ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Seekers

    ลำดับตอนที่ #29 : รวมบทวิจารณ์

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 53


    รวมบทวิจารณ์ และคอมเมนต์จากนักอ่าน

    ขอยกมาเฉพาะที่อ่านจบบทที่ 13 แล้วนะคะ

     

    ท่านซาซามาสับให้ตั้งแต่สมัยที่เขียนแรก ๆ เรื่องยังไม่ได้รีไรท์แก้ไขเลยค่ะ

    ความคิดเห็นที่ 84

    อ่านบทวิจารณ์นิยายเรื่องนี้ได้ที่นี่นะครับ สับทีเผลอ รายที่ 4

    สับให้ตามรีเควสแล้วน่อ


    PS.  Yaranaika !!! สักหน่อยมั้ยน่ะ
    Name : sasadao< My.iD > [ IP : 124.120.156.150 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 4 ธันวาคม 2550 / 17:52

     

     

     

    ท่านอายะ มาเจาะลึกละเอียดเลยทีเดียว

    ความคิดเห็นที่ 273
    อือ เราอ่านถึงแค่ช่วงคั่นมิติสองนะ จริงๆแล้วเราไม่ได้อ่านเยอะแล้วก็ไม่ได้&nbsp;X&nbsp;<!-- เชี่ย-->วชาญมาก แต่ก็พอจะสามารถให้คำวิจารณ์ได้เพราะคิดว่าอะไรเล็กๆน้อยๆตรงนี้น่าจะช่วย เป็นกำลังใจให้แก่คนเขียนได้ค่ะ ยังไงนี่ก็แค่ในด้านมุมมองของเรา ก็สุดแท้แต่วิจารณญาณของผู้เขียนและบรรดานักอ่านทั้งหลายละกันค่ะ(ว่าง่ายๆ คือ วิจารณ์ไม่ค่อยจะเก่งแต่ก็ยังอยากจะวิจารณ์ - -*)
    - สำนวนภาษา
    สำนวนโวหารและการบรรยาย (B) : ลักษณะการบรรยายไม่ได้ต้องการเน้นความซับซ้อนทั้งในด้านอารมรณ์ ความเคลื่อนไหว รวมถึงองค์ประกอบปลีกย่อยอื่นๆ เพราะภาษาที่ใช้ไม่ได้ใช้ศัพท์สวย แต่เป็นการบรรยายในลักษณะเน้นความเข้าใจและเน้นความกระชับอยู่แล้ว จึงมีลักษณะการเลือกใช้คำที่กินความหมายโดยสมบูรณ์ในตัวเอง ด้วยเหตุนี้จึงลดทอนและตัดเอาช่องว่างของความยืดยาดออกไปได้เยอะเป็นกองซึ่ง บางครั้งคุณอาจจะสามารถแทนที่ด้วยสุนทรียภาพทางด้านภาษาได้ แต่พอมาถึงส่วนปรับตรงนี้อาจจะทำให้ลำบากไปสักนิด(จริงๆแล้วไม่นิดหรอก) เพราะถ้าคุมระดับภาษาไม่ดีมันจะกลายเป็นส่วนแปร่งและกระทบกระเทือนกับตัว บริบททั้งหมดที่เน้น ความกระชับแต่ไม่ถึงกับห้วน เห็นภาพในมุมกว้างและนึกตามได้ไม่ยาก ซึ่งถ้าผู้อ่านมีจินตนาการที่ลึกอยู่แล้วและสามารถต่อยอดได้เอง ก็คงไม่แปลกถ้าพวกเขาจะถูกให้ดูดติดนั่งอ่านตัวอักษรที่คุณนั่งเรียบเรียง ขึ้นมาทั้งหมดได้ ซึ่งพูดมาขนาดนี้ไม่ได้หมายความว่าสำนวนของคุณราบเรียบหรือด้าน(ขาดความ ละเอียด) แต่ลักษณะการบรรยายเป็นแบบที่ตรงตัวมากกว่า ตรงตัวที่ว่าเพราะเป็นการบรรยายนำเสนอในด้านทั่วไปของสิ่งๆหนึ่งอยู่แล้ว ยังมีอยู่เพียงเล็กน้อยที่ท่านจะใช้ลักษณะการเขียนโดยเสนอมุมมองในด้านที่ เป็นไปได้แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจับรายละเอียดหรือยังมองข้าม ซึ่งถ้าได้ลองอ่านสำนวนของพวกนิยายแปลเขาจะใช้ศัพท์ที่เราไม่ค่อยเจอหรือ เห็นผสมผสานกับบางสิ่งบางอย่างได้ลงตัวและไม่บ่งชี้ให้คิดเห็นเลยว่า เจ้าสิ่งนั้นจะดูผิดแปลกไปจากความเป็นจริง สรุปคือท่านสามารถแทรกบทบรรยายที่มีความสร้างสรรค์และเป็นมุมมองที่แปลกใหม่ ได้ โดยไม่ต้องอายหรือกระดากที่จะพิมหรือคิดออกมา เพราะนั่นถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการต่อยอดจินตนาการของเรา

