NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FiC Fate ] เทพทรูที่แสนระทมชินจิ ( จบ )

    ลำดับตอนที่ #2 : ชินจิผู้ชีวิตรันทด

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 66




          { ติ๋ง! คุณได้รับแต้มสะสม 150 คะแนนจากการสุ่มกาชา 10 ครั้ง }



          ชินจิพยักหน้าก่อนจะมองไปที่ภาพมุมขว้าล่างของโฮโลแกรมที่มีรูปถุงเกลือที่มีเลข ' 150 ' ต่อท้ายอยู่ ชินจิจับคางขึ้นแล้วมองมันอย่างสนใจ



         “ นี้ระบบเองพอจะมีพวกหน้าแลกเศษเกลือใช่ไหม? ”



         { ขอโทษด้วยค่ะ ระบบไม่เข้าใจคำถามของคุณ }



          (⁠ʘ⁠ᴗ⁠ʘ⁠)

       


         ชินจิคิ้วกระตุกขึ้นเมื่อมองไปทางใบหน้าที่แสนก่วนตรีนที่กำลังแสดงอยู่บนหน้าโฮโลแกรมด้านหน้าของเขา ไอ้ระบบของเขามันก่วนตรีนจริงๆ



         “ ค้าบๆไม่ทราบว่าท่านระบบพอจะมีร้านค้าแลกคะแนนใช่ไหมครับท่าน? ”



        { ติ๋ง! แน่นอนทางเรามีร้านค้าแลกคะแนน }



         ภาพตรงหน้าจอโฮโลแกรมเปลียนไปเป็นหน้าร้านค้าที่มีรูปร้านค้าพร้อมโลโก้เรื่องอนิเมะเรื่องต่างๆ ชินจิยิ้มอย่างพอใจก่อนที่จะตัดสินใจกดไปที่โลโก้ " ดราก้อนบอลไอ้ลิงคลั่งโงกุน " 



          " ดราก้อนบอล 1 ลูก 999,999,999 คะแนน "


         " ห้องฝึกกาลเวลา 500,000 คะแนน " 


         " สายเลือดช่าวไซย่า 400,000 คะแนน "


         " วิชาพลังคลื่นเต่า 9,000 คะแนน "


         " วิชาหมัดไคโอเคน 5,000 คะแนน "


         " วิชาหมัดตะวัน 00.05 คะแนน "


          " วิชา  ********* "

      

         มีรายชื่อวิชาต่างๆในเรื่องดราก้อนบอลอีกมากมายเรียงเป็นแถวห่างวัวจนเลือนอ่านไม่หมด ชินจิต้องคิ้วกระตุกอีกรอบเมื่ออ่านคะแนนที่ต้องใช้ซื้อ พร้อมกับอุทานออกมาอัตโนมัติ



          “ จะปล้นกันหรือไงกัน? ”



         { ถูกๆเลยค่ะนายท่าน~ }



        (⁠◔⁠‿⁠◔⁠)   



        “ ถูกกับผีเองดิไอ้ระบบเอ๊ย! เห้ยๆเองควรเปลียนชื่อจากระบบเทพทรูเป็นระบบเศษเกลือน่ะไอ้หนุ่ม ”



         ชินจิกล่าวอย่างหัวเสีย ส่ายหน้าของตัวเองไปมาอย่างผิดหวังกับระบบของเขาที่ดูพึ่งพาไม่ได้เอาเสียเลย..



        { อะฮี่ๆ }



       ชินจิเหล่ตาขึ้นก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เฮ้อ~ กับเสียงหัวเราะสุดก่วนตรีนของระบบของเขา



        ชินจิทำการเดินตามเบียคุยะพ่อของเขาไปตามเส้นทางที่เขาเดินไป พ่อของเขา ' เบียคุยะ ' เป็นคนขี้เมาที่ไม่ได้เรื่องจากความทรงจำของเขาตั้งแต่หลังจากที่แม่ตาย...



