คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [LuMiN] Love is not Allowed ... บทที่ 10
“จะกลับจริงๆ หรอลู่จัง”
เสียงของคุณแม่ของผมพูดกับลู่ฮานที่ยืนอยู่ตรงหน้า ในขณะที่ตอนนี้พวกเราทั้งสามคนยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน ผมมองอย่างเซ็งๆ เพราะแม่ของผมบังคับให้ผมมาบอกลาลู่ฮานเหมือนกับเขากำลังจะย้ายบ้านแบบนี้
“อ๋อครับ ว่างๆ เดี๋ยวผมจะมาหาคุณแม่อีกนะครับ” ลู่ฮานฉีกยิ้มกว้างใส่แม่ของผม
“มาอีกนะลู่จัง!”
แม่ผมโบกมือให้ลู่ฮานที่กำลังเดินออกไป ก่อนจะหันกลับมาหาผมที่ใส่ชุดนอนเมื่อคืนอยู่
“ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วมินซอก ลู่ฮานเขาตื่นเช้ากว่าลูกอีกนะ”
แม่ผมบ่นให้ผมก่อนจะเดินเข้าบ้านไป ก็อย่างที่แม่บอก ลู่ฮานตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพื่อลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวในชุดนักเรียนของเมื่อวาน
ครืด ครืด...
โทรศัพท์ของผมที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อสั่นขึ้น ทำให้ผมต้องหยิบมันขึ้นมาดูว่าใครคือคนที่โทรมา ผมมองไปที่หน้าจอสมาทโฟนของตัวเองอย่างเซ็งๆ ก่อนจะจำใจกดรับด้วยอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ
“ว่าไง มีอะไร? พึ่งออกจากบ้านผมนี่ แล้วนายโทรมาทำไม”
ผมถามลู่ฮานที่อยู่ปลายสาย ที่ผมกำลังหวังว่าน่าจะรีบๆ คุยแล้ววางๆ ไปซะ
‘เย็นชาไปรึเปล่า? ฉันจะชวนนายไปเที่ยวด้วยกันเลยนะ’
“ผมควรดีใจมั้ยครับ?”
‘ดีใจสิ ไปแต่งตัวซะไป เห็นนายใส่ชุดนอนยืนคุยโทรศัพท์ด้วยหน้าแบบนั้นแล้วมันขำนะ ฮ่าๆๆ!’
เมื่อคนที่อยู่ปลายสายพูดจบผมก็รีบมองไปรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้อยู่แถวนี้...แล้วมันก็ไม่มีใครจริงๆ ผมที่ยืนอยู่หน้าบ้านของตัวเองเลยรีบเดินเข้าบ้านโดยด่วนเพราะกลัวว่าลู่ฮานจะพูดอะไรมากกว่านี้
“นายมองผมจากตรงไหนน่ะ?”
ผมถามลู่ฮานที่บรรยายการกระทำของผมตั้งแต่ยืนคุยโทรศัพท์จนตอนนี้ผมเดินเข้าบ้านของตัวเองมาแล้ว
‘ก็มองจากบ้านของฉันน่ะสิ ยืนเด่นขนาดนั้นไม่เห็นก็ควรไปเช็คสายตาได้แล้วล่ะ’
“นี่ นาย!”
ผมที่ไม่รู้ว่าควรจะต่อว่าคนที่อยู่ปลายสายยังไง เลยหยุดบทสนทนาลงก่อนที่มือกำลังจะกดวางสาย
‘นายจะไปกับฉันใช่มั้ย?’
คนที่อยู่ปลายสายถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ทำให้ผมต้องชะงักมือของตัวเองที่กำลังจะกดโดนหน้าจอนั้น ก่อนจะเอาโทรศัพท์ของตัวเองมาแนบกับใบหน้ากลมๆ อีกครั้ง
‘ฉันจะรออยู่ที่สวนสนุก จะรอจนกว่านายจะมา’
ตู๊ด ตู๊ด...
เสียงของลู่ฮานถูกตัดไปด้วยมือของเขาเอง ทำให้ผมได้แค่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เท่านั้น...ใครมันจะไปกันละ อยากรอก็รอไปสิ คนอย่างผมน่ะไม่ใจอ่อนให้ง่ายๆ หรอกนะ!
-Luhan-
ผมมองนาฬิกาข้อมือสีเงินราคาแพงของผมที่บอกเวลาว่าตอนนี้ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว ที่ผมนั่งรอมินซอกอยู่ที่นั่งหน้าทางเข้าสวนสนุก และด้วยอาการที่ว่างจัด สายตาเลยซุกซนเป็นพิเศษผมนั่งมองคู่รักที่เดินผ่านไปผ่านมา และบางส่วนก็นั่งอยู่แถวๆ นี้ ผมอิจฉาพวกเขาจัง...
ผมมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผ่านไปสองชั่วโมงครึ่งแล้ว ผมก็ยังไม่เห็นวี่แววของมินซอก แต่นั้นมันก็ไม่ได้ทำให้ผมถอดใจ ผมเลยนั่งรอต่อไป รอที่จะได้ไปเที่ยวกับคนที่ผมรัก
“นี่นาย!”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาทำให้ผมต้องรีบหันตามเสียงนั้นไป ก่อนจะลุกขึ้นยืน เพื่อให้มองเห็นร่างเล็กได้ชัดมากขึ้น
“แฮ่ก...แฮ่ก...ยังไม่กลับอีกหรอ?”
