คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Yokobu ☆ Muteki Kayo
夢ならばどれほどよかったでしょう
Yume naraba dore hodo yokatta deshou
หากเป็นฝันแล้วคงจะดีเหลือเกิน
未だにあなたのことを夢にみる
Imada ni anata no koto wo yume ni miru
แม้ในตอนนี้ก็ยังฝันถึงเธอ
忘れた物を取りに帰るように
Wasuremono wo tori ni kaeru you ni
ปัดฝุ่นความทรงจำเก่าแก่
古びた思い出の埃を払う
Furubita omoide no hokori wo harau
เหมือนเก็บของที่ลืมไว้กลับไป
戻らない幸せがあることを
Modoranai shiawase ga aru koto wo
สุดท้ายแล้วเธอช่วยสอนถึงความสุข
最後にあなたが教えてくれた
Saigo ni anata ga oshiete kureta
ที่ไม่มีวันกลับมาให้รับรู้
言えずに隠してた昏い過去も
Iezu ni kakushiteta kurai kako mo
ทั้งอดีตแสนหม่นหมองที่ปิดซ่อนไว้ไม่บอกใคร
あなたがいなきゃ永遠に昏いまま
Anata ga inakya eien ni kurai mama
หากไม่มีเธออยู่ก็คงมืดมนไปตลอดกาล
ฟังดูง่าย แต่จริงๆ แล้วก็ยากพอสมควร เธอเป็นผู้หญิงประหลาดที่จะว่าเย็นชาก็ไม่ใช่ สดใสก็ไม่เชิง แต่นิสัยหลักๆ ที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็นความมืดมนแบบเต็มขั้นที่มักจะสะท้อนออกมาเสมอในนัยน์ตาสีไพลินกลมโตคู่นั้น เด็กสาวในสายตาผู้อื่นนั้นเสมือนอยู่บนหอคอยสูงที่ล้อมรอบด้วยกำแพงหนามก็ไม่ปาน แต่สิ่งที่ขัดกับบุคลิกเฉยชานั้นกลับเป็นเครื่องเล่น PSP สีชมพูหวานที่เจ้าหล่อนพกมาโรงเรียนทุกวี่ทุกวัน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า PSP อันนั้นคือเกมอะไร --- แหงสิ แค่การเข้าใกล้เธอคนนั้นในระยะ 3 เมตรก็ว่ายากแล้ว จะให้ไปรู้เรื่องอย่างนั้นก็คงยาก
หากคุณเป็นสมาชิกของห้องเรียนเดียวกับเด็กสาวคนนี้ สิ่งแรกที่คุณควรรู้คือ ถ้าหากคุณรับรู้ได้ถึงสายตาเย็นๆ ของใครบางคน จงรับรู้ไว้ว่านั่นเป็น มุเทกิ คาโยะ ไม่ผิดแน่ บุคคลครึ่งห้องเรียนรับรู้ว่าเธอเป็นคนที่ชอบเฝ้ามองคนอื่นเป็นที่สุด แม้จะกระทำด้วยสายตาเย็นเฉียบเสมือนฆาตกรที่จ้องมองเหยื่อในกำมือก็ตามที
ทัศนคติของคนรอบข้างที่มีต่อคาโยะนั้นไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก ด้วยความเฉยชาขั้นสุดของเจ้าหล่อนที่มักจะมองเมินสายตาของคนรอบข้างอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันและนิสัยถามคำตอบคำ จึงไม่แปลกนักที่ไม่เคยมีใครที่คิดจะสานสัมพันธ์กับเธอได้นานเกิน 3 วัน --- หารู้ไม่ คาโยะเพียงแค่คิดว่าการพูดคุยกับคนอย่างพวกเขาเป็นสิ่งที่เสียเวลาชีวิตและเวลาเล่นเกมเท่านั้นเอง และใช่...ความจริงแล้ว เธอเป็นโอตาคุสาวที่ติดเกมโอโตเมะยิ่งกว่าใคร เป็นความลับที่ความจริงแล้วเธอไม่เคยคิดจะปิดมัน แค่คนรอบข้างไม่เคยจะใส่ใจกับมันเท่านั้นเอง
ก็นะ ถึงคนรอบข้างจะมองว่าเธอหยิ่ง มืดมน เย็นชา หรือไม่น่าคบเพียงใดก็ตาม คาโยะก็ไม่เคยใส่ใจพวกเขาอยู่แล้ว ในเมื่อคนพวกนั้นทำได้แค่มองเธอเพียงแค่ผิวเผินเพียงเท่านั้น
แต่ถ้าถามว่าเธอคิดว่าตัวเองเป็นคนยังไง...?
คาโยะคงจะตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่าเธอเป็นคนเอื่อยเฉื่อยแถมยังขี้เกียจที่สุดในโลก ชอบของน่ารักๆ อย่างตุ๊กตาหรือฟิคเกอร์ของหนุ่มๆ ในเกมโอโตเมะ จับอารมณ์ของคนค่อนข้างเก่ง แถมยังตีหน้านิ่งได้สุดยอด...แน่นอนว่านิสัยที่แท้จริงของเธอยังเป็นความลับจากโลกภายนอกจนถึงทุกวันนี้
เธอเป็นคนที่ชอบเฝ้ามองผู้คนในเวลาว่าง คาโยะเป็นคนที่พินิจพิเคราะห์ลักษณะนิสัยของผู้คนออกมาได้เพียงแค่เห็นรูปลักษณ์หรือบุคลิกอย่างสองอย่าง เพราะเข้าใจทุกอย่างจนแจ่มแจ้งแบบนี้ เด็กสาวจึงกลายเป็นคนที่เอียนกับสังคมมากจนถึงขั้นขยาด ยิ่งกับคนตีสีหน้ายิ้มแย้มทั้งที่ข้างในเน่าเฟะยิ่งเป็นสิ่งที่เธอเกลียดจนอาจเผลอทำสีหน้ารังเกียจใส่แวบหนึ่งก็เป็นได้...แต่ก็แค่แวบหนึ่ง เพราะเธอเป็นคนที่เก็บสีหน้าและแววตาได้เก่งเอามากๆ
ที่จริงแล้ว แรกเริ่มเดิมทีเธอเป็นคนร่าเริงสดใสยิ่งกว่าใครจนกระทั่งความฝันของตัวเองถูกพังทลายไปต่อหน้าต่อตา ชีวิตของเธอจึงถึงจุดพลิกผันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และกลายเป็นเหมือนอย่างตอนนี้
คาโยะมีนิสัยเสียคือการตัดสินคนด้วยคำว่า 'พระเอก' 'นางเอก' 'นางร้าย' 'ลาสบอส' หรือ 'ตัวประกอบ' ซึ่งแน่นอนว่าเธอใช้บุคลิกและความนิยมในด้านต่างๆ เพื่อตัดสิน และสิ่งที่นิยามตัวเธอเองก็ไม่พ้น 'ตัวประกอบ' เพราะงั้น เธอที่ลึกๆ แล้วไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่นักจึงมักจะพูดว่า 'คนอย่างฉัน' หรือ 'ตัวประกอบอย่างฉัน' อยู่บ่อยครั้ง
ถึงเธอจะเป็นคนที่หลุดโลกมากเพียงใด แต่เมื่อมีอารมณ์เศร้า โกรธ เขินอาย หรือดีใจ คาโยะมักจะซ่อนสิ่งเหล่านั้นไว้ใต้ใบหน้าเรียบนิ่งอยู่เสมอ และเพราะเธอเก็บสีหน้าได้เก่งเป็นที่หนึ่ง เธอจึงแทบไม่เคยหลุดจากโป๊กเกอร์เฟสของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
คาโยะอาจจะเป็นเหมือนคนปิดกั้นโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ด้วยกำแพงสูงใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยหนามแหลมคมนับพัน แต่ถ้าหากปีนกำแพงของเธอมาได้ล่ะก็ เธอจะเชื่อใจคนๆ นั้นอย่างสนิทใจโดยไร้ข้อกังขาเลยล่ะ ในทางกลับกัน ถ้าใครปีนกำแพงของเธอมาไม่ได้ล่ะก็ อย่าหวังเลยว่าจะได้รับความเป็นมิตรอย่างเปี่ยมล้นจากเธอ
ซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่มีใครพังกำแพงของเธอลงได้เลยซักครั้ง...ล่ะมั้ง?
Age 4 || 初会う (พบเจอครั้งแรก)
"เจ้านี่...มันเล่นยังไงหรอคะ?"
ผู้เริ่มบทสนทนาด้วยเสียงใสแจ๋วในห้องสีขาวที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อคือเด็กหญิงตัวเล็กวัยเพียง 4 ปี ที่กำลังลูบเครื่องดนตรีในมือด้วยสายตาเป็นประกาย ทั้งกลิ่นไม้ Kiri ที่ให้ความรู้สึกถึงมนตร์ขลังและสายสีขาวนวลทอดยาวเหมือนกับเส้นด้าย เธอยิ้มกว้างเอ่ยถามมารดาที่กำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยรอยยิ้มเบาบาง เส้นผมสีนิลที่แต่เดิมยาวถึงกลางหลัง บัดนี้ถูกตัดให้เหลือเพียงประบ่าเท่านั้น "ไว้หลังออกจากโรงพยาบาล แม่จะสอนให้เอามั้ยจ๊ะ..?"
รอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กหญิงกว้างขึ้นไปอีกเกือบเท่าตัว "อื้ม! คาโยะจะรอนะคะ!!"
