NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FiC Fate ] เทพทรูที่แสนระทมชินจิ ( จบ )

    ลำดับตอนที่ #17 : หนึ่งวันของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 66




         ในโลกที่มืดมิดที่แม้แต่แสงสว่างก็ไม่มีวันส่องมาถึง มีร่างของเงาดำรูปร่างมนุษย์ร่างหนึ่งกำลังจับดาบคาตานะสีดำสนิทฟาดฟันอากาศอยู่


         โดยอยู่ภายใต้สายตาของเด็กชายอายุเจ็ดขวบผมสีน้ำเงินสาหร่าย เขามองเงาดำนั่นด้วยสายตาที่แวววับ


        ที่นี้คงจะเป็นฝัน..? แต่ก็เป็นฝันที่ดี


         ชินจิค่อยๆยกยิ้มขึ้นแล้วมีดาบไม้ที่ปรากฏขึ้นภายในมือ เขาตั้งท่าจับดาบยืนตรงในท่าเดียวกับเงาดำแล้วฟันอากาศไปมา


        ชินจิคาดว่าในโลกแห่งนี่คือฝันของเขาที่เกิดจากการหลอนและความยึดติดกับการฝึกดาบมาทั้งวัน แต่มันก็คือความฝันที่ทำให้เขากลับมามีใจฝึกต่อ


         จะไม่มีพรสวรรค์แบบใครเขาก็ชั่ง แต่จะขอมุ่งเน้นฝึกฝนต่อไปเพื่อตัวเอง..


       แม้จะเป็นในโลกแห่งนี้ โลกแห่งฝัน แต่ชินจิก็ยังคงฝึกดาบต่อไป ฟันอากาศต่อไปเรื่อยๆเพื่อเรียนรู้เกียวกับดาบโดยไม่ท้อถอย


        เพราะมันคือสิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ แค่สิ่งเดียว..


        และแล้ววันเวลาก็ผ่านพ้นไป ถึงรุ่งเช้าของอีกวันในที่สุด สู่โลกแห่งความจริง


        ร่างเด็กของชินจิค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เขาค่อยๆขยับกำปั้นเล็กๆของตัวเองมาเหนือใบหน้าแล้วมองมัน


       ~


        เขากำหมัดแน่นก่อนจะยิ้ม เขาละสายตาจากหมัดแล้วตรงไปมองร่างของยูโน่ล่าที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆของตนเอง 


        แม้โลกแห่งนี่จะโหดร้าย แต่ถ้ามีท่านเทพอยู่ก็รู้สึกว่าจะไม่เป็นอะไร..


        ชินจิค่อยๆหลับตาลงแล้วหลับไหลอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม วันนี้เป็นวันที่หกในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์แล้วก็จริง แต่เขากลับอย่ากจะพักต่อไป


        ณ คฤหาสน์??


        มีร่างของเด็กชายผมแดงเพลิง ตาสีน้ำตาลแห่งความยุตินั่งอยู่บนม้านั่งไม้ยาวตัวหนึ่งข้างๆเขามีร่างของชายผมขาวปัดขึ้นในชุดนอกสีแดงส่วมเกราะสีดำไร้ปลอกแขน 


        กำลังเผชิญหน้ากับชายผมดำในชุดสูทสีดำที่นั่งอยู่บนม้านั่งอีกตัว ข้างๆเขาเองก็มีร่างของหญิงสาวผมทองสว่างตาสีเขียวมรกตในชุดสูทสีดำอยู่


       “ มาหาพวกข้าถึงที่ต้องการอะไรกันแคสเตอร์..!? ”

        อาเธอเรียส่งสายตาข่มขู่ไปทางเอมิยะอาเชอร์ขณะดาบล่องหนปรากฏขึ้นภายในมือของเธอแบบฉับพลัน


       “ ใจเย็นๆนะเซเบอร์ เราแค่เอิ่มม..อื่ม...อย่ากเป็นพันธมิตรกับเธอ ”


        ชิโร่หน้าแดงจางๆเกาแก้มที่แดงของตัวเองไปมาขณะมองไปทางอาเธอเรียในชุดสูทสีดำ เขายอมรับว่าเธอในตอนนี้ดูดีมาก


        อาเธอเรียมองชิโร่ด้วยสายตาแข็งกระด้างเช่นเดิมไม่เปลียน เด็กชายผู้เป็นมาสเตอร์ของแคสเตอร์ตรงหน้ามองเธอทุกซอกทุกมุมด้วยสายตาสีน้ำตาลคู่นั่นมาตั้งแต่เมื่อกี่แล้ว..


