คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : STEP ASIDE : 1
… Step Aside 1 …
ห้องคณะกรรมการนักเรียน
สองเท้าเล็กหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูไม้บานใหญ่ที่สลักตัวหนังสือสีทองไว้แบบโคตรเด่น คงต้องขอบคุณตัวหนังสือสีทองใหญ่ๆนี่แหละที่ทำให้ดงฮยอกไม่ต้องเดินตามหาจนขาลาก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
มือเล็กยกขึ้นเคาะประตูก่อนจะก้มลงดูโพสอิทในมือที่แอบจดชื่อประธานนักเรียนมาจากตรงหน้าอาคารเรียนไว้แต่ก็ถูกดึงความสนใจไปโดยเด็กหนุ่มตัวสูงที่มาเปิดประตูให้
“มีไรหรอ” เสียงนุ่มเอ่ยถาม
“เอ่อ ฉันมาหาประธานนักเรียนอ่ะ ที่ชื่อจองจินฮยอง เขาอยู่มั้ย”
“อ๋อ นายใช่คนที่ย้ายมาใหม่ป่ะ ฉันชื่อชานอูนะเป็นรองประธาน”
“ฉันดงฮยอก ยินดีที่ได้รู้จักนะ” ดงฮยอกยิ้มน้อยๆให้ชานอู คิดว่าผูกมิตรไว้ก่อนน่าจะเป็นการดีน่ะนะ
“เดี๋ยวฉันเรียกจินฮยองให้รอแป๊บนึง” เด็กหนุ่มตัวสูงยิ้มให้ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้อง ไม่นานเด็กผู้ชายที่เขาเดาว่าคงจะเป็นจินฮยองก็เดินออกมา
“ไงเด็กใหม่ ฉันจินฮยองนะ นายเรียนห้องเดียวกันกับฉันแล้วก็ชานอู ผอ.สั่งให้ฉันดูแลนาย เดี๋ยวเราขึ้นไปที่ห้องเรียนพร้อมกัน ฉันขอไปเก็บกระเป๋าก่อนแป๊บนึง ยืนรอตรงนี้นะโอเค๊?” จินฮยองยักคิ้วสองทีตามสไตล์คนมาดกวนๆแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องไม่ถึงห้านาทีก็เดินกลับออกมาพร้อมกับกระเป๋าสะพายบนหลังกว้างและชานอูที่ถูกมือหนากุมมือข้างหนึ่งเอาไว้
“จินฮยองทำไมต้องจับมือเนี่ย ฉันอายนะ” ชานอูบ่นอุบอิบใส่จินฮยอง
“เหอะน่า ฉันไม่ได้จับนายแก้ผ้าซะหน่อยอายอะไร ทีตอนแก้ผ้าจริงๆไม่เห็นจะอาย” แก้มป่องๆของชานอูขึ้นสีเล็กน้อย มือเล็กฟาดลงบนแขนจินฮยองไปทีนึง เรียกรอยยิ้มจากดงฮยอกที่ยืนดูความน่ารักของคนสองคนนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ขนาดนี้แล้วคงไม่ต้องถามแล้วล่ะนะว่าสองคนนี้เขาเป็นอะไรกัน “ป่ะดงฮยอกไปกัน”
ดงฮยอกเดินตามหลังจินฮยองกับชานอูที่หยอกล้อกันตลอดทางที่เดินไปห้องเรียน ดูภาพตรงหน้าแล้วก็อดจะยิ้มไม่ได้ อย่างน้อยนี่ก็คงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเช้านี้แล้วล่ะ เมื่อมาถึงหน้าห้องเรียนทั้งสามคนโค้งให้อาจารย์ตัวเล็กที่อยู่หน้าชั้นเรียนหนึ่งที
“นั่นนักเรียนที่มาใหม่ใช่มั้ย มาแนะนำตัวให้เพื่อนๆรู้จักหน่อยสิ” อาจารย์ตัวเล็กกวักมือเรียกให้ดงฮยอกไปยืนที่หน้าชั้นเรียน ถ้าไม่รู้ว่าเป็นอาจารย์แล้วบอกเขาว่าเป็นเด็กมอต้นดงฮยอกก็เชื่อนะ ตัวเล็กๆแก้มป่องๆแบบนี้ ดงฮยอกโค้งเล็กน้อยก่อนจะแนะนำตัว