มินซอกถามผมด้วยท่าทางอ่อนแรงจากการวิ่งเมื่อสักครู่
“จะกลับได้ยังไงล่ะก็ฉันบอกไปแล้วไงว่าจะรอจนกว่านายจะมา”
เมื่อผมพูดเสร็จมินซอกถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่ผมพึ่งลุก ผมทั้งตกใจและดีใจพร้อมๆ กัน ไม่คิดว่าเขาจะรีบวิ่งมาขนาดนี้...
“นั่งอยู่ที่นี่สักพักแล้วกันนะ”
ผมพูดขึ้นพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับร่างเล็กที่นั่งมองหน้าผม ก่อนจะนั่งลงข้างๆ มินซอกที่กำลังหอบอยู่ แต่พอผมนั่งลงสักพักก็ต้องรีบหันหน้าไปหามินซอก เพราะร่างเล็กได้เอนหัวของเขามาพิงที่ไหล่ของผมแบบกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะทิ้งน้ำหนักทั้งหมดมาไว้ที่ไหล่ของผม
“ขอผม...อยู่แบบนี้สักพักนะ...ผมเหนื่อยมากเลย”
เสียงที่ขาดหายไปเป็นช่วงๆ บ่งบอกให้รู้ว่าเขาไม่พร้อมที่จะเดินไปไหนได้ในตอนนี้ มันเลยทำให้หัวใจของผมเต้นแรงขึ้น...
เสียงของลมอ่อนๆ พัดมาช่วยให้ร่างเล็กรู้สึกสบายขึ้น ผมมองใบหน้าที่หลับตารับลมอ่อนๆ นั้นอย่างเอ็นดู เสียงหัวใจเต้นแรงขึ้นเพราะใบหน้าที่น่ารักนั้น ผมรักเขามากจริงๆ...
-Minseok-
ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเรี่ยวแรงเริ่มกลับมา ก่อนจะผละหัวของตัวเองออกจากไหล่กว้างของร่างสูงที่นั่งมองหน้าผมอยู่
“หายเหนื่อยละหรอ?”
ลู่ฮานถามผมที่กำลังบิดขี้เกียจอยู่สักสองสามที
“อื้อ! เราไปเล่นเครื่องเล่นสนุกๆ กันเถอะ”
ผมลุกขึ้นยืนอย่างร่าเริง แล้วหันไปมองหน้าลู่ฮานที่กำลังยิ้มให้กับท่าทางของผมก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินนำหน้าผม ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามร่างสูงไป...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเดินเร็ว หรือว่าผมขาสั้นกันแน่นะ ผมตามเขาไม่ค่อยทันเลย
“เดินให้มันช้าๆ หน่อยสินาย! ผมเดินตามนายไม่ทันนะ!”
ผมโวยวายให้กับคนตรงหน้าที่ตอนนี้หันมามองผมอยู่
“นายนี่ขาสั้นจริงๆ นะ”
ลู่ฮานว่าให้ผมก่อนจะทำหน้ากวนประสาทใส่
“นี่นาย...”
ผมที่กำลังจะโวยวายถึงกับต้องชะงัก เพราะมือของลู่ฮานที่จับกับมือของผมไว้ ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองลู่ฮานด้วยความสงสัย
“ทำแบบนี้ฉันจะได้รู้ไงว่าฉันควรจะเดินช้าหรือเร็วแค่ไหน แล้วอีกอย่างนายจะได้ไม่หลงด้วยไง”
เมื่อลู่ฮานพูดจบเขาก็ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน หัวใจของผมเริ่มเต้นแรงอีกครั้ง ใบหน้าเริ่มค่อยๆ เปลี่ยนสี ทำให้ต้องก้มหน้าหนีสายตาของร่างสูงที่มองผมอยู่
“ปะ ไปกันได้แล้ว”
ผมกระตุกมือของร่างสูงที่จับกับมือของผม เพื่อบอกว่า ‘ผมพร้อมจะไปเล่นเครื่องเล่นแล้ว’ ทำให้ลู่ฮานเดินจูงมือผมไปแบบนั้น ตอนนี้ผมไม่ต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งแล้ว เพราะมือของลู่ฮานที่จับมือของผมไว้ ทำให้เขารู้ว่าผมเดินประมาณไหน แล้วเขาก็ปรับตัวให้เข้ากับผมอย่างรวดเร็ว...
