นแม่ของผมเลย ผมนั่งลงบนเก้าอี้ที่ข้างหน้ามีกับข้าวสำหรับตอนเช้าวางไว้อยู่ก่อนจะลงมือกินมันอย่างอร่อย
“มินซอก รีบๆ กินนะลูกเพื่อนรออยู่นะ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเชียว”
แม่ผมเดินเข้ามาในห้องครัวก่อนจะทำท่าทางดีใจแล้วไปทำกับข้าวให้พ่อที่ยังไม่ลงมา
“ใครครับ? เพื่อนผมน่ะ”
ผมหยุดกินข้าวที่กำลังจะเข้าปากผมแล้วหันไปถามแม่ที่ทำกับข้าวอยู่อย่างสงสัย
“แม่ก็ไม่แน่ใจนะ แต่แม่คุ้นหน้าเขามากเลย เอาเป็นว่าลูกไปดูเองดีกว่านะ”
แม่ผมหันมาพูดกับผมก่อนจะหันกลับไปทำกับข้าวต่อ ปล่อยให้ผมนั่งงงอยู่คนเดียว เมื่อผมกินข้าวเสร็จก็เดินไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินตรงไปที่ประตูก่อนจะเปิดและปิดมันลง
ผมมองไปที่หน้าบ้านที่มีคนที่ดูคุ้นตายืนอยู่ ทำให้ผมอยากจะโดดเรียนวันนี้ไปเลย ผมได้แต่ยืนอยู่เฉยๆ ไม่อยากจะเดินออกจากบ้านแต่แล้วคนที่อยู่หน้าบ้านผมก็หันมาหาผมที่ยืนอยู่
“ช้ามากนะนาย”
ลู่ฮานหันมาพูดกับผมพร้อมขมวดคิ้วใส่ผมที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน
“แล้วใครให้นายรอผมไม่ทราบ”
ผมแยงลู่ฮานที่ยืนอยู่ทำให้ลู่ฮานต้องทำหน้ามึนแทน
“เย็นชาจังน๊า...ไปโรงเรียนกันเถอะ”
“ผมไปแน่โรงเรียนน่ะ แต่ไม่ใช่กับนาย”
ผมชี้ไปที่ลู่ฮานที่ยืนอยู่หน้าบ้านก่อนจะเดินชนไหล่เขาแล้วเดินตรงไปที่โรงเรียน
“เดินหนีไปก็เท่านั้นละเพราะยังไงฉันก็ตามหลังนายอยู่นี่นา”
ลู่ฮานที่เดินตามหลังผมมาพูดขึ้นในขณะที่ผมเดินไปโรงเรียนโดยไม่คิดจะหันไปหาคนที่ตามมาเลยแม้แต่น้อย
ผมเดินมาจนถึงหน้าประตูโรงเรียนที่มีพวกผู้หญิงยืนรอพวกลู่ฮานอยู่ เสียงกรี๊ดเริ่มดังขึ้นเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเริ่มสะกิดเพื่อนๆ แล้วชี้มาทางผมกับลู่ฮาน แต่ในเสียงกรี๊ดนั้นก็แฝงไปด้วยคำถามว่าผมคือใครทำไมมากับลู่ฮานได้นะ
ผมรีบเดินทันทีเพราะคำถามพวกนั้นมันเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะเดินจนถึงหน้าตึกของผม แต่การเดินก็ถูกหยุดลงด้วยเสียงเรียกของลู่ฮานที่อยู่ข้างหลัง
“ซิ่วหมิน! กลับบ้านด้วยกันอีกนะ!”
