คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2: Greeting
“พี่นี่ขี้เซาจังเลยนะคะ ดูสินี่ขนาดพยาบาลเอาอาหารมาให้พี่ตั้งนานแล้วนะคะ แต่เขาเห็นพี่ยังไม่ตื่น พี่เขาเลยไม่อยากกวนพี่” เสียงของเธอดังขึ้น ซึ่งเป็นเสียงเจื้อยแจ้วซึ่งเมื่อผมได้ยินแล้วก็ทำให้ผมหายสะลึมสะลือขึ้นมาทันที
“แล้วนี่กี่โมงแล้วล่ะ ว่าแต่......ทำไมน้องตื่นเช้าจังล่ะ” ผมถามเธอ
“ตอนนี้ก็9โมง15นาทีแล้วค่ะ แล้วที่จริงหนูก็ตื่นเช้าอย่างนี้ประจำอยู่แล้วด้วย เพราะว่าอากาศตอนเช้าของโรงพยาบาลจะสดชื่นมากๆเลยล่ะค่ะ แต่วันนี้อากาศหนาวไปหน่อย เดินเล่นไปไม่เท่าไหร่ก็ต้องกลับเข้าห้องแล้ว ไม่รู้ว่าวันนี้จะมีหิมะตกหรือเปล่า พี่เองก็เหมือนกันนะ หัดตื่นเช้าๆมาสูดอากาศตอนเช้าซะบ้างร่างกายพี่จะได้แข็งแรง” เธอบอกผม
“ชินดง ตื่นได้แล้วค่ะ จะนอนขี้เซาไปถึงไหนคะ เดี๋ยวก็ไปทำงานไม่ทันหรอก อาหารเช้าวางอยู่บนโต๊ะนะคะที่รัก ยังไงก็รีบไปทำงานนะคะ ไปก่อนนะคะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแฟนเก่าของผมเองตอนนี้ผมกำลังอยู่กับคอนโดกับแฟนผมงั้นหรือ เราเลิกกันแล้วนะ แล้วเธอยังจะมาที่นี่อีกทำไม ผมค่อยๆลืมตา และผมก็ได้เห็นว่า เงาของแฟนเก่าของผมนั้นได้จางหายไปเรื่อย ผมเริ่มไม่แน่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ จนผมได้ยินปิดประตูดัง ปั้ง! ผมค่อยๆลืมตาขึ้น และก็ได้รู้ว่าผมฝันไป เพราะตอนนี้ผมอยู่ที่โรงพยาบาล แต่เมื่อผมค่อยๆลืมตานั้น ผมกลับเห็นใบหน้าของเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอก็คือ Sunny เด็กผู้หญิงห้องข้างๆที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งไขกระดูกนั่นเอง“อื้อ เดี๋ยววันหลังพี่จะหัดตื่นเช้าแล้วไปเดินเล่นกับน้องก็แล้วกันนะ” ผมบอกกับเธอ
“ไม่ต้องวันหลังหรอก พรุ่งนี้เลย” เธอแหย่ผม
“อื้อ พี่จะไม่พยายามนอนดึกก็แล้วกัน” ผมบอกกับเธอ แต่ผมก็ยังสงสัยในตัวเองอยู่ เพราะผมเองก็กลัวว่าผมจะตื่นเช้าไม่ได้ เพราะผมเองนั้นตื่นนอนอย่างต่ำก็9โมงเช้าแล้ว
“ที่จริงก็ไม่ต้องลำบากป้อนพี่หรอกนะ แล้วพี่ก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะ ถึงจะต้องมีคนมาคอยป้อนข้าวให้กินเนี่ย” ผมบอกเธอแต่เธอก็ไม่ยอม ดึงดันที่จะป้อนให้ได้ ในที่สุดผมก็ต้องยอมเธอ เด็กคนนี้ร้ายจริงๆเลยนะ
“ว่าแต่พี่เองเหอะ พี่อยากเข้าห้องน้ำไหมคะ เดี๋ยวหนูจะพาไป” เธอถามผม
“เดี๋ยวหนูไปหาคุณหมอก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับมา แปบเดียว” เธออยู่หน้าห้องพร้อมกับพูดบอกผม
“อื้อๆๆ รีบไปรีบมาล่ะ” ผมตะโกนบอกเธอ
“ก็เค้าเคยบอกพี่แล้ว ว่าอย่าไปคบกับนังผู้หญิงคนนี้ พี่คบไปก็เปลืองหัวใจเปล่าๆ สู้พี่เอาเวลามาทำงานดีกว่าไหม” Tiffany บอกผม ” แม่บอกผม
“ผมไม่เป็นอะไรมากหรอกครับแม่ ผมแค่ขาหักเฉยๆ อีกซักเดือนก็หายดีแล้ว” ผมบอกแม่
“ทีหลังจะทำอะไรก็หัดดูตัวเองบ้างก็แล้วกัน แกก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” พ่อบอกผม