“สวัสดีครับ คิมดงฮยอกครับเพิ่งมาใหม่ขอฝากตัวด้วยครับ” ดงฮยอกส่งยิ้มให้เพื่อนในห้องที่ตอนนี้เริ่มจับกลุ่มคุยกันจนบรรยากาศในห้องเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
“โหยแกกก น่ารักมากเลยอ่ะ เขามีแฟนยังอ่ะ ฉันจีบเขาเลยดีมั้ยอ่ะ”
“กูว่าย้ายมาปีสุดท้ายแล้วได้อยู่ห้องคิงแบบนี้แม่งต้องเจ๋งมากแน่เลยว่ะ”
“โหมึง โคตรน่ารักเลยว่ะ ผู้ชายด้วยกันอย่างกูยังใจสั่นเลยเนี่ย”
“เอาล่ะๆพอได้แล้ว ดงฮยอก อาจารย์ชื่ออาจารย์คิมจินฮวานนะ เรียกอาจารย์จินเฉยๆก็ได้ เป็นที่ปรึกษาของห้องนี้ มีอะไรก็ปรึกษาอาจารย์ได้นะ ดงฮยอกไปนั่งตรงโน้นก็แล้วกัน เหลือที่นั่งแค่ที่เดียวแล้ว” อาจารย์จินฮวานชี้มือไปทางโต๊ะที่ติดริมหน้าต่างด้านหน้าสุดของห้อง ที่นั่งด้านข้างมีผู้ชายตัวสูงที่ใส่ฮู้ดสีดำนั่งอยู่ ดงฮยอกหันกลับมาโค้งให้อาจารย์อีกครั้งก่อนจะเดินไปประจำที่ที่นั่งของตัวเอง
“เอ่อ ขอโทษนะนายชื่อ ...” เสียงเล็กถูกตัดขาดไปเพราะคนตัวสูงข้างๆฟุบลงกับโต๊ะนักเรียนไปหน้าตาเฉย ร่างบางแอบงงอยู่น้อยๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ ถ้าไม่อยากคุยเขาคุยกับชานอูกับจินฮยองที่นั่งอยู่ข้างหลังเขาก็ได้
การใช้ชีวิตในโรงเรียนใหม่วันแรกถือว่าโอเคเลยก็ว่าได้สำหรับเด็กใหม่อย่างดงฮยอก คงต้องขอบคุณชานอูกับจินฮยองที่คอยแนะนำนู่นนี่นั่นให้ตลอด ทั้งพาไปกินข้าวแล้วก็พาเดินดูตึกเรียน อย่างน้อยๆดงฮยอกก็สบายใจได้นิดหน่อยว่าได้มีเพื่อนที่ใจดีแล้วสองคน
ส่วนการเรียนการสอนไม่มีอะไรมากมายตามสเต็ปการเปิดเทอมวันแรก อาจารย์แค่เข้ามาทักทายและพูดคุยกับนักเรียนเท่านั้น เลยพอจะมีเวลาให้ดงฮยอกได้ทำความรู้จักกับเพื่อนๆคนอื่นๆได้เยอะพอสมควร ยกเว้นก็แต่คนที่นั่งอยู่ข้างๆเขานี่แหละ กะว่าจะถามชื่อจะคุยด้วยสักหน่อยแต่คนตัวสูงนี่ก็หลับอยู่ได้ตลอดเวลา อยากจะถามจริงๆว่าตอนกลางคืนได้นอนบ้างรึเปล่า
ดิ๊งดองดิงด่อง
เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนมักจะมาพร้อมกับฝูงชนที่หลั่งไหลกันลงมาจากอาคารเรียนเสมอ ดงฮยอกเดินลงมาจากตัวอาคารเรียนพร้อมกับชานอูและจินฮยองที่เดินตามหลังมา
“เออชานอู ขอถามอะไรหน่อยสิ” ดงฮยอกหันไปถามชานอูที่กำลังโดนจินฮยองแกล้งเอานิ้วมาจิ้มแก้ม
“หื้ม? ว่ามาสิ นี่หยุดแกล้งฉันสักห้านาทีจะตายมั้ยห๊ะจองจินฮยอง” ชานอูหันไปยู่ปากใส่คนตัวสูงข้างหลังเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาสนใจดงฮยอก
“คนที่นั่งข้างฉันอ่ะ เขาชื่ออะไรหรอ”
“อ๋อ บ๊อบบี้อ่ะนะ จริงๆเขาชื่อคิมจีวอน แต่เพื่อนส่วนมากเรียกว่าบ๊อบบี้”
“คิมจีวอนหรอ?”
