มาดามภูธร (สนพ.ดีบุ๊ค)
"ผมไม่ได้ปากหมาอย่างเดียวนะคุ้ณ ยังเป็นหมาหวงเจ้าของ แล้วก็ชอบท่าหมา"
ผู้เข้าชมรวม
28,747
ผู้เข้าชมเดือนนี้
40
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา หกปีก่อน
“เซ็กซ์วันละสามสี่ครั้งผมก็ว่าปกตินะ”
คนที่นอนเหยียดตัวยาวบนโซฟาที่ออกแบบมาโดยเฉพาะให้นั่งสบายผ่อนคลายที่สุดแย้งจิตแพทย์ของตัวเอง ชายหนุ่มนอนคุยเพราะทั้งง่วงและเพลีย เขาเพิ่งบินจากมิลานมาถึงนิวยอร์กเมื่อสองวันก่อน และเมื่อคืนก็ใช้พลังงานไปกับผู้หญิงสามคน ต้องวนให้ความสุขพวกเธอคนละรอบสองรอบหลังจากนั้นก็หาทางให้ทั้งหมดออกจากห้องเร็วที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นกว่าเขาจะได้ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆ อย่างสงบก็เกือบรุ่งสาง ดีที่หลับได้โดยไม่ต้องพึ่งยาคงเพราะเหนื่อยจากการเดินทางและเพลียจากการเสียพลังงานไปเยอะ ตื่นมาตอนบ่าย ๆ ก็จัดกับสาวข้างห้องไปอีกรอบ แล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัวลวก ๆ มาพบดอกเตอร์คลอเดีย หนวดเคราไม่ได้โกนตั้งแต่วันที่บินออกจากมิลาน เสื้อเชิ้ตสีขาวยับ ๆ ติดกระดุมไม่ครบ เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าท่าทางหน้าตาที่ไม่แคร์แยแสโลก ยิ่งทำให้เขามีเสน่ห์ ผู้ชายลุคร้าย ๆ ดูลึกลับอันตรายแต่กลับยิ่งดึงดูดให้อยากเข้าใกล้ จึงไม่แปลกที่ผู้หญิงมากหน้าหลายตาอยากกระโจนขึ้นเตียงด้วย หลายคนในคราวเดียวก็บ่อยครั้ง อย่างเช่นเมื่อคืน
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามที่เขายอมมาพบพูดคุยกับ Shrink หรือจิตแพทย์ ที่นี่อเมริกาการพบจิตแพทย์เป็นเรื่องปกติ เขารู้ว่าตัวเองมีปัญหา แต่ทำไมล่ะในเมื่อเหล้า เซ็กซ์เป็นสิ่งที่ทำแล้วสารความสุขในสมองหลั่ง หลั่งแล้วเขาก็ลืมปัจจุบัน ลืมการมีอยู่ไปชั่วขณะ ถ้าไม่ถูกมัดมือชกและยื่นคำขาดก็คงไม่มานอนแผ่หลาเล่าเรื่องบ้า ๆ นี้ให้ใครฟัง
‘ฉันนัดดอกเตอร์คลอเดียไว้ให้แล้ว รู้หรือเปล่าว่าจิตแพทย์คนนี้กว่าจะนัดได้ยากเย็นแค่ไหน ถ้าไม่จัดการตัวเองให้เรียบร้อย คงไม่เหลือที่ยืนตรงนี้’
อิริคที่เป็นทั้งผู้ช่วยส่วนตัวและเพื่อนที่หวังดีที่เหลืออยู่ไม่กี่คนของเขาได้จัดการให้เขามาพบจิตแพทย์ที่มีค่าชั่วโมงสูงลิ่ว