        แม่ของเขาตายไปตั้งแต่สองปีก่อนตอนอายุสามขวบ ไม่สิต้องบอกว่าในความทรงจำของ ' มาโต้ ชินจิ ' เธอหายตัวไปอย่างปริศนาแล้วทิ้งเขาไว้กับ ' เบียคุยะ '



        ที่เขารู้ว่าตายไปแล้ว ก็มาจากความทรงจำของชายในวัยแป็ดที่ดูอนิเมะเฟทมาเลยรู้ว่าแม่ของเขานั่นตายไปแล้ว...ตายโดยโดนเหล่าแมล่งที่ไอ้ตาแกโซเค็นเลี้ยงไว้...



         ตั้งแต่นั่นมาชินจิกับพ่อของเขาก็ไม่ถูกกันอีกเลย...ไม่สิแต่ไหนแต่ไรพ่อของเขาก็ดูไม่สนใจไอ้วงจรเวทย์พังพิการแบบเขาอยู่แล้ว



         ผู้ที่ทำให้สายเลือดของ ' มาโต้ ' จบสิ้นลง



         ชินจิเขาจัดได้ว่าน่าสงสารมากถ้าว่าตามเนื้อเรื่องหลัก เขาถูกพ่อ ปู คนในครอบครัวไม่รักและดูถูก แม่ก็หายตัวไป  เขาในอดิตนั่นรู้สึกยอมรับซากุระและแสดงความรักออกมาโดยการรังแกเธอ



        แต่เมื่อวันหนึ่ง วันที่เขารู้ถึงความลับของ ' บ่อแมลง ' นั่นพร้อมกับๆความจริงเกียวกับการตายของแม่ของเขาจากปากของ ' เบียคุยะ 'และท่าทางของเขามันก็ทำให้เขาสติหลุดไปพร้อมกับ ' มาโต้ ชินจิ ' ที่เป็นคนดีก็หายลงไปเช่นกัน



        จนเมื่อ ' เบียคุยะ ' ตายลง เขาก็ทำการปลดปล่อยความในใจทุกสิ่งถูกสิ่งถูกอย่าง ทั้งคำดูถูกตลอดมา ทุกอย่างกับ ' ซากุระ ' 



        ความจริงที่ว่าตั้งแต่ที่พบความลับเรื่อง ' บ่อแมลง ' มันก็ทำให้ชินจิกลายเป็นคนอีกคนหรือกลายเป็นคนเลว สวะโง่ๆ ก็คือความจริง   



       ชินจิเดินมาเรื่อยๆจนตามเบียคุยะเริ่มทัน เขามองไปที่แผ่นหลังของ' เบียคุยะ ' อย่างเงียบๆจนเบียคุยะตัดสินใจทำลายความเงียบนี้



         “ ชินจิ แกควรจะเลิกทำหน้าโง่ๆแล้วทำหน้าให้ดูเข้มคลึมสมเป็นคนของ ' มาโต้ ' ซะบ้าง ”



         “ เข้าใจแล้วครับ.... ”



         “ .... ”

     


         “ .... ”   



          ความเงียบปกคลุมทั้งสองอีกครั้ง ชินจิเพียบก้มหน้าลงแล้วมองทางเดินเหล่ตามองรอบๆเล็กน้อย ภายในใจกำลังหาวิธีคุยกับเบียคุยะเรื่องไม่อย่ากไปต่างประเทศ



        จนสายตาของเขาไปสะดุดเข้ากับเด็กหญิงผมสีม่วงสั้นดวงตาเหม่อลอยในชุดกระโปร่งสีม่วง ที่ยาวจนไปถึงเท้าของเธอ ' มาโต้ ซากุระ '



        ชินจิหยุดมองหนึ่งในตัวเอกของเรื่องสุดสำคัญอย่าง ' ซากุระ ' ไม่ได้ ตัวเขาในอนาคตได้ทำอะไรเลวๆชั่วๆไว้กับเธอไว้มากมายและมีหนึ่งรูทที่เขาถูกเธอฆ่า



        ดวงตาสีม่วงที่แสนเหม่อลอยคู่นั่นค่อยๆสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินของชินจิ เมื่อซากุระเงยหน้าขึ้นมามองสายตาที่จับจ้องเธอตั้งแต่เมื่อครู่



         ( ซากุระ.../มาโต้.....ชินจิ )

         


