ทำบุญอย่างไรให้ได้ผล! - ทำบุญอย่างไรให้ได้ผล! นิยาย ทำบุญอย่างไรให้ได้ผล! : Dek-D.com - Writer

    ทำบุญอย่างไรให้ได้ผล!

    มาทำบุญกันเถอะ...อ่านแล้วไม่ได้ประโยชน์ให้ด่า อ่านเถอะนะ ขอร้อง Please!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    1,116

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.11K

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 มี.ค. 50 / 20:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      อยากให้อ่านให้จบ  อย่าเห็นว่ามากแล้วกดปิดเลยนะ  เพราะอาตมาใช้ภาษาง่าย ๆ เข้าใจง่าย  อ่านแล้วได้ประโยชน์ 100%

       

      ******************************

       

      หลังจากที่อาตมากลับมาจากสวนโมกข์ก็รู้สึกปลื้มปีติกับการได้ปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง และเพิ่งรู้ว่าการนั่งหลับตาทำสมาธิเฉย ๆ นั้นแสนเหนื่อยยากลำบากขนาดไหน  แต่เขาว่ากันว่าคนเราทำสมาธิเพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลกได้บุญมากกว่าคนที่ให้ทานเป็นประจำและรักษาศีลอย่างเคร่งครัดเสียอีก  อืม  ฟังอย่างนี้แล้วก็อยากจะสะสมบุญบารมีโดยนั่งสมาธิวันละ 5 นาทีเหลือเกิน  ถึงอย่างนั้นก็ต้องทำบุญอย่างอื่นด้วยนะ  อาตมามีเกร็ดความรู้ดี ๆ มาฝากดังต่อไปนี้

       

      วิธีสะสมบุญบารมี(อย่างย่อ)

       

      1.) ทาน

      การให้ทานนั้นได้บุญมากน้อยตามเหตุและปัจจัย  คนทำบุญหนึ่งล้านบาทด้วยเงินค้ายาเสพติดย่อมได้บุญไม่เท่าคนทำบุญเพียงสิบบาทที่บริสุทธิ์และให้ด้วยใจใสสะอาด  ประกอบกับเป็นการทำบุญที่ไม่เบียดเบียนตัวเอง(ไม่ใช่ให้ทานไปแล้วไม่มีเงินกินข้าว)หรือทานที่ให้เกิดจากการที่เราไปเชือดปลาดุกมาให้พระฉัน ก็จะได้บาปมาไม่คุ้มกับบุญ  ทั้งนี้ขึนอยู่กับจิตใจของเราด้วยว่าก่อนให้ทานนั้นเรามีจิตใจบริสุทธิ์หรือไม่  ขณะทำทานเรามีจิตใจบริสุทธิ์หรือไม่ และหลังให้ทานเรามีจิตใจบริสุทธิ์หรือไม่  หากทั้งสามอย่างครบถ้วนก็จะได้บุญสูงขึ้นไปอีก  แต่ถ้าเราทำได้ไม่ครบตามที่บอกมาก็อาจส่งผลให้ชาติหน้าเกิดเป็นมนุษย์ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

       

      ก่อนให้ทานใจบริสุทธิ์อย่างเดียว : พวกคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด  แต่ต่อไปอาจจะลำบากยากแค้นเพราะบุญหมด

       

      ขณะให้ทานใจบริสุทธิ์อย่างเดียว : วัยกลางคนจะรวยรุ่งพุ่งแรง  แต่อาจจะเป็นคนที่เกิดมาต้องกระเสือกกระสนบ้าง และช่วงสุดท้ายของชีวิตอาจจะลำบากบ้าง

       

      เป็นต้นฯ

       

      นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับการทำบุญกับใคร? 

