เรื่องนี้มีคติ - เรื่องนี้มีคติ นิยาย เรื่องนี้มีคติ : Dek-D.com - Writer

    เรื่องนี้มีคติ

    เรื่องนี้มีคติ

    ผู้เข้าชมรวม

    729

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    729

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 ต.ค. 49 / 13:17 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เจ้าของร้านขายเนื้อสดคนหนึ่งรู้สึกประหลาดใจที่หมาตัวหนึ่งมาที่ร้าน
      โดยในปากมันคาบแบงก์
      10 ดอลลาร์และกระดาษเขียนข้อความว่า “ขอซื้อไส้กรอก 12 ชิ้นกับขาแกะ 1 ขาครับ”
      เขารู้สึก
      ประทับใจความแสนรู้ของมัน ดังนั้น หลังจากเก็บเงิน 10 ดอลลาร์
      และเอาไส้กรอกและขาแกะใส่ถุง
      แขวนที่ปากให้มันคาบไปแล้ว เขาจึงตัดสินใจปิดร้านสะกดรอยตามมันไป
      หมาตัวนั้นเดินไปตามถนนจนถึงทางม้าลาย
      มันก็วางถุงที่คาบไว้ลงแล้วยืนด้วยขาหลังและยกขา
      หน้ากดปุ่มไฟสำหรับคนข้ามถนนแล้วก็คาบถุงต่อ
      รอจนไฟคนข้ามเขียวมันจึงข้ามไปยังป้ายรถเมล์อีกฝั่งหนึ่ง
      มันจ้องมองตารางเวลาเดินรถแล้วนั่งลงตรงที่นั่งรอ สักพักมีรถเมล์คันหนึ่งมา
      มันเดินไปดูหมายเลขที่
      หน้ารถแล้วก็กลับมานั่งรอต่อ อีกสักเดี๋ยวก็มีรถเมล์มาอีกคัน
      มันเดินไปดูหมายเลขรถอีก เมื่อเห็นว่าเป็น
      สายที่มันรออยู่ มันจึงขึ้นรถเมล์คันนั้น
      คนขายเนื้อถึงกับอ้าปากค้างทึ่งในความแสนรู้ของมัน แล้วรีบตาม
      มันขึ้นรถคันนั้นไป
      หลังจากรถวิ่งผ่านกลางเมืองออกไปยังชานเมือง
      เจ้าหมาแสนรู้ก็ลุกจากที่นั่งเดินไปหน้ารถ
      มันยืนด้วยขาหลังแล้วเอาขาหน้ากดกริ่งบนรถ
      เมื่อรถจอดมันก็ลงและเดินไปตามถนนจนถึงหน้าบ้านหลังหนึ่
      งแล้วเลี้ยวเข้าไป คนขายเนื้อยังสะกดรอยตามมันอยู่ห่างๆ เช่นเดิมล์
      เมื่อมาถึงประตูบ้านที่ปิดอยู่มันก็วางถุงไส้กรอกที่คาบไว้ลง
      แล้วถอยหลังมาตั้งหลักประมาณ
      2-3 เมตร จากนั้นก็วิ่งเข้าชนประตูเต็มแรง มันพยายามอยู่ 2-3
      ครั้งแต่ประตูก็ยังเปิดไม่ออก มัน
      เลยเดินอ้อมตัวบ้านไปที่หน้าต่างบานหนึ่งที่ปิดอยู่และเอาหัวโขกที่หน้าต่างหลายครั้ง
      แล้วก็เดินกลับมารอ
      ที่ประตู
      สักพักประตูบ้านก็ถูกเปิดโดยเจ้าของหมาเป็นผู้ชายหุ่นล่ำบึ้ก
      ซึ่งพอเปิดประตูเสร็จเขาก็เริ่มเต
      ะต่อยและตะโกนด่าเจ้าหมาแสนรู้ตัวนั้นทันที ถึงตอนนี้คนขายเนื้ออดรนทนไม่ไหว
      เขารีบวิ่งเข้าไปห้าม
      เจ้าของหมา พร้อมกับถามว่า “คุณเตะมันทำไมกัน
      มันเป็นหมาสุดอัจฉริยะเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย ถ้า
      ไปออกทีวีต้องดังแน่”
      เจ้าของหมาตอบสวนทันทีว่า “คุณว่ามันฉลาดนักเหรอ เชอะ!
      รู้มั้ยว่านี่เป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์นี้นะที่มันลืมเอากุญแจบ้านติดตัวไปด้วย”
      คติสอนใจจากเรื่องนี้คือ
      "เราอาจทำงานได้เกินความคาดหมายในสายตาผู้อื่น แต่ก็ยัง
      ทำงานได้ต่ำกว่าเป้าหมายในสายตาของนายเราเสมอ"

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×