         เบียคุยะหยุดเดินเมื่อรับรู้ได้ว่าชินจิหยุดเดินมาตั้งแต่เมื่อกี่ เขาทำการหันหน้าจ้องมองไปทางชินจิที่กำลังมองไปทางซากุระ เขามองทั้งคู่สลับกัน



         “ หื้ม? ทำความรู้จักกันไว้ก่อนก็ดีเหมือนกัน นั่นคือน้องสาวบุญธรรมของแก ที่ตั้งแต่เข้ามาในตระกูลแกก็ไม่เคยออกจากห้องมาพบหน้าเลย ”



        “ .... ”



        เบียคุยะมองไปที่ชินจิที่นิ่งไม่ตอบ ตั้งแต่ชินจิรู้เรื่องว่าตัวเองวรจรเวทย์พังพิการ ก็เอาแต่อยู่ในห้องเรียนรู้ศึกษาวิธีทำให้กลับมาใช้เวทย์มนต์ได้มาตลอด



        เบียคุยะทราบดีว่ามันไม่มีทาง...แต่เขาเองก็ไม่อย่ากไปยุ่งเรื่องยุ่งยากต่างๆเหมือนกัน แค่หน้าที่หัวหน้าตระกูลปัจจุบันมันก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว



        “ พ่อ... ”



        “ อะไรของแก? ชินจิ ”



        ชินจิค่อยหันศีรษะมามองเบียคุยะช้าๆ



         “ ผมไม่ขอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศได้หรือเปล่า..? ”



         เบียคุยะค่อยๆตาเบิกขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดของนั่นของชินจิ วงจรเวทย์ก็พิการ ทำให้ตระกูลไร้ผู้สืบทอดไม่พอ เขาอู้สาเห็นใจจะส่งไปต่างประเทศ แต่มันกลับ...!



        เบียคุยะเริ่มโกธรใช้มือจับไปที่แขนของชินจิ คมับ! อย่างรุ่นแรงแล้วบีบมันแน่น ขยับหน้าเข้าไปหาชินจิที่กำลังแสดงความเจ็บปวดหยู่



         “ แกพูดอะไร! รู้ตัวบ้างไหมห่ะ!ชินจิ  ”



         ชินจิใบหน้าแสดงถึงความเจ็บปาดอย่างเห็นได้ชัดสายตามองไปที่แขนที่ถูกบีบโดยมือของเบียคุยะ เขาหันควับไปมองซากุระที่กำลังมองมาทางเขาอยู่ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับเบียคุยะ



        ( ถ้าไม่ทำอะไรเลย ก็จะไม่มีอะไรที่เปลียนแปล่งเลย! )



         “ รู้ดีครับ!แล้วก็ตามนั่น! ”



         “ หน่อยแก...!! ”



        เบียคุยะเส้นเลือดปูดขึ้นเมื่อมองไปทางท่าที่ ที่ดูห้าวเป้งไม่เกรางกลัวเขาก็รู้สึกคันมือขึ้น แล้วตบไปที่ใบหน้าของชินจิอย่างรุนแรง ปัง! จนเขาลอยปิ้วไป 


         ซากุระที่มองอยู่ดวงตาก็ค่อยๆเบิกขึ้นช้าๆ มองทางภาพของเบียคุยะที่ตบตีชินจิอย่างกับหมาข้างถนน



         “ เป็นไอ้ตัวไร้ค่าของตระกูลไม่พอ ยังกล้ามาเรียกร้องอะไรอีกกัน! ที่ฉันส่งแกไปต่างประเทศมันก็เมตตาแค่ไหนแล้ว!  ”



        “ แคก แค่ก แคก ”



        ชินจิค่อยๆลุกขึ้นพร้อมกับส่งเสียงไอออกมาจากการถูกตบอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาด้านซ้ายปรากฏรอยแดงของฝ่ามือขนาดใหญ่ มีเลือดซึมออกมาจากปากของเขาเล็กน้อย 



         ถุ้ย- ชินจิถุ้ยบ้างอย่างออกมาลงพื้น มันคือฟันสีขาวขนาดเล็กที่เปื้อนเลือดกองหนึ่ง 



        “ แก! ”



        เบียคุยะมองไปที่ชินจิที่เมินเขาอยู่ ก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าเดินไปหาชินจิอย่างช้าๆก่อนจะขวาไปที่คอเสื้อของชินจิแล้วยกเขาขึ้น