    PS.  อาจยังเป็นเพียงนักเขียนระดับ Novice แต่สักวันจะต้องเป็น High Class แน่นอนเจ้าค่ะ การคิดหาเรื่องสนุกคงไม่เกิดขึ้นถ้าปราศจากความเบื่อหน่าย นิยามพิลึกพิลั่น by AYA.
    Name : ~Aya-Nishi~< My.iD > [ IP : 210.203.186.99 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 31 มกราคม 2552 / 00:02
    ความคิดเห็นที่ 275

    - ความคิดสร้างสรรค์ (A) หัวใจ หลักของแฟนตาซีทั้งหลายล้วนแต่ปะทุระเบิดออกมาจากความคิดสร้างสรรค์ด้วยกัน ทั้งนั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของจินตนาการของผู้เขียนด้วยรวมทั้งลักษณะพลอ ตเรื่องที่ถูกกำหนดวางไว้ตั้งแต่ต้นจนบทสุดท้าย ท่านเขียนแฟนตาซีที่หยิบยกเรื่องของมิติบนกลิ่นอายสไตล์ adventure ที่ท่านได้ตรงส่วนนี้ไปถึง Rank A เพราะ เราคิดว่าการผจญภัยข้ามมิติ ย่อมมีการสับเปลี่ยนผันผวนอะไรอยู่เยอะทีเดียวอาจจะคล้ายเป็นหนังหลายๆ เรื่องถูกบรรจุในเรื่องเดียวกันก็เป็นได้ หากสภาพมิติที่ว่าบังคับให้กลายเป็นคนละเรื่อง ซึ่งนับว่าน่าจะสร้างปัญหาในการวางจุดต่างๆไว้ให้กลมกลืนและลบรอยต่อระหว่าง เรื่องราวคนละมิติได้ยากพอดูซึ่งท่านก็ทำได้ อีกทั้งการประดิษฐ์การของท่านนั้นด้วยตัวเรื่องแนวแฟนตาซีผจญภัยแบบนี้มัน เลี่ยงได้ลำบากจริงๆในการสร้างโลกๆหนึ่งขึ้นมาใหม่บนแต่ละมิติ และค่อยๆแทรกรายละเอียดกระทั่งเห็นภาพของอะไรชัดเจนนั้นก็หนักเอาการไม่ว่า จะในส่วนของวัฒนธรรม เชื่อชาติ ศาสนา ประเพณี ซึ่งเราอาจจะหยิบยก Rank S มา แปะไว้ถ้าลงรายละเอียดได้ชัดเจนมากกว่านี้และโดยภาพรวมการประดิษฐ์การในสิ่ง ใหม่ๆของท่านยังเป็นเพียงบางส่วนเพราะฉากหลักยังคงเป็นการหยิบยกกราวนด์พื้น วัฒนธรรมที่ยังมีอยู่จริงในโลก แต่ในตอนถัดไปท่านอาจนำเสนอวิสัยทัศน์ของมิติใหม่ที่อาจทำให้เราๆนักอ่าน หลายท่านลืมนึกถึงสถานที่บางสถานที่บนโลกไปเลยก็ได้นะ ยังไงก็เอาใจช่วยนะคะ  แต่ถ้าท่านตั้งใจใช้ความคละเคล้าของวัฒนธรรมต่างๆจากทุกมุมโลก ก็ไม่เป็นไรค่ะเพราะท่านทำได้มาถึงระดับเอเลยเชียวนะ