Age 4 - 9 || 私の夢は (ความฝันของฉันคือ)
คาโยะได้รู้ว่าสิ่งนั้นคือโคโตะ
และเธอคงจะตกหลุมรักมันอย่างจัง
เธอชื่นชอบทุกอย่างของมัน ทั้งความรู้สึกของสายที่ถูกลูบไล้ผ่านนิ้วมือ ทั้งหยาดเหงื่อที่ตกกระทบกับตัวมัน ท้งเสียงหวานนุ่มนวลยิ่งกว่าเครื่องดนตรีใดๆ ทั้งความรู้สึกที่ได้รับรู้ว่าเสียงเพลงเหล่านั้นถูกสร้างสรรค์ด้วยตัวเธอเอง
ไม่เพียงแค่การเรียนเย็บปักที่พ่อสอนให้ เธอยังต้องเรียนรู้การเล่นโคโตะให้ชำนาญ
เพื่อถ่ายทอดเสียงเพลงให้กับคนรอบข้าง เพื่อความสุขของแม่ที่กำลังจะจากไป และเพื่อความฝันของแม่
คาโยะไม่ได้โง่ และรู้ดีว่าแม่คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน
เพราะงั้น...ไม่ว่ายังไง ก็จะสานต่อความฝันของแม่ให้ได้เลย
นักดนตรีที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน...
"ความฝันของคัตจังคืออะไรงั้นหรอจ๊ะ..?" เสียงของมารดาที่เอ่ยถามขึ้นอย่างนุ่มนวล แม้นใบหน้าจะอ่อนแรงเพียงใดก็ตามที หญิงสาวคนนั้นอยู่นอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลเช่นเดิม มีรอยยิ้มให้กับเธอเช่นเดิม และยังคงงดงามไม่เปลี่ยนแปลง
แม่คะ...
แม้น้ำตาที่อยู่ในใจจะหลั่งไหลออกมา ทว่าในเมื่อสิ่งที่แม่ต้องการไม่ใช่มัน ดังนั้น..เธอจะไม่ยอมให้แม่ผิดหวัง "คาโยะอยากเป็นนักดนตรีเหมือนกับแม่ อยากเล่นโคโตะให้เก่งเหมือนกับแม่ค่ะ!!"
รอยยิ้มกว้างที่ส่งออกมา เต็มไปด้วยความขมขื่นยิ่งกว่าใคร
Age 10 - 11 || 友達 (เพื่อน)
หากชีวิตในโรงเรียนที่หลายคนฝันหาคือการได้เป็นที่รักของทุกๆ คน...มุเทกิ คาโยะ คงจะเป็นคนที่โชคดียิ่งกว่าใคร
เธอเป็นคนที่สดใส ร่าเริง และเต็มไปด้วยความจริงใจในรอยยิ้ม ทว่ากลับไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ ในแววตา แต่ผู้คนมากมายไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกตินี้ ต่างเข้าหาเธอด้วยรอยยิ้มปั้นแต่งใฝ่หาเพียงผลประโยชน์
สิ่งที่เธอทำคือยิ้มกลับไป นัยน์ตาว่างเปล่าเย็นเยียบถูกบดบังด้วยหนังตาที่ปิดลง
การเป็นนางเอกที่เป็นที่รักของใครๆ น่ะ ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการหรอก
เป็นคนสำคัญของคนเพียงหนึ่ง ดีกว่าเป็นดอกไม้ไร้ค่าที่ให้ผู้คนหยิบมาเชยชมได้ตามใจชอบ
Age 12 || 約束 (คำสัญญา)
นิ้วเรียวบรรเลงบทเพลงไปด้วยจิตใจสงบ ใบหน้าสวยปรากฏรอยยิ้มจางๆ แสดงถึงความสุขของการเล่นเครื่องดนตรีตรงหน้าให้ผู้ชมได้เห็น บรรยากาศรอบด้านเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับเสียงเพลง จวบจนมือบางหยุดลงที่ท่วงทำนองสุดท้าย เสียงปรบมือรอบด้านดังระงม ชื่นชมการบรรเลงของเด็กหญิง เธอลุกขึ้นแล้วยอบกายลงอย่างอ่อนน้อม ก่อนเดินกลับไปที่หลังเวทีเพื่อให้คิวต่อไปออกมาแสดง
ทว่าไม่ทันที่จะก้าวพ้นหลังเวที เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกลับพุ่งเข้ามาหาเสียก่อน "เธอคือ มุเทกิ คาโยะ ใช่มั้ย?"
เด็กหญิงพยักหน้ารับพร้อมยิ้มบาง "ค่ะ"
"คุณมุเทกิ พ่อของเธอเรียกให้ไปพบที่โรงพยาบาล"
กึก
รอยยิ้มบนใบหน้ากลายเป็นแข็งค้าง ความเยือกเย็นทั้งมวลแปรเปลี่ยนเป็นความตกตะลึง "ช่วยพาฉันไปหน่อยนะคะ!"
"ครับ"
การเดินทางเป็นไปอย่างเชื่องช้าในสายตาของคาโยะ ภายในใจร้อนรุ่มจนเธอเผลอจิกกระโปรงของตัวเองแน่น ภาวนาให้ทุกอย่างไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอคิด
และ... "คัตจัง"
ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้วที่จะสวดมนตร์ภาวนา
ภาพตรงหน้าคือมารดาที่อยู่ในเครื่องช่วยหายใจ เส้นผมสีดำขลับเงางามถูกรวบอยู่ในที่ครอบผมของโรงพยาบาล ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความอ่อนล้า แต่ก็ยังพยายามฝืนกล่าวคำกับคนเป็นลูก
คาโยะเบิกตากว้าง "แม่คะ!!?"