         “ พ่อ... ”



        “ หุบปาก! ฉันไม่มีลูกที่เป็นสวะไร้ค่าแบบแก!! ”



        ชินจิค่อยๆหรี่ตาลง เขารู้เจ็บบริเวณหัวใจอย่างบอกไม่ถูกค่อยๆก้มหน้าลงอย่างมืดมน 



         “ รู้ตัวแกดีนิ! ฉันจะจับแกพาไปขึ้นเครื่องเดียวนี้ แกไม่มีสิทธิ์ปติเสธ ” 



        เบียคุยะคำรามใส่ชินจิจนมีน้ำลายกระเด็นออกมาบ้างส่วนไปเข้าหาชินจิ ก่อนที่จะมีร่างของโซเค็นเดินออกมาแล้วห้ามเบียคุยะ




        “ ในเมื่อมันไม่ต้องการไป...ก็ปล่อยมันไป ปล่อยสิ่งไร้ค่าสักชิ้นออกไปผลก็เท่าเดิม ”



        เบียคุยะพยักหน้าเขารู้สึกเห็นด้วยกับพ่อของเขา ' โซเค็น ' ขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั่น เขาคิดว่าชินจิมันไร้ค่า การปล่อยสิ่งไร้ค่าสักชิ้นไปก็...



         เบียคุยะจับคอโยนชินจิออกไปนอกหน้าต่างจนเขาลอยไปปะทะกับหน้ากากอย่างจัง เพร้ง! เสียงของกระจกแตกลง ตุ้บ! เสียงของร่างกระทบพื้น



        ชินจินอนนิ่งอยู่บนพื้น เสื้อผ้าขาดออกจากกระจกมีเลือดค่อยๆไหลออกมาเปื้อนเสื้อผ้าจนเปลียนเป็นสีแดงผลจากการโดนบาดกระจก



        “ ขยะไร้ค่าแบบแก ไม่สนควรไปต่างประเทศ..ไม่สิ ไม่สมควรอยู่ในตระกลู ' มาโต้  ' ด้วยซ้ำ ”



        เบียคุยะพูดอย่างไม่ใยดี เขามีผู้สืบทอดคนต่อไปแล้ว ที่จะสืบทอดตระกลู ' มาโต้ '  ' มาโต้ ซากุระ ' เขาไม่ต้องการคนไร้ค่าวงจรเวทย์พังพิการใช้เวทย์ไม่ได้ทำให้มาโต้เสียชื่อเสียงแบบ ' ชินจิ ' อีกแล้ว



        “ ต่อจากนี้แกไม่ใช่ ' มาโต้ ชินจิ ' อีกต่อไป แกถูกขับไล่ออกจากตระกูล ' มาโต้ ' ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ' ชินจิ ' แค่ ' ชินจิ ' ”



         โซเค็นกล่าวด้วยรอยยิ้มไร้ความเมตาก่อนที่จะจับไม้เท้าแล้วยกมันขึ้น พร้อมเดินออกไป ณ จุดนั่น พร้อมกับเบียคุยะที่ตามเขาไปแบบติดๆ



         ราวกับการทอดทิ้ง ' มาโต้ ชินจิ ' เป็นเพียงการทิ้งขยะไร้ค่าชิ้นนึ่ง ที่ไม่มีค่าให้สนใจอีกต่อไปหลังโยนมันทิ้งเข้าถังขยะ



         ซากุระมองทุกอย่างอยู่เงียบๆ มองเด็กชายที่ถูกทำร้ายจากคนเหล่านั่นแทบไม่ต่างจากเธอ ความรู้สึกที่ว่ามีคนที่เหมือนๆกันอยู่ สร้างความสุขเล็กๆภายในก้นบึ้งของจิตใจให้เธอ



         ชินจิค่อยๆลุกยืนขึ้นอย่างมืดมน เขาก็ยังมีอีกครึ่งหนึ่งที่เป็น ' ชินจิ ' คนเดิมอยู่ ทำให้เขาพอจะรู้สึกหวาดกลัวและเสียใจอยู่บ้าง แต่ไม่มากนักจนคลั่งเพราะเขาเองก็มีอีกครึ่งหนึ่งที่เป็นชายชราวัยแป็ดสิบที่ผ่านประสบการณ์ต่างๆมามากมาย