       

      ให้ทานสัตว์ร้อยครั้งไม่เท่าให้ทานมนุษย์ครั้งเดียว  ให้ทานมนุษย์ร้อยครั้งไม่เท่าให้ทานคนถือศีลห้าเคร่งครัดเพียงครั้งเดียว  ซึ่งจะเรียงด้วยอัตรา 100 : 1 ไปเรื่อย ๆ ดังต่อไปนี้

       

      สัตว์ < มนุษย์ < มนุษย์ถือศีล 5 < ศีล 8 < สามเณร < สมมติสงฆ์ < พระโสดาบัน < พระสกิทาคามี < พระอนาคามี < พระอรหันต์ < พระปัจเจกพุทธเจ้า < พระพุทธเจ้า < ถวายสังฆทานในงานที่พระพุทธเจ้าเป็นประธาน < ร่วมทำบุญถวายวิหารทานหรือสร้างสิ่งของสาธารณะ เช่น โบสถ์  วิหาร  ศาลาท่าน้ำ < ธรรมทาน < อภัยทาน

       

      เพราะฉะนั้นในฝ่ายทาน  การให้อภัยทานจึงได้บุญสูงสุด  ใครเคยก่อกรรมทำเวรกันไว้  มีคนยืมเงินไปแล้วไม่คืน  เพื่อนหักหลัง  เพื่อนมองหน้ากันไม่ติด  หากอโหสิให้แก่กันได้ก็จะดีมาก ๆ เลย  แต่ต้องอโหสิให้ด้วยกาย วาจา ใจที่บริสุทธิ์นะ  ไม่ใช่ปากว่าอย่างแต่ใจคิดอีกอย่าง  อภัยทานในครั้งนั้นก็จะถือว่าไม่สมบูรณ์ได้บุญไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

       

      2.) ศีล

       

      เรียงด้วยอัตรา 100 : 1 แบบเดิมกับทาน  ดังต่อไปนี้

       

      อภัยทาน < ศีล 5(ขำ ๆ) < ศีล 5(เคร่ง) < ศีล 8(ขำ ๆ) < ศีล 8(เคร่ง) < บวชสามเณรถือศีล 10 ไม่เคยขาดหรือด่างพร้อย 100 ปีไม่เท่ากับบวชเป็นภิกษุสงฆ์เพียงวันเดียว  ซึ่งถือว่าการบวชพระนั้นได้บุญบารมีมากที่สุด

       

      อานิสงส์ของการรักษาศีล 5 มีดังต่อไปนี้(กรณีได้เกิดเป็นมนุษย์ชาติต่อ ๆ ไป)

       

      - ปาณาติปาตา : พลานามัยแข็งแรง  ไม่มีโรคภัย  อายุยืนยาว  ไม่มีเคราะห์จากอุบัติเหตุ  ใครอยากอายุยืนเคร่งครัดกับศีลข้อนี้เสีย  ตบยุง ฆ่ามดใครว่าไม่บาป  มันบาปทั้งนั้นแหละ  แต่หนักเบาก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราฆ่าด้วยนั่นเอง

       

      - อทินนาทานา : เกิดในตระกูลร่ำรวย  ทำมาค้าขึ้น  ไม่เจอไฟไหม้  น้ำท่วมหรือโจรภัย  ซึ่งศีลข้อนี้ไม่เพียงแต่ไม่ลักทรัพย์นะ  แต่รวมถึงการไม่คอรัปชั่น  การไม่กู้หนี้ยืมสิน  การหมกเม็ดรับใต้โต๊ะ  การไม่ค้ากำไรเกินควร  การไม่เล่นการพนันอีกด้วย

       

      - กาเมสุมิจฉาจารา : ประสบโชคดีในความรัก  ไม่อกหักรักคุด  มีเมียเมียไม่มีชู้  มีผัวผัวไม่เจ้าชู้  ครั้นมีบุตรธิดาก็ว่านอนสอนง่ายไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกชอบทำอนาจาร  แถมลูกที่เกิดมาจะเป็นอภิชาตบุตรอีกด้วย  การรักศีลข้อนี้รวมไปถึงการไม่มีกิ๊กด้วยนะ  จากที่อ่านหนังสือมาเขาบอกว่ากระเทยหรือเพศที่สามนั้นเป็นผลมาจากชาติก่อน ๆ ประพฤติศีลข้อนี้บกพร่องเป็นอันมาก(เขาว่านะ...อาตมาไม่ได้ว่าเอง)

       

