คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2 - จดหมายไม่ได้รับเชิญ
ดวงจันทร์สีเหลืองนวลลอยเด่นอยู่กลางฟ้า ความมืดยามค่ำคืนแผ่อาณาเขตไปทั่วบริเวณ คฤหาสน์หลังใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ มีแสงสว่างอยู่รำไร แม้จะเป็นยามค่ำคืนก็ยังสามารถมองเห็นความประณีตสวยงามของการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี เวรยามเดินจูงสุนัขดมกลิ่นตัวเขื่องในมือต่างถืออาวุธครบครันจำนวนมากมายเดินตรวจตราความเรียบร้อยทั่วคฤหาสน์ อย่างแข็งขัน แต่ล่ะคนมีใบหน้าเคร่งเครียดเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้
ภายในคฤหาสน์ก็เช่นกัน เวรยามมากมายเดินตรวจตากันอย่างละเอียดถี่ยิบ แม้แต่หนูสักตัวก็คงยากที่จะหลบรอดไปได้ ถ้ามันโผล่มาน่ะ - -a
มาตรการป้องกันทุกชนิดเทคโนโลยีทุกอย่างที่มีถูกงัดนำมาใช้อย่างเต็มที่ กล้องวงจรปิดมากมาย ถูกติดตั้งไว้รอบคฤหาสน์หลังงาม
ด้วยมาตรการป้องกันขนาดนี้แม้แต่ กองทัพก็ยังยากจะบุกเข้าไป
แต่ .มันก็ไม่ทำให้ชายเจ้าของคฤหาสน์คนนี้ หยุดวิตกกังวลได้
ชายวัยกลางคน รูปร่างอ้วนถ้วนสมบูรณ์ออกจะเกินไป เดินกระสับกระส่ายไปมาภายในห้องทำงานของเขา เหงื่อมากมายผุดขึ้นเต็มใบหน้ากลมใหญ่อย่างไม่หยุดหย่อนทั้งที่ทั้งห้องเย็นเฉียบด้วยเครื่องปรับอากาศขนาดมหึมาที่ติดตั้งไว้ในห้อง ดวงตาที่ปรกติจะฉายแววเจ้าเล่ห์อำมหิตเป็นเนืองนิตย์แต่ในขณะนี้มันกลับฉายแวววาดกลับ วิตก กังวลในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองอย่างหนัก ศีรษะล้านเลี่ยนของเขาถ้ามีผมตอนนี้เขาคงมีผมขาวแซมไปเรียบร้อยแล้ว
"จอห์น เจ้าพ่ออหังการ"เป็นฉายาปรกติที่เขาถูกเรียกอย่างภาคภูมิใจในฉายานี้มาก ด้วยกิจการผิดกฎหมายในเมืองไม่ว่าจะเป็นค้าทาส เปิดบ่อน เปิดกิจการสถานเริงรมณ์ ขายยาและอื่นๆที่ผิดกฎหมายทั่วทั้งเมือง ถ้ามันผิดกฎหมายมันต้องมีเขาเอี่ยวด้วยเสมอ แน่นอนด้วยธุรกิจมากมายขนาดนี้ทำให้เขาร่ำรวยและมีอำนาจมากมายถึงขนาด กฎหมายยังเอาผิดไม่ได้ แม้แต่พระราชายังต้องเกรงกลัว เขาเรียกได้ว่า อำนาจล้นมือ แต่ ..ใน คืนนี้ ต่อให้มีอำนาจมากมายขนาดไหนดูท่าก็ช่วยเขาไม่ได้
"มีไรผิดปกติไหม"เขาถามเสียงเครียดมองไปยังลูกน้องที่นั่งเฝ้าหน้าจอมอนิเตอร์ที่กล้องวงจรปิดถ่ายทอดไว้ เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ผิดปกติต่างๆที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์
"ไม่มีครับ บอส ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ ทุกอย่างปกติดี บอส มันจะมาแน่หรอครับ"ลูกน้องคนสนิทหันกลับมารายงานให้เขาฟัง
"ข้าก็ไม่รู้!! มันจะมาไม่มา ก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้มันมาเลย"เขาตอบ เสียงเครียดใส่ลูกน้องที่ถามกลับมา
