ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [[Bonasu's Room]] ห้องเก็บของส่วนตั๊วส่วนตัว!!

    ลำดับตอนที่ #10 : [Audition] นางเอกฮยอกแจ (คุณ Dark Prince)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 51


    -From นางเอกฮยอกแจ[ลี ซอนมี]- สีส้ม ห้ามเปลี่ยนนะ!! ไม่งั้นจะไม่เก็บเข้าคลัง!!

    ชื่อคนสมัคร : โบนัส จ้ะ

    อายุคนสมัคร : 17 ปี

    ชื่อนางเอก : คิม อีซึล ((แปลว่า น้ำค้าง))

    ชื่อเล่น : อีซึล

    อายุ(เข้ากับความเหมาะสมของพระเอกด้วยนะ!!) : 21 ปี

    บุคลิก รูปร่าง หน้าตา(ละเอียดนะ!!) : สาวตัวเล็ก ร่างบางอ้อนแอ้นเพรียวลม แขนขาเรียว ผิวกายของเธอขาวเนียนอมชมพูเป็นธรรมชาติ ดวงหน้ารูปไข่เนียนใสไร้ริ้วรอยถูกประดับด้วยพวงแก้มสีแดงระเรื่อและริมฝีปากอิ่มสีชมพูโอรส จมูกโด่งแต่พองาม ดวงตากลมโตแต่พอดี ในนัยน์ตาสีดำประกายเทาของเธอนั้นมักจะไม่เคยแสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิดใดๆ มีเพียงแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น ซึ่งนั่นมันก็ยิ่งเพิ่มความฉงนสงสัยชวนให้ผู้ที่จ้องมองนั้นค้นหาความนัย ทรงผมด้านหน้าตัดเป็นหน้าม้า ส่วนผมด้านหลังถูกดัดให้เป็นลอนคลื่นทิ้งตัวยาวลงมาถึงกลางหลัง หากมองผ่านๆแล้วเธอคนนี้ก็ไม่ต่างจากตุ๊กตาที่ไร้ชีวิตชีวา ไร้ความรู้สึกนึกคิด และอาจจะดูน่ากลัวสำหรับเด็กๆเสียด้วยซ้ำ

    นิสัย(มากกว่า 5 บรรทัด!! ไปดูคำใบ้ตอนที่ 2) : สำหรับนิสัยของสาวแกร่งนามอีซึลคนนี้เรียกได้ว่าเธอคือเจ้าหญิงน้ำแข็งจริงๆ เพราะไม่ว่าใครจะทำอะไร จะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน น่ากลัว น่าตื่นเต้น น่าเศร้า น่าดีใจ เธอก็มีหน้าเดิมตลอด นิ่งได้น่าตายมาก เป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งมากถึงมากที่สุด ไม่ค่อยจะแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองให้คนอื่นได้รับรู้ และที่สำคัญเธอไม่ชอบแสดงความอ่อนแอของตัวเองให้ใครเห็น เพราะไม่อยากจะทำตัวน่าสงสารให้คนรอบข้างเป็นห่วง แต่ถึงเธอจะเก็บความรู้สึกเก่งก็จริงแต่เธอก็เป็นคนที่เปิดเผยนะ ตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ ในบางครั้งเธอก็ถูกมองว่าเป็นคนปากร้าย แต่คำว่าปากร้ายของเธอนี่ไม่ใช่ว่าด่าแรงหรือใช้คำหยาบคายอะไรหรอก เธอจะถนัดเรื่องการพูดจิกกัดจี้ใจดำด้วยคำสุภาพเสียมากกว่า เธอเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นและมีความพยายามมาก ถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วก็จะทำสิ่งนั้นให้ถึงที่สุด มีความรับผิดชอบสูง พูดคำไหนคำนั้น ค่อนข้างใจเด็ดและใจกล้าพอตัว ไม่ค่อยห่วงภาพพจน์ กล้าได้กล้าเสีย แลดูภายนอกอาจจะมองว่าเธอเป็นคนหยิ่งเอาการ แต่ถ้าได้ลองเข้ามาคุยอย่างจริงจังแล้วจะรู้เลยว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด เธอก็แค่เป็นคนนิ่งและคุยไม่เก่ง แต่ถ้าชวนเธอคุย เธอก็จะคุยได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อเลยล่ะ แต่เธอก็ไม่ค่อยจะคบค้าสมาคมกับใครหรอก เพราะมีโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่คนเดียวเสียมากกว่า