หนุ่มเอเชียเครื่องหน้าได้ส่วน หน้าเหลี่ยมสันกรามชัด ปากหนาหยักได้รูป จมูกโด่งตั้งเป็นสัน หนวดเคราปื้นเต็มแก้มทั้งสองข้างเพราะไม่ได้โกนมาสองสามวัน นอกจากมันไม่ปิดบังความหล่อเหลาคมคาย ยังเพิ่มเสน่ห์ดิบๆแห่งบุรุษเพศขึ้นอีก เขาหันไปมองดอกเตอร์คลอเดีย ผู้หญิงวัยสี่สิบห้าผมบ๊อบสีบลอนด์เป็นประกายไม่กระดิกผิดรูปแม้แต่เส้นเดียว เธอสวมชุดเดรสลายดอกไม้สีสันสดใส คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิของแบรนด์ไฮเอนด์ และมีคาร์ดิแกนสีฟ้าสวมทับ สีฟ้าที่เหมือนสีท้องฟ้าสีจัดวันนี้ แต่สำหรับเขาถึงท้องฟ้าจะจ้าแค่ไหนมันก็หม่นมัวราวพระอาทิตย์ถูกหรี่แสงอยู่เสมอ
“สามครั้งต่อวันก็อาจจะปกติสำหรับบางคน แต่ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละครั้งหลังการหลั่งรู้สึกยังไง และการมีเซ็กซ์กระทบต่อชีวิตประจำวันมากน้อยแค่ไหน”
น้ำเสียงมีจังหวะจะโคนน่าฟังผ่านเข้าไปกระทบโสตชายหนุ่มที่หลับตาพักสายตานิ่ง จะรู้สึกอย่างไรล่ะ สุขตอนหลั่งหลังจากนั้นก็ว่างเปล่าไร้ค่า เลยต้องหลั่งแล้ว หลั่งอีกหวังว่าหลุมโพรงข้างในจะถูกถมเติมเต็ม แต่เปล่าเลยมันกลับยิ่งกว้างเวิ้งว้างขึ้นเรื่อยๆ
“แล้วสถานที่ ที่มีเซ็กซ์ล่ะ”
“มันเกี่ยวอะไรกัน เซ็กซ์ก็คือเซ็กซ์ คือการปลดปล่อย จะปลดปล่อยตรงไหนมันสำคัญยังไงหรือครับ”
คนนอนนิ่งถามทั้งที่ตายังปิด
“เกี่ยวสิ เกี่ยวมากด้วย”
“ผมชอบที่เสี่ยงๆ ยิ่งได้ยินเสียงคนเดิน เสียงคนคุย ยิ่งมีอารมณ์”
ครั้งหนึ่งเขาเคยมีอะไรกับผู้หญิงที่เพิ่งรู้จัก ที่บันไดทางขึ้นลงที่จอดรถ เกือบถูกจับได้แต่มันยิ่งทำให้เขามีอารมณ์
ดอกเตอร์คลอเดียก้มลงจดบางอย่างลงในสมุดโน๊ตที่อยู่บนตัก ก่อนถาม
“แต่คุณก็ป้องกันทุกครั้งใช่มั้ย”
“ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มอายุสิบหกนะด็อก” นิ่งไปครู่ใหญ่ ๆ ก่อนชายหนุ่มจะเปิดปากอีกครั้ง
“ผมเคยบินไปถึงอินเดีย เพื่อไปโยคะ”
คนบนโซฟาเกริ่นแล้วก็ลืมตาหันหน้าไปหาจิตแพทย์ เพื่อดูว่าเธอกำลังฟังเขาอยู่หรือเปล่า ดอกเตอร์คลอเดียกำลังฟัง ฟังอย่างตั้งใจเข้าอกเข้าใจและไม่ตัดสิน ทั้งคนทั้งสถานที่ซึ่งเป็นห้องกว้างโล่งโปร่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายถึงกับยอมเปิดปากเล่าเรื่องตัวเองมากกว่าสองครั้งที่ผ่านมา
