คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : หนึ่งวันของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์
ในโลกที่มืดมิดที่แม้แต่แสงสว่างก็ไม่มีวันส่องมาถึง มีร่างของเงาดำรูปร่างมนุษย์ร่างหนึ่งกำลังจับดาบคาตานะสีดำสนิทฟาดฟันอากาศอยู่
โดยอยู่ภายใต้สายตาของเด็กชายอายุเจ็ดขวบผมสีน้ำเงินสาหร่าย เขามองเงาดำนั่นด้วยสายตาที่แวววับ
ที่นี้คงจะเป็นฝัน..? แต่ก็เป็นฝันที่ดี
ชินจิค่อยๆยกยิ้มขึ้นแล้วมีดาบไม้ที่ปรากฏขึ้นภายในมือ เขาตั้งท่าจับดาบยืนตรงในท่าเดียวกับเงาดำแล้วฟันอากาศไปมา
ชินจิคาดว่าในโลกแห่งนี่คือฝันของเขาที่เกิดจากการหลอนและความยึดติดกับการฝึกดาบมาทั้งวัน แต่มันก็คือความฝันที่ทำให้เขากลับมามีใจฝึกต่อ
จะไม่มีพรสวรรค์แบบใครเขาก็ชั่ง แต่จะขอมุ่งเน้นฝึกฝนต่อไปเพื่อตัวเอง..
แม้จะเป็นในโลกแห่งนี้ โลกแห่งฝัน แต่ชินจิก็ยังคงฝึกดาบต่อไป ฟันอากาศต่อไปเรื่อยๆเพื่อเรียนรู้เกียวกับดาบโดยไม่ท้อถอย
เพราะมันคือสิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ แค่สิ่งเดียว..
และแล้ววันเวลาก็ผ่านพ้นไป ถึงรุ่งเช้าของอีกวันในที่สุด สู่โลกแห่งความจริง
ร่างเด็กของชินจิค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เขาค่อยๆขยับกำปั้นเล็กๆของตัวเองมาเหนือใบหน้าแล้วมองมัน
~
เขากำหมัดแน่นก่อนจะยิ้ม เขาละสายตาจากหมัดแล้วตรงไปมองร่างของยูโน่ล่าที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆของตนเอง
แม้โลกแห่งนี่จะโหดร้าย แต่ถ้ามีท่านเทพอยู่ก็รู้สึกว่าจะไม่เป็นอะไร..
ชินจิค่อยๆหลับตาลงแล้วหลับไหลอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม วันนี้เป็นวันที่หกในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์แล้วก็จริง แต่เขากลับอย่ากจะพักต่อไป
ณ คฤหาสน์??
มีร่างของเด็กชายผมแดงเพลิง ตาสีน้ำตาลแห่งความยุตินั่งอยู่บนม้านั่งไม้ยาวตัวหนึ่งข้างๆเขามีร่างของชายผมขาวปัดขึ้นในชุดนอกสีแดงส่วมเกราะสีดำไร้ปลอกแขน
กำลังเผชิญหน้ากับชายผมดำในชุดสูทสีดำที่นั่งอยู่บนม้านั่งอีกตัว ข้างๆเขาเองก็มีร่างของหญิงสาวผมทองสว่างตาสีเขียวมรกตในชุดสูทสีดำอยู่
“ มาหาพวกข้าถึงที่ต้องการอะไรกันแคสเตอร์..!? ”
อาเธอเรียส่งสายตาข่มขู่ไปทางเอมิยะอาเชอร์ขณะดาบล่องหนปรากฏขึ้นภายในมือของเธอแบบฉับพลัน
“ ใจเย็นๆนะเซเบอร์ เราแค่เอิ่มม..อื่ม...อย่ากเป็นพันธมิตรกับเธอ ”
ชิโร่หน้าแดงจางๆเกาแก้มที่แดงของตัวเองไปมาขณะมองไปทางอาเธอเรียในชุดสูทสีดำ เขายอมรับว่าเธอในตอนนี้ดูดีมาก
อาเธอเรียมองชิโร่ด้วยสายตาแข็งกระด้างเช่นเดิมไม่เปลียน เด็กชายผู้เป็นมาสเตอร์ของแคสเตอร์ตรงหน้ามองเธอทุกซอกทุกมุมด้วยสายตาสีน้ำตาลคู่นั่นมาตั้งแต่เมื่อกี่แล้ว..
