ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [OS/SF] MarkBam

    ลำดับตอนที่ #1 : แปลกที่ใจดวงนี้ มันยังเหลือที่ว่าง ให้ความเสียใจ...[END]

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 58


    ฟังเพลงนี้แล้วอารมณ์มันมา









    ยอมรับเวลาที่เสียใจ ถูกเธอทำร้าย
    ก็อดก็ทน แล้วให้มันผ่านไป

     

    มะ....”

    “อย่าเพิ่งแทรกได้มั้ยแบมมาร์คกำลังคุยธุระอยู่ไม่เห็นหรอ” ร่างสูงพูดขึ้นขณะที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ระเบียง คนตัวเล็กแค่จะเดินมาถามว่าจะออกไปทานข้าวข้างนอกหรือจะให้คนตัวเล็กออกไปซื้อแล้วมาทานในห้อง

    มาร์คเปลี่ยนไป  เปลี่ยนไปได้ซักพักแล้วคนตัวเล็กสัมผัสได้

    คนตัวเล็กตัดสินใจเดินลงไปซื้ออาหารขึ้นมาทานบนห้องเพราะดูแล้วมาร์คคงจะคุยธุระอีกนาน ใช่ มาร์คคุยธุระ...แบมแบมกำลังบอกตัวเองอย่างนั้น ต้องเชื่อใจมาร์ค

    “แบมไม่รู้ว่ามาร์คอยากทานอะไรแบมเลยซื้อมาหลายอย่างเลย.....มาร์ค ทำไมห้องดูเงียบๆ” แบมแบมกลับมาบนห้องพยายามมองหาร่างของแฟนหนุ่ม แต่สิ่งที่ได้รับคือความว่างเปล่า

    ตู๊ดดดดดดดดดด ตู๊ดดดดดดดดดดดด ตัดสินใจโทรหามาร์คทันทีที่รู้ว่ามาร์คไม่อยู่ห้อง แต่โทรยังไงมาร์คก็ไม่รับ

    “สงสัยจะออกไปธุระ” ประโยคที่ใช้หลอกตัวเองบ่อยๆเวลามาร์คออกไปข้างนอกโดยไม่บอก....ต้องเชื่อใจมารค

     

     

    เช้าวันต่อมา   มีเพียงแค่คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงที่นอนข้างๆว่างเปล่าไม่มีรอยยับไม่มีรอยที่บ่งบอกว่าเจ้าของเตียงอีกคนกลับมานอน

    “มาร์คคงติดธุระสำคัญ.....ฮึก” ประโยคที่แบมแบมคอยบอกตัวเองทุกครั้งที่ตื่นมาไม่เจอมาร์ค แต่ครั้งนี้ มันกลั้นน้ำตาไม่ได้จริงๆ

     

     

     

     

    ใครเขาก็เตือนให้ฉันจำ ก็รับฟังเขา
    จำหมดทุกคำ แต่ก็ทำเหมือนเดิม

     

    “ร้องไห้อีกแล้วใช่มั้ย” ประโยคแรกจากเพื่อนสนิทตัวโตเอ่ยถามทันทีที่คนตัวเล็กเดินเข้าห้องเรียน

    ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนตัวเล็ก

    “เฮ้อ เราบอกแบมแล้วใช่มั้ยว่ามันมีคนอื่น แบมเคยเชื่อเรามั้ย” เพื่อนตัวโตยังคงพูดในสิ่งที่เป็นความจริง แต่คนตัวเล็กพยายามไม่เก็บมาคิด

    “มึงเลิกพูดได้แล้วคยอม มึงเห็นมั้ยว่าแบมมันจะร้องไห้เพราะคำพูดมึง” เพื่อนอีกคนพูดแทรกขึ้นมาทันทีที่เห็นปฏิกิริยาเพื่อนตัวเล็ก  เขารู้ว่ามันคือความจริงแต่เพื่อนตัวโตควรรักษาน้ำใจเพื่อนตัวเล็กบ้าง

    “เหอะ เชิญมึงปลอบเพื่อนโง่ๆของมึงต่อไปเถอะยองแจ” ทันทีที่พูดจบยูคยอมก็พรวดพราดออกไปจากห้องเรียนทันที ทำเอาอาจารย์ที่กำลังเดินเข้ามาในห้องต้องหันไปมอง