เด็กสาวปรี่เข้าไปหาคนเป็นแม่ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง มือเล็กกอบกุมฝ่ามือบางของแม่ที่เต็มไปด้วยรอยจิกของเล็กและรอยเลือดซิบ
"คัตจัง..." ผู้หญิงตรงหน้ายังคงดูงดงาม แม้จะใกล้พังทลายลงไปแล้วแค่ไหนก็ตามที "สัญญากับแม่หน่อยสิ..ช่วย...มีชีวิตต่อไปแทนแม่ด้วยนะ"
"ไม่...ไม่เอา! ไม่เอานะ!!" เด็กสาวยังคงส่ายหน้าแม้นใบหน้าจะเปรอะไปด้วยน้ำตาหรือเสียงจะสั่นระริกเพียงใดก็ตาม "ไม่สัญญาหรอก ไม่สัญญาหรอก!! ไม่เอานะ แม่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปสิ!!!"
"คัตจัง.."
"แม่!!?"
หญิงสาวที่เข้มแข็งเมื่อครู่ ล้มลงไปต่อหน้าต่อตา
เครื่องวัดชีพจรส่งเสียงดังระงม เส้นกราฟสีเขียวกลายเป็นเส้นตรงในฉับพลัน
"...แม่คะ.."
เธอน่ะ คงจะสานต่อความฝันของแม่ไม่ได้หรอก
แม้กระทั่งคำสัญญาของแม่ เธอยังสัญญาให้ไม่ได้เลย
มันสายไปแล้ว...
มุเทกิ ซาโยะ เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ
Age 12 || 崩壊 (พังทลาย)
เธอสัมผัสกับเครื่องดนตรีชิ้นโปรดอีกครั้ง
ทว่า ภาพความทรงจำสุดท้ายที่มีร่วมกับคนเป็นแม่กลับเข้ามาหลอกหลอนในหัวจนปวดไปหมด
ภาพตรงหน้าเหมือนกับว่าเป็นใบหน้าของแม่ซ้อนทับกับตัวโน้ต รอยยิ้มกว้างจนน่าสยดสยองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมารดาในจิตสำนึก
'เล่นสิ คัตจัง..'
สตรีตรงหน้า แม้นเส้นผมจะเป็นสีดำสนิทเหมือนกับแม่ของเธอ ทว่ากลับถูกตัดจนยุ่งเหยิงเละเทะไม่เป็นทรง นัยน์ตาสีอำพันสว่างจนน่ากลัวคู่นั้นมืดมิดราวกับเป็นหลุมดำอันไม่มีที่สิ้นสุด
นิ้วมือขาวซีดไล้ไปตามใบหน้าของเด็กหญิง 'เล่นให้ได้...เหมือนที่เคยบอกไว้กับแม่ไงจ๊ะ'
เนื้อตัวของเธอสั่นระริก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว ไร้ซึ่งถ้อยคำใดหลุดออกมาจากริมฝีปากบาง
'จะสานฝันของแม่ไม่ใช่หรอจ๊ะ...คัตจัง?'
น้ำเสียงของภาพตรงหน้า แม้จะหวานซึ้งเหมือนมารดา แต่กลับเยียบเย็นจนน่าขนลุก
'ถ้าคัตจังไม่เล่น...' รอยยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นความอำมหิต 'คัตจังก็ผิดสัญญากับแม่น่ะสิ'
"ไม่..." ถ้อยคำสั้นๆ หลุดออกมาจากปากอย่างยากลำบาก นัยน์ตาสีไพลินสั่นไหวเมื่อนิ้วมือขาวซีดที่เคยกระทำกับใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยนกรีดผิวหน้าเนียนเป็นทางยาว "แม่คะ..."
'คนผิดสัญญาจะต้องโดนลงโทษสินะจ๊ะ..' รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าตรงหน้าอีกครั้ง
"ไม่นะ หนู..หนู...หนูแค่.." มือบางกุมหัวของตนอย่างแรง น้ำตาสีใสไหลรินบนใบหน้า กระทบกับเครื่องสายที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นห้อง
'หลังจากนี้...' คล้ายกับมีใบหน้าของมัจจุราชซ้อนทับกับมารดา หล่อนฉีกยิ้มน่าสยดสยองให้อีกคราแล้วกล่าวเสียงใส 'คัตจังก็ไม่ต้องเล่นอีกแล้วแหละ~'
"หนู..."
'แล้วก็...ไม่ต้องเล่นตลอดไปเลยเถอะนะจ๊ะ'
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!"
ชั่วขณะก่อนที่นิ้วมือของเธอจะขยับไปบาดกับสายโคโตะที่ตั้งอยู่ตรงหน้า หยาดเลือดสีแดงสดถูกซับด้วยเนื้อไม้ของเครื่องดนตรีชิ้นโปรดของมารดา "แม่คะ..."