      - มุสาวาทา : มีสุ้มเสียงไพเราะชวนฟัง  มีโวหารไหวพริบในการเจรจาพาที  คำพูดน่าเชื่อถือ  ว่ากล่าวสั่งสอนบุตรธิดาหรือลูกศิษย์ลูกหาให้อยู่ในโอวาทได้ดี  ทั้งนี้รวมไปถึงการไม่พูดเพ้อเจ้อ  ส่อเสียด  ติฉินนินทาใครด้วย(แต่หลัก ๆ ก็คือไม่พูดปด)  คาดว่าพวกนักร้อง  พิธีกรหรือนักพูดคงปฏิบัติศีลข้อนี้ดีในชาติก่อน

       

      - สุราเมระยะ : มีสมอง  สติปัญญาเป็นเลิศ  ความคิดแจ่มใส  ความจำดี  สติไม่เลอะเลือน  ไม่วิกลจริต  ไม่ปัญญาทรามหรือปัญญานิ่ม  ลูกไม่ปัญญาอ่อน  ทั้งนี้นอกจากไม่ดื่มสุราแล้ว  ยังรวมไปถึงของมึนเมาทุกชนิด  จำพวกบุหรี่ก็โดนหางเลขด้วย

       

      Special Tips : รู้หรือไม่ว่าการฆ่าตัวตายบาปมากขนาดไหน?  แน่นอนว่าบาปมาก ๆ และจะต้องรับผลกรรมคือ ต้องตกนรกถึง 500 ชาติ และถ้ากลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็จะต้องฆ่าตัวตายอีก 7 ชาติจึงจะหมดเวรหมดกรรม  เพราะฉะนั้นขอให้วิธีนี้ไม่อยู่ในทางเลือกของการแก้ปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ

       

      3.) เจริญภาวนา

       

      ขอไม่กล่าวถึงการวิปัสนากรรมฐานเพราะยากเกินไป  แต่จะพูดถึงสมถกรรมฐาน  ซึ่งมีการนั่งสมาธิ  เดินจงกรม  โดยการจะทำการเจริญภาวนาให้สำเร็จต้องรักษาศีลให้ดีเสียก่อน  เพราะศีลเป็นฐานให้เราเจริญภาวนาได้ง่ายขึ้น  ว่ากันว่าการเจริญภาวนาเพียงชั่วไก่กระพือปีกหรือชั่วช้างกระดิกหู(ชั่วเคี้ยวหมากแหลก)  จะได้บุญมากกว่าการรักษาศีล 227 ข้อของพระภิกษุสงฆ์เสียอีก  ซึ่งหากเราตายตอนที่ "จิตสงบ" หรืออยู่ในสมาธิพอดี  จะส่งผลให้อย่างน้อยได้ไปเกิดในเทวโลก* ชั้นหนึ่งคือชั้นจตุมหาราชิกา  หากยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันสูงสุดจะเกิดในชั้นที่สองคือชั้นดาวดึงส์  แต่หากขณะกำลังจะตายมีจิตคิดห่วงลูกหลาน  เงินทองหามายังใช้ไม่หมด  จิตอาฆาตแค้นคู่อริ(กล่าวคือมี โทสะ , โลภะ , โมหะต่าง ๆ อยู่ในใจ) ก็จะไปเกิดในทุคติเป็นมาร เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน  เพราะฉะนั้นอย่างเรา ๆ หากไม่เคยฝึกสติเลยไม่มีทางไปเกิดในเทวโลกแน่  อย่างมากสุดคงได้เกิดเป็นมนุษย์อีกชาติ  เช่น  ตอนเรากำลังจะตายแหล่มิตายแหล่อยู่ในห้องไอซียู  ลูกหลานมากระซิบข้างหูว่า "อะระหัง สัมมา..."  เราก็นึกได้แค่ว่าอะไรหัง ๆ(เพราะไม่เคยฝึกสติหรือสมาธิมาก่อน)  แต่หากเราเคยเจริญภาวนาเราก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร  สวดได้แม้ในใจเพราะเรามีสติ  มีส่วนส่งให้ไปเกิดในเทวโลกได้เป็นอันมาก

       