“อื้ม มีอะไรรึเปล่า”
“อ๋อเปล่าหรอก” เขาแค่คิดว่าชื่อนี้มันคุ้นๆเฉยๆ “กลับบ้านดีๆนะ อย่าตีกันล่ะ” ดงฮยอกยิ้มและโบกมือให้ชานอูและจินฮยองที่แยกทางกับเขาไปตรงประตูโรงเรียน “คิมจีวอนหรอ เหมือนเคยได้ยินที่ไหน ช่างมันเหอะ”
บ้านของดงฮยอกไม่ได้อยู่ไกลมากอีกอย่างมีทางลัดด้วยเลยพอจะเดินกลับได้ สองเท้าเล็กพาตัวเองเดินมาตามทางเดินเรื่อยๆและเลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยเล็กๆที่เป็นทางลัดให้เดินกลับไปที่บ้านได้ เวลาช่วงเลิกเรียนแบบนี้ซอยเล็กๆนี่ก็แอบดูน่ากลัวนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรหรอก แค่รีบๆเดินให้ถึงบ้านเร็วๆก็พอ
“โอ้วๆๆ พวกมึงดูดิ พวกเด็กเทพเดินผ่านมาทางนี้ว่ะ” เสียงทุ้มต่ำของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์เอ่ยขึ้น ทั้งๆใส่ที่ชุดนักเรียนจากโรงเรียนเดียวกันแต่สภาพกลับต่างจากของดงฮยอกโดยสิ้นเชิง ร่างบางพยายามไม่สนใจและเร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อนเดินหนีไปให้พ้นๆแต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อเด็กหนุ่มตัวลูงคนนั้นกระโดดลงมายืนขวางหน้าเขาเอาไว้ พร้อมกับเดอะแก๊งของมันเดินตามมายืนล้อมเขาไว้ด้วย “ได้ข่าวว่าเด็กใหม่หรอ น่ารักดีนี่” มือหยาบยกขึ้นจับคางเรียวแต่ก็ถูกมือเล็กปัดออกอย่างแรง
“อย่ามายุ่งน่า ถอยไปจะกลับบ้าน” เท้าเล็กก้าวมาทางซ้ายแต่ก็ถูกตามมาด้วยเด็กผู้ชายคนตรงหน้าอีกเช่นกัน ตาเล็กเหลือบมองป้ายชื่อที่กลัดอยู่บนเสื้อสูทของคนตรงหน้า
กูจุนฮเว
“จะรีบไปไหนล่ะ อยู่ร่วมกิจกรรมรับน้องกันสักหน่อยไม่ได้หรอน้องใหม่” ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้เขาอีกก้าวหนึ่ง เท้าเล็กกะจะถอยไปข้างหลังแต่กลับชนกับแผ่นอกของเด็กผู้ชายอีกคนที่ยืนล้อมเขาเอาไว้ ให้ตายเถอะ เมื่อเช้านี้ก็เดินผ่านทางนี้นะไม่เห็นจะมีอะไรเลย
“กูจุนฮเวถอยไป” คนตัวเล็กบอกกับคนตรงหน้าอย่างใจเย็น เพิ่งจะมาอยู่วันแรกเขาก็อยากได้เพื่อนนะ ไม่ได้อยากจะได้ศัตรูซะหน่อย