ริมฝีปากบางถูกกัดจนเลือดซิบ
"หนู...ขอโทษ.."
พร้อมกับถ้อยคำที่เบาบางปลิวว่อนไปกับสายลมฤดูหนาว
Age 13 - 15 || ヒロイン (นางเอก)
ชีวิตของเธอกำลังก้าวเข้าสู่ชีวิตมัธยมต้น
"คาโยะจัง เคยเล่นเกมจีบหนุ่มมั้ยจ๊ะ?" หนึ่งในเพื่อนสาวของเธอถามเสียงใสในขณะที่ในมือถือเครื่องเล่น PSP สีชมพูหวาน คาโยะที่เห็นอย่างนั้นจึงเอียงคอนิดๆ แทนการถาม เธอคนนั้นจึงยิ้มกริ่มแล้วอธิบายยืดยาวราวกับเป็นกูรู "เกมนี้น่ะ กำลังดังมากๆ เลยนะ! ยามาบุกิซังที่ว่าแข็งกระด้างจะตายยังบอกเลยว่าชอบเล่นเกมนี้ คาโยะจังมาเล่นด้วยกันมั้ย!?"
เด็กสาวเงียบเสียงไปพักหนึ่งก่อนส่งยิ้มให้อีกฝ่าย "จะลองดูก็ได้จ้ะ.."
"เย้~!! มาเร็วๆๆๆ เริ่มจากกดตรงปุ่มนี้นะ แล้วก็จะมีให้เลือกว่าจะเข้ารูทไหน ส่วนนี่เป็นบทนำ จะข้ามหรือไม่ข้ามก็ได้นะ แต่ฉันแนะนำว่าอย่าข้ามดีกว่า เพราะมันมีผลต่อความสัมพันธ์กับหนุ่มๆ ล่ะ! แล้วก็..."
คาโยะที่นั่งฟังอย่างตั้งใจพยักหน้ารับรู้เป็นระยะ ก่อนจะกล่าวตัดบทเมื่อครูก้าวเข้ามาในห้อง "ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวฉันจะลองไปซื้อมาเล่นดูนะ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรทำพอดีน่ะจ้ะ..."
"อื้ม! แล้วมาเล่นด้วยกันนะคาโยะจัง!!"
เวงาเลิกเรียนผ่านไปไวเหมือนๆ เคย เธอกล่าวลาทุกคนแล้วเดินกลับบ้านตามวิสัย ในขณะที่กำลังรอรถไฟฟ้า สายตากลับไปเจอแผงลดราคาเกมจีบหนุ่มที่เพื่อนสาวชวนให้เล่นพอดิบพอดี
ก็...ลองดูไม่น่าจะเสียหายอะไร
คาโยะควักเงินในมือจ่ายให้กับพนักงาน การเดินทางกลับบ้านเป็นไปอย่างปกติ จนกระทั่งเธอก้าวเข้าห้อง จัดการการบ้านให้เรียบร้อย ก่อนจะรับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังว่าง...
หากเป็นเมื่อก่อน เธอคงจะฝึกซ้อมโคโตะอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่...
นัยน์ตาสีห้วงสมุทรเสไปมองเครื่องดนตรีที่นอนแน่นิ่งอยู่มุมห้อง เธอหลับตาลงเพื่อกำจัดความฟุ้งซ่านในใจ ก่อนหยิบ PSP สีหวานข้างตัวมากดเพื่อเริ่มเล่นเกม "เอาว่ะ..."
เนื้อแท้เธอก็เป็นแบบนี้ ไม่ได้ยิ้มสวยรวยน้ำใจแบบที่ใครๆ จะคาดคิด
คาโยะหรี่ตาลงอย่างไม่ชอบใจนักเมื่อบุคลิกของนางเอกเกมช่างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน ผู้ผลิตเกมไม่รู้รึไงว่าเดี๋ยวนี้ผู้ชายเขาจะชอบผู้หญิงจืดชืดแบบนี้ซะที่ไหน ไร้เดียงสา? อ่อนโยน? ใจดี? รักเด็ก? บ้าไปแล้ว ยัยนางเอกนี่คงจะบ้าแน่ๆ ที่ยื่นหน้าไปให้นางร้ายตบทั้งๆ ที่แม่นางร้ายนั่นอยู่เฉยๆ แท้ๆ
เธอพยายามข่มความไม่พอใจลงแล้วก้มหน้าก้มตาเล่นเกมต่อ จนกระทั่งจบรูทที่ง่ายที่สุดไปหนึ่งรูท (แน่นอนว่าได้มาจากข้อมูลของเพื่อน) เนื้อเรื่องพิเศษของนางร้ายจึงปลดล็อค
คาโยะคิดว่าตัวละครของนางร้ายแลดูมีมิติมากกว่านางเอกเสียอีก
คิดแล้วเธอก็พักสายตาเพียงครู่แล้วนอนคิดเงียบๆ... นางเอกนี่มันยังไงกันนะ บรรยายมาเสียดิบดีว่าจิตใจงดงามนู่นนี่นั่น แต่กลับไปแย่งคู่หมั้นของนางร้ายซะงั้น ย้อนแย้งชะมัดเลยแฮะ...
