NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FiC Fate ] เทพทรูที่แสนระทมชินจิ ( จบ )

    ลำดับตอนที่ #5 : ชินจิกับการพักฟื้น

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 66





          มาโต้ ชินจิและชายชรา เขาโหยหาความเท่าเทียมมาตลอด เขาสงสัยต่อโชคชะตาของพวกเขามาตลอด ทำไหมเขาต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป? 



         ชายชราและเด็กชาย มีคำถามในจิตใจที่เก็บซ่อนมาตลอด ชายชราเฝ้าถามตัวเองว่า ทำไหมถึงแม่ ตา ยายต้องตาย ทำไหมถึงถูกเหล่าคนรวยกดขี่ จนต้องไปเป็นขอถาน



         เด็กชายเฝ้าถามต่อตัวเองว่า ทำไหมถึงต้องวรจรเวทย์ต้องพิการแล้วเกิดในตระกูลมาโต้ เขาหวังลึกๆว่าอย่ากเกิดเป็นคนธรรมดามีครอบครัวที่แสนอบอุ่นไม่ใช่ ปู่ที่เป็นบ้า พ่อขี้เมา แม่หายตัวไป 



        พวกเขาต่างเหมือนกันในจุดนี้ อย่างไม่น่าเชื่อ ขาดความอบอุ่น



        บ้างทีคำถามนั่นไม่มีใครตอบได้นอกจากเขาต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง เรื่องนั่นผมทราบดีในลึกๆ



        ตุ๊บ ฝนเริ่มตกลงมาอย่างโหมกระหน่ำ ใส่ร่างของชินจิที่นอนแน่นิ่ง ยูโน่ล่าเองก็ค่อยๆสลายหายไป 



        { ติ๊ง ภารกิจสำเร็จ✓ ท่านได้รับตั๋วสุ่มกาชาหนึ่งใบ }



        เสียงของระบะดังขึ้นพร้อมกับปรากฏภาพโฮโลแกรมสีฟ้า ข้างๆใบหน้าของชินจิที่ตัวเขานอนแนบกับพื้นอยู่


          

      ระบบ? อ่า ระบบแสนไร้ประโยชน์อันนั่นสิน่ะ ตั๋วหนึ่งใบมันจะไปทำอะไรได้กัน? 



        แต่ว่าในขณะเดียวกันถ้าไม่ลองก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน..



        โชคชะตาของตัวร้ายเศษสวะแบบเราตายตั้งแต่ต้นเรื่อง เพื่อแสดงพลังของพระเอกในแฟนฟิค ก็เหมาะดี..



           ชินจิพยายามขยับนิ้วมือของตัวเองให้ขยับ จนมันกระตุกสองถึงสามครั้ง เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำไปทำไหม?หรือเพื่ออะไร 



         ฮ่าๆ ฮ่า ฮะ หา...จบลงที่ตรงนี้สิน่ะ ชีวิตของเรา การดิ้นรนมันจบลงสักที...



        ชินจิยอมรับชะตากรรมของตัวเองในเวลาอันสั้น เขารู้สึกหนาว สติเริ่มไม่อยู่กับตัว เขารู้สึกทราบดี.. มือของเขาด้านซ้ายเองก็ขยับไม่ได้ ถูกตัดไปแล้ว? คงใช่   



         หมับ! ชินจิพบว่ามือข้างนั้นของเขาถูกมือของใครบ้างคนจับไว้ 



         “ ยังมีน้องสาว....ที่ต้องไปช่วยไม่ใช่งัยเหรอ?มาสเตอร์ ”


     

        ท่านเทพธิดางันหรอ.. ยังไม่หายไปงันหรอ 



        “  เพราะงัน...ฉันอย่ากให้ ช่วยแสดงท่าทีอย่ากมีชีวิตต่อไปมากกว่าอีกสักนิด ”



        ....มันจบลงแล้วล่ะ ทุกสิ่ง มันคือชะตากรรม..