       ชิโร่เริ่มแตกตื่นเมื่อเห็นอาเธอเรียเริ่มไม่พอใจ เขาหน้าแดงแล้วก้มหน้าลงพร้อมเก้าหัวตัวเองไปมาแก้อาการเขิน 


        “ ขะ-ขอโทษน่ะเซเบอร์ ”


         ชิโร่เขายอมรับว่าตัวเองคิดอะไรแปลกๆกับเธอเมื่อมองเธอในชุดสูทที่ทำท่าทางเย็นชาอยู่ ภาพของเธอในร่างเปลือยที่กำลังถูกเขา***ในห้องน้ำในห้วงแห่งความทรงจำในรูทFate มันก็ดันลอยเข้ามาในหัวอย่างช่วยไม่ได้...เธอผู้เย็นชาคนนี้จะถูกเขาทำลายในอนาคต ยิ่งคิดแบบนั่นเขาก็หน้าแดงไม่ได้


        แก...เอมิยะ ชิโร่


       เอมิยะอาเชอร์มองไปทางชิโร่ที่กำลังทำท่าทางปั้มๆเป๋อๆก็อดจะมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยามที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจไม่ได้


        “ ค่ะ ”


        “ อื่ม.. ”


        เอมิยะอาเธอร์เลิกสนใจชิโร่แล้วมองไปทางคิริซึงุที่กำลังสูบบุหรี่อย่างเงียบๆ คนตรงหน้าคือบุคคลที่เขาลืมเลือนใบหน้าไปนานแล้ว..


        พ่อบุญธรรมที่ช่วยชีวิตเขาไว้ในครั้งอดิต ผู้มอบอุดมการณ์แห่งความยุติธรรมที่แสนจอมปลอมนี่ให้..


        ฟู้ว~


        คิริซึงุพ้นขวัญบุหรี่ออกมาก่อนจะทิ้งบุหรี่ในมือลงแล้วใช้เท้าเหยียบขยี้มันไปมา พร้อมกับเงยหน้ามองชิโร่ด้วยสายตาจริงจัง


        “ แล้วเธอ มาสเตอร์ของแคสเตอร์สิน่ะ มีคุณค่ามากพอแล้วงัยเหรอ..!? ที่จะมาเป็นพันธมิตรกับฉัน ”


       ชิโร่เริ่มเหงื่อตกเมื่อถูกคิริซึงุกดดันแต่เขาก็กลับมาใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว เขายืนขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การมองของคิริซึงุถูกระเบียบนิ้ว


        “ แน่นอนผมมีครับ ทั้งอุดมการณ์ของเราและพลัง.. ”


       “ โฮ้ว ”


        คิริซึงุเริ่มสนใจชิโร่อย่างช่วยไม่ได้เมื่อฟังคำพูดนั่นของเด็กชาย อุดมการณ์และพลัง...งันหรอ น่าสนใจ


        “ พวกเราต่างเป็นมิตรแห่งความยุติธรรม ผู้ไล่ตามการเป็นผู้ผดุ้งความยุติธรรม ฮีโร่แห่งความถูกต้องครับ! ”


        ชิโร่มองคิริซึงุด้วยความมุ่งมั่นแสดงถึงความเอาแน่เอานอน คิริซึงุนั่นคือคนที่มอบอุดการณ์ให้เขา อุดมการณ์แห่งความยุติธรรม


         ผู้ผดุ้งความยุติธรรม...


        คิริซึงุพึมพัมภายในใจเมื่อมองดวงตาคู่นั่นของเด็กชาย มันคือความจริงอย่างแน่นอนข้อยืนยันคือสายตาคู่นั่น..


        ต่อไป


       ชิโร่หลับตาลงแล้วเดินหันหลังให้คิริซึงุออกไปยืนกลางห้องโถ่ง ก่อนจะหันกลับมามองพวกเขา ถูกคนต่างมองชิโร่ด้วยสายตาเดียวกัน


        “ และนี้คือ.. ”


         ชิโร่กางแขนออกก่อนจะฉีกยิ้มมุมปาก ในตอนนี้มันคือช่วงเวลาที่เขาต้องแสดงถึงความมั่นใจในตนเองและพลัง!


        !!