    ชอบ : ความจริงแล้วเธอคนนี้ไม่มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษ แต่ก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เธอได้เห็นทุกครั้งเป็นต้องใจเต้น นั่นก็คือความเกป็นสุภาพบุรุษหรือความใจดีที่คนอื่นแสดงออกมา เธอจะปลื้มคนๆนั้นเอามากๆ

    เกลียด : พวกเห็นแก่ตัว ทำตัวเป็นขยะสังคม มือไม่พายแล้วยังเอาเท้าราน้ำ ,, พวกผู้ชายเจ้าชู้ โลเล หลายใจ

    ประวัติครอบครัว : แม่ของเธอเสียไปตั้งแต่เธออายุยังน้อย เนื่องจากเป็นโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาหายได้ หลังจากนั้นเธอก็ได้อาศัยอยู่กับพ่อของเธอเพียงสองคน พ่อของเธอเปิดกิจการร้านบะหมี่เล็กๆใจกลางกรุงโซล ซึ่งรสชาติบะหมี่สูตรของพ่อเธอนั้นเป็นที่นิยมของคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ก็ตาม แต่เมื่อปีก่อนพ่อของเธอได้ป่วยหนักมาถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล หมอได้ตรวจพบว่าพ่อของเธอป่วยเป็นโรคหัวใจมา 3 ปี ระยะนี้จึงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ห้ามทำงานหนักเด็ดขาด เพราะเหตุนี้จึงส่งผลให้ร้านบะหมี่ของพ่อเธอต้องปิดกิจการลงอย่างน่าเสียดายทั้งๆที่ยังมีลูกค้าเข้าคิวรอเป็นแถวยาว แต่ก็ใช่ว่าครอบครัวของเธอจะถึงคราวอับจนหนทางซะทีเดียว แม้อีซึลจะทำอาหารไม่เก่ง แต่เธอก็มีความสามารถทางด้านการชงชาและกาแฟ เธอจึงได้รวบรวมเงินทุนที่มีอยู่เปิดร้านกาแฟเล็กๆ ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือน ร้านกาแฟของเธอก็เป็นที่นิยมในหมู่คนจำนวนมากไม่ต่างจากร้านบะหมี่ของพ่อเธอเลย

    ฐานะ(ปาณกลางน้า!!) : ฐานะของเธอและพ่อนั้นก็ไม่ได้ถือว่ายากจนข้นแค้นอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ถึงกับรวยมากถึงขั้นมีเงินไปช็อปปิ้งทุกๆเดือน เรียกได้ว่าพอมีพอกินมากกว่า แต่ความจริงแล้วรายได้ที่เธอได้จากการขายกาแฟในแต่ละวันก็มากโขอยู่ ถ้าเทียบกับกิจการอื่นๆ แต่เพราะเธอจะต้องเก็บออมเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อที่จะใช้เป็นค่ารักษาพ่อของเธอด้วย

    ประวัติความรัก : เธอไม่เคยมีความรัก และก็ไม่เคยเชื่อในความรัก เธอคิดเสมอว่ามีรักที่ใดก็ย่อมมีทุกข์ที่นั่น อาจจะมองดูเหมือนว่าเธอเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย มันก็อาจจะจริง แต่ถ้ามองตามหลักความเป็นจริงแล้ว ความคิดของเธอนั้นถูกต้อง 100% !