“เราไปนั่งชิงช้าสวรรค์กันเถอะ จะได้ดูบรรยากาศรอบๆ ด้วย”
ลู่ฮานหันมาพูดกับผมพร้อมหยุดอยู่หน้าชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่
“อื้อ ผมกำลังอยากขึ้นอยู่พอดีเลย”
ผมยิ้มให้กับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ลู่ฮานจะพาผมเดินขึ้นไปรอให้พนักงานเปิดประตูชิงช้าสวรรค์ตัวที่ว่างอยู่ให้
เมื่อเข้ามาข้างในผมก็จัดการนั่งลงฝั่งตรงข้ามของลู่ฮานก่อนจะเกาะกระจกด้านข้างเหมือนเด็กที่พึ่งเคยขึ้นชิงช้าสวรรค์ครั้งแรก
“ฮ่าๆ ขึ้นแล้วล่ะๆ ลู่ฮานดูสิ”
“แปลกนะที่นายเรียกชื่อฉันเนี่ย แล้วก็รอยยิ้มนั้นอีก”
เมื่อลู่ฮานพูดจบผมก็หันไปหาเขาก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเพราะความสงสัย
“แปลกยังไง?”
“นายไม่เคยเรียกฉันว่า ‘ลู่ฮาน’ เลย และนายก็ไม่เคยยิ้มแบบนั้นให้ฉันเห็นด้วย ตั้งแต่ที่เราเจอกัน”
“ผมก็เรียกแล้วไง เรามาดูวิวกันก่อนเถอะ สวยจังเลย...”
ผมชี้ไปที่ด้านนอกที่เป็นวิวของสวนสนุกทั้งหมด ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองภาพเหล่านั้เหมือนเดิม แต่ร่างสูงเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ ลู่ฮานเลยเดินเข้ามาแล้วใช้แขนทั้งสองแขนกันผมไว้ไม่ให้หนีไปไหน
“ทะ ทำอะไรของนาย?”
“ฉันล่ะกลุ้มใจจริงๆ อย่าไปทำแบบนี้ให้ใครเห็นนะ”
ผมมองหน้าลู่ฮานที่ตอนนี้สีหน้าของเขาดูจริงจังมาก ก่อนที่หัวใจจะเริ่มเต้นแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“แล้วมันจะทำไมล่ะ ผมจะทำอะไรก็เรื่องของผมนี่”
ผมพูดพร้อมพยายามหลบสายตาของคนตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมให้ผมได้ทำแบบนั้น มือของร่างสูงยกคางของผมขึ้น ทำให้ผมต้องรีบหันไปมองร่างสูงด้วยความตกใจ
“ถ้านายไม่รู้ว่าเพราะอะไรฉันก็จะทำให้นายได้รู้เอง”
เมื่อลู่ฮานพูดจบ เขาก็ประกบริมฝีปากของตัวเองลงมากับริมฝีปากของผม ผมกำมือแน่นแล้วทุบเข้าที่อกกว้างหลายครั้ง แต่นั้นไม่ได้ทำให้ร่างสูงผละออกได้เลย มันกลับทำให้อีกฝ่ายอยากลิ้มรสหวานมากขึ้น ลิ้นร้อนของลู่ฮานเริ่มดันเข้ามาในโพรงปากของผม ทำให้มือที่เคยทุบอกกว้างอยู่นั้นไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
ร่างสูงที่ลิ้มรสหวานในโพรงปากของผมอยู่เหมือนรู้ดีว่าเรี่ยวแรงของผมแถบจะไม่เหลือแล้ว เลยจับแขนของผมทั้งสองข้างไปพาดไว้ที่คอของตัวเอง ก่อนจะเริ่มลิ้มรสความหวานต่ออย่างกระหาย
“อื้อ!”
ลมหายใจของผมเริ่มติดๆ ขัดๆ ผมเลยกลั้นใจส่งเสียงให้ร่างสูงรู้ ทำให้ลู่ฮานผละริมฝีปากออกแต่โดยดี ก่อนที่ผมจะนั่งหมดแรงอยู่อย่างนั้น
“เจ้าบ้า...จะทำอะไรช่วยบอกผมก่อนจะได้มั้ย”
“ถ้าบอกแล้วนายจะให้ง้นหรอ?”
“อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องมาใจเต้นแรงทีหลังแล้วกัน...”
ผมพูดโดยไม่สบตาลู่ฮานที่มองผมอยู่อย่างตกใจหน่อยๆ ก่อนจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าสวยนั้นอย่างพึงพอใจกับคำตอบ
“งั้นฉันขอทำอีกหลายๆ ครั้งเลยละกัน หวานดีฉันชอบ”
ลู่ฮานเลียริมฝีปากของตัวเองเพื่อเก็บรสหวานที่เหลืออยู่ ก่อนจะก้มลงมาประกบริมฝีปากของผมอย่างอ่อนโยนซ้ำแล้วซ้ำเล่า...ผมเคยขึ้นชิงช้าสวรรค์มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ผมรู้สึกชอบครั้งนี้มากที่สุดเลยล่ะ...
__________________________________________________________________________________________________
แอบเซอร์วิสเบาๆ ให้คนอ่านที่รักได้ใจหายใจคว่ำกันสักเล็กน้อย
ฉลองยอดวิวเกิน 1 พัน! /( >....<)/ ฮิ้วๆ //สติเริ่มไม่มี
ต้องขอบคุณคนอ่านทุกคนอีกครั้งนะค่ะ ไรท์จะขยันแต่ง(และแอบเซอร์วิส)ให้มากขึ้นนะค่ะ!
ความคิดเห็น