ชิโร่เริ่มแตกตื่นเมื่อเห็นอาเธอเรียเริ่มไม่พอใจ เขาหน้าแดงแล้วก้มหน้าลงพร้อมเก้าหัวตัวเองไปมาแก้อาการเขิน
“ ขะ-ขอโทษน่ะเซเบอร์ ”
ชิโร่เขายอมรับว่าตัวเองคิดอะไรแปลกๆกับเธอเมื่อมองเธอในชุดสูทที่ทำท่าทางเย็นชาอยู่ ภาพของเธอในร่างเปลือยที่กำลังถูกเขา***ในห้องน้ำในห้วงแห่งความทรงจำในรูทFate มันก็ดันลอยเข้ามาในหัวอย่างช่วยไม่ได้...เธอผู้เย็นชาคนนี้จะถูกเขาทำลายในอนาคต ยิ่งคิดแบบนั่นเขาก็หน้าแดงไม่ได้
แก...เอมิยะ ชิโร่
เอมิยะอาเชอร์มองไปทางชิโร่ที่กำลังทำท่าทางปั้มๆเป๋อๆก็อดจะมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยามที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจไม่ได้
“ ค่ะ ”
“ อื่ม.. ”
เอมิยะอาเธอร์เลิกสนใจชิโร่แล้วมองไปทางคิริซึงุที่กำลังสูบบุหรี่อย่างเงียบๆ คนตรงหน้าคือบุคคลที่เขาลืมเลือนใบหน้าไปนานแล้ว..
พ่อบุญธรรมที่ช่วยชีวิตเขาไว้ในครั้งอดิต ผู้มอบอุดมการณ์แห่งความยุติธรรมที่แสนจอมปลอมนี่ให้..
ฟู้ว~
คิริซึงุพ้นขวัญบุหรี่ออกมาก่อนจะทิ้งบุหรี่ในมือลงแล้วใช้เท้าเหยียบขยี้มันไปมา พร้อมกับเงยหน้ามองชิโร่ด้วยสายตาจริงจัง
“ แล้วเธอ มาสเตอร์ของแคสเตอร์สิน่ะ มีคุณค่ามากพอแล้วงัยเหรอ..!? ที่จะมาเป็นพันธมิตรกับฉัน ”
ชิโร่เริ่มเหงื่อตกเมื่อถูกคิริซึงุกดดันแต่เขาก็กลับมาใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว เขายืนขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การมองของคิริซึงุถูกระเบียบนิ้ว
“ แน่นอนผมมีครับ ทั้งอุดมการณ์ของเราและพลัง.. ”
“ โฮ้ว ”
คิริซึงุเริ่มสนใจชิโร่อย่างช่วยไม่ได้เมื่อฟังคำพูดนั่นของเด็กชาย อุดมการณ์และพลัง...งันหรอ น่าสนใจ
“ พวกเราต่างเป็นมิตรแห่งความยุติธรรม ผู้ไล่ตามการเป็นผู้ผดุ้งความยุติธรรม ฮีโร่แห่งความถูกต้องครับ! ”
ชิโร่มองคิริซึงุด้วยความมุ่งมั่นแสดงถึงความเอาแน่เอานอน คิริซึงุนั่นคือคนที่มอบอุดการณ์ให้เขา อุดมการณ์แห่งความยุติธรรม
ผู้ผดุ้งความยุติธรรม...
คิริซึงุพึมพัมภายในใจเมื่อมองดวงตาคู่นั่นของเด็กชาย มันคือความจริงอย่างแน่นอนข้อยืนยันคือสายตาคู่นั่น..
ต่อไป
ชิโร่หลับตาลงแล้วเดินหันหลังให้คิริซึงุออกไปยืนกลางห้องโถ่ง ก่อนจะหันกลับมามองพวกเขา ถูกคนต่างมองชิโร่ด้วยสายตาเดียวกัน
“ และนี้คือ.. ”
ชิโร่กางแขนออกก่อนจะฉีกยิ้มมุมปาก ในตอนนี้มันคือช่วงเวลาที่เขาต้องแสดงถึงความมั่นใจในตนเองและพลัง!
!!