    บทสำรอง(ห้ามบอกว่ายัดนะ!!) : คยูฮยอน only !!

    อิมเมจ 2 รูป ดูดีที่สุดนะ!! (ห้ามเป็นอิมเมจ ลี จีอานะ) : Lee So-Ah




    อิมเมจคู่ เอาแบบหล่อๆนะ!! :


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    คำถามทั่วไป
    [เต็มที่]

    1.คุณเจอกับฮยอกแจได้ยังไงคะ แล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ [เต็มที่ มีคำพูดยิ่งดี]
    ตอบ : ฮยอกแจมานั่งดื่มกาแฟกับกิ๊กของเขาที่ร้านของอีซึล ด้วยความที่ว่าฮยอกแจเป็นคนประเภทม่อไปทั่ว ไม่ว่าจะเจอสาวคนไหนก็จีบหมด ฮยอกแจก็ได้ทำการม่ออีซึลไปตามระเบียบ...

    “นูน่า~ ดูแลร้านคนเดียวเลย ไม่เหนื่อยเหรอครับ? ให้ผมช่วยดีมั้ย? แต่มีข้อแม้นะต้องหอมแก้มผมเป็นค่าตอบแทน”

    แต่มีหรือคนอย่างอีซึลจะเล่นด้วย? เธอเกลียดพวกผู้ชายเสเพลแบบนี้ซะยิ่งกว่าอะไรดี

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันดูแลร้านนี้มาคนเดียวเกือบปีแล้ว แต่ถ้าคุณอยากช่วยจริงๆ ก็ช่วยกลับไปนั่งกับแฟนสาวของคุณตามเดิมเถอะค่ะ จะเป็นความกรุณามาก”

    ฮยอกแจก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะเลยทีเดียว เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขาแบบนี้ แม้จะไม่ใช่คำพูดที่หยาบคาย แต่เขาก็รับไม่ได้ที่เสน่ห์ของเขาไม่มีผลอะไรต่อเธอคนนี้เลย! O[]O ดังนั้นจึงส่งผลให้เขาไม่ลดละความพยายามที่จะเกี้ยวอีซึลต่อไป

    “ต่อไปนี้เธอคนนั้นจะไม่ใช่แฟนของผมอีกต่อไป ในหัวใจของผมเวลานี้มีแต่นูน่าคนเดียวเท่านั้น”

    อีซึลรู้สึกรำคาญฮยอกแจเต็มทน จึงเดินออกจากเค้าท์เตอร์แล้วเดินลากฮยอกแจตรงไปยังโต๊ะที่กิ๊กของฮยอกแจนั่งอยู่

    “ขอโทษนะคะ ช่วยกรุณาดูแลแฟนของคุณให้ดีหน่อย เพราะแฟนของคุณมายุ่งวุ่นวายกับฉันจนฉันเริ่มรู้สึกรำคาญ”

    แต่ใช่ว่าคนที่จะโดนวีนจะเป็นฮยอกแจ ซึ่งเป็นตัวปัญญา แต่คนที่รับกรรมกลับเป็นอีซึลเอง เพราะหลังจากที่เธอได้ลากตัวฮยอกแจมาส่งคืนเจ้าของแล้ว กิ๊กของฮยอกแจกลับลุกขึ้นยืนแล้วยกแก้วน้ำเย็นๆสาดเข้าใส่ใบหน้าของอีซึลเต็มๆ

    “ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย!! เธอคงจะใช้มารยากับแฟนฉันล่ะสิ!!!”

    “เฮ้ย!! เธอทำบ้าอะไรของเธอน่ะ?!!”