        “ จะมายอมแพ้อะไรง่ายๆแบบนี้ ไม่สมพรปากคำพูดเท่ๆในตอนนั่นเลยน่ะ ”



        !! ชินจิรู้สึกถึงบ้างอย่างที่คุ้นเคย คำพูดที่เคยได้ยินจากที่ไหน ความอบอุ่นของนิ้วมือที่คุ้นเคย 



         " ทาคามิยะ แกจะแพ้หมดรูปบ้าง ทำตัวหน้าสมเพชบ้าง ร้องไห้บ้างก็ได้ แต่จิตใจของแกอย่ายอมแพ้ก็พอ โลกนี้มันคือโลกที่ผู้ที่มีจิตใจแข็งแกร่งเท่านั่นถึงจะอยู่รอด "



         แม่... อ่า ดันมานึกถึงตอนนี้สะได้ 



        อ่า แต่ก็เริ่มเข้าใจบ้างอย่างขึ้นมาแล้วล่ะ


     

        ชินจิเริ่มขยับนิ้วของตัวเองช้าๆ จนขยับทั้งแขนได้ 



         “ ....อ่า อื้ม  ”



        ร่างของเด็กชายที่นอนแน่นิ่งกับพื้น หัวแตก ขาซ้ายหักงอไปด้านหลังอย่างผิดรูป มือซ้ายขาดมีเลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด เขาค่อยๆพูดอย่างช้าๆขณะกุมมือของเด็กสาวที่สภาพไม่ค่อยต่างกัน



        “ .... ”



        ยูโน่ล่ามองชินจิที่เริ่มกลับมามีไฟในการดิ้นรนมาชีวิต ก็รู้สึกยินดีเล็กๆ หลังจากนั่นเธอก็หลับตาแล้วสติเลือนหายไป รอบๆตัวค่อยๆมีอณูธาตุสีทองลอยขึ้นมา



        ข้าหมดหน้าที่แล้ว 



       ชินจิค่อยๆลุกขึ้นช้าๆโดยการใช้แรงกดจากพื้น กดทับมือของหญิงสาวเพื่อทรงตัว หลังจากนั่นเขาก็ทำการใช้มือข้างขวาดึงผ้าขาวที่ปิดตาขึ้นเล็กน้อย จนเผยให้เห็นเนตรวงแหวนที่มีลูกน้ำสามลูก 



        เขามองไปทางยูโน่ล่า ที่นอนแน่นิ่งอยู่ พื้นรอบๆตัวของเขามันเปียก มีฝนตกเป็นระยะๆรอบตัว ตกใส่เขาและเธอ



        “ ท่านเทพ..ธิดา ขอโทษจริงๆ ”



        ชินจิมองสภาพของยูโน่ล่าแล้วก็อดระอายใจไม่ได้ เขาอัญเชิญเธอมาให้ลำบากแท้ๆ บ้างที ถ้าเขาไม่อัญเชิญเธอมา คงจะดีกว่านี้



        ชินจิเงยหน้ามองสายฝนที่กำลังโหมกระหน่ำ เขาไม่สนใจมือข้างที่ขาดของตนเองอีกข้าง ค่อยๆมองเบือนหน้ามองไปโดยรอบก่อนจะพบจุดที่ฝนตกไม่ถึง



        มันคือต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ที่มีช่องว่างโหว่ขนาดใหญ่มืดๆ แต่มันก็พอจะให้พวกเขาสองคนเข้าไปอยู่ได้ ชินจิก้มหน้าลงไปกัดคอเสื้อของยูโร่ล่าแล้วคลานมุ่งตรงไปทางนั่นอย่างสุดกำลัง



         โชคดีที่ยูโน่ล่าไม่ได้ตัวใหญ่มากแถมไม่หนักด้วย ดูเป็นเด็กสาวอายุสิบสองเพียงเท่านั่น เขาจึงพาเธอไปได้ในที่สุด เข้าไปข้างในแล้วจัดท่าทางเธอให้นอนพิง



        “ ทำไงดีล่ะ? ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ มีหวังท่านเทพสลายหายไปแน่ ”



        ชินจิเขาไม่ได้รู้เรื่องเวทย์รักษา เขาครุ่นคิดอย่างหัวเสียจนพบว่า เซอร์แวทน์สามารถฮิลตัวเองได้จากพลังเวทย์และมาน่า



         “ น้ำอสุจิ...ไม่ ไม่! ไม่!! ”



