คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ
บทนำ
ยามเย็น ณ ชายป่าริมน้ำอันอึมครึม เปลวไฟคลุ้มคลั่งเผาไหม้รถยนต์ที่จมน้ำอยู่ครึ่งหนึ่ง เขม่าควันโขมง เด็กหญิงคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ไม่ไกลออกไปจากจุดเกิดเหตุ มีร่างของคนที่ตัวใหญ่กว่านอนอยู่ข้างๆ
“แม่! แม่!”
เด็กหญิงเขย่าร่างนั้นพลางสะอื้นไห้
“ตอบหนูหน่อยสิ! ทำไมแม่ถึงไม่พูดกับหนูล่ะ!”
ร่างนั้นโงนเงนไปมาเล็กน้อยตามแรงของเด็กหญิง คอที่ตั้งอยู่บนบ่านั้นเคลื่อนที่ไม่สอดรับกับลำตัว เหมือนกระดูกที่ค้ำยันไว้ได้หักไปแล้ว
เด็กหญิงนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนกระทั่งมีคนมาเจอเธอเข้า
“เฮ่! มีเด็กรอดชีวิตอยู่ที่นี่ด้วย”
ชายคนหนึ่งตะโกน ก่อนหันมาปลอบเด็กหญิง
“อย่าห่วงเลยนะหนู ไม่เป็นไรแล้วล่ะ พวกเรามาช่วยหนูแล้ว”
เด็กหญิงไม่พูดตอบ เขาจึงมองสำรวจไปรอบๆ แทน แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลออกไปที่ริมแม่น้ำ มีเด็กอีกคนยืนอยู่ที่นั่น
“นั่นใครน่ะ” เขาถามขึ้น พลางออกเดิน “นายเป็นผู้รอดชีวิต...?”
เด็กคนนั้นไว้ผมหน้าม้าปรกหน้าไปกว่าครึ่งจึงมองเห็นได้เพียงแค่ปลายจมูกและปากของเขา
“แกต้องเป็นเด็กนั่นแน่!” ชายคนนั้นตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวหลังนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร “แกเป็นคนทำทุกอย่างใช่ไหม”
ทว่าคำพูดที่ได้รับกลับมานั้นเป็นไปในทางตรงกันข้าม
“นี่คือจุดจบ” เด็กชายกล่าวเนิบช้า น้ำเสียงแทบไม่แสดงอารมณ์ใดทั้งสิ้น
“หลังจากนี้...ทุกอย่างจะจบลง...”
เขาจบประโยคด้วยรอยยิ้มหยัน
...ก่อนจะโดดลงสู่แม่น้ำ
ฉันชื่อเอสซี่
ฉันจำไม่ได้ว่ากี่ครั้งแล้วที่ฉันตื่นขึ้นมาจากความฝันประหลาดนั่น
สิ่งเดียวที่ฉันรู้คือฝันนั้นเชื่อมโยงกับความทรงจำวัยเด็กของฉัน ความทรงจำที่ฉันจำได้เพียงเลือนราง
ลุกจากเตียง อาบน้ำ คว้าชุดกระโปรงดำมาสวม รวบผมเป็นหางม้ามาผูกโบว์ดำ ตรวจสอบสร้อยคออันเป็นของสำคัญว่ายังอยู่กับตัวดี แล้วก็เตรียมไปเรียน...
ว่าไปแล้ว ชีวิตประจำวันของฉันก็เหมือนกับเด็กมัธยมต้นทั่วไป แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่ฉันลืมว่าสิ่งต่างๆ เคยเป็นเช่นไร
ฉันมองรูปถ่ายวัยเด็กของฉันกับคุณแม่ที่ใส่กรอบอยู่ข้างหน้าต่าง ก่อนบอกลา
“ไปก่อนนะคะแม่”
ฉันส่งยิ้มให้แม่และตัวฉันในวัยเด็กที่ถือลูกโป่งอยู่ในภาพนั้น
ลึกๆ ในใจ ฉันหวังจะย้อนกลับไปในอดีตเสียเหลือเกิน ไปอยู่ในสมัยที่แม่ยังอยู่กับฉัน เราจะได้ไปเที่ยวที่สวนเพกาซัสอย่างมีความสุขเหมือนในรูปถ่ายอีกครั้ง แต่ฉันก็ทราบดีว่าฉันควรจะอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน ใช้ชีวิตต่อไปโดยเลิกคิดถึงอดีตเสีย
ทว่าอดีตก็ไม่เคยหยุดหลอกหลอนฉัน...