“มีคนอยู่กลุ่มหนึ่งเชื่อว่าการมีเซ็กซ์คือการทำโยคะรูปแบบหนึ่งแต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะไปโยคะอะไรกับเขาหรอก ผมไม่เชื่อเรื่องบ้าบอพวกนั้น แค่อยากไปปลดปล่อยตัวเองให้มากที่สุด แต่กว่าผมจะได้ไปร่วมกับกลุ่มนี้ไม่ใช่ง่ายๆ นะ ต้องผ่านหลายขั้นตอน ต้องแน่ใจว่าสะอาดจริงๆ เพราะเมื่อเข้าไปในนั้นเราจะมีอะไรกับใครกี่คนกี่ครั้งก็ได้”
“ไปแล้วดีขึ้นบ้างมั้ย”
“ไม่เลย ผมกลับรู้สึกแย่ลงกว่าเดิม บางทีผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกขังวนเวียนหาทางออกไม่เจอ ลองมาหลายวิธีแล้วแต่ไม่ได้ผล”
“เล่าเรื่องความฝันให้หมอฟังหน่อยได้มั้ย”
“ฝันแบบไหนล่ะครับ ฝันอยากเป็นอะไร หรือฝันตอนหลับ”
“ความฝันตอนหลับ”
“แล้วความฝันเกี่ยวอะไรด้วย”
“ปกติสิ่งที่รบกวนจิตใจหรือสิ่งที่อยู่ใต้จิตสำนึกจะถูกปลดปล่อยออกมาในรูปความฝัน”
ทำไมเขาต้องเล่า เขาอายุยี่สิบแปดไม่ใช่เด็กที่จะมานั่งเล่าฝันร้ายยามค่ำคืนให้คนที่เพิ่งรู้จักกันฟัง ถึงคนคนนั้นจะเป็นจิตแพทย์ก็เถอะ ฝันร้ายรบกวนเขามาครึ่งค่อนชีวิต ฝันที่เปลี่ยนไปเรื่อย ตอนเด็กเมื่อถูกรบกวนด้วยฝันพวกนี้ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ไม่มีใครปลอบใครช่วยต้องร้องไห้จนหลับไป ตอนโตเขาใช้ เหล้าบ้าง เซ็กซ์บ้างช่วย นอกจากไม่ได้ผลแล้วผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ผมก็ฝันร้ายบ้าง แต่ก็เป็นกันทุกคนไม่ใช่เหรอครับ”
“มีมั้ยที่ฝันแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ”
มีสิ ทำไมจะไม่มี ความฝันที่กระชากให้ตื่น ฝันที่เหมือนจริง ตื่นขึ้นมาเจ็บปวดราวหัวใจถูกควัก และความรู้สึกนั้นก็กวนใจเขาไปทั้งวัน
ชายหนุ่มบนโซฟานิ่งไป
“แล้วครอบครัวคุณล่ะ พ่อ แม่”
“พ่อแม่ผมก็ดีนี่ครับ ทำงานงานหนัก ดูแลลูกสองคน”
“หมอหมายถึงพ่อแม่ที่แท้จริงของคุณ”
ได้ยินคำถามชายหนุ่มก็เด้งตัวขึ้นนั่ง ยกมือเสยผมหยักยุ่งก่อนจะลูบที่ต้นคอเป็นนิสัยความเคยชินที่มักทำโดยอัตโนมัติเวลาอึดอัดลำบากใจ หลังจากนั้นก็ก้มมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือราคาแพง
“ผมว่าผมกลับดีกว่า ผมมีธุระ”
ชายหนุ่มตัดบทปุบปับแล้วก็ยืนขึ้นเต็มความสูง ความสูงที่จัดว่าสูงมากแม้ในเผ่าพันธุ์คอเคเซียน ดอกเตอร์คคลอเดียวางปากกาในมือลง ถอดแว่นเงยหน้ามองคนที่ยืนตระหง่าน ก่อนตัดสินใจพูดออกไป
“ถ้าอยากหายคุณต้องยอมรับก่อนว่าตัวเองมีแผล คุณไทเลอร์ ที”
ผลงานอื่นๆ ของ ชาณา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ชาณา
ความคิดเห็น