        ชินจิส่ายหน้าไปมาเพื่อสะบัดความคิดนั่นทิ้งไป เขาจะไม่มีทางทำอะไรแบบนั่นเด็ดขาด แบบพระเอกหัวแดง เขาทราบดีว่ายูโน่ล่าผู้หยิ่งคงไม่ชอบวิธีนี้ด้วย 



          { ติ๊งระบบอย่ากแนะนำว่า มนุษย์เพศชายเรานั่นมีที่กักเก็บพลังเวทย์ในร่างกายไว้อยู่สามจุด เส้นผม น้ำอสุจิ เลือด แต่เพศชายเขาไม่นิยมเก็บไว้ที่เส้นผม เพราะเพศหญิงทำได้ดีกว่า ณ ตรงนี้ }



        (⁠ ⁠˘⁠ ⁠³⁠˘⁠)




         “ ทำตัวดูมีประโยชน์ขึ้นมาสักทีน่ะ คุณระบบ ”



         (⁠ ⁠◜⁠‿⁠◝⁠ ⁠)



         “ ไม่ได้ชมเฟ้ย!! ”



        ชินจิรู้สึกอารมณ์เสียทุกทีเมื่อมองหน้าตาก่วนส้นเท้าของระบบที่แสดงผ่านโฮโลแกรม แต่เขาเองก็รู้สึกขอบใจมัน ที่ทำให้เขานึกทางออก ออกแล้ว



         “ เอาหนังสือโป๊มาทีระบบ ”



         { ตามคำขอ ”



          มีหนังสือเล่มหนึ่งตกมาสู่มือของชินจิ ปกมันคือรูปคือเด็กชายหน้าหล่อโชตะกำลังมองไปทางหญิงสาวรูปร่างอวบอย่างหิวกระหาย พร้อมชื่อหนังสือตรงมุมบนกลางเล่มคือ " โชตะน้อยกับการเล่นกับเหล่าโอเน่จังในวันหยุดฤดูร้อน "



          ชินจิมองมันก่อนจะเปิดแล้วฉีกกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง แล้วอ้าปากคาบกระดาษแผ่นนั่นไว้แล้วใช้ข้อมือของตนเองเสียดสีกับกระดาษไปมา จนมันเฉือนเข้ากับเนื้อของเขาจนเกิดรอยบาดยาว มีเลือดทะลักออกมา



         ชินจิสะบัดหน้า เลิกคาบกระดาษแผ่นนั่นแล้วมองไปทางยูโน่ล่าแล้วใช้ข้อมือของตนเองที่พึ่งถูกบาดโดยกระดาษมากดทับข้อมือของตนเองเข้ากับปากของยูโน่ล่าเข้าอย่างจัง แช่ทิ้งไว้



         เขามองริมฝีปากของยูริเอล สลับกับไหล่ที่ขาวเนียน เขาก็ต้องกลืนน้ำลายขึ้นทันที 



        เขารู้สึกหิว เขาอย่ากกินเธอ กินเนื้อของเธอ! ทุกส่วนโดยเฉพาะหนัง! มันต้องหอมหวานแล้วทำให้อิ่มท้องไปหลายวันแน่! ต่ว่าไม่ได้  ไม่ได้! หยุดความคิดนั่นซ่ะ! 



        เขาเบือนหน้าไปทางอื่น เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองลง เอือก~ เสียงท้องของชินจิร้องด้วยความหิว 



          “ ต้องหาเวลาไปซื้อกาแฟซะแล้วสิเรา ”



        กาแฟคือสิ่งที่กูลแบบเขากินได้ เป็นสิ่งเดียวที่กินแบบคนปกติได้...



         ชินจิพิงร่างเข้ากับต้นไม้นอนเงยหน้าขึ้นหลับตาลง ผ้าปิดตาค่อยๆล่วงมาปิดตาข้างนั่นของเขาไว้อีกครั้ง เขารู้สึกว่าจักกระของตัวเองถูกสูบหายไปเยอะมาก รู้สึกอ่อนแรง เหนื่อย เพียงการมองทุกอย่างผ่านเนตรวงแหวน



         “ ขอให้ฟื้นขึ้นมาเร็วๆล่ะท่านเทพธิดา เพราะผมน่ะ...ยังคงต้องการท่านอยู่ ”