    - โครงเรื่อง (C+หรือ???) เรา ขออนุญาตวิเคราะห์ตีไปก่อนเลยนะคะว่า ท่านเปิดเรื่องมาบนเส้นพลอตที่อยู่ช่วงต้นๆคือมันไม่ได้เริ่มมาตั้งแต่ต้น ด้วยการพยายามทำให้ดูเหมือนข้ามเหตุการณ์สำคัญอะไรไปบางอย่าง (อิงด้วยเส้นพลอตที่เดินควบคู่ไปกับระยะเวลา) จากที่เราอ่านมาเนื้อเรื่องยังไม่มีอะไรที่เข้าใจยากและคาดเดาได้บ้างเนื่อง ด้วยบางทีขณะนี้เราอาจกำลังอาจในพลอตที่เป็นเส้นตรงของเรื่องอยู่ เพราะจากปริศนาที่ท่านกั้กไว้หรือค่อยๆโปรยออกมามันทำให้เราเห็นเค้าลางแล้ว ว่าต่อไปเส้นพลอตต้องหวดหวัดได้อย่างน่าตื่นเต้นแน่นอนค่ะ  ซึ่ง ต่อไปท่านอาจใช้เส้นพลอตซ้อนทับหรือเดินในลักษณะคู่ขนานไปกันได้ ของ ลักษณะเหตุการณ์ในแต่ละมิติที่เหลื่อมล้ำกันเอง (เค้าจะเขียนยังไงก็เรื่องของเค้าสิเอ้อ หยุดพล่ามได้แล้ว ไม่อยากเจ๋อมาก เหอๆๆ) อย่างไรเสียทุกอย่างอยู่ที่ท่านผู้เขียนกำหนดแหล่ะค่ะ


    PS.  อาจยังเป็นเพียงนักเขียนระดับ Novice แต่สักวันจะต้องเป็น High Class แน่นอนเจ้าค่ะ การคิดหาเรื่องสนุกคงไม่เกิดขึ้นถ้าปราศจากความเบื่อหน่าย นิยามพิลึกพิลั่น by AYA.
    Name : ~Aya-Nishi~< My.iD > [ IP : 210.203.186.99 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 31 มกราคม 2552 / 00:33

     