    “ฮึก.....” แบมแบมพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้ดังรบกวนเพื่อนในคลาส เค้าพยายามเข้มแข็งแล้ว แต่ยิ่งโดนพูดกระแทกมันยิ่งเจ็บ เค้ารู้ว่าเพื่อนหวังดี ไม่ใช่ว่าไม่พยายามทำใจแต่มันทำไม่เคยได้ เค้าแพ้มาร์คทุกทาง

    “ไม่ร้องนะแบม เดี๋ยวเลิกคลาสแจจะพาแบมไปกินไอศกรีมนะ” เพื่อนตัวอวบพูดพลางลูบหลังคนตัวเล็กไปด้วย เห็นเพื่อนทุกข์เราก็ทุกข์  คอยดูนะแจจะหาคนที่ดีกว่าพี่มาร์คมาจีบแบม ยองแจได้แต่คิดในใจ รู้อยู่แล้วแหละว่าถึงมีเทวดามาจีบแบมก็ไม่เอา

     




     

    อาจเป็นเพราะรัก หรืออาจไม่เป็นเพราะมัน
    อาจเพราะผูกพัน ที่รั้งให้ฉันไม่ไปที่ไหน
    มันก็ยังไม่รู้ และฉันก็ไม่แน่ใจสักเท่าไร
    ว่าเพราะอะไรที่ยังอยู่ตรงนี้

     


    5 ปีที่แล้ว


    “ฝากแบมด้วยนะมาร์ค” เสียงของพี่คุณพี่ชายแท้ๆของแบมแบมเอ่ยขึ้นขณะลากกระเป๋าเตรียมเดินเข้าเกท  นิชคุณกำลังจะกลับไทยเพราะเรียนจบแล้วพร้อมที่จะกลับไปรับช่วงบริษัทต่อจากบิดา

    “ครับพี่” มาร์คพูดขึ้นพลางเหลือบมองแบมแบมที่ยืนร้องไห้อยู่ข้างๆนิชคุณ

    “ทำไมพี่คุณไม่อยู่กับแบมก่อนล่ะครับ ให้แบมจบมัธยมก่อนพี่คุณค่อย ฮึก กลับไม่ได้หรอ” น้องชายตัวเล็กพูดพลางซุกหน้าลงกับอกพี่ชายตัวโต แบมแบมเพิ่งมาอยู่เกาหลีเพื่อจะเรียนต่อมัธยมปลาย ใครจะไปคิดว่าพอสมัครเรียนดำเนินเรื่องเสร็จพี่ชายต้องกลับไทยทันที นี่ม๊าแกล้งแบมชัดๆ

    “พี่ไม่อยู่ก็มีมาร์คคอยดูแลน่าจะกลัวอะไร  พี่ยกคอนโดให้แบมข้างๆก็คือห้องมาร์คมีอะไรก็ไปหาพี่เค้านะ ถึงเวลาแล้ว มาร์ค แงะไอ้เด็กขี้แยออกไปที ฮ่าๆ” นิชคุณว่าพลางดันแบมแบมออกจากอกแล้วส่งให้น้องรหัส  มาร์คเป็นน้องรหัสที่คณะบริหาร ตอนนี้มาร์คอยู่ปี 1 กำลังจะ ปี 2  มาร์คก็ไม่ใช่คนเกาหลีเพิ่งมาอยู่เกาหลีแต่วุฒิภาวะของมาร์คนั้นมีมากกว่าแบม และนิชคุณไว้ใจมาร์ค

    “ฮืออออออออ พี่คุณมาเยี่ยมแบมบ่อยๆนะ” แบมแบมกอดมาร์คพลางตะโกนไล่หลังพี่ชายที่ลากกระเป๋าเดินเข้าเกทไป  มาร์คเพิ่งเจอแบมแบมเพียงอาทิตย์เดียวได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆให้กับเด็กน้อยในอ้อมกอด น่ารักดีเหมือนกันนะเด็กคนนี้

     

     

    แบม ม.ปลายปี มาร์คมหาลัย ปี 3

    1 ปีผ่านไปทั้งคู่ใช้ชีวิตแทบจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลายกเว้นตอนนอนกับตอนเรียน  แบมแบมมักจะไปขลุกอยู่ห้องมาร์ค ง่วงก็เดินกลับมานอน มันเป็นกิจวัตรของคนตัวเล็กและมาร์คก็ไม่เคยว่าไม่เคยรำคาญเพราะเค้ารู้ว่าแบมเป็นเด็กขี้เหงาและติดเค้ามาก