        ชินจิพอทราบว่าเซอร์แวทน์สามารถรักษาตนเองได้จากการรับพลังเวทย์ ยูโน่ล่าก็ไม่ต่างกัน ไม่สิเหนือกว่าอีก เธอมีความสามารถอย่าง " การดูดเลือด " ทำให้เพียงเธอได้ดื่มเลือดก็จะรักษาตนเองได้


     

        ทำให้การให้เธอดื่มเลือดคือวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้...แม้จะแลกมากับการที่เขาต้องเสียเลือดไปมากก็ตาม



        ตึ๊ก เสียงหยดเลือดที่หยดมาจากแขนซ้ายที่ขาดของชินจิ เลือดหยดนั่นตกกระทบพื้น แขนข้างนั่นของชินจิค่อยๆมีเนื้อประสานเข้าหากันเพื่อปิดปากบาดแผลอย่างช้าๆ



        มันไม่ใช่การหงอกแขนใหม่อย่างใด มันเป็นเพียงการเย็บเนื้อเข้าหากันเพื่อหยุดการเสียเลือดไปมากกว่านี่ เพียงเท่านั่น



         โชคดีอีกอย่างคือที่แขนข้างขวาของชินจิคือแขนข้างที่มีอาคมบัญชาอยู่ ถ้าแขนซ้ายที่ขาดคือข้างที่มีอาคมบัญชาอยู่ คงแย่ที่สุด..



          วันต่อมา



         เปลือกตาของยูโน่ล่าค่อยๆขยายขึ้นจนถูกเปิดออก เธอมองรอบๆอย่างแปลกใจ เธอควรจะกลับบังลังก์วีนชนไปแล้วไม่ใช่หรอ?



        “ โล่งอกไปทีน่ะครับ ท่านเทพ ”



         เธอรับรู้ถึงเสียงที่คุ้นเคยจึงหันไปมองทางต้นเสียง ก็พบเข้ากับร่างของชินจิที่ดูขาดอาหาร ผิวหนังซีดจนเห็นกระดูกบนใบหน้า 



        “ มาสเตอร์... ”



         ยูโน่ล่ารู้สึกถึงน้ำข้นๆหวานๆแบบพอดีในปาก นำมือมาเช็ดหน้าบริเวณปากก็พบเข้ากับเลือด? เธอมองไปทางชินจิอย่างรวดเร็วจนสะดุดตาเข้ากับแขนขวาของเขา



        ( ทำไหมถึงต้องทำขนาดนี้ด้วยกัน? )



       “ ท่านเทพคงจะสงสัยสิน่ะว่าทำไหม คำตอบมันง่ายมาก ผมยังต้องการท่านอยู่เลยปล่อยให้หายไปไม่ได้ ณ ตอนนี้ ”



        “ ...ก็ดูสมเหตุสมผลดี แต่ข้าขอบอกไว้ก่อนเลย จะไม่มีการติดหนี้บุญคุณอะไรทั้งนั่น! ”



         ยูโน่ล่าคิดว่าชินจิทำแบบนี้เพื่อหวังสร้างความประทับใจแน่ๆแบบฉบับของพวกละคร เธอกอดอกแล้วสะบัดหน้าหนี สำหรับเธอมันหยวนๆเสมอกัน เพราะเธอก็ช่วยเขาให้รอดจากการโจมตีของอาเชอร์ไปครั้งหนึ่งแล้ว



        “ ครับๆ ”



         ยูโน่ล่าค่อยๆเบือนหน้ากลับมามองชินจิด้วยสีหน้าพอใจนิดๆอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยเธอก็รู้สึกดีที่เขายับยังการสลายหายไปของเธอไว้ ก่อนที่เธอจะพบว่าชินจิแน่นิ่งไป หลับไป?



         เธอมองนิ้วมือของตนเองที่เปื้อนเลือดของชินจิอยู่ ก่อนจะกลืนน้ำลาย รู้สึกหิวขึ้นมาโดยทันที เลือดของชินจินั่นค่อนข้างอร่อยแบบประหลาด ประหลาดแบบบอกไม่ถูก แบบที่ไม่เคยพบมาก่อน..



         อย่างกับไม่ใช่เลือดของมนุษย์อย่างไรอย่างงัน..



