ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    X-note : Mix End

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 54


    บทนำ

    ยามเย็น ณ ชายป่าริมน้ำอันอึมครึม เปลวไฟคลุ้มคลั่งเผาไหม้รถยนต์ที่จมน้ำอยู่ครึ่งหนึ่ง เขม่าควันโขมง เด็กหญิงคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ไม่ไกลออกไปจากจุดเกิดเหตุ มีร่างของคนที่ตัวใหญ่กว่านอนอยู่ข้างๆ

    “แม่! แม่!

    เด็กหญิงเขย่าร่างนั้นพลางสะอื้นไห้

    “ตอบหนูหน่อยสิ! ทำไมแม่ถึงไม่พูดกับหนูล่ะ!

    ร่างนั้นโงนเงนไปมาเล็กน้อยตามแรงของเด็กหญิง คอที่ตั้งอยู่บนบ่านั้นเคลื่อนที่ไม่สอดรับกับลำตัว เหมือนกระดูกที่ค้ำยันไว้ได้หักไปแล้ว

    เด็กหญิงนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนกระทั่งมีคนมาเจอเธอเข้า

    “เฮ่! มีเด็กรอดชีวิตอยู่ที่นี่ด้วย”

    ชายคนหนึ่งตะโกน ก่อนหันมาปลอบเด็กหญิง

    “อย่าห่วงเลยนะหนู ไม่เป็นไรแล้วล่ะ พวกเรามาช่วยหนูแล้ว”

    เด็กหญิงไม่พูดตอบ เขาจึงมองสำรวจไปรอบๆ แทน แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลออกไปที่ริมแม่น้ำ มีเด็กอีกคนยืนอยู่ที่นั่น

    “นั่นใครน่ะ” เขาถามขึ้น พลางออกเดิน “นายเป็นผู้รอดชีวิต...?”

    เด็กคนนั้นไว้ผมหน้าม้าปรกหน้าไปกว่าครึ่งจึงมองเห็นได้เพียงแค่ปลายจมูกและปากของเขา

    “แกต้องเป็นเด็กนั่นแน่!” ชายคนนั้นตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวหลังนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร “แกเป็นคนทำทุกอย่างใช่ไหม”

    ทว่าคำพูดที่ได้รับกลับมานั้นเป็นไปในทางตรงกันข้าม

    “นี่คือจุดจบ” เด็กชายกล่าวเนิบช้า น้ำเสียงแทบไม่แสดงอารมณ์ใดทั้งสิ้น

    “หลังจากนี้...ทุกอย่างจะจบลง...”

    เขาจบประโยคด้วยรอยยิ้มหยัน

    ...ก่อนจะโดดลงสู่แม่น้ำ





    ฉันชื่อเอสซี่

    ฉันจำไม่ได้ว่ากี่ครั้งแล้วที่ฉันตื่นขึ้นมาจากความฝันประหลาดนั่น

    สิ่งเดียวที่ฉันรู้คือฝันนั้นเชื่อมโยงกับความทรงจำวัยเด็กของฉัน ความทรงจำที่ฉันจำได้เพียงเลือนราง

    ลุกจากเตียง อาบน้ำ คว้าชุดกระโปรงดำมาสวม รวบผมเป็นหางม้ามาผูกโบว์ดำ ตรวจสอบสร้อยคออันเป็นของสำคัญว่ายังอยู่กับตัวดี แล้วก็เตรียมไปเรียน...

    ว่าไปแล้ว ชีวิตประจำวันของฉันก็เหมือนกับเด็กมัธยมต้นทั่วไป แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่ฉันลืมว่าสิ่งต่างๆ เคยเป็นเช่นไร

    ฉันมองรูปถ่ายวัยเด็กของฉันกับคุณแม่ที่ใส่กรอบอยู่ข้างหน้าต่าง ก่อนบอกลา

    “ไปก่อนนะคะแม่”

    ฉันส่งยิ้มให้แม่และตัวฉันในวัยเด็กที่ถือลูกโป่งอยู่ในภาพนั้น

    ลึกๆ ในใจ ฉันหวังจะย้อนกลับไปในอดีตเสียเหลือเกิน ไปอยู่ในสมัยที่แม่ยังอยู่กับฉัน เราจะได้ไปเที่ยวที่สวนเพกาซัสอย่างมีความสุขเหมือนในรูปถ่ายอีกครั้ง แต่ฉันก็ทราบดีว่าฉันควรจะอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน ใช้ชีวิตต่อไปโดยเลิกคิดถึงอดีตเสีย

    ทว่าอดีตก็ไม่เคยหยุดหลอกหลอนฉัน...