        มีหุ่นยนต์ขนาดยักษ์เหนือมนุษย์สีแดงเขียวปรากฏขึ้นด้านหลังของชิโร่ มันคือกันดั้ม!ที่มีชื่อว่า ' เทพธิดาแห่งความยุติธรรม ' 


        “ พลังที่จะถูกผมใช้เพื่อขับเคลื่อนอุดมการณ์ของเรา! ”


        ชิโร่เผยรอยยิ้มพร้อมเหงื่อบนใบหน้า เขาจะต้องดึงคิริซึงุเข้ามาเป็นพวกให้ได้แล้วชนะสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้!


        { ติ๊ง! นายท่านทำภารกิจสำเร็จ ' แท็คทีมกับคิริซึงุ ' ได้รับดาบ " เมียวจินกิริ มุรามาสะ " }

        

         ณ อีกด้าน


         อิซเซย์กำลังมองภาพโฮโลแกรมสีฟ้าที่กำลังฉายภาพเหตุการณ์ของชิโร่จับมือชักช่วนคิริซึงุอยู่ เขาดัันแว่นที่สว่างขึ้นหนึ่งที


       “ หุนกันดั้ม...ไม่เบานิ พ่อพระเอกแห่งความยุติธรรม ”


        { แม้เขาจะยอดแต่ท่านนั่นก็ยอดยิ่งกว่านะขอรับ }


         (⁠*⁠˘⁠︶⁠˘⁠*⁠)⁠.⁠。⁠*⁠♡

        

          ภาพโฮโลแกรมสีฟ้าที่ฉายภาพอยู่เริ่มปรากฏใบหน้าคนยิ้มขึ้น มันคือระบบของเขานั่นเอง ระบบที่ช่วยอัพค่าพลังของตัวเขาจนไม่ใช่ตัวประกอบธรรมดาๆอีกต่อไป


        “ อ่า ก็ต้องขอบใจแกด้วยล่ะนะที่ฉันมาถึงจุดนี้ได้ ”

        อิซเซย์ดันแว่นแล้วฉีกยิ้ม ขณะแบบมือออกก่อนที่จะมีไอความเย็นก่อตัวขึ้นที่ฝ่ามือของเขาพร้อมๆกับพื้นที่โดยรอบเริ่มเย็นลง


        แค่พลังของมาสไรเดอร์คูกะ อิซเซย์ก็แทบจะครองโลกได้แล้ว นั่นก็เพราะว่า...มาสไรเดอร์คูกะนั้นเก่งตามร่างต่างๆซึ่งร่างสุดท้ายของคูกะอย่างร่าง ' อัลติเมทคูกะ '


        มีพลังที่จะทำลายโลกนี้ได้เลย ลูกเตะไม้ตายในชื่อ ' ไรเดอร์คิก ' มีพลังระเบิดคล้ายนิ้วเคลียร์หรือเหนือยิ่งกว่าซะอีก..


        { ขอเพียงท่านแข็งแกร่งจนเหนือกว่าเหล่าตัวละครดั่งเดิมได้นั่นก็ตรงตามเป้าหมายของทางเราแล้ว }


       (⁠◍⁠•⁠ᴗ⁠•⁠◍⁠)⁠❤


       “ ฮ่าๆ เรียบง่ายเสียจริงนะแก แต่จุดนั่นของแกก็ไม่ได้เกรียดหรอกเผลอๆชอบสะอีก~ ”


        อิซเซย์ฉีกยิ้มกว้างขึ้นขณะดันแว่นที่สว่างขึ้นหลายทีต่อหลายที 


       ตัดกลับมาด้านตัวเอกของเรา


        ชินจิกำลังนอนหลับอยู่อย่างสบายราวกับพึ่งไปออกรบมานาน เขานั้นเหนื่อยมากทั้งใจและร่างกายผลจากการฝึกดาบในโลกความฝันต่อจากโลกความจริงเมื่อหลับ


        จิ้ม~


       แก้มของชินจิถูกนิ้วมือของยูโน่ล่าจิ้มไปมาเบาๆ เธอยิ้มอย่างซุกซนเหมือนยามปกติ แม้นี้จะเทียงแล้วแต่ชินจิก็ยังคงนอนหลับอยู่


       ชินจิเคลื่อนมือของตัวเองไปจับนิ้วมือของยูโน่ล่าไว้เบาๆแล้วเปลือกตาของเขาเองก็ค่อยๆลืมขึ้น ตาสีม่วงอ่อนของเขานั่นสบเข้ากับดวงตาของเธอ


        “ อย่าแกล้งกันสิครับท่านเทพ~ ”