    “ย้ายมาอยู่ห้องพี่เลยมั้ยถ้าจะมาขลุกอยู่นี่ทั้งวันทั้งคืนขนาดนี้น่ะ” มาร์คเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาในห้องตอน 5 ทุ่มแล้วเห็นแบมแบมนั่งดูทีวีหัวเราะอ้าปากซะกว้าง

    “เย้ แบมรอพี่มาร์คพูดคำนี้มานานมากแล้วนะ อิอิ พรุ่งนี้แบมขนของมาเลยนะ” พูดพลางทำตาปริบๆ เฮ้อ เล่นอ้อนขนาดนี้มาร์คจะขัดอะไรได้ล่ะ มาร์คทำได้แค่ส่ายหน้ายิ้มๆ

     

     

     

    แบม ม.ปลายปีมาร์ค  มหาลัย ปี4

    มาร์คเรียนปีสุดท้ายแล้วแน่นอนว่างานก็หนัก ตอนปี3งานไม่หนักแต่มีฝึกงานเค้าก็แทบไม่มีเวลาเล่นกับแบมแบมแล้ว ปี 4 ต้องทำโปรเจคจบอีกยิ่งเครียดกว่าเดิม

    “พี่มาร์คคคคคคคคคคคคคคคค” วิธีการปลุกของแบมแบมคือตะโกนเรียกชื่อมาร์ค ไม่ได้ตะโกนไกลด้วยนะตะโกนที่ข้างหูนี่แหละ

    “อือ ตื่นแล้วครับๆ”

    “ตื่นแล้วก็ลืมตาสิครับ” แบมพูดพลางเขย่าแขนมาร์คแรงๆ มาร์คได้แค่ครางอื้ออึงในลำคอแล้วก็นิ่งไปอีก

    “เมื่อคืนนอนดึกสินะ เฮ้อ แบมล่ะสงสารพี่จริงๆเลย” แบมพูดพลางท้าวคางมองหน้าพี่ชายสุดหล่อที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียง พี่มาร์คนี่หล่อจริงๆเลย ผมสีดำขลับ จมูกโด่ง ปากกระจับ มีเขี้ยวด้วยเวลายิ้มยิ่งมีเสน่ห์


     แบมมักจะหวงมาร์คเสมอเวลามีคนมองมาร์คบ่อยๆ ซึ่งแบมบอกมาร์คว่าหวงเพราะมาร์คเป็นพี่ชายของแบม  แต่ ภายในใจแบมมันเต้นโครมครามแทบจะระเบิด เขาไม่ได้หวงในฐานะน้องชาย เขาหวงเพราะเขาหลงรักมาร์ค หลงรักไปตอนไหนก็ไม่รู้

    “แบมไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้แบมจะเก็บไปได้อีกนานมั้ย  แต่แบมจะเก็บมันไว้ให้ลึกที่สุด” คนตัวเล็กพูดจบก็ลุกออกไปจากห้องนอน มาร์คไม่ได้หลับต่อ ตอนแรกก็แค่จะแกล้งคนตัวเล็กแต่ใครจะไปรู้ว่าอีกคนจะสารภาพความในใจกับเขา หัวใจเขาพองโตขึ้นมาทันที ไม่ใช่เขาที่คิดคนเดียว น้องก็ใจตรงกัน

     

     

     

     

     

    “แบม คบกับพี่นะครับ”  เสียงโห่ร้องจากเพื่อนสนิทมาร์คดังขึ้นมาทำให้คนตัวเล็กยิ่งอายหนักกว่าเดิม

    มาร์ค  แจ็คสัน เจบี ลงขันกันเปิดผับในย่านท่องเที่ยวชื่อดัง วันนี้เป็นวันเปิดร้านวันแรก พวกเค้าทั้งสามอยู่ปี4เทอม2 ใกล้จะเรียนจบแต่นึกไม่ออกว่าจะไปทำอะไรต่อ มาร์คยังไม่อยากกลับแอลเอไปรับช่วงต่อบิดาเลยออกความเห็นให้เปิดผับเพื่อนอีกสองคนเห็นด้วยเลยเกิดเป็นผับแห่งนี้ 

    “คำตอบล่ะครับ” คนตัวเล็กเอาแต่ก้มหน้าด้วยความเขิน พี่มาร์คเล่นมาถามต่อหน้าคนเป็นร้อยแบบนี้ได้ยังไง เขินจนอยากมุดดินหนีแล้วเนี่ย

