คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 - เอเลเมนทัลเลอร์
เสาหินขนาดใหญ่พุ่งขึ้นออกจากพื้นทันทีที่สิ้นการรายเวทย์ของชายหนุ่มผมสีทอง จนก่อให้เกิดความเสียหายมากมายจนเกือบจะทำลายปราสาทหลังงามที่มีเก่าแก่หลังนี้แทบย่อยยับ บรรยากาศเต็มไปด้วยฝุ่นที่ตลบอบอวลไปหมด
พื้นที่ว่างแห่งหนึ่งใจกลางเหล่าแท่งหินมากมายที่โผล่ขึ้นมาส่งผลให้มันคล้ายกับป่าที่เปลี่ยนจากต้นไม้มาเป็นแท่งหินเหล่านั้นแทน และในใจกลางป่าหินเหล่านี้ก็มีกองฝุ่นกองหนึ่งที่ตั้งอยู่
กองฝุ่นขนาดมหึมาที่อยู่ใจกลางพื้นที่ ได้มีของบางสิ่งผุดออกมาจากกองนั้น ก่อนจะสะบัดผ้าคลุมออกให้ฝุ่นที่เกาะอยู่ตามตัวนั้นหลุดออกไปพร้อมเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมผืนใหญ่
ชายหนุ่มกับหญิงสาวผมแดง กำลังกอดกันอยู่
“แค่กๆๆ”
เสียงไอดังลอดออกจากปากเล็กของหญิงสาวที่ไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่เธอจะได้สติแล้วดิ้นหลุดจากออกกอดของชายผมแดงแต่ยังไม่วาย
“เพี๊ยะ”
เธอฝากรอยสีแดงเป็นรูปมือ 5 นิ้วไว้บนใบหน้าของชายหนุ่มก่อนจะทรุดตัวลงร้องไห้งอแงราวกับเด็กๆ
ชายหนุ่มผมแดงได้แต่เอามือลูบหน้าตรงรอยแดงที่เธอฝากไว้แล้วก็ได้แต่ยืนงงกับการกระทำของเธอ
“แบบนี้ฉันไม่เอาอีกแล้ว ทำไมฉันต้องมาเจอกับเรื่องบ้าๆแบบนี้ด้วย ฮือๆ”
ก่อนจะหยุดเสียงร้องไห้แล้วตวัดสายตาดุจแม่เสือสาวเอาเรื่องจ้องมองมายังชายหนุ่มผมแดงอีกคนอย่างเอาเรื่องพร้อมพูดเสียงเขียวว่า
“แล้วเอเลเมนทัลเลอร์เนี่ยมันคืออะไรกัน แล้วเรื่องบ้าๆนี่อีก นายต้องเล่ามาให้หมดไม่งั้นฉันจะอัดนาย คอยดูสิ”
คนโดนถามรับฟังอย่างงงงง งานนี้ก็ได้แต่ขมวดคิ้วนิ่วหน้างงงวยกับอารมณ์ของหญิงสาวเบื้องหน้าว่าทำไมเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาและเริ่มอธิบายให้กับเธอ
“ผู้ใช้ธาตุไงล่ะ”
“ผู้ใช้ธาตุ?”
“ใช่ ผู้ใช้ธาตุ”
“แค่เนี่ยนะ”เธอเริ่มขมวดคิ้วขึ้นเรื่อยกับคำตอบที่ได้รับมาจากคนตรงหน้า
“ใช่แค่เนี่ย”ชายหนุ่มผมแดงพยักหน้าพร้อมยิ้มให้
เปรี้ยง
“โอ๊ย ยัยบ้าทำอะไรอ่ะ”ชายหนุ่มผมแดงกุมหน้าด้วยความเจ็บปวดทันทีที่โดนฮุคซ้ายเข้าตรงแก้มเต็มๆส่งผลให้ตัวของเขาปลิวกระเด็นติดผนังหินแล้วลุกขึ้นมาโวยวาย
“แล้วนายอธิบายยังงั้นแมวที่ไหนมันจะรู้เรื่องล่ะนั่น อธิบายมาดีๆก่อนจะโดนอีกหมัด เอาให้รู้เรื่องด้วย”เธอถลกแขนเสื้อขึ้นเตรียมพร้อม
ชายหนุ่มผมแดงโบกไม้โบกมีไปมาเป็นสัญญาณว่าไม่เอาแล้ว พร้อมหยุดรวบรวมความคิดอยู่แวบนึงแล้วเขาก็ค่อยๆพูดออกมา
“ในโลกใบนี้ จะมีวิญญาณมากมายวนเวียนไปมาเต็มไปหมดแล้วจะสิงสถิตอยู่ไปทั่วทั้งน้ำ ทั้งไฟ หรือแม้แต่ในอากาศก็ตามที และที่ผู้ที่ควบคุมมันได้ตามต้องการจะเรียกพวกนั้นว่า เอเลเมนทัลเลอร์ไงล่ะ”
“นายด้วยเหรอ?”
