ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กินรีล่า...รัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอน 2 - คู่พันธะสัญญาผูกรักจองเวร 2 (รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 67



    ตอน 2 คู่พันธะสัญญาผูกรักจองเวร 2

     


    เมื่อต้องถูกสั่นประสาทให้เผชิญกับความตื่นตระหนกหลายต่อหลายครั้ง


    จนถึงที่สุดแล้ว ความหวาดกลัวที่ตฤณเคยมี ก็พลิกกลายเป็นความบ้าดีเดือดได้ในคราวนี้!

    มึงมา! เดี่ยวกูเข้าบ้านก่อนนะ แล้วจะไปนั่งจิบไวน์ตรงหน้าต่าง รอดูมึงมาหลอกกูให้เต็มตาเลยนะ อีผีหัวปูด!

     

    นิ้วมือรีบกดปุ่มแผงทำงานของเก้าอี้วิลแชร์ไฟฟ้า เปิดไฟฉายส่องทางเบื้องหน้า ที่ในเวลานี้ แทบจะมองไม่เห็นสิ่งใด นอกจากเศษดินกับเศษใบไม้แห้งปลิวว่อนกลางอากาศ


    ตฤณหมุนจอยสติ๊กบังคับหันล้อรถเข็นมุ่งตรงทางเข้าประตูไม้ใหญ่ของตัวบ้านฉับไว ก็เป็นนาทีเดียวกับทั่วสวนหย่อมใหญ่ ต้องสะเทือนดังกึกก้องจากเสียงโหยหวนหวีดแหลมสูง เกินกว่าที่เสียงของมนุษย์จะสูงเสียดถึงได้!


    หัวใจตฤณเต้นระส่ำ นั่งลำตัวแข็งเกร็งบนรถวีลแชร์ที่กำลังวิ่งแล่นเร็วฉิว เพราะยิ่งสองล้อพาเคลื่อนใกล้จะถึงบานประตูไม้ใหญ่ที่เปิดกว้างรออยู่เท่าไร!

    เสียงแหบหวีดแหลมก็ยิ่งทวีความดัง ราวกับมันได้ตามติดไล่หลังใกล้เข้ามาทุกที!

    ห่าเอ๊ย เดี๋ยวพรุ่งนี้นะ กูจะตามอาจารย์มาจัดการจับมึงใส่ไห! แล้วเอาไปโยนทิ้งในทะเลอ่าวไทย! ไม่ต้องได้ผุดได้เกิดเลยมึง!

     

    ในวินาทีนี้ ตฤณไม่สนแล้ว จะมีใครในบ้านเชื่อในสิ่งเร้นลับที่ตัวเขาเผชิญเจออยู่หรือไม่!?

    สิ่งเดียวในใจที่มุ่งมั่นจะทำนั่นคือ การตามหาสำนักอาจารย์จอมขมังเวทย์ ขอให้มาช่วยจัดการสิ่งที่คอยตามรังควานตัวนี้ให้สิ้นซากไปสักที!

     

    ในทันใดนั้น ระหว่างที่ตฤณคิดวางแผนจัดการกับสิ่งเร้นลับขั้นเด็ดขาด สองล้อรถเข็นที่เคยวิ่งทะยานบุกฝ่ากลางลมพายุหมุนแรง กลับสะดุดขัดข้องติดๆ ดับๆ หลายครั้ง

    เพียงครู่เดียว รถเข็นของตฤณก็เหมือนถูกแรงกระชากลากกลับถอยหลัง อีกทั้งสองล้อยังเอียงปัดหมุนเหวี่ยงเด้งตัวตฤณหลุดกระเด็นจากเบาะรถวีลแชร์ ร่างลอยพุ่งสูงไปกลางอากาศ ก่อนจะร่วงลงสู่พื้นด้านล่างด้วยความเร็ว และเหลืออีกเพียงนิด ศีรษะของตฤณจะดิ่งกระแทกฟาดลงพื้นสนามหญ้า

    ชั่วเสี้ยวนาทีแห่งความเป็นความตายนั้น ได้ปรากฏหนึ่งก้านขนนกขาวเรียวใหญ่พุ่งลอยพรวดแตะสัมผัสเบาบนกลางศีรษะของตฤณฉับไว!


    อัศจรรย์ ร่างที่กำลังจะดิ่งพสุธาได้พลิกหงายกลับทันตา พร้อมลอยตัวค้างนิ่งชั่วครู่ใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ ลงสู่พื้นดินอย่างนุ่มนวล ไร้การบาดเจ็บใดๆ


     

    ใคร ใครหน้าไหน มันกล้าบังอาจท้าทายกู!!