“ครับพ่อ ยังไงผมก็ระวังให้มากกว่านี้ก็แล้วกันครับ” ผมตอบพ่อ
“พี่ค่ะหนู....กลับ....มา.....แล้ว....” เสียงของ Sunny ดังขึ้น ทุกคนหันไปมองเธอ Sunny มาหยุดที่หน้าประตู
ทุกคนต่างตะลึงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
Tiffany เป็นคนที่ฉลาดมาก ตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ที่มหาลัย Oxford เธอเป็นพวกสนใจแต่เรื่องงาน เรื่องอื่นเธอไม่ค่อยจะสน โดยเฉพาะเรื่องความรัก เธอจะต่อต้านเรื่องนี้มาก ทำไมน่ะเหรอครับ ก็เพราะตอนที่เธออยู่มัธยม เธอจะเป็นเด็กผู้หญิงที่เรียนเก่ง และใส่แว่นหนาเตอะ เธอก็เลยเป็นเหมือนคลังความรู้ของเพื่อนๆ เพราะเธอสามารถจำสูตรได้เกือบทุกอย่าง แต่เธอก็ไปดันแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง เขาเป็นนักกีฬาของโรงเรียน รู้สึกว่าจะชื่อ Dong Hae นี่แหละครับ Tiffany แอบชอบ Dong Hae มาเกือบ2ปี จนวันนึงเธอคิดยังไงไม่รู้เธอเลยไปสารภาพรักกับ Dong Hae เข้า แต่มันไม่เป็นตามที่เธอคาด เขาดันตอบปฏิเสธโดยไม่ลังเล วันนั้นเธอขอเข้ามาในห้องผม เธอขอเข้ามานอนในห้องผม แต่ผมไม่ยอม เธอกอดผมและร้องไห้ทั้งคืน เธอพูดตลอดเลยนะว่า “พี่ เค้าไม่ดีเหรอ ทำไมพี่ดงแฮถึงไม่รักเค้าล่ะ ทำไมล่ะพี่” เธอพูดประโยคนี้ทั้งคืน แม้แต่ตอนที่เธอหลับไปแล้วเธอก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากตัวผม แต่ผมก็ค่อยๆดึงเอามือของเธอออกและนำเธอไปส่งที่ห้องจนได้ แต่เธอก็จะละเมอออกมาเป็นประโยคนั้น และเธอก็ละเมอพูดประโยคนั้นทั้งคืน เธอเสียใจถึงกับเธอไม่สามารถมาโรงเรียนได้2วัน ผมจึงฝากยูริซึ่งเพื่อนของเธอช่วยจดเล็กเชอร์ให้ แถมเพื่อนๆในกลุ่มของเธอก็เป็นห่วงถึงกับมาเยี่ยมถึงที่บ้าน
แต่ตอนนี้ เธอกลายเป็นสาวสวย ถ้าเพื่อนในกลุ่มของพวกเธอได้มาเห็นเข้า คงจะต้องตกตะลึงแน่ๆ เพราะขนาดผมเอง ผมยังตะลึงเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของเธอเลยครับ แต่ตอนนี้ผมเริ่มชินแล้วล่ะ เพราะว่าทิฟฟานี่มาอยู่ที่บ้านได้ครึ่งเดือนแล้ว สาเหตุที่เธอมาอยู่บ้านเหรอครับ ก็เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม พ่อกับแม่เลยอยากให้เธอมาดูงานที่บริษัท เพราะพ่อกับแม่อยากให้ทิฟฟานี่มาเป็น CEO คู่กับผม พ่อกับแม่บอกว่า เวลามาใครมีปัญหาอะไรก็ให้มาปรึกษากัน ไม่ให้มีความลับต่อกัน และขอให้พวกเราสร้างบริษัทนี้ต่อไป เพราะบริษัทนี้ได้ตั้งมาตั้งสมัยคุณทวดแล้วครับ
แล้วก็อีกเรื่อง ผมละอยากเห็นหน้าของนาย Dong Hae จริงๆ ถ้าเจ้านั่นมาเห็น Tiffany ในตอนนี้เขาจะรู้สึกยังไง
“แล้วนี่ลูกเป็นอะไรมากหรือเปล่า ถ้าเป็นอะไรมากแม่จะส่งไปรักษาต่อที่ U.S.A
“ค่ะ” เธอตะโกนตอบ
ตอนที่ผมกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ ผมก็ได้ยินเสียงกุกๆกักๆมาจากข้างนอก
ผมไม่ได้คิดอะไร เพราะผมคิดว่าคงเป็นเสียงของ Sunny กำลังเล่นซนอยู่นอกห้องแน่ๆ
ผมเปิดประตูออกไป
ผมพบกับ...