         { ติ๊ง! คุณสำเร็จภารกิจลับ " หลบหนีออกจากตระกูลมาโต้ " ได้รับรางวัลเป็นฉายา " ผู้ถูกขับไล่ " และ " ผ้าปิดตาแห่งการถอดทิ้ง " }



         เสียงของระบบดังขึ้นดูงดูดความสนใจชินจิขึ้น เขามองไปที่หน้าต่างโฮโลแกรมด้านด้านที่กำลังแสดงอยู่ เขาไม่สนใจฉายากดไปที่ดูรายระเอียด " ผ้าปิดตาแห่งการทิ้ง " 



          " ผ้าปิดตาแห่งการถอดทิ้ง - ความสามารถคือการที่จะทำให้ผู้ที่ส่วมใส่มันได้รับผลพิเศษอย่างการที่ทำให้ดวงตามองไม่เห็นหรือไม่สามารถแสดงพลังอะไรที่เกียวกับดวงตาได้ "



           “ ของไร้ประโยชน์...ไม่ใช่หรือไง? ”



        ชินจิเขาคิดว่า พลังที่ทำให้ตาบอดมองไม่เห็นเขาจะใช้มันไปทำไหม? การที่มีดวงตาที่มองเห็นได้ยอมดีกว่าการมีดวงตาแต่มองไม่เห็น



         ชินจิเลิกสนใจระบบแล้วมองไปทางซากุระที่จ้องมองเขาอยู่ เขาสัญญาว่าจะช่วยเหลือเธอออกมาจากนรกแห่งนี้



                      “ รอก่อนนะ...ซากุระ ”


          ชินจิพึมพัมขณะก้าวเท้าออกจากตระกูลมาโต้ไป ภายใต้สายตาของซากุระที่จ้องมองเขาอยู่..



          ชินจิหลังจากที่ถูกขับไล่ออกมาจากตระกูลมาโต้เขาก็เดินทางมาเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายในเมื่องซูยูกิแห่งนี้ แม้เขาจะมี ' ทองแทง ' ที่ได้รับมาจากระบบอยู่แต่ก็ใช้มันไปแลกเป็นเงินได้ยากหรือทำการซื้อห้องพักเนืองจากเขาภายนอกยังอายุเพียง5-6ขวบเอง



          ชินจิเขาได้ที่พักคือป่าแห่งหนึ่งใกล้ๆตัวเมืองเขาได้ทำการสร้างกระท่อมไม้เล็กๆตามความทรงจำที่ดูเอาชีวิตในป่ามามากมาย จนสร้างกระท่อมไม้เล็กๆแคบๆที่มีหลังคาเป็นใบไม้มากองๆกันไว้ได้สำเร็จ



          “ เฮ้อ~ สำเร็จสักที ”



          ชินจิพึมพัมพล่างปัดเหงื่อบนใบหน้า เนืองจากร่างกายที่เป็นเด็กจึงทำอะไรได้ลำบากไหนจะบาดแผลจากกระจกบาดอีก...



         โดยที่ชินจิไม่รู้ตัวที่มือขวาของเขาค่อยๆปรากฏรอยแดงขึ้นช้าๆ รอยแดงรูปร่างของดาบสองเล่มไขว้กันและมีดาบเล่มที่สามอยู่ตรงบริเวณตรงกลางของดาบทั้งสองที่ไขว้กัน ก็เกิดขึ้น



         “ โอ๊ะ- อ่ะยะ ”



        ชินจิรู้สึกเจ็บจิ๊ดๆที่มือขวาจึงทำการยกมันขึ้นมามอง ตาก็ต้องเบิกขึ้นก่อนจะหรี่ลงด้วยรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เมื่อมอง ' อาคมบัญชา ' ในมือ



         “ มันแล้วสินะ ” 



          { ติ๊ง! คุณทำภารกิจ " เข้าร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 " สำเร็จ ท่านได้รับตั๋วสุ่มกาชา10ใบ } 



        หน้าต่างโฮโลแกรมสีฟ้าปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของชินจิพร้อมเสียงสิริของระบบ ชินจิอดยิ้มอีกครั้งไม่ได้เมื่อได้เห็นรางวัล..