    ฮยอกแจที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แถมยังเป็นตัวปัญญาอีก ร้องขึ้นเสียงดังด้วยความตกใจรีบลากตัวกิ๊กจอมวีนของตัวเองออกไปทันที

    อีซึลยืนกำหมัดแน่นระงับสติอารมณ์เอาไว้ เพราะถึงอย่างไรเธอคนนั้นก็คือลูกค้าของร้านเธอคนหนึ่ง เธอมองออกไปด้านนอกของเธอเห็นภาพของฮยอกแจกำลังยืนโวยวายใส่แฟนสาวของเขา และตัวผู้หญิงเองก็ไม่แพ้กัน เธอทุบรัวกำปั้นใส่อกฮยอกแจรัวพร้อมกับกรีดร้องเสียงดังเข้ามาภายในร้าน ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกสมเพชผู้หญิงคนนั้นยิ่งนักที่จะต้องตกมาเป็นเหยื่อของความรักจอมปลอม

    “ขอประทานอภัยทุกท่านด้วยนะคะที่ทำให้ตกใจ อย่าสนใจเลยค่ะก็แค่คนเสียสติ ^^” อีซึลพูดกับลูกค้าท่านอื่นๆที่นั่งอยู่ภายในร้านและได้เห็นเหตุการณ์ด้วยอย่างสุภาพ เธอคลี่ยิ้มบางๆที่ริมฝีปากเพื่อแสดงออกให้ลูกค้าดูว่าเธอไม่เป็นไร จากนั้นอีซึลก็ก้มหน้าก้มตาเก็บกวาดโต๊ะและพื้นที่น้ำหกใส่ให้สะอาด

    “ผมขอโทษแทนผู้หญิงคนเมื่อกี๊ด้วยนะครับอ ผมเสียใจจริงๆที่เธอทำแบบนั้นกับคุณ”

    ฮยอกแจเดินกลับเข้ามาในร้านใหม่อีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยคำขอโทษอีซึล แต่อีซึลกลับมองข้ามคำขอโทษนั้นไป เธอรู้สึกฉุนและหมั่นไส้ในความเสเพลไร้ความรับผิดชอบและความจริงใจของฮยอกแจขึ้นมากะทันหัน เธอชูแก้วน้ำที่ถืออยู่ในมือขึ้นเหนือหัวของฮยอกแจก่อนที่จะค่อยๆราดน้ำในแก้วลงบนหัวของเขา

    “ถือว่าหายกันแล้วนะ...” อีซึลเอ่ยด้วยใบหน้านิ่งเรียบไร้ความรู้สึกก่อนที่จะหมุนตัวเดินหันหลังกลับไปที่เค้าท์เตอร์ แต่กลับถูกฮยอกแจคว้าตัวไว้เสียก่อน

    “เธอทำอะไรน่ะ?!! รู้มั้ยว่าไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำแบบนี้กับฉันมาก่อน!!!” ฮยอกแจพูดด้วยน้ำเสียงกร้าวเพราะความโมโห ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยต้องรู้สึกอับอายขนาดนี้ เขาบีบต้นแขนของอีซึลแน่นจนเธอเริ่มรู้สึกเจ็บแปลบๆขึ้นมา

    “แล้วไง? ฉันก็ไม่ได้ดีใจเท่าไหร่หรอกนะที่ได้เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำแบบนี้กับคุณ” อีซึลพูดจบก็สะบัดแขนของตัวเองออกจากการเกาะกุมของฮยอกแจทันที

    “นูน่า...นูน่ากำลังลองดีผิดคนแล้วล่ะ ผมจะให้โอกาสนูน่าพูดใหม่อีกครั้ง” ฮยอกแจพูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนโทสะ แสดงถึงความโอหังที่มีมากในตัวของเขา เขายกมือขึ้นมาไล้แก้มของอีซึลอย่างถือวิสาสะ แต่มีหรือคนอย่างอีซึลจะยอมง่ายๆ เธอตีมือปลาหมึกของฮยอกแจดังเพี๊ยะ

    “จะให้พูดอะไร? ฉันไม่สนใจผู้ชายเสเพลอย่างนายหรอกนะ”