มีหุ่นยนต์ขนาดยักษ์เหนือมนุษย์สีแดงเขียวปรากฏขึ้นด้านหลังของชิโร่ มันคือกันดั้ม!ที่มีชื่อว่า ' เทพธิดาแห่งความยุติธรรม '
“ พลังที่จะถูกผมใช้เพื่อขับเคลื่อนอุดมการณ์ของเรา! ”
ชิโร่เผยรอยยิ้มพร้อมเหงื่อบนใบหน้า เขาจะต้องดึงคิริซึงุเข้ามาเป็นพวกให้ได้แล้วชนะสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้!
{ ติ๊ง! นายท่านทำภารกิจสำเร็จ ' แท็คทีมกับคิริซึงุ ' ได้รับดาบ " เมียวจินกิริ มุรามาสะ " }
ณ อีกด้าน
อิซเซย์กำลังมองภาพโฮโลแกรมสีฟ้าที่กำลังฉายภาพเหตุการณ์ของชิโร่จับมือชักช่วนคิริซึงุอยู่ เขาดัันแว่นที่สว่างขึ้นหนึ่งที
“ หุนกันดั้ม...ไม่เบานิ พ่อพระเอกแห่งความยุติธรรม ”
{ แม้เขาจะยอดแต่ท่านนั่นก็ยอดยิ่งกว่านะขอรับ }
(*˘︶˘*).。*♡
ภาพโฮโลแกรมสีฟ้าที่ฉายภาพอยู่เริ่มปรากฏใบหน้าคนยิ้มขึ้น มันคือระบบของเขานั่นเอง ระบบที่ช่วยอัพค่าพลังของตัวเขาจนไม่ใช่ตัวประกอบธรรมดาๆอีกต่อไป
“ อ่า ก็ต้องขอบใจแกด้วยล่ะนะที่ฉันมาถึงจุดนี้ได้ ”
อิซเซย์ดันแว่นแล้วฉีกยิ้ม ขณะแบบมือออกก่อนที่จะมีไอความเย็นก่อตัวขึ้นที่ฝ่ามือของเขาพร้อมๆกับพื้นที่โดยรอบเริ่มเย็นลง
แค่พลังของมาสไรเดอร์คูกะ อิซเซย์ก็แทบจะครองโลกได้แล้ว นั่นก็เพราะว่า...มาสไรเดอร์คูกะนั้นเก่งตามร่างต่างๆซึ่งร่างสุดท้ายของคูกะอย่างร่าง ' อัลติเมทคูกะ '
มีพลังที่จะทำลายโลกนี้ได้เลย ลูกเตะไม้ตายในชื่อ ' ไรเดอร์คิก ' มีพลังระเบิดคล้ายนิ้วเคลียร์หรือเหนือยิ่งกว่าซะอีก..
{ ขอเพียงท่านแข็งแกร่งจนเหนือกว่าเหล่าตัวละครดั่งเดิมได้นั่นก็ตรงตามเป้าหมายของทางเราแล้ว }
(◍•ᴗ•◍)❤
“ ฮ่าๆ เรียบง่ายเสียจริงนะแก แต่จุดนั่นของแกก็ไม่ได้เกรียดหรอกเผลอๆชอบสะอีก~ ”
อิซเซย์ฉีกยิ้มกว้างขึ้นขณะดันแว่นที่สว่างขึ้นหลายทีต่อหลายที
ตัดกลับมาด้านตัวเอกของเรา
ชินจิกำลังนอนหลับอยู่อย่างสบายราวกับพึ่งไปออกรบมานาน เขานั้นเหนื่อยมากทั้งใจและร่างกายผลจากการฝึกดาบในโลกความฝันต่อจากโลกความจริงเมื่อหลับ
จิ้ม~
แก้มของชินจิถูกนิ้วมือของยูโน่ล่าจิ้มไปมาเบาๆ เธอยิ้มอย่างซุกซนเหมือนยามปกติ แม้นี้จะเทียงแล้วแต่ชินจิก็ยังคงนอนหลับอยู่
ชินจิเคลื่อนมือของตัวเองไปจับนิ้วมือของยูโน่ล่าไว้เบาๆแล้วเปลือกตาของเขาเองก็ค่อยๆลืมขึ้น ตาสีม่วงอ่อนของเขานั่นสบเข้ากับดวงตาของเธอ
“ อย่าแกล้งกันสิครับท่านเทพ~ ”
ชินจิเริ่มทำหน้าดุขึ้นเมื่อตัวเองถูกยูโน่ล่าก่วนเวลานอน ถ้าเขาจะรู้สึกไม่พอใจนั่นก็จะเป็นเรื่องปกติ
“ ตื่นได้แล้วน้า ชินจิ~ ”
ยูโน่ล่าอย่ากออกไปข้างนอกเพื่อเที่ยวเล่นเนืองจากวันก่อนแผนก็ดันล้มเพราะมีเรื่องเกิดขึ้นสะก่อน..เลยอด