    เสียงแหบลึกลับแผดตวาดดุดันชวนขนลุก ส่งผลให้คนที่เพิ่งจะหย่อนสะโพกลงแตะพื้นดินอย่างปลอดภัย มีอันต้องตกใจสะดุ้งสุดตัว


    ชั่วอึดใจต่อมา พลันเกิดเสียงน้ำสาดแตกกระจายดังตู๊มใหญ่ภายในสระว่ายน้ำ ก็ยิ่งเขย่าหัวใจของตฤณให้เต้นสั่นคลอน ด้วยไม่รู้จะเกิดสิ่งใดกับตัวเองต่อไป


    เป็นหลายนาทีที่เสียงมวลน้ำยังคงสาดซัดกระแทกขอบสระแรงดังไม่หยุด จนสุดท้าย เป็นตฤณเองที่ไม่อาจจะรอให้เสียงนั้นเงียบหายไปเองได้ เขากลั้นใจรวบรวมความกล้าที่เหลืออยู่ หันหน้าเร็วขวับไปทางสระว่ายน้ำใหญ่ของบ้าน

    และในทันทีที่สายตามองตรงไปเห็นต้นตอของเสียงก่อกวนในสระ สติสัมปชัญญะของตฤณก็ถึงกับขาดผึง สองตาเบิกโตค้าง จ้องสองเท้าขนาดใหญ่เกินมนุษย์ มีเนื้อหนังไหม้เกรียมแห้งแนบติดกระดูก กำลังจะยกเท้าข้างหนึ่ง ก้าวข้ามขอบสระออกมา


    ผี! เปรต! มึงเป็นผีเปรต! โว๊ย คุณแม่! ยามจั่น! ช่วยตฤณด้วย!!”

    ตฤณตะเบ็งร้องสุดเสียง ร่างสั่นกระตุกจากความหวาดกลัวจับใจ ดวงตาเบิกค้างนิ่ง ได้แต่นั่งมองสองเท้าใหญ่เท่าใบลาน กระทืบเหยียบลงพื้นดินจนสั่นสะเทือน พร้อมทั้งกำลังเดินมุ่งมาทางตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูก!


    ยิ่งอมนุษย์เดินคืบเข้ามาใกล้ตัวเท่าใด ตฤณยิ่งเห็นเนื้อหนังไหม้เกรียมนั้น ยังเต็มไปด้วยแผลพุพองติดคราบน้ำเหลืองน้ำหนองเกรอะกรังจนไม่เหลือเนื้อดีส่วนใดบนคู่เท้าใหญ่ยักษ์!

     

    ในเวลานี้ ตฤณไม่หลงเหลือความกล้าอันใดทั้งสิ้น ไม่คิดแม้แต่จะเหลือบตามองเหนือสองท่อนขายาวสูงชะลูดไปถึงส่วนท่อนบนของร่างใหญ่โต ตฤณกลั้นใจกัดฟันทนข่มความเจ็บร้าวตรงกระดูกท่อนขาขวาติดเฝือก รีบพลิกคว่ำตัว กางศอกใช้แรงกำลังแขน คลานตะเกียกตะกายลากพาตัว หนีเอาชีวิตรอดสุดกำลัง!


    คุณแม่ช่วยตฤณด้วย! ในบ้านเรามี..ผี..บ้านเรามี..เปรต!!”

     

    ถึงจะได้ยินเสียงแหบขู่คำรามแหลมสูงดังกระชั้นชิดไล่จ่อหลังตามติดอย่างไม่กล้าหันกลับไปมอง แต่ในระหว่างทางที่กระเสือกกระสนคลานศอกหนีเอาชีวิตรอดกลางลมพายุพัดแรงกระหน่ำซ้ำ ตฤณก็ไม่รู้ตัวเองนั้น ได้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ถึงได้คลานพรวดเพียงไม่กี่ศอก ก็เกือบจะถึงบานประตูไม้คู่ใหญ่ที่เปิดกว้างรอต้อนรับเข้าสู่ตัวบ้านในอีกไม่ไกล


    แต่แล้วในนาทีต่อมา ตฤณก็ต้องร้องลั่นด้วยความเจ็บแสนสาหัส ความปวดแล่นแปลบลึกเข้าถึงท่อนกระดูกร้าวที่ถูกห่อหุ้มอยู่ภายใต้เฝือกพลาสติก!


    มึง..ไอ้ผี..เหี้ย! ช่วยด้วยท่านศาลพระภูมิเจ้าที่! ศาลตายายช่วยหนูด้วยจ้า! มีผีเปรตเข้ามาทำร้ายคนในบ้านเรา!”


    ฝ่าเท้าซ้ายใหญ่ของอมนุษย์ยกกระทืบเหยียบซ้ำตรงท่อนขาขวาอย่างหนักรุนแรงกว่าครั้งแรก ทำให้เฝือกพลาสติกที่หุ้มท่อนขาบาดเจ็บแตกกระเด็นเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยคาฝ่าเท้ามหึมาทันที!


    ตฤณหมดที่พึ่งพิง ในใจระลึกแค่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพกราบไหว้เป็นประจำทุกเช้าค่ำ พร้อมตั้งจิตอธิษฐานถึงสามศาลภายในบ้าน ขอให้ช่วยปัดเป่าเภทภัยในครั้งนี้!