          “ ข้าไม่ได้กำลังคิดว่าอย่ากลองกินเลือดของเขาอีกครั้งหรอกน่ะ ไม่มีทางหรอกน่ะ หรอกน่ะ หึ! ”



          หลังจากนั่นเวลาก็ผ่านไปหลายชั่วโมง ที่ชินจิได้หลับไปจากอาการเสียเลือดขั้นรุนแรง ภายใต้การจ้องมองของยูโน่ล่าที่เฝ้ามองเพื่อปกป้อง 



          ร่างของชินจิที่นอนพิงกำแพงค่อยๆกระตุกขึ้น ก่อนที่เด็กชายจะใช้มือลูบหัวของตัวเองเบาๆจากความเจ็บเพราะความแข็งของต้นไม้



         “ หลับไปนานแค่ไหนกันน่ะ ”



         “ ราวๆสี่ชั่วโมงน่ะ”



         ยูโน่ล่าที่นั่งอยู่ข้างๆชินจิ รอยแดงปรากฏขึ้นบริเวณแก้ม ในมือถือสมุด? อ่านมันอย่างใจจดใจจ่อ ตอบคำถามชินจิแบบขอไปที



         ชินจิพยักหน้าก่อนจะใช้มือขวาจับไปที่แขนซ้ายของตนเอง เขาพบว่าเลือดหยุดไหลแล้ว แผลเองก็ปิดแล้วด้วย ผลจากพลังของกูล?



         คงจะใช่ อย่างน้อยในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่บ้าง ชินจิพบว่าขาของเขาเองก็กลับมารูปร่างปกติไม่บิดเบียว แม้เขาจะเจ็บบริเวณนั่นเป็นระยะๆก็ตาม เพียงเขานำมือไปแตะมันก็เสียววูบวาบไปทั้งตัวเลย..



         “ อย่ากได้ไม่ช่วยพยุงดีๆสักอันจังน่ะ ”



         “ ของแบบนั้นไม่จำเป็นหรอกมาสเตอร์ ท่านลืมไปแล้วหรอว่ามีข้าอยู่ ”



        ตุ๊บ! ยูโน่ล่าปิดสมุดเสียงดัง มองชินจิด้วยสายตาไม่ชอบใจ 



         “ ท่านเทพจะช่วยพยุงผมไหมล่ะ แตะต้องมนุษย์ไม่ได้ไม่ใช่หรอครับท่าน? ”



         ยูโน่ล่ากระตุกขึ้นทันทีเบือนหน้าไปมองทางอื่นอย่างรวดเร็ว เธอไม่สามารถตอบโต้ได้จริงๆ



         “ นั่นมันก็... ”



         “ เห็นไหมขอรับท่านเทพ~ ”



         ยูโน่ล่าลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว วิ่งออกไปหวังจะหาไม้ยาวๆดีๆสักอันมาให้ชินจิ เป็นไม้เท้าให้เขา



         “ เฮ้อ~ ท่านเทพเองก็แอบใจดีน่ะเนี้ย ”



         “ ข้าไม่ได้แอบใจดีสักหน่อย!แต่ใจดีมากๆต่างหากเจ้าขี่ข้า!!! ”



          ชินจินำมือมาปิดหูทันทีเมื่อได้ยินคลื่นเสียงลูกใหญ่จากการตะโกนของยูโน่ล่า 



         “ ค้าบๆไม่พูดแล้วค้าบ ”



         “ อุฮุ~ ดีเจ้าขี้ข้าของข้า แล้วก็นี่ ”



        ชินจิพบว่ามีบ้างสิ่งถูกยืนมาทางเขา ชนเข้ากับหลังมือสองสามที พร้อมเสียงของยูโน่ล่าที่อยู่ระยะใกล้ๆ ทราบได้ทันทีว่าเธอคงจะยืนอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว



         “ จงปราบปลื้มในความใจดีของข้าเข้าล่ะ มันคือรางวัลของการเป็นขี้ข้าที่แสนเชื่อฟังของข้า ”



         “ ตอนไหนครับนั่น? ”



          “ หื้ม!? ”



          ยูโน่ล่านำไม้ยาวอันนั่นถอยห่างจากชินจิอย่างรวดเร็ว ชินจิรีบพุ่งมือไปขวามันอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดให้ยูโน่ล่าเอามันห่างจากตัวเขาไปมากกว่านี้


         