มุมชินจิ
“ ไม่ครับ! ”
“ ง่าา ”
เธอเริ่มทำหน้าไม่พอใจที่ใครๆก็อ่านมันออก " ไม่เอาแบบนั่นนะ " มันคงจะเป็นสิ่งที่เธอจะสื่อกับผม
“ .... ”
“ ไม่ครับ ”
เธอเริ่มเบือนหน้าหนีหลังได้ยินคำตอบที่ชัดเจนนั่นของผม และผมก็เกิดความรู้สึกอย่ากง้อขึ้นมาแต่ว่า..แต่ว่าน่าเสียดายนะที่ไอ้ผมน่ะมันเริ่มเข้าใจบ้างอย่าง
ค่าโชคผมมันต่ำมาก ถ้าไปมีหวังไม่ได้เที่ยวแต่โดนรุมอัดจากใครสักคนแน่นอน...ผมรู้ดี ไม่สิต้องบอกว่าเริ่มรู้ตัว
เฮ้อ~
“ อย่ากให้ช่วยเข้าใจกันหน่อยนะท่านเทพธิดาของผม ”
ผมเริ่มขยับมือไปกุมมือของเธอไว้อย่างช้าๆแบบนุ่มนวลแล้วนวดมือของเธอไปมาเพื่อทำให้เธออารมณ์ดี...
ซึ่งมันก็ได้ผล เธอหันกลับมามองผมสะแล้ว รู้สึกว่าดีจังน่ะเพราะแผนสำเร็จ แต่ว่าในตอนนี้ก็ยังไม่รอดพ้นไปหรอก
จุดสำคัญคือต้องคุยให้เคลียร์!
“ ของเจ้าเหรอ? บังอาจมากเกินไปแล้วนะ!? ”
เธอเริ่มโกธรสะแล้วสิ แต่น่ารักดีแปลกๆแหะ เมื่อมองใบหน้าของเธอที่โกธรแบบนั่นแล้วบวกกับการพยายามดึงมือออกไปแบบนี้
เธอสามารถดึงมือออกไปได้อย่างง่ายๆสำหรับแรงเซอร์แวทน์แต่ที่ผมยังกุมมือไว้ได้แบบนี้..แปลว่าไม่ได้ต่อต้านแหะ
“ บังอาจไปมากแล้วจริงๆนั่นแหละขอรับท่านเทพ ขอประทานโทษด้วยหัวใจดวงที่มีให้ท่านทั้งหมดนี้เลย ”
“ หึ! ”
ผมค่อยๆเผยรอยยิ้มไม่ได้ เมื่อเห็นว่าเธอขี้เกียจเถียงต่อไปแล้ว ชนะแหะดีเสียจริงต่อไปก็
“ .... ”
“ ผมนะน่ะมันเป็นคนที่ดวงโชคร้ายมากเลยล่ะ มีหวังออกไปกับท่านเทพด้วยคงจะพาเรื่องซวยเข้ามาหา จะไปเที่ยวเผลอไปเป็นกระสอบทรายสะมากกว่า ”
ผมเริ่มกลับมาคุยเรื่องนี้ขึ้นอีกครั้ง คุยให้เข้าใจมันดีที่สุดจริงไหมละ เพราะงันอย่ากให้เธอเข้าใจและตกลงกันโดยเร็ว
“ กระสอบทราย... ”
“ อื้ม ใช่ ไปเป็นกระสอบทรายที่ถูกรุมอัด ”
“ โชคของเจ้ามันเลวทรามต่ำช้าจริงๆสำหรับเรื่องที่ผ่านมา ”
“ ฮ่า ฮ่า เห็นไหมละครับ? ”
“ ฮึ่ ”
“ เพราะแบบนั่นเลยไม่อย่ากไปไหน ผมน่ะไม่อย่ากจะพาท่านเทพไปให้โดนรุมทำร้ายด้วยอีกแล้ว ไม่อย่ากอีกแล้วด้วย ”
“ .... ”
ผมสบตากับสายตาคู่นั่นของเธอที่จ้องมองกลับมาหลังเบือนหน้ากลับมามองผมสักที..ผมกุมมือของเธอเบาๆถี่ๆ
“ และการอยู่กับท่านเทพด้วยกันแบบนี้มันรู้สึกดีกว่าไปไหนต่อไหนสะอีก ”
“ ขะ...ข้า....ชิ! ”
จู่ๆเธอก็ฉันหงุดหงิดแล้วเบือนหน้ากลับไปสะได้? ไม่สำเร็จหรอ ทั้งๆที่น่าจะสำเร็จแล้วแท้ๆ เฮ้อ
ผมรีบลุกนั่งโดยเร็ว
“ คะ-คือว่า... ”
ผมก็ต้องชะงักไปเมื่อพบว่าท่านเทพเหมือนกำลังจะเขินหน้าแดงอยู่ แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจเมื่อมานึกถึงบทพูดของตัวผมเองเมื่อกี่
“ ชินจิ...ขี้โกง...