     


    อีกด้านนึงของฟากฝั่งถนนตรงข้ามบ้านตฤณ เดินลึกเข้าไปในผืนที่ดินรกร้างติดริมคลองเล็กเต็มไปด้วยป่าหญ้าขึ้นสูงเทียมอก ยังมีศาลเพียงตาไม้เก่าใกล้ผุพัง ต้องใช้ไม้ท่อนยาวค้ำยันหลักศาลไว้ เพื่อไม่ให้เอียงเอนล้มครืนไป


    ศาลเก่าแก่แห่งนี้ ยังเป็นสถานที่สิงสถิตของสัมภเวสีผู้ตั้งตนเป็นเจ้าแม่คุมถิ่นนาม สะรานุช พร้อมด้วยบริวารสองลูกสมุน หนึ่งผีพรายหญิงชื่อ นางนาบ กับกุมารทองรุ่นแตกหนุ่มชื่อ ไอ้มั่น


    บัดนี้ ผู้สิงสถิตทั้งสามตน ได้ยืนเกาะรั้วระเบียงอยู่ในท่าเดียวกันบนศาล แอบใช้ดวงจิตเฝ้าติดตามสถานการณ์ของบ้านฝั่งตรงข้าม ไม่ให้คลาดสายตามาแต่เริ่มต้น  


    เมื่อ ผี เห็น ผี!

    ย่อมจะพลาด..เรื่องของผีใกล้บ้านไปได้อย่างไร!


    เป็นหนูนะ จะจัดพวกผีเร่ร่อนมาเลย เอามาถล่มทีเดียว เอาให้ไอ้ผีเปรตตัวนั้น มันยับไปเลยค่ะแม่!

    น้ำเสียงบีบเล็กของกุมารทองมั่น ผู้ผัดแป้งขาววอกบนหน้า ทาแก้มกับปากแดงฉานช่ำ พูดอวดตนที่มีเพื่อนผีเร่ร่อนนับฝูง ต้องการเอาใจเจ้าแม่สะรานุช ผู้ตั้งตนยึดถิ่นในละแวกนี้

     

    เดี่ยวกูจะเอาน้ำสาดให้นะ  มาทำเล่นศักดาอภินิหารกันในถิ่นกู!

    เจ้าแม่สะรานุชหน้าบึ้งตึง ละมือจากไม้รั้วระเบียงด้วยท่าทางกระสับกระส่ายอยู่ไม่เป็นสุข สองแขนยกขึ้นกอดอกตน  นัยน์ตาเปล่งประกายสีเขียวเรืองแสงในลูกตาโปนโต จิตจับจ้องเพียงร่างนางกินรี ผู้ทำการร่ายมนต์บดบังกาย และเหยียบยืนบนหลังคาบ้านเงียบเชียบ!  

     


    นางนาบผีพรายหญิง ล่วงรู้ถึงนิสัยใจคอของเจ้าแม่ตั้งตัวคุมถิ่นเป็นอย่างดี จึงกระโดดลงจากระเบียงศาล ลงมายืนเอามือเท้าบั้นเอว พูดประจบเอาใจนายด้วยอีกคน

    เดี่ยวจัดการให้! ไม่รู้จักพวกกูซะแล้ว!”

     

    เจ้าแม่สะรานุชสะบัดชายผ้าสไบสีดำผืนเก่าขาดวิ่น เดินกระแทกส้นเท้ากร้านแตก ตรงไปนั่งบนตั่งไม้ยาวเก่า


    ไม่ต้อง กูจะรอดูพวกมันไปก่อน แต่ถ้าอีกินรีตัวนั้น มันมาทำอิทธิฤทธิ์สูงส่งเกินหน้าเกินตา! คิดจะแข่งบารมีกับกูในถิ่นนี้ แล้วทำให้ไอ้อีพวกสัมภเวสีผีเร่ร่อนทั้งหลาย หันไปเคารพนบน้อมมันแทนกูเมื่อไร!? ค่อยเล่นงานมัน..ไล่ให้เก็บกระเป๋าหนีไปแทบไม่ทัน!


    เจ้าแม่สะรานุชตะเบ็งเสียงดัง ประกาศศักดาผู้ยิ่งใหญ่เหนือภูติผีไร้ทุกตนในถิ่นนี้!

     



    ณ บ้านตฤณ


     

    มึงเป็นสัตว์ปีกจำพวกเดรัจฉานพันธุ์ใด? ถึงกล้ามาสาระแหนยุ่งเรื่องกู! มึงจงเอาหนังหน้าของมึงออกมาให้กูได้เห็นบัดเดี่ยวนี้!


    ถึงจะเจ็บร้าวท่อนขาที่ยังถูกฝ่าเท้าเหยียบกดคาไว้เท่าใดก็ตาม หากแต่ตฤณก็พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดไว้ รวบรวมสติตั้งใจฟังถ้อยคำของอมนุษย์ที่น่าจะพูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเดาว่าเป็นผู้ปล่อยขนนกอันใหญ่ เข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงที!



    คืนนี้อาซิ้มมาลง 3 ตอนรวดนะจ๊ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×