        ชินจิเริ่มทำหน้าดุขึ้นเมื่อตัวเองถูกยูโน่ล่าก่วนเวลานอน ถ้าเขาจะรู้สึกไม่พอใจนั่นก็จะเป็นเรื่องปกติ 


        “ ตื่นได้แล้วน้า ชินจิ~ ”


        ยูโน่ล่าอย่ากออกไปข้างนอกเพื่อเที่ยวเล่นเนืองจากวันก่อนแผนก็ดันล้มเพราะมีเรื่องเกิดขึ้นสะก่อน..เลยอด


         มุมชินจิ


        “ ไม่ครับ! ”


        “ ง่าา ”

       

         เธอเริ่มทำหน้าไม่พอใจที่ใครๆก็อ่านมันออก " ไม่เอาแบบนั่นนะ " มันคงจะเป็นสิ่งที่เธอจะสื่อกับผม 


       “ .... ”


      “ ไม่ครับ ”


       เธอเริ่มเบือนหน้าหนีหลังได้ยินคำตอบที่ชัดเจนนั่นของผม และผมก็เกิดความรู้สึกอย่ากง้อขึ้นมาแต่ว่า..แต่ว่าน่าเสียดายนะที่ไอ้ผมน่ะมันเริ่มเข้าใจบ้างอย่าง


        ค่าโชคผมมันต่ำมาก ถ้าไปมีหวังไม่ได้เที่ยวแต่โดนรุมอัดจากใครสักคนแน่นอน...ผมรู้ดี ไม่สิต้องบอกว่าเริ่มรู้ตัว


        เฮ้อ~ 


        “ อย่ากให้ช่วยเข้าใจกันหน่อยนะท่านเทพธิดาของผม ”


        ผมเริ่มขยับมือไปกุมมือของเธอไว้อย่างช้าๆแบบนุ่มนวลแล้วนวดมือของเธอไปมาเพื่อทำให้เธออารมณ์ดี...


       ซึ่งมันก็ได้ผล เธอหันกลับมามองผมสะแล้ว รู้สึกว่าดีจังน่ะเพราะแผนสำเร็จ แต่ว่าในตอนนี้ก็ยังไม่รอดพ้นไปหรอก 


        จุดสำคัญคือต้องคุยให้เคลียร์!


        “ ของเจ้าเหรอ? บังอาจมากเกินไปแล้วนะ!? ”


        เธอเริ่มโกธรสะแล้วสิ แต่น่ารักดีแปลกๆแหะ เมื่อมองใบหน้าของเธอที่โกธรแบบนั่นแล้วบวกกับการพยายามดึงมือออกไปแบบนี้


        เธอสามารถดึงมือออกไปได้อย่างง่ายๆสำหรับแรงเซอร์แวทน์แต่ที่ผมยังกุมมือไว้ได้แบบนี้..แปลว่าไม่ได้ต่อต้านแหะ 


        “ บังอาจไปมากแล้วจริงๆนั่นแหละขอรับท่านเทพ ขอประทานโทษด้วยหัวใจดวงที่มีให้ท่านทั้งหมดนี้เลย ”


        “ หึ! ”


         ผมค่อยๆเผยรอยยิ้มไม่ได้ เมื่อเห็นว่าเธอขี้เกียจเถียงต่อไปแล้ว ชนะแหะดีเสียจริงต่อไปก็


        “ .... ”


         “ ผมนะน่ะมันเป็นคนที่ดวงโชคร้ายมากเลยล่ะ มีหวังออกไปกับท่านเทพด้วยคงจะพาเรื่องซวยเข้ามาหา จะไปเที่ยวเผลอไปเป็นกระสอบทรายสะมากกว่า ”


        ผมเริ่มกลับมาคุยเรื่องนี้ขึ้นอีกครั้ง คุยให้เข้าใจมันดีที่สุดจริงไหมละ เพราะงันอย่ากให้เธอเข้าใจและตกลงกันโดยเร็ว 


       “ กระสอบทราย... ”


        “ อื้ม ใช่ ไปเป็นกระสอบทรายที่ถูกรุมอัด ”


         “ โชคของเจ้ามันเลวทรามต่ำช้าจริงๆสำหรับเรื่องที่ผ่านมา ”


       “ ฮ่า ฮ่า เห็นไหมละครับ? ”


        “ ฮึ่ ”


         “ เพราะแบบนั่นเลยไม่อย่ากไปไหน ผมน่ะไม่อย่ากจะพาท่านเทพไปให้โดนรุมทำร้ายด้วยอีกแล้ว ไม่อย่ากอีกแล้วด้วย ”