    “อื้อ”

    “อะไรอ่ะ อื้อ นี่คืออะไรครับ” มาร์คพูดพลางเชยคางแบมแบมขึ้นมา ตาสบตาแบมแบมยิ่งเขิน โอ้ย หน้าจะไหม้แล้วพี่มาร์ค

    “คะ คบ ครับ” หลับหูหลับตาตอบเพราะไม่อยากจ้องตากับมาร์ค ฮือ จะร้องไห้ ทันทีที่แบมตอบจบ เสียงโห่ร้องพร้อมดนตรีจังหวะมันส์ๆก็ดังกระหึ่มขึ้น ผู้คนต่างเต้นตามจังหวะ เหลือแค่คู่พระเอกนางเอกของงานที่ยังคงยืนนิ่ง  มาร์คก้มลงจูบแบมด้วยความอ่อนโยน  อ่อนโยนจนแบมแบมเหมือนลอยขึ้นไปบนฟ้า ผีเสื้อในท้องบินว่อน  นี่สินะ ความรัก

     

     

    ปัจจุบัน

    คบกับมาร์คมา 2 ปีแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นเขาทั้งคู่อยู่ด้วยกันในฐานะพี่น้อง มันกลายเป็นความผูกพัน

    มาร์คโตเป็นผู้ใหญ่ป๊าเลยมาเปิดสาขาให้ที่เกาหลีเลย ลูกชายไม่ยอมกลับแอลเอซักที บริษัทนำเข้ารถยนต์  เพียงแค่ระยะเวลาไม่ถึงปี มาร์คก็ทำให้บริษัทเป็นที่ไว้วางใจ มาร์คกลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงออกงานสังคมบ่อย  ส่วนแบมแบม ก็ยังคงเป็นเด็กมหาลัยปี 2 ที่เหมือนไม่มีอะไรเหมาะกับมาร์คเลย บ่อยครั้งที่มาร์คลงหนังสือพิมพ์ควงคนนั้นทีคนนี้ที  แต่แบมแบมก็พยายามไม่คิดมากเพราะมาร์คบอกกับเขาว่า นักข่าวก็เขียนข่าวไปตามที่เห็นความจริงไม่ใช่แบบนั้นเลย

     

     

    หากเทความรักในใจฉัน ออกมานับคงไม่เหลือ
    มันให้เธอหมดแล้วที่มี แต่ที่ไม่หนีเธอไปไหน
    ถูกเธอทำร้ายทนได้ทุกที แปลกที่ใจดวงนี้
    มันยังเหลือที่ว่าง ให้ความเสียใจ

     

    “ ฮึก พี่มาร์ค แบมเป็นอะไรสำหรับพี่” ความอดทนของคนเรามีขีดจำกัด วันนี้แบมแบมตัดสินใจถามมาร์ค เขาแค่อยากแน่ใจว่ามาร์คหมดรักเขาแล้วจริงๆ

    “แบมคือคนพิเศษ เลิกคิดมากน่า” พูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันที  จากคนรักโดนลดเหลือแค่คนพิเศษอย่างนั้นหรอ

    “ฮือออออ ทำไมมันเจ็บอย่างนี้นะ ฮึก” แบมแบมนั่งร้องไห้ครั้งแล้วครั้งเล่า   แต่ไม่มีซักครั้งที่เขาตัดใจเดินจากมาร์คได้เลย.....แปลกที่ใจดวงนี้ มันยังเหลือที่ว่าง ให้ความเสียใจ

     

     

    เธอนั้นจะพอรู้หรือเปล่า เข้าใจบ้างไหม
    ทนอยู่ทำไม ถ้าไม่รักอย่างนี้
    เคยเห็นใจกัน บ้างหรือเปล่า
    จะนานแค่ไหน ที่เธอทำร้ายใจคนที่รักเธอ

     

     

    “พี่มาร์ค....” แบมแบมยืนมองคนรักที่กำลังจูบกับคนอื่นอย่างดูดดื่มต่อหน้าต่อตา ลูกสะอื้นที่พยายามกลั้นเอาไว้มันจุกอยู่ที่คอ  มีแวบนึงที่มาร์คสบตากับเขา แต่ มาร์คก็ไม่ได้สนใจ ใจร้ายมากเลยนะพี่มาร์ค  สุดท้ายก็เป็นแบมแบมเองที่เดินออกมาเพราะทนดูไม่ได้