อยากรู้แล้วสิว่าคุณนางเอกจะย้อนแย้งได้อีกแค่ไหน
คาโยะหัวเราะให้กับความคิดของตัวเองเบาๆ ก่อนหยิบเครื่องเล่นขึ้นมาอีกครั้ง เล่นมาราธอนจนถึงเที่ยงคืน วันนี้พ่อของเธอก็ไม่กลับบ้านอีกแล้ว ตั้งแต่แม่เสียไป พ่อก็โหมงานหนักขึ้นจนเธอนึกเป็นห่วง...
แต่ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ...รีบเคลียร์บทนี้ให้จบก่อนดีกว่านะ
["ผมไม่จะอยู่ข้างคุณในวันที่คุณไม่เหลือใครหรอกนะ"]
ประโยคที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งของหนึ่งในพระเอกเกมทำให้เด็กสาวเอียงคอน้อยๆ พระเอกเขามีแต่หยอดใส่นางเอกกัน หมอนี่จะมาไม้ไหนล่ะเนี่ย?
["เพราะวันที่คุณยังมีคนๆ สุดท้ายอยู่ข้างกาย...คนๆ นั้นจะต้องเป็นผม"]
อ้อ เก็ท
คาโยะหัวเราะเยียบเย็นในลำคอ ขณะกดคำตอบ ["ฉันรักคุณนะคะ"] แล้วยิ้มมุมปาก ฉากต่อมาที่เห็นคือนางร้ายของรูทถูกประหารเพียงเพราะไม่ใช่ผู้หญิงที่พระเอกเลือก
นั่นทำให้เธอได้รู้...ถ้าเธอไม่ใช่ 'นางเอก' ก็คงจะไม่มีคำหวาน สัญญารักมั่น หรือแม้กระทั่งรักแท้เหมือนในนิยายไปได้หรอก
Age 14 || 初恋 (รักแรก)
มุเทกิ คาโยะ กลายเป็นสาวโอตาคุโดยสมบูรณ์
แน่นอนว่าเรื่องนั้นไม่ได้เปิดเผยสู่สาธารณชนแต่อย่างใด แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นความลับสุดยอดขนาดนั้นก็ตามที
ไม่ใช่คนทั้งโลกหรอกนะ ที่จะไม่เหยียดโอตาคุ เพราะงั้น ลึกๆ แล้วเธอก็ไม่ได้อยากป่าวประกาศให้โลกรู้เสียหน่อย ดีแค่ไหนแล้วที่เธอยังไม่มีศัตรูตั้งแต่เข้าโรงเรียนมา
คาโยะที่กำลังนั่งอืดอยู่ในห้องเรียนก่อนอาจารย์จะเข้าห้องอ้าปากหาววอดอย่างไม่ชอบใจ ทำไมอากาศฤดูใบไม้ร่วงน่านอนขนาดนี้ คิดแล้วก็ไถลตัวไปบนโต๊ะเตรียมงีบหลังจากเล่นเกมจนเกือบโต้รุ่งเมื่อคืน
"มุเทกิซัง"
เสียงนุ่มทุ้มที่เรียกหาทำให้สาวเจ้าหันไปมองแล้วเลิกคิ้ว คาดว่าตอนนี้ตาของเธอคงจะฉ่ำเยิ้มด้วยความง่วงแน่ๆ แต่ช่างมันประไร การผูกมิตรกับคนรอบข้างคงจะสำคัญกว่า...น่ะนะ "คะ?"
เขาคือหนุ่มฮอทของปีสองนี่เอง
"คือว่า..ตอนเย็นวันนี้..." ท่าทางอึกอักน้อยๆ ของเขาราวกับจะทำให้เธออยากลุ้นว่าเขาจะพูดอะไร แต่แน่นอนว่าคาโยะไม่ได้มีอาการอะไรทั้งสิ้น ที่อยากรู้เหลือเกินก็คงจะเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นรอบด้านเสียมากกว่า "ช่วยไปรอผมที่ห้องศิลปะได้มั้ยครับ?"
ห้องศิลปะ...?
เฮ้ นี่มันสถานที่นัดพบอันดับต้นๆ ของพวกนางเอกโอโตเมะหรือโชโจเลยนี่นา
"ค่ะ" แต่ทำไงได้ ในเมื่อภาพลักษณ์ของเธอคือสาวสวยรวยน้ำใจ การปฏิเสธแบบไม่ไว้หน้ากับเขาคงจะทำให้เธอเดือดร้อนกับพวกแฟนคลับมากพอดู คิดแล้วก็หัวเราะ หลังจากนี้ ไม่ว่าเธอจะตกลงเขาหรือเปล่า ชีวิตในโรงเรียนของเธอก็คงจะไม่สงบสุขอีกแล้วแหละ
เวลาเรียนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เสียงกริ่งเลิกเรียนดังระงมทั่วทั้งอาคาร
คาโยะรีบจัดการข้าวของสัมภาระให้เรียบร้อยก่อนสาวเท้าเข้าไปในห้องศิลปะ แสงสีแดงส้มที่ทอดจางมาจากหน้าต่างกระทบเข้ากับภาพสีน้ำตรงหน้า มันคือภาพมือของคนสองคนกำลังเกี่ยวก้อยกัน...ราวกับจะแสดงให้เห็นว่าจะรักมั่นตลอดไป
"มุเทกิซัง!"