ผมหันไปที่ลู่ฮานที่กำลังโบกมือและส่งยิ้มให้อยู่ ผมได้แค่ส่ายหน้าและเดินขึ้นตึกไปโดยไม่คิดจะหันหน้าไปตอบลู่ฮานที่ยืนอยู่สักคำ
-Luhan-
ผมมองไปที่แผ่นหลังของคนตัวเล็กที่เดินขึ้นตึกไป ก่อนจะหันหน้ามาหาแฟนๆ ที่กำลังซุบซิบนินทากันอยู่อย่างมันส์ปาก
“ถ้าพวกคุณทำอะไรเพื่อนของผมละก็พวกคุณต้องโดนหนักกว่าเขาสองเท่าแน่ๆ ผมขอเตือนไว้”
สายตาเย็นยะเยือกจ้องมองไปที่แฟนคลับที่ยืนมองผมด้วยความหวาดกลัวก่อนจะขานรับออกมาอย่างจำใจ
“ถ้าคุณทำตามที่ผมบอกผมจะรักพวกคุณให้มากขึ้นนะ!”
ผมเปลี่ยนสีหน้าทันทีเมื่อได้ยินคำตอบที่น่าพึงพอใจ ก่อนเสียงกรี๊ดของแฟนๆ จะดังตามมาอีกครั้ง ตั้งแต่วันนี้ผมคงจะต้องใช้หน้าตาเป็นอาวุธให้มากขึ้นซะแล้ว
ผมจะไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายเขาหรอกนะ!
-Minseok-
ผมเดินมาจนถึงห้องของตัวเองก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องที่มีทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตายกเว้นคริสที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมเดินเข้าไปนั่งที่ของตัวเอง ก่อนที่คนอื่นๆ จะหันมาทักทายผมที่กำลังจะนั่ง
“อันยองฮาเซโย~” เซฮุนหันมาทักทายผมพร้อมรอยยิ้มของเขา
“วันนี้คริสหายไปไหนหรอครับ?” ผมทำหน้าสงสัยใส่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม
“อ๋อเห็นว่าไม่สบายน่ะวันนี้เลยลา” จงอินที่นั่งอยู่ข้างๆ เซฮุนพูดขึ้น
“ลาตั้งแต่วันแรกๆ ของเทอมแบบนี้จะไม่เป็นอะไรหรอครับ?”
ผมถามอย่างเป็นห่วงเพราะกลัวว่าเพื่อนในกลุ่มจะเป็นอะไรไป
“ไม่หรอกซอกกี้ คริสเขาตายยากจะตายพรุ่งนี้ก็มาโรงเรียนได้แล้ว ฮ่าๆๆ”
เมื่อเซฮุนพูดจบก็หัวเราะออกมาอย่างรู้ทันเพื่อนว่าเขาจะไม่เป็นอะไรมาก ผมพยักหน้าให้กับคำตอบของเซฮุนก่อนที่อาจารย์จะเดินเข้ามาก่อนเวลาประมาณห้านาที ทำให้นักเรียนที่คุยเล่นกันอยู่รีบวิ่งกลับไปนั่งที่ของตัวเองทันที ก่อนที่เสียงบอกทำความเคารพจะดังขึ้น
“สองชั่วโมงแรกจะเป็นชั่วโมงโฮมรูมนะ ขอให้อยู่ในห้องกันอย่างเป็นระเบียบด้วยเพราะอาจารย์จะทำงานอยู่ที่ห้องมีอะไรติดขัดตรงไหนก็ไปหาได้นะ”
เมื่ออาจารย์พูดจบก็เดินออกไปพร้อมเสียงบอกทำความเคารพ เมื่อเห็นว่าอาจารย์เดินออกไปได้สักพักเสียงคุยก็เริ่มดังขึ้นก่อนจะมีคนเริ่มลุกออกจากที่นั่งของตัวเองเพื่อไปหาเพื่อนของเขารวมทั้งจงแดกับเทาที่นั่งอยู่แถวหน้าด้วย
“นี่ๆ วันนี้พวกเราไปเยี่ยมคริสกันเถอะ”
จงแดเดินมาหาผม เซฮุน และจงอินที่นั่งอยู่หลังสุดก่อนจะชวนไปเยี่ยมคริสที่นอนป่วยอยู่ที่บ้านกัน
“เอาสิๆ ผมไม่ได้ไปบ้านคริสนานแล้วเหมือนกัน”
เซฮุนพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นทำให้จงอินที่นั่งอยู่พยักหน้าตาม
“แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจนะ ได้ไม่ได้จะโทรไปบอกอีกทีละกัน”
เทาพูดพร้อมเกาหัวสองสามทีทำให้เซฮุนที่ยิ้มๆ อยู่หน้ามู่ทันทีเพราะเพื่อนสนิทดันหายไปหนึ่งคนทำให้ไม่ค่อยรู้สึกสนุกเท่าไหร่
“อ๊า...เซ็งเลย”
เซฮุนพูดขึ้นก่อนจะเอาหน้าซุกลงไปบนโต๊ะของตัวเอง
“น่าๆ...เทาก็บอกอยู่ว่าไม่แน่ใจ พวกเราออกไปเดินเล่นข้างนอกกันเถอะ ว่างตั้งสองชั่วโมง”
จงอินลูบหัวเซฮุนที่เอาหน้าซุกโต๊ะอยู่ก่อนจะชวนเพื่อนๆ ให้ออกไปเดินเล่นข้างนอกห้องที่มีแต่เสียงคุยที่วุ่นวาย ทำให้เซฮุนเปลี่ยนอารมณ์ทันที
“เอาสิๆ ไปกันเถอะซอกกี้!”
เซฮุนรีบลุกจากเก้าอี้แล้วลากผมลงไปข้างล่างก่อนใคร เซฮุนพาผมวิ่งมาจนถึงหน้าห้องน้ำที่ถูกแยกออกจากตึกเรียนก่อนที่จะหยุดลงตรงนั้นแล้วหันหน้ามาหาผม
“ซอกกี้รอผมตรงนี้นะ! ผมเข้าห้องน้ำก่อน รอตรงนี้นะซอกกี้!”
เมื่อพูดจบเซฮุนก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำโดยทิ้งให้ผมยืนอยู่คนเดียว ผมที่ว่างอยู่จึงหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาเล่นเกมส์ แต่ยังไม่ทันจะกดเข้าเกมส์ผมก็เห็นข้อความหนึ่งโผล่ขึ้นมา
ส่งมาห้านาทีที่แล้ว
ผมมองเบอร์แปลกที่ขึ้นอยู่บนจอสมาร์ทโฟนก่อนจะกดเปิดข้อความเพื่ออ่านมัน
‘มาหาฉันที่หลังตึกของคลาสเอ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย...’
เมื่ออ่านจบผมก็มองไปรอบๆ เพื่อว่าจะเห็นว่าใครที่ส่งข้อความมา แต่ก็ไม่เห็นใครเลยสักคน ผมเลยตัดสินใจเดินไปที่หลังตึกของคลาสเอที่เป็นสวนที่เล็กกว่าของคลาสเอสมาก แต่มันก็ไม่ถือว่าแคบหรือแย่มากนัก
ผมเดินมาเรื่อยๆ จนถึงสวนที่อยู่หลังตึกของคลาสเอก่อนจะมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เจอใครเลยสักคน ผมเดินไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะมองไปรอบๆ อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่
“อื้อ!”
มือปริศนาปิดปากผมเอาไว้ ทำให้ผมไม่สามารถส่งเสียงร้องออกไปได้ ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากมือที่ปิดปากผมไว้อยู่แต่ก็ไม่เป็นผล...
ใคร ใครกันน่ะ!?
__________________________________________________________________________________________________
จบไปอีกหนึ่งบท ครบ 100% ละนะจ่ะ
เมื่อวานบอกว่าจะอัพสองตอน แต่ตอนที่สองเป็น 40% ก็ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยค่ะ =..= // โดนคนอ่านกระทืบ
ว่าแต่ใครกันนะที่ทำกับเปาจือแบบนี้ >O<!!! ช่วยติดตามบทถัดไปด้วยนะค่ะ
ความคิดเห็น