         “ กระผมขี้ข้าที่แสนซื่อสัตย์ของท่าน ขอรับมันไว้ขอรับ ท่านเทพธิดาผู้มีจิตใจงดงามหาผู้ใดเปรียบ ”



          “ โฮ๊ะ~ ดี งันก็เอาไปเสีย~ ”



        ยูโน่ล่ายิ้มอย่างพอใจ ปล่อยมือจากไม้ยาวอันนั่นให้ชินจิถือมันไว้  เธอหันหลังเดินออกไปขณะที่ใบหน้าพยักหน้าขึ้นลงอย่างพอใจ



         ( ง่ายเสียจริง ดีน่ะที่เรามีสกิลเลียแข้งเลียขาอยู่บ้าง )



         ชินจิจับไม้ยาวอันนั่นสัมผัสรูปร่างของพวกมันทุกส่วนช้าๆ แม้มันจะไม่ได้มีรูปร่างที่ดีจนเรียก ไม้เท้าได้ แต่ก็ไม่ได้แย่หรอก... เขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อยขณะจับไม้เท้าแน่น



         “ แต่ว่า...ก็ขอบคุณน่ะท่านเทพธิดา~ ” 



          หลังจากนั่นเวลาก็ผ่านมาถึงช่วงเทียง ชินจิกำลังนั่งอยู่กับยูโน่ล่าที่ต้นไม้ยาวต้นเดิม จะเรียกว่าเป็นโต๊ะไม้ได้ไหมน่ะ?



        “ สรุปคือเขาคือเพื่อนของท่านงันเหรอ เด็กชายเกเรชื่อ ' เอมิยะ ' นั้น ”



        “ อ่า จะคิดแบบนั้นก็คงใช่ ”



         “ แต่ว่าไม่เคยคิดเลยน่ะว่า การทักทายกันของมนุษย์จะรุนแรงขนาดนี้เฉียว~ ”



         “ มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติของมนุษย์สักหน่อยหรอกครับท่านเทพ ”



        “ เอ้าหรอ ”



         “ ใช่ค้าบ ”



        ชินจิรับรู้ได้ว่าเซอร์แวทน์ของเขาดูไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับมนุษย์เท่าไร เขารับรู้ได้จากคำพูดของเธอ บ้างทีมันอาจจะสมกับพวกเทพดี ที่ห่างเหินกับมนุษย์



         “ วันนี้จะมีการสู้กันเล็กน้อยในตัวเมืองของฟุยูกิ ”



         “ ทำไหมเจ้าถึงรู้ล่ะ? ”



         ชินจินิ่งเงียบไปก่อนจะเบือนหน้าหนียูโน่ล่า ยูโน่ล่าขมวดคิ้วยืนหน้ามาหาชินจิ



        “ ชั่งมันเถอะครับเรื่องนั่นน่ะ ”



        “ เห๋~ ”



         “ อ่ะแฮ่มๆ ”



         ชินจิไอออกมาเล็ดน้อยก่อนจะเบือนหน้ากลับมา ทำให้ยูโน่ล่าเบือนหน้าถอยกลับไป



        “ เราจะเข้าไปดูสถานการณ์ ”



        ชินจิต้องการดูสถานะการณ์ เขาคาดว่าตัวเอกของแฟนฟิคนี่อย่างเอมิยะและเอมิยะอาเชอร์ คงต้องเปลียนเรื่องราวแน่นอน เข้าไปแซกให้เนื้อเรื่องและเปลียนมัน



         “ สภาพของพวกเราในตอนนี้จะไหวแน่หรอมาสเตอร์.. ”



          “ จะไหวหรือเปล่าไม่รู้ มีแต่ต้องหาคำตอบมันในคืนนี้ ”



        ยูโน่ล่าหรี่ตาลงรู้สึกหัวเสียต่อคำตอบของมาสเตอร์ของตัวเอง ชั่งเป็นคำตอบที่ดูแถจริงๆดูท่าใจจริงแค่อย่ากไปไม่ใช่หรือไงกัน



         “ แล้วก็ไหนๆก็เข้าเมืองกะจะไปซื้อของมากักตุนไว้ด้วยน่ะ ”



        “ ท่านมีเงินงัยเหรอ? ”