ครืด!
ประตูห้องถูกเลื่อนออกด้วยฝีมือของคนนัดพบ คาโยะที่ตกอยู่ในภวังค์เสตาไปมองเจ้าตัวเล็กน้อย ก่อนแสร้งยิ้มหวานให้กับหนุ่มฮอทของโรงเรียน "ซานาดะซัง"
เขาคือซานาดะ ยูจิโร่ เด็กหนุ่มผู้ใจดีที่มีเสียงนุ่มทุ้มเป็นเอกลักษณ์และบุคลิกขี้เกรงใจนั่นเอง
ซานาดะก้าวเท้าขึ้นมาข้างหน้าของเธอ ฉีกยิ้มสดใสที่สุดเท่าที่คัวเองจะทำได้แล้วกล่าวเสียงสั่น "ต่อจากนี้...ช่วยทำข้าวกล่องให้ผมทุกวันด้วยเถอะนะครับ!"
คาโยะถึงกับเอ๋อไปชั่วขณะ...เป็นคำสารภาพรักที่หลุดโลกซะจริง
เด็กสาวระบายยิ้มน้อยๆ ให้กับผู้รอคำตอบ "ไม่เอาหรอกค่ะ...แบบนั้นมันยุ่งยากจะตาย"
กึก
เธอสาบานว่าพูดความจริง การตื่นเช้ามาทำข้าวกล่องให้ตัวเองทุกวันมันเหนื่อยจะตายชัก แล้วจะต้องมาทำให้คนอื่นอีก...ให้ตาย ไม่เอาด้วยหรอก "แต่ว่า..."
ใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าเหมือนจะใจชื่นขึ้นมาชั่วขณะ
"หลังจากนี้ ฝากตัวด้วยนะคะ!"
เขาก็ไม่เลวเท่าไหร่หรอก...ซานาดะคุงน่ะ
Age 15 || さようなら (ลาก่อน)
ความสัมพันธ์ของเธอกับยูจิโร่น่ะ เป็นไปได้ด้วยดีเชียวแหละ
คาโยะไม่ปฏิเสธว่าเธอเป็นคนที่ดูคนเก่งมาก เพราะงั้น การจะวิเคราะห์นิสัยของคนใกล้ชิดอย่างยูจิโร่น่ะ ไม่ยากเท่าไหร่หรอก เธอถึงได้รู้ว่าเขาน่ะเป็นคนที่จริงใจกับเธอมากๆ คนหนึ่ง จนเธอเริ่มจะแพ้ความใจดีของเขาซะแล้ว
ตั้งแต่ผูกเชือกรองเท้าผ้าใบให้ในคาบพละ เช็ดปากให้ตอนกินข้าวกลางวัน ซื้อขนมปังมาให้ในวันที่เธอตื่นสายจนไม่ได้ทำข้าวกล่อง --- เขาน่ะ...เทคแคร์เธอดีมากๆ เลยแหละ
เพราะงั้น เขาจึงเป็นเพียงไม่กี่คนที่เธอส่งยิ้มจากใจให้
"คาโยะ"
และสรรพนามระหว่างเขากับเธอก็กลายเป็น 'คาโยะ' กับ 'ยูคุง' ไปเรียบร้อยแล้ว
"อะไรหรอ ยูคุง" เด็กสาวฉีกยิ้มให้ในขณะที่กำลังเดินไปโรงเรียนด้วยกัน สองมือกอบกุมกันอย่างอบอุ่น เขามารับเธอที่บ้านทุกวันจนจะกลายเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว ทั้งๆ บ้านอยู่คนละทางกันแท้ๆ
"เห็นว่าค่ายโปรดของคาโยะมีเกมใหม่ออกมาแล้วน่ะ" การที่เขาพูดอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ ยูจิโร่เป็นคนแรกที่รู้ว่าเธอชอบเล่นเกมมากแค่ไหน เขาไม่ได้รังเกียจเธอ ซึ่งนั่นทำให้เธอยิ่งประทับใจเขายิ่งเข้าไปอีก "ไปซื้อกันมั้ย?"
"ฮื่อ! ขอบใจนะยูคุง!!"
บางทีเธอก็แอบคิดว่าการมีเขาอยู่ข้างๆ คงจะเป็นหนึ่งในความสุขอันดับหนึ่งของเธอไปแล้วแหละ
"คาโยะ ระวัง!!!"