        “ เอาล่ะระบบไปหน้ากาชาแล้วสุ่มมันเลย!จัดไปวัยรุ่น ”



         { รับทราบครับท่าน ระบบจะเริ่มสุ่มกาชา ณ เวลานี้ }



        ระบบกล่าวจบก็เปลียนหน้าเป็นตู้กาชาพร้อมกับหมุนกาชาอย่างรวดเร็ว ชินจิมองมันอย่างใจจดใจจ่อสิ่งที่จะรับประกันชีวิตของเขาในสงครามต่อจากนี้ก็คือรางวัลต่อจากนี้



         { ท่านได้รับ ติ๊ง ติ๊ง }



        ระบบเริ่มค่อยๆปรากฏแถวบ้างอย่างสองแถวบนล่างที่เรียงรายชื่อรางวัลต่างๆไว้ในกรอบสิบกรอบของทั้งบน-ล่าง



         “ นี้มัน... ”



        [ ถุงยางอนามัย/เนตรวงแหวน/เสื้อนอนของผู้หญิง/กางเกงในของผู้หญิง/หม้อหุงข้าว ]



        [สายเลือดกูล/การควบคุมจักกระ/ดาบไม้โง่ๆ/เสื้อสายขาวเคนโด้/น้ำผลไม้โอริโอปั่น ]



        “ สำเร็จ!!! ”



        ชินจิมองไปที่ของสามอย่างได้แก่ " เนตรวงแหวน "  " สายเลิอดกูล "  " การควบคุมจักกระ "  ในที่สุดเขาก็ได้สิ่งดีๆ



         { คำเตื้อน! มีพลังที่ขัดแย้งกันในรางวัลอย่าง " เนตรวงแหวน "  " สายเลือดกลู "  ท่านอาจจะต้องเลือกรับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปแทน X/✓ }



       

         ชินจิคิ้วกระตุกรอยยิ้มเขาหายไปทันที เขาโดนระบบมันแกล้งหรือเปล่าทั้งๆที่ก็พึ่งได้ของดีๆมาแต่เหมือนจะรับได้แค่ 2ใน3 บัดซบ!!



       “ เห้ยๆระบบเองพอจะมีวิธีรับพลังทั้งสองใช่ไหม ”



        { แน่นอนทางระบบมี แต่คุณต้องจ่ายคะแนน300คะแนนเพื่อรับพลังทั้งสองไปอย่างละครึ่ง ถ้าคุณต้องการ }



          (⁠◔⁠‿⁠◔⁠)




          “ ขูดเลือดขูดเนื้อกันเกินไปแล้ว!!สาบานมาเลยเองไม่ได้แกล้งผม!! ”



        ชินจิคำรามพร้อมชี้นิ้วไปทางระบบที่กำลังทำหน้าก่วนส้นตรีนอยู่ เขารู้สึกว่าระบบของเขามันแกล้งๆก่วนๆแบบแปลกๆไม่เหมือนระบบของใคร



         { คุณคิดไปเองค่ะ รีบๆเลือกครับท่าน }



        ชินจิคิ้วกระตุกกุมขมับ สำหรับเขาพลังทั้งสองอย่างมันดีมากๆการจะละทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปก็เสียดายแต่ว่าเรื่องกลูไม่ใช่ปัญหาแต่ว่า...เนตรวงแหวนข้างเดียวจากที่เขารู้มามันใช้ซูซาโนะโอไม่ได้เนี้ยสิ



         “ ..... ”



       { เร็วเข้าครับท่าน }



        “ หนวกหูน่า ”



       { โอเค...ถือว่าท่านตอบ Noo }



        “ เห้ย!ใจเย็น เอ่อๆยอมรับ ”



        { แค่นั่นครับท่าน }


     

         ಡ⁠ ͜⁠ ⁠ʖ⁠ ⁠ಡ



          ชินจิจนปัญญากับระบบตัวนี้จริงๆเขาทำการกุมขมับแน่นพร้อมเหงื่อบนหน้า



        “ เฮ้อ~ อะ-------  ”



       ตึ๊ก ตึ๊ก! ชินจิตาเบิกขึ้นนำมือมาจับบริเวณหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงผิดปกติ เหงื่อเริ่มปรากฏบนใบหน้าของเขามากขึ้น 



         ตุ๊บ! ชินจิล้มลงนอนกับพื้นขดตัวเข้าหากัน เขารู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูกแบบที่ไม่เคยรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน กระกูลในร่างกายเองก็รู้สึกกำลังละลาย




        เจ็บปวด



         เหลือเกิน...