        “ ฮึๆ โปรดหวังพึ่งมาสเตอร์ของท่านให้มากกว่านี่หน่อย ก็ดีน่ะขอรับท่านเทพ ”


        ชินจิทำการก้มตัวลงไป นำมือไปใต้ต้นไม้ต้นนี้ก่อนจะคว้าบ้างสิ่งได้แล้วดึงมันออกมา มันคือทองแท่งที่ดูขายได้หลายตังค์



        ยูโน่ล่าตาลุกวาวอย่างประหลาดใจเมื่อพบว่ามาสเตอร์ที่เป็นขอถานของตัวเอง มีทองที่ดูราคาแพงขนาดนี้ด้วย เธอก้มหน้าไปมองมันชัดๆ พอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไหมชินจิถึงชอบมานั่งตรงนี้ ที่แท้ห่วงของเฝ้าทองนี้เอง



         ตุ๊บ!


     

         “ โอ๊ย!/อะย้า! ”


         หัวของชินจิโขกเข้ากับหน้าผากของยูโน่ล่าที่ยืนมาเข้าอย่างจัง จนทำให้หน้าผากของยูโน่ล่าเกิดรอยบ่วมแดง



         “ ท่านเทพยื่นหน้ามาทำไหมครับเนี้ย ”



         ยูโน่ล่านำมือมาจับหน้าผากที่บ่วมแดงของตัวเอง กัดฟันส่งเสียงคำรามอย่างไม่พอใจไปทางชินจิ



         “ มาสเตอร์ท่านเองก็ควรบอกกันก่อนสิ! ข้าไม่ผิดน่ะ! ”



          “ สรุปผมผิดสิน่ะ ”



          ชินจินำทองแท่งมาถู่ๆหัวของตัวเองเบาๆ ส่งเสียงไม่ค่อยพอใจใส่ยูโน่ล่า 



         “ ใช่! ”



          “ ...เฮ้อ~ งันตามนั่น แต่เรามาดูคุยกันต่อดีกว่า ”



          ยูโน่ล่าพยักหน้าเข้าใจ มองไปทางทองแท่งที่อยู่ในมือของชินจิอย่างสนใจ



        “ เราสามารถใจทองนี้แลกเงินได้ ในยามปกติตัวผมที่เป็นเด็กไม่สามารถแลกด้วยตัวเองได้ ถ้าเข้าไปแลกที่ร้านทองมีหวังโดนหาว่าของปลอมแน่นอนไม่สิแน่แท้เลย ”



        ยูโน่ล่าจับคางแล้วพยักหน้าขึ้นลง เธอทราบเรื่องนี้เอง แม้แต่เธอเองก็ตกใจ เด็กขอถานทำไหมถึงมีทองแท่งอยู่กับตัวได้กัน จนลืมเรื่องที่ว่าชินจิมาจากตระกูลมาโต้ไป



         “ แต่ข้าสามารถแลกได้สิน่ะ โฮ๊ะๆสุดท้ายเจ้าก็ต้องมาพึ่งเทพธิดาคนนี้ ”



        เธอกอกอกยิ้มอย่างภูมิใจ 



         “ แม้จะไม่ใช่สักทีเดียว แต่ก็ตามนั่นครับ ”



         ชินจิรู้สึกหนวกหูต่อคำอวยตัวเองของยูโน่ล่าเช่นเคย แต่มันก็คือความจริง เขาต้องการให้ยูโน่ล่าที่ภายนอกดูเป็นเด็กหน้าตาดีแต่งตัวหรูไปแลกเงินด้วยทองโดยอ้างว่า " พ่อแม่ขอให้มาแลก " 



         ซึ่งน่าจะได้ผล...



         “ โฮ๊ะๆ ”



         “ .... ”



        ตกดึก ณ ท่าเรือฟุยูกิ



       เนื้อเรื่องเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นเซเบอร์ ' อาเธอเรีย ' เข้าสู้กับแลนเซอร์ ' เดียร์มุท ' ไปมาอย่างสูสี?จนไรเดอร์  ' อิสกันดาร์ ' ปรากฏตัว ต่อด้วยอาเชอร์ ' กิลกาเมช ' 



          แต่ว่าทันใดนั่นเอง...