“ใช่ ฉันเป็น เอเลเมนทัลเลอร์แห่งไฟ ฉันสามารถใช้ไฟได้ตามต้องการ เดียวจะสาธิตให้ดู”
ชายหนุ่มผมแดงชูนิ้วชี้ขึ้นและทันใดนั้นเองก็มีเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นออกจากนิ้วของชายหนุ่ม เหมือนกับนิ้วของเขาเป็นดังแท่งเทียนก็ไม่ปาน ก่อนจะสะบัดนิ้วให้เปลวไฟหายไป
“โอ้...ว้าว นายทำงั้นได้ด้วยเหรอ”เธอตาลุกวาวขึ้นทันทีที่ชายผมแดงสาธิตให้ดู
“ใช่ ฉันควบคุมไฟ ส่วนหมอนั่นควบคุมดิน”
“แล้วที่ว่าแต่ล่ะธาตุมีหน้าที่ของมันเองคืออะไร แล้วหน้าที่ของเอเลเมนทัลเลอร์ธาตุดิน......มันคืออะไรเหรอ?”เธอลุกขึ้นมาเขย่าแขนของชายหนุ่มผมแดงไปมาเหมือนเด็กที่กำลังรบเร้าผู้ใหญ่ก็ไม่ปาน
ชายหนุ่มผมแดงหันกลับไปมองหน้าหญิงสาวผมแดงที่ตอนนี้มาเกาะแขนเขาอยู่ด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมเอ่ยขึ้นว่า
“เดียวๆๆ ก็เมื่อกี้เธอยังบอกว่าอาจจะชอบฉันก็ได้แล้วไหง........มาเปลี่ยนใจกันง่ายๆแบบนี้ล่ะ”
เธอสะบัดแขนเขาทิ้งแล้วถอยออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำพร้อมพูดว่า
“ฉันก็พูดไปงั้นแหละ ว่าแต่หน้าที่ของเอเลเมนทัลเลอร์ธาตุดินมันคืออะไรเหรอ”
ชายหนุ่มผมแดงคลี่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาว่า
“หน้าที่ของเอเลเมนทัลเลอร์แห่งดินนะคือการทำให้แผ่นดินปั่นป่วนน้อยที่สุด ถ้าพูดให้ง่ายแบบที่เธอเข้าใจก็คงเป็น ไม่ให้สงครามศักดิสิทธิ์ลุกลามมากเกินความจำเป็น”
ก่อนเขาจะเอนหลังพิงกำแพงอย่างๆสบายอารมณ์แล้วเอ่ยต่อว่า
“ธาตุน่ะมีการเคลื่อนไหววนเวียนอยู่เสมอซึ่งแต่ล่ะธาตุต้องมีความสมดุลกันด้วย ธาตุจะมีช่วงที่ตื่นและช่วงที่หลับอย่างงี้สลับกันไปอยู่เรื่อยๆ เพราะงั้น หมอนั่นเลยเล็งตอนช่วงเวลาที่เหล่าธาตุอ่อนแรงลง แล้วจัดการแช่แข็งธาตุดินของตัวเองซะ ทำให้ธาตุอื่นเลยพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะเหตุนั้นสงครามครั้งที่แล้วเลยสิ้นสุดลงโดยที่ไม่ได้รอให้ผู้ปกครองคนใหม่ปรากฏตัวขึ้น
หญิงสาวที่ตอนนี้นั่งลงฟังเงียบอยู่บนกองหินที่อยู่แถวนั้นอย่างเงียบจึงเอ่ยขึ้นมาว่า
“แล้วหน้าที่ของเอเลเมนทัลเลอร์ธาตุไฟล่ะมันคืออะไรเหรอ”
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ได้ชี้นิ้วมาที่ตนเองพร้อมพูดว่า
“ฉันเหรอ?”
“ก็ใช่สิย่ะ หรือจะให้ฉันถามแมวที่ไหนกัน”เธอเลยค้อนชายหนุ่มผมแดงไปอีกทีกับท่าทางอันซื่อบื้อของเขา
“หน้าที่ของเอเลเมนทัลเลอร์ธาตุไฟคือการหว่านเมล็ดแห่งไฟสงครามไปทั่ว เพื่อให้เหล่าธาตุทั้งหลายเคลื่อนไหว......”
ก่อนจะยิ้มขึ้นพร้อมพูดขึ้นต่อว่า
“ซึ่งหน้าที่ของฉันมันตรงกันข้ามกับหมอนั่นโดยสิ้นเชิง เลยทำให้หมอนั่นกับฉันเป็นคู่กัดกันเสมอมา”
“อ๋อ พวกบ้าสงครามนี่เอง งั้น.....”
หญิงสาวผมแดงลุกขึ้นจากกองหินพร้อมทั้งปัดเศษดินตามกางเกงที่เกาะติดอยู่ออกไปและเตรียมเดินจากไปเลยทำให้ชายหนุ่มผมแดงที่นั่งอยู่อีกฝากงุนงงกับการกระทำของเธอเลยถามขึ้นมาว่า
“นั่นเธอจะไปไหน?”
“ก็เท่าที่ฟังจากที่ไอ้ที่เธอเล่ามามันก็ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อยเพราะงั้น ฉันไปล่ะ”
“เดียวก่อนอย่าเพิ่งไป!!!”
“กรื๊ด!!~~~~~~”
ความคิดเห็น