ตอนที่ 8 : 05
05
ผู้คนยังคงตกตะลึงกับข่าววิลเลินปล้นธนาคารแล้วถูกฆ่าตายโดยว่าที่ฮีโร่อันดับหนึ่งขวัญใจประชาชนอย่างเดกุอยู่ บ้างก็สงสาร บ้างก็หวาดกลัวการกระทำนั้น
งานศพของคุณนายมิโดริยะถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆและส่วนตัว มีแค่ญาติและคนรู้จักไม่กี่คนของผู้ตายเท่านั้นที่มางาน แน่นอนว่ารวมถึงบ้านบาคุโกด้วย
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ทุกคนทยอยกับลากลับบ้าน เหลือเพียงแค่เจ้าภาพมิโดริยะ บาคุโกและคิริชิมะ
“คิริชิมะ” บาคุโกเรียกชายหนุ่มผมแดงที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“มีอะไรเหรอ?”
“นายกลับไปก่อน”
“เอ๋? ทำไมล่ะ?” คิริชิมะเหลือบมองมิโดริยะที่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่หน้าป้ายชื่อและแท่นวางรูปของผู้เป็นมารดา เขากับบาคุโกควรจะอยู่เป็นเพื่อนอีกฝ่ายก็ยังดีไม่ใช่เหรอ?
“ฉันจะอยู่ต่อเอง นายกลับไปก่อนเถอะ”
“แต่...”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันกลับเอง”
คิริชิมะกัดริมฝีปาก เขาไม่อยากปล่อยให้บาคุโกไปไหนมาไหนเองคนเดียวอีกแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ชายหนุ่มต้องปฎิเสธการให้สัมภาษณ์และงานถ่ายแบบโฆษณาเล็กๆงานหนึ่งก่อนจะหยุดพักยาวไปจนถึงปีใหม่เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและลำตัว
เขาเหลือบมองมิโดริยะที่นั่งนิ่งราวกับรูปปั้นอีกครั้ง จากนั้นหันสายตากลับมามองบาคุโกอย่างเงียบๆ...
...จริงๆก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้...
เขาควรให้เวลาเพื่อนสมัยเด็กได้ปลอบใจกัน...ใช่ไหมล่ะ?
แม้จะรู้สึกอึดอัดไม่ชอบใจ แต่คิริชิมะก็อดทน...
“งั้นพรุ่งนี้เช้าฉันจะรีบมารับ” เขาบอกบาคุโกไปแบบนั้น “อย่าออกไปไหนซะก่อนล่ะ”
“เออ รู้แล้วน่าแม่” บาคุโกรับปาก แต่ไม่วายจิกกัดอีกฝ่าย
คิริชิมะได้แต่ยิ้มแหย ก่อนจะออกจากบ้านมิโดริยะมา เขาตัดสินใจแล้วว่าคืนนี้เขาจะหาห้องเช่ารายวันแบบถูกๆหรือไม่ก็โรงแรมแคปซูลแถวใกล้ๆนั้นนอนค้างเสียเลยเพื่อที่จะได้รีบตื่นมาดักรอก่อนที่เจ้านายตัวแสบของเขาจะทันได้ชิ่งหนีไปไหนคนเดียวได้อีก
เมื่ออยู่กันตามลำพัง บาคุโกก็นั่งคุกเข่าลงข้างๆมิโดริยะ เขามองคุณนายมิโดริยะที่ส่งยิ้มมาให้จากในกรอบรูปบนแท่นวางรูป
“...ขอโทษ” บาคุโกเริ่ม “ที่ผม...ปกป้องคุณน้าไม่ได้”
ดวงตาที่เลื่อนลอยของมิโดริยะค่อยๆเบนไปมองคนข้างๆ
ชายหนุ่มผมบลอนด์กำหมัดบนตักแน่นจนมือสั่น เขาโมโหตัวเองที่สุดที่อยู่ในเหตุการณ์แท้ๆ แต่กลับปกป้องใครไว้ไม่ได้เลย ไม่ได้แม้กระทั่งตัวเอง...
เกลียด...เกลียดความอ่อนแอนี้ที่สุด...
เขาอยากได้พลัง...
พลังที่ปกป้องผู้คน...
พลังอะไรก็ได้...
“...คัตจัง”
เขาไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฝ่ามือสากของเดกุกำลังกุมมือที่กำลังสั่นระริกของเขาอยู่
“คัตจังไม่ได้ทำอะไรผิด ดังนั้น...อย่าร้องไห้เลยนะ”
บาคุโกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังร้องไห้ “ฉันไม่...”