“เธอคือเอสซี่ใช่ไหม”
เสียงหนึ่งทักขึ้นเมื่อฉันเดินออกจากบ้านได้ไม่นาน ฉันหันไปมองแล้วพบเด็กหนุ่มในชุดโทนสีน้ำเงินดูเคร่งขรึม เขาไว้ผมสั้นสีดำตัดเรียบร้อย และมีดวงตาสีมืดที่ดูเย็นชาให้ความรู้สึกน่าเกรงขาม
ฉันส่งสายตาตอบว่า ‘ใช่’ แล้วถาม “นายเป็นใคร”
ท่าทางเขาไม่เหมือนพวกนักเลง ดูไม่เป็นอันตรายนัก แต่ก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดี
“ฉันชื่อยูออน” เด็กหนุ่มแนะนำตัว “เป็นเด็กนักเรียนของสถาบันเซ็น เธอคงพอรู้จักอยู่บ้าง เซ็นเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดังในละแวกนี้...” ท้ายเสียงนั้นเหมือนเป็นการให้ข้อมูลอย่างคุยโวและถามควบคู่กันไป
“แน่นอนว่าฉันต้องเคยได้ยินชื่อมาก่อน” ฉันตอบ “แต่เซ็นมีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดีสักเท่าไหร่หรอกทั้งคดีฆาตกรรมเอย การหายตัวอย่างลึกลับเอย การพบเห็นมนุษย์ต่างดาวเอย ...นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะ”
ด้วยรู้สึกไม่พอใจกับท่าทางวางมาดข่มของเขา ฉันจึงตั้งใจจะพูดกวนอารมณ์สักหน่อย
ทว่า...
“ที่เธอพูดมามันก็ถูก แต่ว่าข่าวลือพวกนั้นห่างไกลความจริงอยู่เยอะ”
ฉันแปลกใจที่อีกฝ่ายพูดถึงเรื่องพวกนั้นราวกับเห็นมันเป็นเรื่องจริงจัง
“แล้วนายมีธุระอะไรกับฉันล่ะ” ฉันถาม
“ฉันอยากจ้างเธอให้ช่วยสืบคดี”
“สืบคดี?”
“ต้นเดือนนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนเราถูกฆ่าและหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ” ยูออนเล่าด้วยน้ำเสียงสงบเยือกเย็น ก่อนกล่าวเสียงเข้มย้ำอีกครั้ง “ฉันอยากให้เธอช่วยสืบเรื่องนี้”
ตกตะลึงจนไม่รู้จะตอบไปอย่างไรไปชั่วขณะ ท่าทีหมอนี่ดูจริงจังจนคิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องพูดเล่นๆ
“...ฉันเป็นแค่เด็ก ม.ต้น เท่านั้น นายจะจ้างฉันทำไม ไปจ้างตำรวจหรือนักสืบเอกชนไม่ดีกว่าเหรอ” ฉันแย้งด้วยเหตุผลหลังรวบรวมสติได้
“เธอไม่ใช่นักเรียนธรรมดา” กล่าวเสียงเรียบต่ำพลางมองฉันด้วยสายตาแน่วแน่ราวกับมองทะลุถึงตัวตน “ฉันรู้ความสามารถพิเศษของเธอที่เธอพยายามปิดบังมาตลอดและฉันก็ต้องการใช้มัน”
หมอนี่รู้ถึงความสามารถพิเศษของฉันอย่างนั้นหรือ...
“นายรู้ได้ไง” ความสงสัยและตกใจทำให้ฉันหลุดปากถามไป
“ฉันมีวิธีของฉันก็แล้วกัน” ยูออนตอบ
“ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีทางเสียล่ะที่ฉันจะยอมช่วยนาย” ฉันบอกปฏิเสธไป
“อย่างนั้น... เธอไม่สนใจ X-note หรือไง” อีกฝ่ายยั่ว
ชื่อที่เขาบอกสะกิดความสนใจของฉันมากทีเดียวแต่ภายนอกก็ยังคงนิ่งเงียบรักษาท่าทีเอาไว้ ฉันบังคับมือตัวเองหยุดได้ทันก่อนจะเอื้อมไปแตะจี้สร้อยคอแล้วรอฟังเขาพูดต่อ
“นั่นเป็นชื่อของโฟลเดอร์พิเศษที่แม่เธอทิ้งไว้” ยูออนอธิบายเรียบๆ แต่ดวงตาที่มองมานั้นราวกับสามารถหยั่งรู้ถึงความในใจของฉัน และนั่นก็ก่อให้เกิดประกายแห่งชัยชนะบนใบหน้าของเขา
“มาที่สถาบันเซ็นถ้าเธออยากปลดล็อคโฟลเดอร์นั้น”
เขาบอกปิดท้ายก่อนหันหลังกลับแล้วเดินจากไป ทิ้งฉันไว้กับความลังเลแสนหนักอึ้ง...
คำเชิญของเด็กหนุ่มลึกลับบีบให้ฉันต้องย้อนกลับไปเผชิญอดีตอีกครั้ง
...และเปลี่ยนชีวิตฉันไปตลอดกาล
ความคิดเห็น