“โอ๊ะๆๆ รู้จักชื่อฉันซะด้วย อย่างนี้ต้องให้รางวัล” ใบหน้าคมก้มลงมาหมายจะฝังจมูกโด่งลงบนแก้มใสๆนั่นสักครั้งแต่กลับถูกใครบางคนคว้าคอเสื้อเอาไว้ “ไรวะ” คนตัวสูงหันไปมองคนที่คว้าคอเสื้อเขาเอาไว้อย่างหัวเสีย “ไอ้บ๊อบบี้” จุนฮเวเอ่ยชื่อของคนที่เข้ามาร่วมวง มาโผล่แถวนี้ได้ไงเนี่ย และดูท่าทางว่าพวกจุนฮเวจะไม่ค่อยกล้าทำอะไรบ๊อบบี้สักเท่าไหร่
“รับนงรับน้องอะไรของพวกมึงวะ น่ารำคาญ” มือหนาของบ๊อบบี้คว้าเอาข้อมือบางแล้วดึงให้ออกมาจากวงล้อมของเดอะแก๊งของจุนฮเว และออกแรงดึงให้เดินตามไปด้วยกัน ดงฮยอกงงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเล็กน้อย เมื่อหันกลับไปมองดูท่าทางจุนฮเวจะอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อยที่เขาถูกบ๊อบบี้ลากออกมาแบบนี้ เมื่อเดินออกมาไกลจากกลุ่มของจุนฮเวพอสมควรบ๊อบบี้ก็ปล่อยข้อมือเขาให้เป็นอิสระและเดินไปด้วยกันเงียบๆ
“ขอบใจที่ช่วยนะบ๊อบบี้” เสียงใสเอ่ยขอบคุณคนข้างๆ
“อืม มาทำอะไรแถวนี้ มันอันตรายนะ หน้าตาอย่างนายระวังจะได้เป็นเมียไอ้พวกนั้น”
“ก็พอดีทางนี้มันเดินลัดกลับบ้านฉันได้ แต่เมื่อเช้าฉันเดินมาก็ไม่เห็นมีอะไรเลย”
“หึๆ ก็นั่นมันเมื่อเช้านิ่ แล้วนายรู้ชื่อฉันได้ไง”
“ก็ถามเอาจากชานอูน่ะ แล้วนายมาทำอะไรแถวนี้หรอ”
“พอดีบ้านฉันก็กลับทางนี้เหมือนกัน”
“อ๋อ แล้วทำไมพวกนั้นถึงไม่กล้าทำอะไรนาย ดูท่าทางหมอนั่นไม่น่าจะยอมใครง่ายๆนะ”
“ลุงฉันเป็นผอ. พวกนั้นไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก ฉันถามนายได้มั้ยว่าทำไมถึงได้ย้ายมา” เท้าเล็กหยุดกึกลงหลังจากได้ยินคำถามนั้น “มีไรรึเปล่า ถ้าเล่าไม่ได้ไม่ต้องก็ได้นะ”
“เปล่าหรอก เล่าได้” เท้าเล็กเดินต่อและเริ่มเล่าเรื่องให้บ๊อบบี้ฟัง “ฉันย้ายมาที่นี่เพราะพ่อแต่งงานใหม่ พ่อกับแม่ฉันเลิกกันตั้งแต่ฉันอายุห้าขวบเพราะท่านไม่เข้าใจกัน ฉันเลยถูกส่งไปอยู่กับพ่อที่อเมริกา ส่วนพี่สาวก็อยู่กับแม่ที่เกาหลี เมื่อเดือนก่อนพ่อแต่งงานใหม่แล้วก็พาเมียใหม่มาอยู่ด้วยที่บ้าน น่าอึดอัดจะตายไป ฉันเลยย้ายมาอยู่ที่เกาหลีกับแม่ แค่นั้นแหละ”
“อ๋อ ... ขอโทษที่ถามนะ แต่นายดูไม่เหมือนคนที่ครอบครัวมีปัญหาเลยนะ”
“ก็ จะว่าไงล่ะ ฉันไม่ได้คิดว่ามันคือปัญหาของชีวิตฉัน พ่อกับแม่เลิกกันก็ไม่เห็นว่าฉันจะต้องทำตัวมีปัญหานิ่”