มือสากของคนข้างๆเลื่อนขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้เจ้าของดวงตาสีทับทิมอย่างช้าๆ
บาคุโกตั้งใจจะปัดมือนั่นออก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น
มิโดริยะใช้มือข้างที่ว่างจับมือที่จะปัดตนออกของคนตรงหน้าไว้แน่น ส่วนมือข้างที่เช็ดน้ำตาก็เลื่อนมาแตะที่พลาสเตอร์ยาและผ้าก๊อตซ์แผ่นใหญ่ที่แปะอยู่บนแก้มซ้ายนั่น พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนหน้าผากพวกเขาแตะกัน
ดวงตาสีเขียวเข้มกับดวงตาสีทับทิมสบกันอยู่เพียงไม่นานก็เป็นฝ่ายบาคุโกที่ร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
เราผิดเองที่อ่อนแอ...
ไร้ประโยชน์ที่สุด!
“ฉันขอโทษ...เดกุ...” เขาสะอื้น “ถ้า...ถ้าเพียงแค่ฉันมีพลัง...ม...แม่ของแกก็คง...”
มิโดริยะขยับกายดึงคนข้างๆเข้ามาสวมกอดไว้ทันที ให้อีกฝ่ายเอาคางเกยบนบ่าของตน มือลูบกลุ่มผมสีบลอนด์นั่นเบาๆ “ไม่เป็นไรหรอกคัตจัง ไม่เป็นไร”
“ฉันแค่ต้องการพลัง...ปัดโธ่เว้ย!” ร่างในอ้อมกอดเขาสะอื้นหนักขึ้น เสียงดังขึ้น “แม่งเอ๊ย! บัดซบ!”
“ผมเอง...ก็อยากให้พลังแก่คัตจัง” มิโดริยะพึมพำท่ามกลางเสียงร้องไห้อย่างเจ็บใจของเพื่อนสมัยเด็กที่เขารักมาตลอด
เราอยากแบ่งพลังให้คัตจัง...
อยากให้จริงๆ...อยากแบ่งให้...
มิโดริยะคิด ขณะหลับตาลงและทาบริมฝีปากตนเองลงบนริมฝีปากของคนในอ้อมกอด...
++++
“ไม่ยักกะรู้ว่าแกสูบบุหรี่ด้วย”
“อ๊ะ ขอโทษที” มิโดริยะรีบใช้มือดับบุหรี่ที่กำลังยืนสูบอยู่ที่ระเบียงทันทีเมื่อจู่ๆคนที่คิดว่าหลับไปแล้วดันตื่นมากลางดึกแล้วเห็นเข้าเสียนี่ “ผมเครียดนิดหน่อยน่ะ”
บาคุโกนอนตะแคงมองแผ่นหลังของคนที่ยืนอยู่ตรงระเบียงอย่างเงียบๆอย่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ย “ฉันกลับดีกว่า”
“เอ๋? เดี๋ยวสิ” มิโดริยะรีบหันกลับไปทันเห็นร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายกำลังลุกออกจากเตียง “ผมนึกว่าคัตจังจะค้าง...”
“ก็ค้างแล้วนี่ไง แล้วฉันก็ตื่นแล้ว ไม่ง่วงแล้ว” บาคุโกหยิบผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่
“แต่นี่มันเพิ่งจะตี3เองนะ”
“เช้าๆก็ดี คนไม่เยอะไง” เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มผมบลอนด์ก็หยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์ที่คุ้นเคย รออยู่ไม่นานก็ได้ยินเสียงสะลืมสะลือรับสายตอบกลับมา “คิริชิมะ แกอยู่ไหน? ฉันจะกลับแล้ว...งั้นเรอะ รออยู่นั่นแหละ เดี๋ยวฉันไปหาเอง...เออ รออยู่นั่นแหละ ตอนนี้ไม่มีใครตื่นมาดักฉันหรอกน่า แค่นี้นะ”
เขากดวางสาย เป็นจังหวะเดียวกับที่มิโดริยะเดินกลับเข้ามาในห้องพอดี เขารอให้อีกฝ่ายคุยโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อยก่อนจะเดินไปโอบกอดจากด้านหลัง “เดี๋ยวผมเดินไปเป็นเพื่อนนะ”
“ไม่ต้อง” บาคุโกดันชายหนุ่มผมสีเขียวออก “แกพยายามเรื่องของแกเถอะ”
“อ่า...นั่นสินะ” มิโดริยะยิ้มแห้ง เรื่องที่เขาจะต้องทำต่อจากนี้ไปคือการให้ปากคำกับตำรวจ อาจจะต้องขึ้นศาลและรอดูกระแสตอบรับวิพากวิจารณ์จากประชาชน
แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว...
“คัตจัง”
“อะไรอีก?” บาคุโกที่กำลังจะเปิดประตูหันมา
“คือ...” เขารู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาอ้อน แต่ก็อดไม่ได้จริงๆ “ขอกำลังใจหน่อยสิ”
บาคุโกพ่นลมทางจมูก “ไม่ล่ะ”
“โธ่...”
“รีบๆสะสางอะไรๆให้เสร็จแล้วกลับไปที่คอนโดฯซะ จะทำคัตสึด้งให้ก็แล้วกัน” บาคุโกกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะออกจากห้องไป...
TBC...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เป็นกำลังใจให้นะคะ^_^
ขอบคุณจ้า