     

    ห้องที่ว่างเปล่า  เสียงฝนที่เทลงมายิ่งทำให้แบมแบมเหงา อยากจะหนีออกไปจากตรงนี้เหลือเกิน  คอนโดของนิชคุณก็ขายไปแล้วเพราะนิชคุณรู้เรื่องของทั้งคู่ 

    “ฮึก ยองแจ” แบมแบมเอ่ยชื่อที่พึ่งสุดท้ายออกมา ก่อนจะลุกไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า

    “แบมจะไปไหน!!” มาร์คกลับมา  ทำไมกลับมา ทำไมไม่อยู่กับคนนั้น

    “แบม จะไปค้างกับยองแจ” แบมแบมพยายามพูดไม่ให้เสียงสั่น เขาต้องเข้มแข็ง เขาต้องอยู่โดยไม่มีมาร์คให้ได้

    “ถ้าแบมก้าวออกไปจากห้องนี้ก็อย่ากลับมาอีก” มาร์คยื่นคำขาดพลางจ้องหน้าคนตัวเล็ก  แบมแบมเบิกตากว้างไม่คิดว่ามาร์คจะใช้ไม้นี้

    “ฮึก พี่ต้องการอะไรกันแน่พี่มาร์ค แบมทนไม่ไหว ฮึก แล้ว ฮือออออออ พี่จะทนอยู่กับแบมทำไมถ้าพี่ไม่รักแบมแล้ว ฮึก” น้ำตาที่กลั้นเอาไว้หลั่งไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ใจของมาร์คกระตุกวูบ เขาเคยรักแบม หรืออาจจะเป็นแค่ความผูกพัน ความรู้สึกดีๆ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าถ้าแบมไม่อยู่เขาจะเป็นยังไง จะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ได้ ในขณะที่เขาทำงานหนักแบมแบมเรียนหนักเวลาไม่ตรงกัน   มาร์คเหมือนมีสิ่งที่ขาดหายไปเขาต้องการสิ่งเติมเต็มและกำลังหาคำตอบให้กับตัวเองว่าเขารักแบมหรือแค่รู้สึกดี เขาเลยออกไปหาคนอื่น  เขาคิดว่ายังไงแบมก็ไม่มีทางเดินจากเขาได้แน่ๆ เด็กคนนี้ติดเขาจะตาย  แต่ความอดทนของคนย่อมมีจุดสิ้นสุดและแบมแบมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เขาลืมคิดไป

    “พี่....ไม่รู้” สิ่งที่ออกมาจากปาร์คของมากทำให้แบมหยุดสะอื้น แล้วหัวเราะเยาะตัวเองแทน

    “ฮะๆ น่าตลกเนอะ แบมนี่โง่ตั้งนาน หลงคิดว่าพี่รักแบมจริงๆแต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ความรัก มีแค่แบมที่รักพี่มากขึ้นทุกวัน  เราเคยมีความรู้สึกดีๆต่อกัน แบมขออะไรเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมครับ.......ปล่อยแบมไปเถอะนะ”  แบมแบมพูดพลางค่อยๆก้าวถอยหลังไปทีละนิด  มาร์คที่ยังคงก้มหน้าใช้ความคิดอยู่กัดริมฝีปากแน่น  จมอยู่กับความคิดจนคนตัวเล็กใจหาย  แบมแบมตัดสินใจเดินออกไปจากห้องแล้ววิ่งออกจากคอนโดทันที  สายฝนที่เทกระหน่ำไม่ได้ช่วยปิดบังน้ำตาของเขาได้เลย  มันยิ่งชัดเจนมากกว่าเดิม  ตาแดงๆจากการร้องไห้รวมกับสายฝนที่เทลงมายิ่งแดงมากกว่าเดิม

    “แบมแบม!!”  ยองแจที่สะลึมสะลือมาเปิดประตูห้องตอน5ทุ่มถึงกับผงะ  ตอนที่กำลังหลับฝันดีพอได้ยินเสียงออดก็ก่นด่าออกมาอย่างลืมตัว  แต่พอเปิดประตูออกมาเจอสภาพเพื่อนตัวเล็กแล้วทำพูดที่กำลังจะพ่นออกมาก็ต้องกลืนกลับเข้าไปและเปลี่ยนเป็นตะโกนเรียกคนตรงหน้าแทน