“ .... ”
ผมค่อยๆกลับไปนอนลงบนเตียงอย่างเงียบๆ รู้สึกเจ็บที่หัวใจแปลกๆ แถมมันเต้นเร็วด้วยสิ..จนผมต้องกดมันไว้เลย
ในสถานการณ์นี่ถ้าผมเริ่มพูดอะไรอย่างอย่างการสารภาพอาจจะได้ขึ้นสถานะกับท่านเทพธิดาก็ได้ ถ้าตามพวกนิยายคงจะเป็นแบบนั่นจบลงโดยการบอกชอบกันและมีเซ็กซ์....
แต่ผมขอผ่านดีกว่า จะว่าขี้ขลาดตาขาวหรืออะไรก็ได้แต่ว่าเหล่าคนที่อ่านเรื่องราวนี่อยู่ ต้องมีแน่ แม้จะมีโอกาสน้อยก็เถอะที่คนเขียนมันจะเขียนมุมของตัวร้ายแบบผมที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ
นอกเรื่องล่ะๆ เอาละๆอย่ากจะบอกแก่พวกคุณว่า
ท่านเทพธิดานะน่ะสูงสงและงดงามเกินไป เกินไปจนไม่ใช่ตัวตนที่ผมจะทำให้แปดเปื้อนไปมากกว่านี่ได้แล้วละ
เพราะงัย การที่จะลำเส้นไปมากกว่านี่จนถึงขั้นมีเซ็กซ์ ของแบบนั่นมันคือสิ่งที่คนแบบผมไม่ควรจะทำหรือคิดจะทำ...การทำให้ตัวตนระดับนี้แปดเปื้อนลง
ผมทำไม่ได้จริงๆนั่นแหละ
มุมมองปกติ
ชินจิมีเหงื่อมากมายปรากฏขึ้นบนใบหน้า มือกดลงไปบริเวณหัวใจเพื่อหยุดยั้งสภาวะเจ็บหัวใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ แฮก แฮ่ก ”
ชินจิเริ่มหอบช้าๆเขาพบว่าตัวเองเหมือนจะเริ่มเป็นลมอย่างไม่ทราบสาเหตุ โดยรอบเริ่มมืดลง เขาคิดว่ามันคงเป็นผลมาจากอาการ...แพนิค
{ ติ๊งทำสำเร็จภารกิจ ' หมาวัดที่รู้ขอบเขตของตัวเอง ได้รับอวัยวะเพศหญิง จิ๋ม ปลอม }
(ㆁωㆁ)
หน้าต่างโฮโลแกรมสีฟ้าที่มีรูปคนปรากฏขึ้นตรงหน้าของชินจิ แต่ชินจิไม่มีเวลาสนใจเนืองจากเขากำลังจะเป็นลมจนต้องเมินระบบ
“ ...แฮก ”
{ ค*ยครับโฮสต์ เนืองจากท่านไม่รับทางเราจะขอยึดรางวัลไปแทน }
(´⊙ω⊙`)!
เรื่องของเมิงระบบ
__
ชินจิเราถ้าคนพอสังเกตุระหว่างอ่านตอนหลายตอนที่ผ่านมา เขาเหมือนจะทำลายกำแพงที่4ได้แหะ
ความคิดเห็น