         “ ฉันขอเข้าร่วมวงนี่ด้วยแล้วกัน ”



         เสียงหนึ่งดังขึ้นดึงดูดความสนใจทุกคน ก่อนที่จะมีร่างของเอมิยะอาเชอร์โผล่มาพร้อมเอมิยะ ชิโร่ในวัยเด็ก



         “ เซอร์แวทน์...มาสเตอร์เองก็เป็นแค่เด็ก ”



         เวเวอร์จับคางพร้อมพึมพัม เมื่อมองไปทางเอมิยะ ชิโร่และอาเชอร์เอมิยะ อิสกันดาร์ที่กอดอกอยู่ก็นิ่งเงียบไปก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกอดคอเวเวอร์



         “ ได้แน่นอน อุว้ากฮ่าๆ ”



           อาเธอเรียมองไปทางเด็กชายผมแดงเพลิงที่เอาแต่จ้องเธอมาตั้งแต่เมื่อกี่แล้ว เธอสงสัยว่าทำไหมเด็กคนนั่นถึงเอาแต่จ้องมองเธอกัน?



         “ จะเพิ่มพันธุ์ทางเข้ามาอีกสักกี่ตัว ผลลับมันก็เหมือนเดิมว้ากฮ่าๆ ”



        กิลกาเมชที่ยืนอยู่บนเสาไฟกอดอกเงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะก้มหน้าจ้องมองไปทางเอมิยะอาเชอร์ เกทสีทองปรากฏขึ้นพร้อมมีดาบมากมายโผล่ออกมา



          “ ตายไปซ่ะ ไอ้สวะ! ”



           !!!



          แต่ว่าทันใดนั่นเองก็มีอัศวินบ้าที่ส่วมเกราะสีดำพุ่งออกมา มุ่งโจมตีไปทางกิลกาเมชดึงดูดความสนใจทุกคน



         “ เบอร์เซิกเกอร์.. ”



        ไอริสกุมมือตัวเองแล้วมองไปทางเบอร์เซิกเกอร์ ' แลนสล็อต ' กิลกาเมชมองแลนสล็อตที่พุ่งมาด้วยห่างตาก่อนจะเล็งเหล่าดาบแล้วยิงไปทางแลนสล็อต



        “ กล้าลอบโจมตีราชาคนนี้ หัดรู้ที่ต่ำที่สูงซะบ้าง! ”



         เอมิยะอาเชอร์มองไปทางเหล่าอาวุธด้านหลังของกิลกาเมชแล้วจดจำพวกมันทั้งหมด ก่อนที่จะดาบคู่หยินหยางปรากฏขึ้นในมือของเขา



         “ เดียวก่อนทุกท่าน! ”



         อิสกันดาร์คำรามดึงดูดความสนใจทุกคนให้หยุดการต่อสู้ แม้แต่แลนสล็อตเองก็ด้วย อิสกันดาร์กอดอกสายตาจ้องเขม็งจ้องมองไปทางรถคันหนึ่ง



        “ เซอร์แวทน์และมาสเตอร์ผู้ขี่ขลาดและต่ำต้อย ที่เอาแต่แอบซ่อนรอจังหวะลอบโจมตีตรงนั่นน่ะ! พวกเจ้าออกมาซ่ะเดียวนี้!! ”



        อิสกันดาร์คำราม ทุกคนต่างจ้องไปมองรถคันนั้นด้วยความรู้สึกเดียวกัน ' ไม่พอใจ ' ไม่พอใจต่อเหล่านายและข้ารับใช้ที่แสนเจ้าเล่ห์น่ารังเกียจที่ซ่อนตัวรอลอบโจมตีพวกเขาอยู่



        อาเธอเรียพุ่งมายืนอยู่หน้าไอริส จับดาบในมือแน่นเพื่อปกป้องเธอ



        เด็กชายผมสีน้ำเงินส่วมผ้าสีขาวยาวปิดตาและหญิงสาวผมสีม่วงห้างม้า ต่างเหงื่อตกทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั่นของอิสกันดาร์ 



          “ เรียกผมทำไหมครับเนี้ย พี่กล้ามโต... ”



    ___



         จบไปแล้วแหะ การพบกันครั้งแรกแท้ๆแต่ดันแทนที่จะสร้างความประทับใจแต่ตรงกันข้ามซะงัย ชินจิหน่อชินจิ



























        

        









          
















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×