    ความคิดเห็นที่ 276

    - Logic

                    ตัวละคร(A-) ตัว ละครหลักมีความเด่นชัดในด้านลักษณะนิสัยและเลือกกระทำไปโดยทำให้เชื่อว่ามี ลักษณะนิสัยแบบนั้นจริงๆ คือมีความสอดคล้องกันและมีเหตุผลรองรับที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ความคิดของตัวละครมีจุดมุ่งหมายและพยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามแบบฉบับของตัว เอง ซึ่ง สำหรับตัวเอกไมอามักเป็นการแก้ปัญหาโดยอาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมแบบที่เคย เรียนรู้มาก่อนหรือการสังเกตเฉพาะหน้า อันต่างกับโคเซฟที่ดูเหมือนอาศัยความสุขุมขบดันปัญหาให้เล็กลงและโดดเข้า จัดการในทีเดียวโดยไม่ต้องมีอะไรยุ่งยากหรือมีทฤษฎีมาเกี่ยวพัน เป็นลักษณะการแก้ปัญหาด้วยสัญชาตญาณมากกว่าประสบการณ์ (เหมาะกับบุคลิกผู้กล้าเป็นอย่างยิ่ง) สำหรับไมอานั้นเมื่ออ่านในตอนแรกทำให้เรานึกไปถึงไทป์ของผู้ชนะ แต่สุดท้ายเอ่อ เราขอตีความตามเข้าใจนะคะ(ไม่รู้จะตรงตามผู้เขียนต้องการนำเสนอหรือไม่) กลับไม่ใช่เลย ที่เธอดูเหมือนจะข่มโคเซฟได้ตลอดและหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ตลอดทุกโอกาสอาจ เป็นเพียงกลไกทางจิตอย่างหนึ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อปิดกั้นอะไรบางอย่าง เพราะเราคิดว่าจริงๆแล้วไมอาอ่อนโยนกว่าที่เห็นนัก จากที่เชื่อเพราะหลังจากถล่มหอคอยและโคเซฟหายไป ไมอายังคิดกังวลถึงโคเซฟอยู่ลึกๆ ซึ่งถ้าเป็นไทป์ผู้ชนะเต็มร้อย ไมอาคงเลือกที่จะละเลยตรงส่วนนี้และไปมุ่งมั่งกะภารกิจหลักของตนต่อ โดยไม่ต้องสนว่าใครจะเป็นตายอย่างไรเพราะท้ายสุดเธอก็บรรลุจุดประสงค์แล้ว นั่นคือ เดินทางออกไปจากมิตินี้ได้ ส่วนโคเซฟเน้นแสดงในด้านความกล้าหาญและเสียสละ ทั้งกล้าที่จะยอมรับและเสียสละยอมทำหน้าที่ของตนในฐานะที่ประหนึ่งเป็นผู้ ถูกเลือก ดังนั้นแล้วเมื่อมีสถานการณ์ที่บีบรัดและคับขันจริงๆผู้ที่ยืนหยัดได้อย่าง มั่นคงน่าจะเป็นโคเซฟแต่ผู้ที่จะตัดสินใจเลือกทางเลือกได้อย่างชาญฉลาด ณ สถานการณ์แบบนั้นคงเหมาะที่จะเป็นไมอามากกว่า


    PS.  อาจยังเป็นเพียงนักเขียนระดับ Novice แต่สักวันจะต้องเป็น High Class แน่นอนเจ้าค่ะ การคิดหาเรื่องสนุกคงไม่เกิดขึ้นถ้าปราศจากความเบื่อหน่าย นิยามพิลึกพิลั่น by AYA.
    Name : ~Aya-Nishi~< My.iD > [ IP : 210.203.186.99 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 31 มกราคม 2552 / 00:35
    ความคิดเห็นที่ 277

    เหตุการณ์(B-) เนื่อง ด้วยท่านกำหนดเควสหลักของแต่ละมิติให้จบลงแบบไม่ต้องซับซ้อนยุ่งเหยิงและ มากกระบวนความ (ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าในส่วนเควสหลักของแต่ละมิตินั้นจะเป็นซับเควสของพลอ ตหลักรึเปล่า) ดังนั้นจึงยังไม่มีตรงไหนน่าจับสังเกตของเหตุการณ์ที่ควรจะเป็นตรรกะต่อกัน ซึ่งเมื่อพลอตท่านเริ่มยุ่งเหยิง เราจะกลับมาตรวจจับข้อผิดพลาดและตี Rank ตรงนี้กันใหม่นะคะ  ซึ่ง ต้องทำได้ดีแน่ๆเพราะจริงๆแล้วในส่วนของเควสหลักแต่ละมิติเหตุการณ์แม้จะไม่ ซับซ้อนแต่แทรกเหตุผลความเป็นไปได้ไว้อยู่แล้ว อย่างเช่นตอนปราบจอมมาร ใช่แล้วการต่อสู้กะปิศาจที่เก่งๆก็ต้องฝึกและอาศัยเวลา การไม่ทำลายขีดจำกัดทางฟิสิกส์บางประการของมนุษย์นับเป็นเรื่องที่ดีอยู่ แล้วค่ะสำหรับการเขียนนิยาย