    “ฮึก แจ” แบมแบมโผเข้ากอดเพื่อนรักอย่างหาที่พึ่ง  ยองแจกอดเพื่อนตอบโดยมองข้ามความเปียกชื้นของเสื้อผ้าไป วินาทีนี้เพื่อนสำคัญกว่าสิ่งใด

    “ไปปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะแบมเดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาจะยุ่ง”  ยองแจจูงมือเพื่อนรักเข้ามาในห้องแล้วหาผ้าเช็ดตัวและเตรียมเสื้อผ้าให้ แบมแบมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ยองแจฟังแล้วผล็อยหลับไป  ยองแจมองเพื่อนรักแล้วลูบหัวอย่างสงสาร 

    “นายวิ่งออกมาโดยลืมหยิบกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยได้ยังไงนะแถมตากฝนด้วย พี่มาร์คทำร้ายคนที่เปราะบางน่าทะนุถนอมแบบนี้ได้ยังไงกัน ฮึก แจสงสารแบมจังเลย” ยองแจอดกลั้นไว้ไม่ไหวสุดท้ายน้ำตาก็ไหลออกมา เขาสงสารเพื่อนรักของเขาเหลือเกิน 

     

     

    1 สัปดาห์ ที่แบมแบมมาอยู่กับยองแจ  ไร้การติดต่อจากชายที่ทำร้ายคนตัวเล็ก  แบมแบมแค่นยิ้มให้กับตัวเอง  น่าสมเพทจริงๆเลยที่นั่งรอโทรศัพท์จากพี่มาร์คทุกวัน ป่านนี้เขาคงไปหาคนคนนั้นแล้วมั้ง ยิ่งคิดยิ่งเสียใจแต่มันก็หยุดคิดไม่ได้

     

    “ไว้เจอกันนะคยอม”  ยองแจกล่าวลาเพื่อนตัวสูงหลังจากที่เลิกคลาสของวันนี้  แบมแบมมาเรียนตามปกติเพียงแค่ไม่มีหนังสือมาเรียนมีแค่สมุดเลคเชอร์ที่ซื้อที่ร้านสะดวกซื้อเท่านั้น  เขายังไม่พร้อมที่จะกลับไปเก็บของห้องมาร์คตอนนี้

    “แบมกลับเองได้แน่นะ”  ยองแจเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กเพื่อความแน่ใจ  จริงๆเขาอยากยกเลิกนัดกับแจ็คสันแฟนหนุ่มแต่แบมแบมค้านไว้  ' พี่มาร์คทำร้ายแบมพี่แจ็คสันไม่เกี่ยวแจอย่าพาลไปโกรธพี่เขาสิ '  แบมแบมเกลี้ยกล่อมจนยองแจต้องถอนหายใจและทำตามแผนเดิม

    “อื้อ แบมไม่ใช่เด็กสิบขวบนะแจ อายุก็เลขสองแล้ว ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยินมาหลายวันทำให้ยองแจใจชื้นขึ้นมา ก่อนจะโบกมือลาแล้วแยกย้าย  ที่หัวเราะนั่นฝืนทั้งนั้น เขาแค่ไม่อยากให้เพื่อนกังวลจนไม่ไปตามนัด


    “พี่มาร์ค” แบมแบมเอ่ยเสียงเบาทันทีที่เดินมาถึงหน้าคอนโดแล้วเห็นร่างที่คุ้นเคยยืนสูบบุหรี่เหมือรออะไรซักอย่าง  พี่มาร์คกลับมาสูบอีกแล้วหรอแต่เลิกไปแล้วนี่นา  ช่างสิจะไปสนใจทำไม แบมแบมได้แต่เถียงกับตัวเองในใจก่อนจะตัดสินใจเดินก้มหน้าแล้วก้าวเร็วๆหวังจะเข้าไปข้างในไม่ให้อีกคนเห็น  แต่ก็ช้าไป

    “เดี๋ยวก่อนแบม พี่ขอคุยด้วยหน่อย” มาร์คคว้าข้อมือรั้งแบมไว้  เพียงแค่นั้นขอบตาคนตัวเล็กก็ร้อนผ่าว

    คนตัวเล็กไม่ตอบอะไรได้แค่เดินตามแรงดึงของอีกคนมาที่สวนสาธารณะข้างคอนโด ทันทีที่นั่งลงที่ม้านั่ง ก็เกิดความเงียบขึ้น  ไม่มีใครพูดอะไร ได้ยินแค่เสียงถอนหายใจของคนตัวสูงข้างๆ