    “งั้นก็ตามใจ...ทุกคนครับ!! ช่วยเป็นพยายามให้ผมด้วยนะครับ ผมจะทำให้ผู้หญิงคนนี้ตกหลุมรักผมอย่างหัวปรักหัวปรำให้ได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน !!!!” ฮยอกแจร้องตะโกนป่าวประกาศดังลั่นให้คนทั้งร้านได้ยืนถึงคำพูดของเขา ทางด้านอีซึลเองก็ไอ้แต่ยืนนิ่ง อึ้งไปกับการกระทำของผู้ชายงี่เง่าตรงหน้า เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเจอคนหน้าด้านขนาดนี้

    “ถ้าคิดว่าแน่ ก็ลองดู บอกไว้ก่อนเลย คนอย่างนายไม่เคยอยู่ในสายตาของฉันแม้แต่น้อย” อีซึลเอ่ยก่อนที่จะเดินกลับไปที่เค้าท์เตอร์ประจำตำแหน่งของตัวเอง แต่ฮยอกแจก็ยังคงเดินตามเธอมาติดๆ

    เขายกมือขึ้นช้อนปลายคางของอีซึลขึ้นก่อนที่จะเลื่อนมือไปจับที่ปลายผมข้างแก้มของเธอเล่นและเอ่ยขึ้นว่า...“ผมจะทำให้นูน่าร้องเรียกหาแต่ผมเพียงคนเดียว”

    สิ้นคำพูดประโยคนั้น ฮยอกแจก็หมุนตัวหันหลังเดินจากไป ทิ้งไว้แต่ความสงสัยมึนงงให้แก่คนให้เหตุการณ์มองตามแผ่นหลังของเขา มีเพียงแต่อีซึลเท่านั้นที่ไม่คิดจะเหลียวมองตามผู้ชายเสเพลที่เพิ่งจะประกาศต่อสาธารณชนว่าจะทำให้เธอรักให้ได้ภายในสามเดือนเลยแม้แต่นิดเดียว!


    2.คุณคิดว่าความรักคืออะไรคะ [เต็มที่]
    ตอบ :
    ความรักก็เปรียบเสมือนดั่งเปลวไฟ มีสีที่ต้องตา มีไออุ่นที่ต้องใจ แต่หากว่าไม่ระมัดระวังให้ดี ก็อาจจะถูกเปลวไฟที่ว่าน่าหลงใหลนั้นแผดเผาให้เจ็บแสบได้


    3.ตอนจบอยากได้แบบไหนเอ่ย? [เต็มที่ มีคำพูดยิ่งดี]
    ตอบ :
    เริ่มฉากที่...อีซึลและฮยอกแจมานั่งมองท้องฟ้าที่เป็นสีแดงอมส้มในยามเย็นอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ทั้งคู่ไม่ได้นั่งชิดติดกันหรือแสดงท่าทางสวีทหวานแหววกันมากมาย ฮยอกแจละสายตาจากขอบฟ้าสีส้มมามองใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มบางๆของอีซึลที่กำลังจ้องมองท้องฟ้าอยู่

    “มองอะไร?” อีซึลละสายตาจากท้องฟ้ามามองที่ฮยอกแจที่กำลังจ้องหน้าเธออยู่พร้อมกับถามเสียงเรียบ

    “ผมกำลังพยายามอ่านใจนูน่าอยู่ ผมอยากจะรู้ว่านูน่ากำลังคิดอะไร” ฮยอกแจตอบพร้อมกับพยายามเพ่งมองอีซึลจนเจ้าตัวคนถูกมองเริ่มรู้สึกหวั่นใจแปลกๆ ‘หมอนี่จะมามุกไหนนะ?’

    “แล้วนายอ่านใจฉันออกมั้ยล่ะ?”