                    สภาพแวดล้อม(C+) ด้วย เรื่องของท่าน ตัวละครและบทบรรยายไม่ได้เน้นซึ้งกินอารมณ์ในระดับสูงถึงขนาดเรียกแรงกดดัน ให้ตัวละครต้องดิ้นรนหรือคิดแก้ไขปัญหากันเอาเองซึ่งอาจนำมาซึ่งการพัฒนา เชิงบุคลิกที่ก้าวกระโดดไปเลย ตัวละครของท่านเหมือนยังไม่ค่อยได้เผชิญปัญหาที่ใหญ่หลวงนัก หรือ แม้แต่บางสภาพการณ์ก็ยังพอมีทางเลือกที่เป็นอิสระอยู่บ้างสำหรับตัวละคร หรือ ถ้าหากมันจะถูกบีบคั้นไว้แล้ว เราๆนักอ่านก็เหมือนถูกทำให้เชื่อมั่นแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ตัวละครต้องเลือกทางเลือกแบบนี้หรือตัดสินใจทำแบบนี้แน่นอน ซึ่งเหตุนี้เราจึงยังไม่เห็นภาวะการตัดสินใจของตัวละครในระดับห้าสิบๆซึ่ง เมื่อมาถึงจุดนี้เองการเลือกตัดสินใจจึงมักจะต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อม แรงชักจูง ลักษณะนิสัยของตัวละครด้วยเหมือนกันค่ะ ซึ่งเมื่อเรื่องดำเนินไกลกว่านี้เราต้องได้เห็นภาวะการตัดสินใจแบบนี้แน่นอน ค่ะ ที่เล่นเอาคนอ่านชั่งใจไม่ถูกว่าตัวละครจะบิดเบนไปทางไหนและสำคัญด้วยเหตุผล อะไร


    PS.  อาจยังเป็นเพียงนักเขียนระดับ Novice แต่สักวันจะต้องเป็น High Class แน่นอนเจ้าค่ะ การคิดหาเรื่องสนุกคงไม่เกิดขึ้นถ้าปราศจากความเบื่อหน่าย นิยามพิลึกพิลั่น by AYA.
    Name : ~Aya-Nishi~< My.iD > [ IP : 210.203.186.99 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 31 มกราคม 2552 / 00:37

     