          หนึ่งวันต่อมา



        มีร่างของเด็กชายผมสีน้ำเงินสั้นกำลังนอนขดตัวอยู่กับพื้นอยู่ เขาค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปรอบๆแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนที่จะมองมือของตนเอง



        “ สำเร็จแล้วสิน่ะ...แล้วมันเปิดใช้งานพลังยังไงหว่า? ”



        ชินจิพึมพัมอย่างสงสัยลองตั้งสมาธิแล้วเพ่งจิตไปที่ดวงตาทั้งสองข้างแล้วจินตนาการว่ามันมีบ้างสิ่งถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกับที่เขาเบิกตาขึ้น




       ครึ๊บ ดวงตาของชินจิเปลียนไปข้างหนึ่งขวากลายเป็นสีแดงมีลายลูกน้ำสีดำหนึ่งลูก " เนตรวงแหวน " ข้างซ้ายดวงตาเป็นดวงตาสีดำลูกตาสีแดง



        “ นี้มัน...รู้สึกถึงพลังเลย ” 



        ชินจิกล่าวด้วยรอยยิ้มเขารู้สึกถึงพลังที่มากกว่าเก่ามาก เขาค่อยๆกำมือทั้งสองข้างด้วยรอยยิ้มแต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านั่นก็..



       เอวด้านหลังของชินจิค่อยๆเปลียนสีผิวเป็นสีดำขึ้นอย่างช้าๆก่อนที่จะมีบ้างอย่างดำยาวสามเส้นทะลุผิวหนังพุ่งออกมา



        “ !!! ”



         ชินจิมองไปที่สิ่งนั่นที่พุ่งมามันคือ " คากุเนะ " เขาพยายามควบคุมมันแบบในอนิเมะแต่ว่า...เขาไม่สามารถควบคุมมันได้



         “ ทำไหมกัน..!? ”



       ตุ้ม!! คากุเนะด้านหลังของชินจิทั้งสามมันพุ่งไปฟาดทำลายกระท่อมที่ชินจิสร้างไว้จนพังลง ชินจิทำได้เพียงหมอบลงกับพื้นใบหน้ามีเหงื่อมากมาย 



       เขาควบคุมมันไม่ได้...



        ชินจิพยายามปิดใช้พลังของดวงตาเพื่อหยุดหยังคากุนะของเขา แต่มันก็ไร้ผล...



        “ ปิดใช้งาน!!ระบบช่วยผมด้วย!!! ”



         { ระบบไม่สามารถปิดใช้งานพลังของท่านได้ ของเนตรวงแหวนและคากุเนะ เนืองจากท่านได้รับเนตรมาเท่านั่น ท่านไม่ได้รับสายเลือดของอุจิวะมา ส่วนคากุเนะท่านที่เป็นครึ่งกูลเลยควบคุมมันได้ยาก...คุณต้องพึ่งตัวเองแล้วครับท่าน




         “ .... ”



        ชินจิเมื่อได้ฟังคำอธิบายของระบบ ก็หมดคำสิเว้าเลย ระบบของเขามันกระจอกจริงๆ!!!!



        ( ทำไงดีกัน...? คิดสิ...คิดสิ! )



        ชินจิพยายามครุ่นคิดถึงวิธีที่จะหยุดพลังของเขาที่กำลังบ้าคลั่ง จนความทรงจำมันฉายภาพคำอธิบายของผ้าปิดตาแห่งการถอดทิ้ง 



        “ เอาผ้าปิดตาแห่งการถอดทิ้งมาซะไอ้ระบบ ”



        { รับทราบ ตามที่ท่านต้องการ }



        มีผ้าสีขาวยาวขนาดพอดีปิดดวงตาปรากฏขึ้นตรงหน้าของชินจิ เขาจับมันด้วยมือทั้งสองข้างแล้วนำมันกระทบเข้ากับดวงตาตางส่วนกลางของผ้าแล้วใช้ปลายของผ้าทั้งสองด้านผูกเข้าด้วยกัน