    “อืม~ ไม่ออก!” ฮยอกแจทำเอียงคอตอบน่ารัก แต่มันกลับทำให้อีซึลรู้สึกว่ามันตลกเสียมากกว่า

    “ก็นึกว่าแน่” อีซึลยักไหล่น้อยๆก่อนที่จะหันไปมองท้องฟ้าต่อ

    “แต่ผมคิดว่าผมอ่านใจนูน่าออกอย่างนึงล่ะ!” ฮยอกแจดีดนิ่วตัวเองดังเปร๊ะ

    “อะไร?” อีซึลหันกลับมามองที่ฮยอกแจอีกครั้ง

    “ก็หัวใจของนูน่ามันกำลังบอกว่ารักผมไง!! >///<” ฮยอกแจพูดจบก็ทำเป็นแอ๊บท่าเขินอายบิดไปบิดมา

    “นายนี่มันมั่วจริงๆ” อีซึลส่ายหัวไปมาเบาๆราวกับจะบอกกับคู่สนทนาของตัวเองว่ากำลังรู้สึกเอือมเต็มที

    “ไม่มั่วนะ!! มาถึงขั้นนี้แล้วนูน่ายังกล้าปฏิเสธหัวใจตัวเองอีกเหรอ?! O__O” ฮยอกแจร้องถามตาโต

    “แล้วฉันบอกนายตอนไหนเหรอว่าฉันชอบนาย?” อีซึลถามหน้าตายด้วยน้ำเสียงเรียบไร้อารมณ์ใดๆ ทำเอาฮยอกแจหน้าเจื่อนไปเลยทีเดียว

    “นูน่า...จนถึงตอนนี้นูน่าก็ยังไม่มีผมอยู่ในหัวใจเลยเหรอ?” ฮยอกแจถามเสียงเครียด แววตาของเขาเริ่มส่องประกายความเจ็บปวด

    “100%”

    “อะไรนะ?!”

    “100% ไม่เข้าใจก็เรื่องของนายแล้วกัน” อีซึลพูดจบก็แสร้งทำเป็นเลี่ยงมองไปทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพูดจาแบบนี้กับใครเลย

    “เข้าใจๆๆ ผมเข้าใจนูน่า~ ขอบคุณมากครับ >w< !!” ฮยอกแจลืมตัวเผลอกระโดดโผลเข้ากอดอีซึล แต่ก็โดนอีซึลจิกเข้าที่ต้นแขนซะเต็มแรง ร้องโวยวายเป็นการใหญ่ก่อนที่จะรีบกระเด้งตัวออกห่าง

    “เข้าใจใช่มั้ย?” อีซึลพูดเพียงสั้นๆ เป็นอันว่าเข้าใจตรงกันทั้งสองคน

    “นูน่า~ นูน่าได้ยินเสียงอะไรมั้ย??” ฮยอกแจแสดงอาการตื่นเต้น แล้วกระโดดโลดเต้นไปรอบๆตัวอีซึล

    “อะไร? จิ้งหรีดเหรอ? =[]=”

    “ไม่ใช่ซะหน่อย! มันดัง ตึกตัก..ตึกตัก..ตึกตัก... ได้ยินมั้ยนูน่า?? ได้ยินเสียงหัวใจของผมที่บอกว่ารักคิมอีซึลมั้ย?? ^O^” ฮยอกแจพูดจบก็ได้ที่สวมกอดอีซึลจากทางด้านหลัง แต่ครั้งนี้อีซึลไม่สามารถจิกแขนหรือทำร้ายร่างกายฮยอกแจได้อย่างที่เคย เพราะฮยอกแจรู้แผนแล้วจึงได้ทำการจับล็อคมือของอีซึลไว้อย่างแน่นหนา

    “ผมอยากได้ยินเสียงหัวใจของนูน่าบ้าง~”

    “นายก็อ่านออกอยู่แล้วนี่...”

    “ฉันรักนาย...ฮยอกแจ”

    Happy Ending ^____^ !!!