    ความคิดเห็นที่ 278

    -อื่นๆ

                    กลวิธี/ลูกเล่น : นิยาย ที่ท่านเขียนอยู่ในระดับดี ซึ่งเราจริงๆแล้วก็ต้องขอพูดเต็มปากว่าเลือกที่จะล่านิยายดีๆแบบนี้มา อ่านอยู่แล้วล่ะ (เวอร์ไปไหมคะเนี่ย) เราขอวิเคราะห์เอาเองอีกตามเคย (จะมีแบบที่วิเคราะห์ถูกมั่งไหมเนี่ย พล่ามยาวไปตั้งหลายครั้ง เหอๆๆ) ท่านใช้ปริศนาที่อุบอิบไว้เป็นประโยชน์ดีมาก เป็นประโยคสั้นๆที่คนอ่านตั้งคำถามในใจเลยว่า ใคร ที่ไมอากำลังไล่ตามและด้วยจุดประสงค์อะไร ท่านเหมือนจะใช้ส่วนนี้หยอดๆลงในแต่ละตอน(ยิ่งในตอนที่เนื้อหายังหลวมๆไม่ แน่น) เหมือนโรยเกล็ดขนมปังให้ตามเก็บกินไปเรื่อยๆในป่า(มิใช่เด็กหลงทางนะ เง๊ออ) เป็นเสมือนแรงชักจูงเงียบๆทว่าทรงพลัง เพราะด้วยสัญชาตญาณแล้วมนุษย์ทุกคนมักมีส่วนของความอยากรู้อยากเห็นกันทั้ง หมดอยู่แล้ว จะในจิตใต้สำนึกก็ดีหรือจิตไร้สำนึกก็ดี นั่นเองจึงเป็นกลวิธีหนึ่งง่ายๆที่ปริศนามีบทบาทสูงในการดึงดูดคนอ่านด้วย แรงปรารถนาพวกนั้น แต่ก็ต้องมีความน่าสนใจด้วย บ่อยๆที่มนุษย์เราจะผ่านเลยข้อสงสัยบางอย่างไปง่ายๆเพราะมันไม่น่าสนใจนี่แห ล่ะ (ยกเว้นนักวิทยาศาสตร์ที่มันสนใจไปซะทุกอย่างที่ผิดแปลกหรือน่าสงสัย) ในลักษณะการเขียนของท่านยังแทรกอารมณ์ของผู้เขียนลงไปในตัวเนื้อเรื่องอยู่ พอสมควร จนบางทีเหมือนไม่ได้เป็นตัวละครพูดกัน แต่เหมือนเป็นคนเขียนพูดกะตัวเอง (ไม่รู้ว่าไอ่จุดนี้คนอื่นจะรู้สึกเหมือนเรารึเปล่า) แต่เราคิดว่าเธอสามารถลบจุดนี้ได้โดยการเพิ่มในส่วนความคิด พิจารณา ของตัวละครลงไปบ้าง เอ้อ จริงด้วยเกือบลืม ท่านสามารถบงการใช้ตัวละครของท่านบรรยายลักษณะอะไรต่างๆอย่างเช่นทิวทัศน์ ต่างๆผ่านทาง vision ของตัวละคร เพราะส่วนใหญ่แทบทั้งเรื่องเป็นมุมมองของผู้เขียนแต่เพียงอย่างเดียว มันอาจทำให้เลยเถิดไปถึงกับว่าตัวละครเองก็เป็นผู้เขียนลงมาเล่นเองด้วยเสีย งั้น (ก็แค่อิทธิพลทางความคิด) ลองให้ตัวละครบอกเล่าเรื่องราว บรรยายเหตุการณ์ดูบ้างก็ดีค่ะ เพราะ มันจะช่วยให้ตัวละครของท่านดูเหมือนกับมีชีวิตจริงๆและราวกับมีแรงขับ เคลื่อนประหลาดแฝงเร้นไว้ ไม่ต่างอะไรกับการหลอกคนอ่านอีกที เพราะ จริงๆนิยายแฟนตาซีก็ประหนึ่งการโกหกดีๆอยู่แล้ว ต้องหลอกคนอ่านให้เชื่อให้ได้ว่าโลกนี้มีอยู่นะ อะไรพวกนี้มีอยู่นะ แต่ก็อยู่แต่ในเฉพาะกรอบของจินตนาการเท่านั้นแหล่ะค่ะ


    PS.  อาจยังเป็นเพียงนักเขียนระดับ Novice แต่สักวันจะต้องเป็น High Class แน่นอนเจ้าค่ะ การคิดหาเรื่องสนุกคงไม่เกิดขึ้นถ้าปราศจากความเบื่อหน่าย นิยามพิลึกพิลั่น by AYA.
    Name : ~Aya-Nishi~< My.iD > [ IP : 210.203.186.99 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 31 มกราคม 2552 / 00:39

     