“หึๆ ดีจังเลยนะนายน่ะ” บ๊อบบี้หัวเราะในลำคอเล็กน้อยก่อนที่บทสนทนานั้นจะจบลง พอดีกับที่มาถึงหน้าบ้านของดงฮยอก
“ถึงแล้วล่ะ แล้วบ้านนายอยู่ตรงไหนหรอ” สองเท้าหยุดเดินและหันมาถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ถัดไปอีกสองหลังก็ถึงแล้ว”
“จริงป่ะ มีเพื่อนอยู่ใกล้ๆบ้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ งั้นฉันเข้าบ้านแล้วนะบ๊อบ ...” เสียงหวานตัดขาดเพราะคิดถึงเรื่องบางเรื่องขึ้นมา
“อ๋อ บ๊อบบี้อ่ะนะ จริงๆเขาชื่อคิมจีวอน แต่เพื่อนส่วนมากเรียกว่าบ๊อบบี้”
“คิมจีวอน? อ๋อ มิน่าฉันถึงคุ้นชื่อนาย นี่น่าจะเป็นของนายนะ” มือเล็กล้วงเอาป้ายชื่อในกระเป๋ากางเกงนักเรียนยื่นให้กับร่างสูง
“อ๋อ ขอบใจ” มือหนารับป้ายชื่อมาและเก็บเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อฮู้ด
“งั้นฉันเข้าบ้านนะ” ดงฮยอกกลับหลังหันกำลังจะเปิดประตูรั้วสีขาว แต่ก็ถูกคนข้างหลังเรียกเอาไว้ซะก่อน
“เดี๋ยว เอ่อ ... ขอยืมโทรศัพท์หน่อยดิ” คนตัวเล็กทำหน้างงน้อยๆแต่ก็ล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายส่งให้คนตัวสูง มือหนารับไปก่อนจะกดยุกยิกๆอยู่สักพักแล้วยืนมันกลับให้เจ้าของ “เสร็จแล้วใช่ป่ะ งั้นเข้าบ้านจริงๆแล้วนะ” ดงฮยอกยิ้มให้และเปิดประตูเข้าบ้าน ร่างสูงพยักหน้าเบาๆและกลับหลังหันเดินกลับบ้านตัวเองเช่นกัน
ถ้ามีใครเดินผ่านมาเห็นเขาตอนนี้คงจะต้องคิดว่าเขาบ้าแน่ๆ ก็แหงสิ ได้ไลน์ดงฮยอกมาแค่นี้ยิ้มจนหน้าจะบานเท่าบ้านอยู่แล้ว
… TBC in Step Aside 2 …
Talk :
มาแล้ววววตอนแรกมาแล้ววว เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย
ขอบคุณรีดเดอร์ที่หลงเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ ไรต์ขอกราบงามๆหนึ่งที ฮ่าๆๆๆ
ในตอนนี้ตัวละครเริ่มเยอะขึ้นมามากแล้วเนอะ
อีบินี่แรดจัง มีการหลอกขอไลน์เขาด้วย ฮ่าๆๆๆ
ฝากติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆๆ และฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของรีดเดอร์ด้วยนะค้า และอย่าลืมไปสกรีมฟิคในทวิตเตอร์ผ่านทางแฮชแท็กด้วยนะคะ
#สตอซบ๊อบดง
เอนจอยรีดดิ้งนะคะ รักรีดเดอร์ทุกคน จุ๊บบบบบบบ <3
ความคิดเห็น