    4. ห้ามตอบคำว่าตามใจผู้แต่งนะ
    ตอบ :
    รับทราบค่ะ


    5.ติดแล้วรายงานตัวภายใน 5 วันล่ะ
    ตอบ :
    รับทราบค่ะ
     

    6.เม้นโหวต สัญญาไหม
    ตอบ :
    สัญญาค่ะ


    7.ถ้าไม่เม้นไม่โหวตเราไม่ได้ตัดออกนะ เราจะดองเลย
    ตอบ :
    รับทราบค่ะ


    8.ตั้งใจตอบเปล่าเนี่ย
    ตอบ :
    ตั้งใจสุดๆเลยค่ะ >_<


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    คำถามตัดสิน
    [เต็มที่!!]

    1. วันหนึ่งคุณอยู่กับฮยอกแจตามลำพัง แล้วเขาดันมาหื่นใส่คุณ คุณจะทำอย่างไร หากว่าแค่ด่าแล้วเขายังไม่ออกห่างอีก [เต็มที่จ้า!!]
    ตอบ
    : วางมาดนิ่งสยบทุกความเคลื่อนไหว แล้วมองหน้าเขาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แต่มันช่างแสดงออกถึงความรังเกียจ ถ้าหากมองด้วยสายตาแบบนั้นแล้วเขาก็ยังไม่ออกห่างอีก เราก็จะกลั้นใจสวมกอดเขาแนบกาย และอาศัยช่วงจังหวะที่เขากำลังอึ้งและเผลอ ปล่อยเข่าใส่จุดศูนย์กลางของเขาซะเลย เอาให้มันรู้กันไปว่าอย่ามาทำรุ่มร่ามแบบนี้อีก

    2. แม่ของฮยอกแจบอกว่า ให้คุณจัดการกับพฤติกรรมของเขา คุณมีแผนอย่างไรบ้าง เล่าแผนให้รู้หน่อยสิ [เต็มที่]
    ตอบ :
    ก็จะยื่นข้อเสนอบางอย่างให้กับเขา ((มันจะไปสอดคล้องกับการเจอกันครั้งแรกนะคะ)) ซึ่งข้อเสนอนั้นก็คือ...

    “นายยังคิดจะจีบฉันให้ติดภายใน 3 เดือนอยู่มะ?”

    ถ้าเขาตอบว่ายังคิดอยู่ก็จะพูดต่อไปว่า

    “นายรู้มั้ยว่าแม้นายจะมาตามเกาะฉันเป็นปลิงฉันก็ไม่เคยเห็นนายมีความหมายอะไรในสายตาฉันเลย...จริงๆนะ =_=”

    พอฮยอกแจเริ่มโวยวาย เราก็จะพูดต่อว่า

    “แต่ฉันมีข้อเสนอนะ...ถ้านายทำตัวเป็นเด็กดี เลิกงี่เง่า เจ้าชู้ และอะไรอีกมากมาย ฉันจะเริ่มมองนายมีความหมายบ้าง 30%”

    อยากจะให้ฮยอกแจเริ่มต่อรองเพิ่ม % แบบว่า...

    “30% น้อยไป! ขอ 50%”

    ส่วนเราก็ไม่สนใจคำพูดของเขา ยิ่งเขาขอเพิ่มเราก็จะยิ่งลด

    “20%” << อีซึล

    “40%” << ฮยอกแจ

    “10%” << อีซึล

    “โอเค! พอๆ 30% ก็ 30% ผมไม่อยากจะให้มันเลวร้ายไปมากกว่านี้อีกแล้ว” << ฮยอกแจ

    “ตอนแรกฉันให้ 30% แต่ตอนนี้ฉันให้ 10% ขาดตัว!! ฉันจะเริ่มพิจารณานายตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป” << อีซึล

    หลังจากนั้นไม่ว่าฮยอกแจจะโอดครวญโวยวายมากแค่ไหนเราก็ไม่สนใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะหลังมาให้กำลังใจให้เขาใจชื้นขึ้นหน่อย

    “แต่ถ้านายทำตัวน่ารักมากขึ้น 10% มันก็จะเพิ่มขึ้นไปตามระดับ พอใจมะ?”