ด้วยบทสนทนาที่มีระหว่างการข้ามถนน ทำให้เธอลืมไปเสียสนิทว่าไฟข้ามถนนกำลังกะพริบ ดวงตากลมโตสีไพลินเบิกกว้างขณะที่ยูจิโร่ผลักเธอออกไปจากรัศมีของรถที่กำลังพุ่งมา รอยยิ้มของเขาทำให้ใจของเธอวูบโหวงอย่างน่าประหลาด
"ลาก่อน..." เขายังคงมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนสำหรับเธอเสมอ...แม้ว่ากำลังจะจากไปก็ตามที "ผมน่ะ..รักคาโยะนะ"
"ยู...ยูคุง!!!!!?"
โครม!!!!!!
เขา...เป็นคนสำคัญคนที่สอง ที่หายไปต่อหน้าต่อตาของเธอ
Age 16 || 絶望 (ความสิ้นหวัง)
หลังจากที่ยูจิโร่จากไป...คาโยะเริ่มที่จะวางแผนชีวิตของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
ไม่ใช่ว่าไม่เศร้า ไม่ใช่ว่าไม่ร้องไห้ แค่ร้องไห้จนเหนื่อยแล้วต่างหาก เธอเป็นคนเฉยชาแต่ไม่ได้ไร้หัวใจ...ยิ่งกับคนที่เธอรัก และผูกพันอย่างเขา จะให้กลั้นน้ำตายังไงไหวล่ะ...
"พ่อคะ"
เธอเอ่ยขึ้นกลางโต๊ะอาหาร นานๆ ครั้งพ่อถึงจะมากินข้าวกับเธอ กว่าจะหาโอกาสคุยด้วยนั้นยากยิ่งกว่าอะไร...เขากับเธอเริ่มห่างเหินกันตั้งแต่ตอนที่แม่เสีย "ตอนขึ้นม.ปลาย...คาโยะขอย้ายไปอยู่คนเดียวได้มั้ยคะ?"
คาโยะถอดแบบทั้งสีผมและสีตามาจากพ่อ แต่โครงหน้ากลับได้มาจากแม่อย่างไม่ผิดเพี้ยน พ่อรักแม่แค่ไหน เธอรู้ดี เะราะงั้น เขาถึงโหมงานหนักเพื่อหาเหตุผลให้ห่างจากเธอที่ทพมห้เขานึกถึงคนรัก
คนเป็นพ่อถอดสายตาจากตะเกียบแล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้าลูกสาวเพียงคนเดียว "ได้สิ"
และแล้ว ทุกอย่างก็ถูกปกคลุมด้วยความเงียบอีกครั้ง
วันเวลาผ่านไปเร็วมากจนเธอถึงกับตกตะลึง
คาโยะตัดสินใจเรียนต่อที่โรงเรียนม.ปลายแห่งหนึ่ง ย้ายข้าวของตัวเองไปที่คอนโดที่พ่อซื้อให้ สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในห้องเดิมของเธอคือโคโตะตัวนั้น...
เพราะเป็นสาวโอตาคุ แน่นอนอยู่แล้วว่าในห้องของเธอต้องมีฟิคเกอร์และโปสเตอร์มากมายก่ายกอง คาโยะจึงขอเคลื่อนย้ายสัมภาระด้วยตัวเองโดยไม่ให้ใครช่วย
หลังจากนั้น เธอก็ติดเกมหนักขึ้นเป็นเท่าตัว
ไม่ต้องมีคนดูแล ก็เท่ากับว่าเธอเป็นอิสระ และเมื่อเป็นอิสระ เธอก็เริ่มออกนอกลู่นอกทาง ถึงกับหยุดเรียนเป็นว่าเล่นและไปโรงเรียนเพียง 2 วันต่อสัปดาห์ ด้วยการจับฉลากวันในตอนสุดสัปดาห์ว่าจะไปวันไหน
คาโยะไม่ได้มีภาพลักษณ์ยิ้มสวยรวยน้ำใจเหมือนแต่ก่อน สิ่งที่เธอแสดงต่อคนรอบข้างมีเพียงความเฉยชา
เด็กสาวเป็นคนหัวดีพอสมควร เธอมักจะเล่นเกมทุกวันยกเว้นวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่เธอจะต้องทบทวนบทเรียนทั้งหมดทั้งที่เรียนและไม่ได้เรียนทั้งวัน แต่ถึงจะขยันทบทวนยังไง ก็ต้องมีส่วนที่ไม่เข้าใจอยู่ดี เพราะงั้น ผลการเรียนของเธอจึงอยู่ในทางปานกลางค่อนไปทางแย่ แต่ก็ไม่ถึงขั้นสอบตก
เธอพยายามโหมเกมอย่างหนักเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่านเกี่ยวกับอดีต เชื่อสิว่าแค่ข่มตาหลับยังเป็นสิ่งที่ยากสำหรับเธอ
ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้คาโยะได้รู้...
ถ้าไม่ใช่นางเอก ก็ไม่มีวันได้รับรักแท้หรืออะไรพรรค์นั้นหรอก
"ตัวประกอบอย่างฉันน่ะ..."
ความคิดเห็น