      * เทวโลกมีทั้งหมด 20 ชั้น  เว้นแต่ชั้นที่ 12-16 จะเป็นชั้นสำหรับพระอนาคามีบุคคลโดยเฉพาะ  ส่วนชั้นที่ 20 มีอายุยาวนานถึง 84,000 มหากัป  โดยในกัปหนึ่งเปรียบเทียบกันว่า ใน 100 ปีจะมีเทวดาเอาผ้าเนื้อละเอียดมาลูบภูเขาสูงใหญ่สักครั้งหนึ่ง  จนกว่าที่ภูเขาจะราบเตียนเสมอพื้นดิน  นั่นเรียกว่า 1 กัป(นานมาก)  ส่วนพวกเรา ๆ หากประพฤติปฏิบัติดีพอ และเจริญภาวนาสม่ำเสมอจะได้ไปเกิดในพรหมโลกชั้น 1 ถึง 3 เป็นอย่างมาก  แต่ต้องมีหิริโอตตัปปะ(ความละอายเกรงกลัวต่อบาป)ด้วย  เพราะถ้าศีล 5 กับมนุษยธรรม 10 เป็นสิ่งที่พึงมีในมนุษย์  หิริโอตตัปปะก็เป็นสิ่งที่พึงมีในเทวดาทั้งหลาย  

       

      การนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมนั้นทำได้ง่ายมากและไม่ต้องเสียเงินทองแม้แต่บาทเดียวจึงถือว่าเป็นการทำบุญที่ลงทุนน้อยสุดแต่ได้กำไรสูงสุด  อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องเก็บเล็กผมน้อยบุญด้วย  ไม่ใช่เอะอะนั่งสมาธิมันลูกเดียว  ชาติหน้าอาจจะเกิดเป็นคนมีปัญญาก็จริงแต่อาจไม่มีกะตังค์จะใช้ ก็ได้นะจะบอกให้  เพราะฉะนั้นทำบุญทำทานทำ ๆ ไปเถอะแล้วแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย  5 บาท , 10 บาท แต่ใจบริสุทธิ์ก็ได้บุญมากแล้ว 

       

      ทำบุญอย่าเลือกมาก...ให้มาก , ทำมากดีกว่าเยอะ!!!

       

      สุดท้ายจะฝากเคล็ดการนั่งสมาธิกับเดินจงกรม  เอาแบบง่าย ๆ วันละ 5 นาทีก็พอ

       

      นั่งสมาธิ - กำหนดจิตอยู่กับลมหายใจ  หายใจเข้ากำหนด "พอง - หนอ" ให้พอดีกับลมหายใจ  หายใจออกก็กำหนด "ยุบ - หนอ" (หรือจะ "พุท - โธ" ก็ตามแต่จะถนัด)

       

      เดินจงกรม - เดินเป็นเส้นตรงไม่ต้องไกลมาก  เดินช้า ๆ และกำหนดคล้าย ๆ กับการนั่งสมาธิ  คือ "ขวา-ย่าง-หนอ" และ "ซ้าย-ย่าง-หนอ"  เมื่อเดินไปสุดทางก็หันกลับแล้วเดินใหม่ 

       

      กล่าวคือ การเจริญภาวนาทั้งสองวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และเป็นการฝึกสติของเรานั่นเอง  ในชีวิตประจำวันหากกำหนดอะไรได้ก็กำหนดไว้ในใจ  เดินไปไหนก็ "ซ้ายหนอ ขวาหนอ"  โดนมีดบาดก็กำหนด "เจ็บ - หนอ"  วางกุญแจก็กำหนด "วาง - หนอ"  มั่นใจได้เลยว่าจะทำให้โรคขี้ลืมของเราหายไป  เพราะสติมันอยู่กับสิ่งที่กระทำไม่ใช่ความเคยชิน  ไม่ต้องทำตลอดเวลาก็ได้ แต่ถ้านึกได้ก็ทำแล้วกันนะ

       

      อ้อ...อย่าลืมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ญาติเราที่ล่วงลับกับเจ้ากรรมนายเวรด้วยนะ

       

      เจริญพรโยมเพื่อนทุกคน

       

      ปล.เกร็ดความรู้นี้เรียบเรียงใหม่ จากหนังสือ "วิธีสร้างบุญบารมี" และ "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" ขอให้เป็นธรรมทานแด่เพื่อนสนิทมิตรสหายทุกผู้นาม...สาธุ



      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×