    ความคิดเห็นที่ 279

    ความน่าสนใจ : อย่าง ที่เราเคยพูดไว้ปริศนามีความน่าสนใจในตัวเองอยู่แล้ว จุดแข็งของท่านคือเรื่องปริศนาที่มีความน่าสนใจและมีการผูกร่วมไปกับตัวละคร หลักประหนึ่งคีย์สำคัญที่หากปริแตกเป็นที่ประจักษ์เมื่อไรคนอ่านก็อาจจะต้อง นิ่งงันไปเป็นแน่  ส่วนองค์ประกอบอย่างอื่นสำหรับเรา แล้วสามารถพบเห็นได้ในนิยายแฟนตาซีทั่วไปค่ะ จริงๆแล้วตัวละครของท่านเองก็มีความน่าสนใจอยู่แล้วเหมือนกันค่ะ อย่างที่พูดมีอาเป็นตัวละครที่อ่านยาก ประหนึ่งจัดอยู่ในไทป์ผู้ชนะแต่จริงๆก็ไม่ใช่ เหมาะสมกับเป็นหญิงสาวจริงๆที่คาดเดาได้ยาก ไม่เหมือนโคเซฟที่เดาอารมณ์และความผันปรวนได้ง่าย (ก็แบบผู้ชายจริงๆเลยนะเนี่ย) อีกอย่างการสาปสูญไปของโคเซฟเหมือนรอยต่อฟิลม์ภาพที่มันแหว่งไป ซึ่ง คนอ่านก็ต้องกระตือรือร้นหาส่วนอื่นมาต่อเพื่อให้ได้รู้ว่าเป็นรูปอะไร เหมือนกันค่ะ ยิ่งทำให้คนอ่านนึกสนใจและอยากอ่านต่อไปว่าโคเซฟจะยุติบทบาทอยู่แค่นี้หรือ จะโผล่ออกมาจากที่ใดที่หนึ่งแบบไม่คาดฝัน ซึ่งเราคิดว่าเขาต้องกลับมาแน่นอน
    สรุปโดยรวมภาพรวมทั้งหมด(
    A-)
    นิยาย แฟนตาซีผจญภัยข้ามมิติยุคนี้หาอ่านไม่ใช่ง่ายๆเพราะถูกกองทัพนิยายโรงเรียน และรักหวานแหววบดบังเหยียบมิดเสียจมโคลน และเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้อย่างไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ เพราะอ่านแล้วสนุก มีอะไรหลายอย่างให้ขบคิดหนำซ้ำบทสนทนาและการเย้าแหย่กันเองระหว่างตัวละครก็ ช่วยสร้างความผ่อนคลาย เพราะนิยายไม่ได้เครียดตลอดเรื่องดังเช่นแนวสืบสวน สามารถอ่านฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดีหรือไม่ก็อาจเหมาะแก่ผู้เหลือยามว่างที่ยัง นึกไม่ออกว่าจะเอาไปเผาผลาญกับอะไร แต่ละมิติจบภารกิจด้วยข้อคิดต่างๆ ซึ่งเราเองก็ชอบ เพราะส่วนสำคัญจุดหนึ่งของนิยายทุกเรื่อง คือการที่สามารถบอกได้ว่า อักษรทุกตัวนั้นต้องการบอกอะไรแก่ผู้อ่านที่อุตส่าห์สละเวลามาอ่านเรื่องของ เรา
    สุดท้ายนี้เราคงต้องขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนนะคะถ้าในบางส่วนที่เรา วิจารณ์ดันไปสปอยเนื้อเรื่องอะไรเข้า แต่มันก็อดที่จะยกมาใช้เป็นตัวอย่างจริงๆไม่ได้นี่ง่าและทั้งหมดคือการถ่าย ทอดผ่านทางมุมมองของเราน่ะค่ะ ซึ่งบางทีเราเองอาจยังไม่ลึกซึ้งพอและตีความงานเขียนไปแบบผิดๆได้ ต้องขออภัยๆถ้าเป็นดังว่าจริงๆ(คำนับงามๆหนึ่งครั้ง)


    PS.  อาจยังเป็นเพียงนักเขียนระดับ Novice แต่สักวันจะต้องเป็น High Class แน่นอนเจ้าค่ะ การคิดหาเรื่องสนุกคงไม่เกิดขึ้นถ้าปราศจากความเบื่อหน่าย นิยามพิลึกพิลั่น by AYA.
    Name : ~Aya-Nishi~< My.iD > [ IP : 210.203.186.99 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 31 มกราคม 2552 / 00:41



     

    กระทู้วิจารณ์จากท่านเทราสเฟียร์

    [วิจารณ์]The SeekerS : การค้นหาที่ยังไม่สิ้นสุด


    กระทู้วิจารณ์จาก TheT

    [ อ่านแล้ว ] The SeekerS : ผู้กล้าแห่งรูลน์



    กระทู้วิจารณ์จากพี่ Spock



    ถ้ามีมาอีกก็จะมาเพิ่มเติมเรื่อย ๆ ค่ะ...

    ตกหล่นของใครไป บอกได้นะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×