        คากุเนะค่อยๆสงบลงเคลื่อนตัวกลับไปที่หลังเอวของชินจิช้าๆจนมันกลับไปหมด ชินจิค่อยๆนั่งลงกับพื้นพร้อมหอบไปมาด้วยความเหนื่อย



        แคก แค่ก ใครจะไปคิดว่ามันจะลำบากลำบนขนาดนี้ เนตรวงแหวนก็ใช้งาน100%ไม่ได้เพราะไม่ใช่คนของอุจิวะ คากุเนะก็ควบคุมไม่ได้



        ตอนนี้เพื่อควบคุมมันก็ทำได้เพียงใส่ผ้าปิดตาไว้ตลอดชีวิต ใช้ชีวิตเหมือนกับคนตาบอด...



         “ บัดซบ!! ”


      

        เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินยกกำปั้นขึ้น แล้วชกไปที่พื้นข้างๆรั่วๆ เขาท้อใจกับโชคชะตาของเขาอยู่เฉยๆก็ไม่ว่าดีอย่ากได้พลังจนตัวสั่นจนตอนนี้แทบไม่ต่างจากคนตาบอด



        ชินจิค่อยๆเลิกชกพื้นแล้วสัมผัสมันเบาๆแล้วยืนขึ้นคว้าอากาศรอบๆแล้วเดินตรงไปอย่างไร้จุดหมายจนมือไปสัมผัมจับบ้างสิ่งที่แข็งๆเขาคาดว่ามันคือต้นไม้




         “ ระบบเริ่มอัญเชิญเซอร์แวทน์ที ”  



        { ในความเป็นจริงคุณควรจะจัดการหาพิธีอัญเชิญด้วยตนเอง แต่ระบบเมื่อเห็นสภาพสุดอนาทของท่านแล้ว...จึงจะขอช่วยเป็นกรณีพิเศษ }



         “ ....ขอบใจ ”



        วงเวทย์อัญเชิญปรากฏขึ้นพร้อมกับที่มันส่องแสงสว่างขึ้นตรงหน้าของชินจิ ชินจิที่มองไม่เห็นจึงสัมผัสไม่ได้



        มีร่างของหญิงสาวผมสีม่วงยาวห้างม้าสองข้างในชุดสีขาวสลายโบสีดำตรงบริเวณหน้าหน้าอกทั้งสองฝั่งติดอยู่ที่เสื้อของเธอ




          “ อาร่า~ เทพธิดาคนี้ในคลาสอัลเตอร์อีโก้ สองพี่น้องกอร์กอน มาตามคำอัญเชิญแล้ว ”



         เสียงหวานที่น่าหลงไหลดังขึ้นด้านหน้าของชินจิ ชินจิเพียงพยักหน้าเขาคาดว่าเซอร์แวทน์ของเขาคงจะยืนอยู่ตรงหน้าเลยยืนมือออกไป



       “ มาโต้.....ไม่สิ ทาคามิยะ ชินจิ ฝากตัวด้วย ”



        เด็กชายผมสีน้ำเงินส่วมผ้าปิดตาไว้ที่ดวงตายืนมือไปที่กระโปร่งของหญิงสาวผมสีม่วงยาวห่างม้า อัลเตอร์อีโก้จับคางช้าๆ



        “ ข้าคือร่างร่วมของเทพธิดาทั้งสองอย่าง สเตโน่และยูริเอล โปรดเรียกว่าท่านเทพธิดาด้วยเถอะมาสเตอร์ ”



        ____



        ลงให้ก่อนจะหายยาว เนืองจากก็เข้าช่วงสงกรานต์แล้วไรท์อาจจะไม่ค่อยได้อัพไปอีกนาน คงกลับมาอัพหลังสงกรานต์นุ้นแหนะ ลงให้เป็นพิเศษเลยตอนนี้เป็นตอนที่ดองไว้อยู่แล้วก็ได้มั่ง55


        

                    " ทาคามิยะ ชินจิ "

     

            











     




       ิ













         























        












    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×