         “ .... ”


          ผมสบตากับสายตาคู่นั่นของเธอที่จ้องมองกลับมาหลังเบือนหน้ากลับมามองผมสักที..ผมกุมมือของเธอเบาๆถี่ๆ


         “ และการอยู่กับท่านเทพด้วยกันแบบนี้มันรู้สึกดีกว่าไปไหนต่อไหนสะอีก ”


         “ ขะ...ข้า....ชิ! ”


          จู่ๆเธอก็ฉันหงุดหงิดแล้วเบือนหน้ากลับไปสะได้? ไม่สำเร็จหรอ ทั้งๆที่น่าจะสำเร็จแล้วแท้ๆ เฮ้อ 


         ผมรีบลุกนั่งโดยเร็ว


        “ คะ-คือว่า... ”


         ผมก็ต้องชะงักไปเมื่อพบว่าท่านเทพเหมือนกำลังจะเขินหน้าแดงอยู่ แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจเมื่อมานึกถึงบทพูดของตัวผมเองเมื่อกี่


        “ ชินจิ...ขี้โกง...


         “ .... ”


          ผมค่อยๆกลับไปนอนลงบนเตียงอย่างเงียบๆ รู้สึกเจ็บที่หัวใจแปลกๆ แถมมันเต้นเร็วด้วยสิ..จนผมต้องกดมันไว้เลย


        ในสถานการณ์นี่ถ้าผมเริ่มพูดอะไรอย่างอย่างการสารภาพอาจจะได้ขึ้นสถานะกับท่านเทพธิดาก็ได้ ถ้าตามพวกนิยายคงจะเป็นแบบนั่นจบลงโดยการบอกชอบกันและมีเซ็กซ์....


       แต่ผมขอผ่านดีกว่า จะว่าขี้ขลาดตาขาวหรืออะไรก็ได้แต่ว่าเหล่าคนที่อ่านเรื่องราวนี่อยู่ ต้องมีแน่ แม้จะมีโอกาสน้อยก็เถอะที่คนเขียนมันจะเขียนมุมของตัวร้ายแบบผมที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ


         นอกเรื่องล่ะๆ เอาละๆอย่ากจะบอกแก่พวกคุณว่า


         ท่านเทพธิดานะน่ะสูงสงและงดงามเกินไป เกินไปจนไม่ใช่ตัวตนที่ผมจะทำให้แปดเปื้อนไปมากกว่านี่ได้แล้วละ 


         เพราะงัย การที่จะลำเส้นไปมากกว่านี่จนถึงขั้นมีเซ็กซ์ ของแบบนั่นมันคือสิ่งที่คนแบบผมไม่ควรจะทำหรือคิดจะทำ...การทำให้ตัวตนระดับนี้แปดเปื้อนลง


        ผมทำไม่ได้จริงๆนั่นแหละ


        มุมมองปกติ


        ชินจิมีเหงื่อมากมายปรากฏขึ้นบนใบหน้า มือกดลงไปบริเวณหัวใจเพื่อหยุดยั้งสภาวะเจ็บหัวใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ 


        “ แฮก แฮ่ก ”


        ชินจิเริ่มหอบช้าๆเขาพบว่าตัวเองเหมือนจะเริ่มเป็นลมอย่างไม่ทราบสาเหตุ โดยรอบเริ่มมืดลง เขาคิดว่ามันคงเป็นผลมาจากอาการ...แพนิค


        { ติ๊งทำสำเร็จภารกิจ ' หมาวัดที่รู้ขอบเขตของตัวเอง ได้รับอวัยวะเพศหญิง จิ๋ม ปลอม }


       (⁠ㆁ⁠ω⁠ㆁ⁠)


        หน้าต่างโฮโลแกรมสีฟ้าที่มีรูปคนปรากฏขึ้นตรงหน้าของชินจิ แต่ชินจิไม่มีเวลาสนใจเนืองจากเขากำลังจะเป็นลมจนต้องเมินระบบ


        “ ...แฮก ”


        { ค*ยครับโฮสต์ เนืองจากท่านไม่รับทางเราจะขอยึดรางวัลไปแทน }


        (⁠´⁠⊙⁠ω⁠⊙⁠`⁠)⁠!


        เรื่องของเมิงระบบ


         

        __



         ชินจิเราถ้าคนพอสังเกตุระหว่างอ่านตอนหลายตอนที่ผ่านมา เขาเหมือนจะทำลายกำแพงที่4ได้แหะ














         





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×