    “เธอคือเอสซี่ใช่ไหม”

    เสียงหนึ่งทักขึ้นเมื่อฉันเดินออกจากบ้านได้ไม่นาน ฉันหันไปมองแล้วพบเด็กหนุ่มในชุดโทนสีน้ำเงินดูเคร่งขรึม เขาไว้ผมสั้นสีดำตัดเรียบร้อย และมีดวงตาสีมืดที่ดูเย็นชาให้ความรู้สึกน่าเกรงขาม

    ฉันส่งสายตาตอบว่า ใช่ แล้วถาม “นายเป็นใคร”

    ท่าทางเขาไม่เหมือนพวกนักเลง ดูไม่เป็นอันตรายนัก แต่ก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดี

    “ฉันชื่อยูออน” เด็กหนุ่มแนะนำตัว “เป็นเด็กนักเรียนของสถาบันเซ็น เธอคงพอรู้จักอยู่บ้าง เซ็นเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดังในละแวกนี้...” ท้ายเสียงนั้นเหมือนเป็นการให้ข้อมูลอย่างคุยโวและถามควบคู่กันไป

    “แน่นอนว่าฉันต้องเคยได้ยินชื่อมาก่อน” ฉันตอบ “แต่เซ็นมีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดีสักเท่าไหร่หรอกทั้งคดีฆาตกรรมเอย การหายตัวอย่างลึกลับเอย การพบเห็นมนุษย์ต่างดาวเอย ...นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะ”

    ด้วยรู้สึกไม่พอใจกับท่าทางวางมาดข่มของเขา ฉันจึงตั้งใจจะพูดกวนอารมณ์สักหน่อย

    ทว่า...

    “ที่เธอพูดมามันก็ถูก แต่ว่าข่าวลือพวกนั้นห่างไกลความจริงอยู่เยอะ”

    ฉันแปลกใจที่อีกฝ่ายพูดถึงเรื่องพวกนั้นราวกับเห็นมันเป็นเรื่องจริงจัง

    “แล้วนายมีธุระอะไรกับฉันล่ะ” ฉันถาม

    “ฉันอยากจ้างเธอให้ช่วยสืบคดี”

    “สืบคดี?”

    “ต้นเดือนนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนเราถูกฆ่าและหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ” ยูออนเล่าด้วยน้ำเสียงสงบเยือกเย็น ก่อนกล่าวเสียงเข้มย้ำอีกครั้ง “ฉันอยากให้เธอช่วยสืบเรื่องนี้”

    ตกตะลึงจนไม่รู้จะตอบไปอย่างไรไปชั่วขณะ ท่าทีหมอนี่ดูจริงจังจนคิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องพูดเล่นๆ

    “...ฉันเป็นแค่เด็ก ม.ต้น เท่านั้น นายจะจ้างฉันทำไม ไปจ้างตำรวจหรือนักสืบเอกชนไม่ดีกว่าเหรอ” ฉันแย้งด้วยเหตุผลหลังรวบรวมสติได้

    “เธอไม่ใช่นักเรียนธรรมดา” กล่าวเสียงเรียบต่ำพลางมองฉันด้วยสายตาแน่วแน่ราวกับมองทะลุถึงตัวตน “ฉันรู้ความสามารถพิเศษของเธอที่เธอพยายามปิดบังมาตลอดและฉันก็ต้องการใช้มัน”

    หมอนี่รู้ถึงความสามารถพิเศษของฉันอย่างนั้นหรือ...

    “นายรู้ได้ไง” ความสงสัยและตกใจทำให้ฉันหลุดปากถามไป

    “ฉันมีวิธีของฉันก็แล้วกัน” ยูออนตอบ

    “ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีทางเสียล่ะที่ฉันจะยอมช่วยนาย” ฉันบอกปฏิเสธไป

    “อย่างนั้น... เธอไม่สนใจ X-note หรือไง” อีกฝ่ายยั่ว

    ชื่อที่เขาบอกสะกิดความสนใจของฉันมากทีเดียวแต่ภายนอกก็ยังคงนิ่งเงียบรักษาท่าทีเอาไว้ ฉันบังคับมือตัวเองหยุดได้ทันก่อนจะเอื้อมไปแตะจี้สร้อยคอแล้วรอฟังเขาพูดต่อ

    “นั่นเป็นชื่อของโฟลเดอร์พิเศษที่แม่เธอทิ้งไว้” ยูออนอธิบายเรียบๆ แต่ดวงตาที่มองมานั้นราวกับสามารถหยั่งรู้ถึงความในใจของฉัน และนั่นก็ก่อให้เกิดประกายแห่งชัยชนะบนใบหน้าของเขา

    “มาที่สถาบันเซ็นถ้าเธออยากปลดล็อคโฟลเดอร์นั้น”

    เขาบอกปิดท้ายก่อนหันหลังกลับแล้วเดินจากไป ทิ้งฉันไว้กับความลังเลแสนหนักอึ้ง...

    คำเชิญของเด็กหนุ่มลึกลับบีบให้ฉันต้องย้อนกลับไปเผชิญอดีตอีกครั้ง

    ...และเปลี่ยนชีวิตฉันไปตลอดกาล

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×