    “ถ้าพี่ไม่มีอะไรคุย แบม ขอตัวนะ” คนตัวเล็กทำท่าจะลุกแต่คนตัวสูงก็ฉุดมือไว้ซะก่อน

    “โอเคๆ พี่จะพูดแล้ว”  มากพูดจบก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เขากังวล กลัวไปหมดทุกสิ่ง

    “พี่ขอโทษ  พี่แค่คิดว่าความรู้สึกที่พี่มีให้แบมมันไม่ใช่ความรัก  พักหลังเราห่างกันมากเกินไป พี่ทำงานหนักแบมเรียน
    หนักเวลาเราไม่ตรงกัน  ทำให้พี่.....เอ่อ  คิดว่าการมีคนอื่นอาจจะทดแทนสิ่งที่พี่ขาดหายไปได้  พี่หลงระเริงพี่ยอมรับ  พี่สนุกกับความสัมพันธ์ที่ไม่ผูกมัดมากไปจนลืมนึกถึงจิตใจของแบม”   แบมแบมนั่งฟังอย่างอดกลั้นก้อนสะอื้น  หัวใจที่แห้งเหี่ยวกำลังกลับมาพองโต เลือดกำลังไหลมาเลี้ยงหัวใจอย่างรวดเร็ว


    “ตอนที่แบมเดินออกมาจากห้อง พี่คิดว่าจะลองอยู่โดยไม่มีแบมดู  ยังไงพี่ก็อยู่ได้  แต่พี่คิดผิด.....พี่มองไปทางไหนก็เห็นแต่หน้าแบม  พี่ข่มตาให้หลับยากเย็นทุกคืน  และวันนี้พี่ทนไม่ไหวพี่มาหาแบมโดยที่สมองไม่ได้คิด  รู้ตัวอีกทีก็มายืนรอแบมที่นี่แล้ว ฮะๆ พี่งี่เง่าเนอะว่ามั้ย”

    “ฮึก อือ โคตรงี่เง่าเลย” แบมแบมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย เขายอมรับว่าใจของเขานั้นอ่อนลงตั้งแต่เห็นหน้ามาร์คแล้ว  ที่คิดไว้ว่าจะลืมมาร์คให้ได้นั้นหายไปกับตา  มาร์คมีอิทธิพลกับเขามากจริงๆ

    “แบม  พี่รู้ว่าพี่ทำร้ายแบม แต่พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีแบม  แบมจะยังไม่ต้องให้อภัยพี่ก็ได้แต่กลับไปอยู่ห้องของเราเถอะนะ”  มาร์คกุมมือแบมพลางจ้องมองมายังดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำใสๆของคนตรงหน้า  มือหนาเอื้อมไปเช็ดน้ำตาให้คนตัวเล็กอย่างเบามือ มันยิ่งทำให้คนตัวเล็กร้องให้หนักกว่าเดิม

    “ฮือออออ” สุดท้ายก็กลายเป็นว่าร้องให้ซะตัวโยน มาร์คดึงคนตรงหน้ามาซบที่ไหล่แล้วลูบหัวอย่างเอ็นดู

    “กลับห้องของเรากันนะ” คำว่า ห้องของเรา เป็นคำที่ทำให้หัวใจคนตัวเล็กพองโต  เขาทำได้แค่พยักหน้าตอบเพราะตอนนี้ไม่สามารถเปล่งเสียงใดๆออกมาได้ 




    ไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น


    ไม่รู้ว่ามาร์คจะทำร้ายเขาอีกครั้งหรือไม่


    ไม่รู้ว่ามาร์คจะเอ่ยคำว่า “รัก” อีกครั้งเมื่อไหร่


    แต่เขาก็พร้อมจะเสี่ยง และมีที่ว่างมากพอให้กับความเสียใจที่จะเกิดหรืออาจจะไม่เกิด  ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต  และทำวันนี้ให้มีความสุขไปกับทางที่เลือกดีกว่า

     


     

    หากเทความรักในใจฉัน ออกมานับคงไม่เหลือ
    มันให้เธอหมดแล้วที่มี แต่ที่ไม่หนีเธอไปไหน
    ถูกเธอทำร้ายทนได้ทุกที แปลกที่ใจดวงนี้
    มันยังเหลือที่ว่าง ให้ความเสียใจ

     




     

    ...END...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×