    3. วันหนึ่งคุณเห็นฮยอกแจจูบกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ แล้วเมื่อเขาเห็นคุณยืนอยู่ตรงนั้น เขาก็พละจากผู้หญิงคนนั้นแล้วบอกกับคุณว่า ผู้หญิงคนนั้นบังคับให้เขาจูบกับเธอ คุณจะเชื่อเขาไหม เพราะอะไร [เต็มที่]
    ตอบ :
    ตอบจากใจจริงเลย “ไม่เชื่อ!!” คงจะมีแต่คนบ้าเท่านั้นที่เชื่อแหละ เพราะอะไรน่ะเหรอ? จะแสดงให้ดูค่ะ จะให้อีซึลมองไปเห็นผู้ชายท่าทางน่ารักคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ที่หัวมุมถนนไม่ไกลจากตัวเธอมากนั้น จากนั้นเธอก็เดินตรงเข้าไปหาผู้ชายคนนั้น และกระซิบกับเขาเบาๆว่า “ขอโทษนะคะ” แล้วก็ทำการเขย่งปลายเท้าขึ้นใช้ปลายจมูกสัมผัสที่แก้มของผู้ชายคนนั้นเบาๆด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่จะเดินกลับมาหาฮยอกแจอีกครั้ง และถามเขาว่า “นายเชื่อมั้ยว่าผู้ชายคนนั้นบังคับให้ฉันหอมแก้มเขา?” ฮยอกแจก็คงจะตอบออกมาเสียงดังว่า “เชื่อก็บ้าแล้ว!! ภาพมันฟ้องขนาดนั้น!” อีซึลกระตุกรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากก่อนที่จะเอ่ย “ฉันก็คิดเหมือนนาย ภาพมันฟ้องขนาดนั้น...” ฮยอกแจจะโวยวายหรือเถียงว่ามันไม่เหมือนอันหรืออะไรต่างๆนานาเราก็จะพูดกับเขาเพียงแค่ว่า “ในสายตาของฉัน มีนายอยู่ไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ” และเราก็จะหมุนตัวหันหลังเดินจากไป


    4. วันหนึ่งฮยอกแจบอกว่าเขาชอบคุณ คนอย่างฮยอกแจไม่เคยจริงใจกับใครคุณก็รู้ คุณจะบอกอย่างไรกับเขา แล้วทำไมถึงบอกอย่างงั้น [เต็มที่]
    ตอบ :
    จะบอกกับเขาว่า “ขอบคุณนะสำหรับความรู้สึกดีๆ แต่ฉันชอบคนอื่นอยู่แล้ว” ที่บอกแบบนี้ก็เพราะอยากให้เขาตัดใจจากเราไปดีกว่า ไม่ว่าเขาจะจริงใจหรือไม่จริงใจ บอกไปแบบนี้ก็เป็นวิธีดีที่สุด เพราะไม่ได้ถือว่าเป็นการให้ความหวังและไม่ได้เป็นการปฏิเสธที่หยาบคาย แต่เราแค่ไม่อยากจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับความรักจอมปลอม เพราะบอกตามตรงว่าเราไม่มั่นใจเลยว่าคนอย่างฮยอกแจจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครได้ หรือจะจริงใจกับใคร อาจจะมองว่าเป็นการไม่ให้โอกาส แต่มันผิดด้วยเหรอที่ไม่อยากให้ตัวเองต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าในภายหลัง



    ปล. พิจารณาด้วยนะคะ ถ้าเขียนยาวไปก็ช่วยรบกวนอ่านด้วยค่ะ เขียนผิดพิมตกตรงไหนก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย >_< !
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×