พ่อ
แม่
และน้องสาวแท้ๆของผมเอง
“ชินดง ลูกเป็นยังไงบ้าง พอพ่อกับแม่ทราบข่าวก็รีบCancelงานจากU.S.A.แล้วก็รีบตรงมาที่นี่เลย” แม่ของผมบอกกับผม พร้อมกับทำสีหน้าเป็นห่วง
“ยัยผู้หญิงคนนั้นทำร้ายพี่ใช่ไหม เค้าไม่ยอมนะ ถึงพี่จะยอม แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าเค้าไม่ยอม เค้าจะไปเอาเรื่องกับนังผู้หญิงคนนั้น” Tiffany น้องสาวของผมพูด
“หยุดนะทิฟถ้าพี่รู้ว่าแกไปเอาเรื่องกับเขา พี่ไม่เอาแกไว้แน่”ผมบอกกับ Tiffany
“พี่ก็อยากเข้าพอดีเลย พอดีพี่จะไปแปรงฟันกับล้างหน้าซักหน่อย” ผมบอกเธอ
“หยี ปากเหม็น แหวะๆๆ” เธอทำท่าเอามือบีบจมูกใส่ผม
“นี่แน่ะ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ว่าแต่พี่ ตัวน้องเองล่ะแปรงหรือยัง” ผมเขกหัวเธอเบาๆ พร้อมกับถามกลับ
“หนูเรียบร้อยแล้วค่ะ หนูไม่ได้เป็นเจ้าหมูขี้เซาเหมือนพี่นิ” เธอบอกพลางยิ้มใส่ผม
“โอเคๆๆ พี่ยอมแพ้ ตกลงจะพาพี่ไปห้องน้ำได้หรือยัง พี่ปวดฉี่ด้วย ปวดจะแย่อยู่แล้ว” ผมบอกเธอ มันจะเสียมารยาทไปไหมเนี่ย
“งั้นรีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวฉี่พี่แตก อิอิ” เธอพูดหยอกใส่ผม
“อย่างนี้น่าจะโดนเขกอีกซักทีดีไหมเนี่ย” ผมทำท่ายกมือขึ้นมา
“ม่ายอาววว” เธอพูดพร้อมกับวิ่งไปเอาไม้เท้าที่อยู่ข้างๆเตียง
“ลุกไหวไหม ค่อยๆลุกนะคะ” เธอเข้ามาจับแขนของผม เพราะเธอพยุงไม่ได้ ผมค่อยลุกขึ้นช้าๆ จนในที่สุดผมก็มาอยู่ในไม้ค้ำแล้ว
“จะว่าไปพี่เองก็นิสัยคล้ายเด็กมากเลยนะคะ ตกลงหนูจะเรียกพี่ว่าพี่หรือน้องดีเนี่ย” เธอพูดและก็หัวเราะเบาๆ
ผมไม่ได้ตอบอะไรเธอ ผมทำได้เพียงแต่ยิ้มเท่านั้น
“ข้าวต้มหมดแล้ว พี่ดื่มน้ำเองได้ไหม หรือว่าจะดื่มไม่ได้” เธอพูดพร้อมกับทำท่าจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมา
“ไม่ต้อง เอาแก้วมานี่ พี่ดื่มน้ำเองได้ บอกแล้วไง พี่ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” ผมรีบชิงแก้วน้ำมาก่อนที่เธอจะหยิบได้
“โอเคค่ะ ตกลงว่าพี่จะไปเดินเล่นกับหนูพรุ่งนี้นะ แต่ว่านะ พี่รีบกินข้าวต้มก่อนเถอะ ดูสิ ข้าวต้มเย็นหมดแล้ว เดี๋ยวมันจะไม่อร่อยนะ” เธอพูดพลางชี้ไปที่ถ้วยข้าวต้ม
“อื้อๆ กินแล้วครับองค์หญิง” ผมรีบกินให้มันหมดเร็วๆ เพราะผมกลัวว่าข้าวต้มจะเย็นจนไม่อร่อยซะก่อน
“อย่ามูมมามนักสิ เดี๋ยวข้าวต้มก็ติดคอพี่หรอก” เธอทักท้วงผมพลางหัวเราะเบาๆ
ผมไม่ได้ตอบอะไรเธอ ผมจ้องหน้าเธอแล้วก็กลืนข้าวต้มลงไป
“พี่นี่ตลกจังเลยนะ เอามานี่เดี๋ยวหนูป้อนให้” เธอหยิบถ้วยข้าวต้มจากโต๊ะอาหารของคนไข้ซึ่งอยู่ตรงหน้าผม
“พรุ่งนี้เลยเหรอ มันจะไม่เร็วไปเหรอ” ผมบอกเธอด้วยความสงสัย
“ของแบบนี้ ยิ่งเริ่มต้นเร็วยิ่งดีนะคะ งั้นพรุ่งนี้หนูจะมาปลุกพี่นะ”เธอพูดและส่งยิ้มให้ผม
ความคิดเห็น