เขาหันไปมองนาฬิกาโบราณที่แขวนอยู่ที่ผนัง มันบ่งบอกขณะนี้เวลา
11.55
เขาถอนหายใจและเหลือบมองไปยังกระดาษแผ่นนึงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานกลางห้องด้วยสีหน้าวิตกกังวลอย่างมาก
แสงจันทร์สาดส่องผ่านหน้าต่างส่องมายังกระดาษแผ่นนั้น มีข้อความลายมือที่สวยงามและอ่านง่ายจารึกอยู่บนกระดาษนั้น ใช่แล้วมันคือจดหมาย นั่นเอง
จอห์นเดินมาหยิบมันขึ้นมาอ่านอีกครั้ง
"เรียน ท่านจอห์น เจ้าพ่อผู้อหังการที่เคารพ
กระผมมีเรื่องต้องรบกวนที่จะต้องปรึกษาปัญหาท่าน
บางอย่างและอย่างที่เรียนมาให้ทราบ เนื่องด้วยธุรกิจมากมาย
ของท่านที่ผิดกฎหมายมากมายภายในเมืองนี้ ทำให้เมืองได้
เสื่อมโทรมลงอย่างมาก เกิดปัญหาอาชญากรรมสูง
ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายต้องเดือดร้อน
กระผมจึงอยากใคร่ขอเรียนให้ท่านทราบว่า
ภายในก่อนพระจันทร์เต็มดวงครั้งหน้าขอให้
ท่านสลายกิจการที่ผิดกฎหมายและ โยกย้ายออกจากเมืองนี้โดย
ด่วน
ไม่เช่นนั้น ตัวกระผมจะไปเชื้อเชิญให้ท่านออกจากเมือง
ตอนเที่ยงคืนด้วยตัวเองในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ครั้งหน้า
หวังว่าท่านคงไม่รังเกียจ
ปล.อ๋อ ถ้าจะเตรียมอาหารเลี้ยงไว้ด้วยก็ดีน่ะครับจะเป็นพระคุณอย่างสูง^.^V
จาก ทัณฑ์แห่งสายลม"
ข้อความในจดหมายออกจะยียวนกวนประสาทให้กับผู้อ่าน ซึ่งธรรมดาแล้วเขาคงฉีกทิ้งอย่างรวดเร็วถ้ามันไม่ได้วางไว้ในซากปรักหักพังแห่งหนึ่งที่เมื่อก่อนเคยเป็น คาสิโนหรูที่สุดในเมืองของเขา ที่ภายในคืนเดียวได้กลายเป็นซากปรักหักพังภายในพริบตา มันจ่าหน้าซองถึงเขาโดยตรง ในตอนแรกเขาคิดว่าคงมีไอ้บ้าที่ไหนกล้ามาท้าทายเจ้าพ่ออย่างเขา เขายิ้มเยาะเย้ย ไอ้บ้าที่กล้ามาท้าทายเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่เช่นเขา นี่ถ้าจับมันได้ เขาคงเอามันมาทรมานให้ตายอย่างช้าๆให้สาสมกับที่มันทำให้เขาเสียทรัพย์สินมหาศาลแน่นอน
แต่ ..ไม่กี่วันเขาก็สูญเสียความมั่นใจไปในทันที สิ่งที่มีกลับมามันมีแต่ความวิตกกังวลเกิดขึ้นมาแทนที่
เมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา ธุรกิจหลักของเขาถูกมากมายได้ถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ เฉกเช่น บ่อนคาสิโนที่โดนเป็นแห่งแรกเช่นกัน
เขาไม่สามารถรวมกำลังได้เพราะ เขาไม่รู้ว่า การโจมตีครั้งต่อไปจะโดนโจมตีที่ไหน แต่ในครั้งนี้เขารู้แน่นอนแล้วว่าไอ้เจ้าบ้านี่มันจะจู่โจมคฤหาสน์ของเขาแน่นอน เขาจึงรวบรวมลูกน้องและจ้างมืออาชีพมาคุ้มกันเขาอย่างเต็มที่ แต่จนแล้วจนรอด ความหวาดกลัวในจิตใจของเขาก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้มันมาเลย เจ้าทัณฑ์แห่งสายลม
ในขณะที่เขาอยู่ในห้วงความคิด เสียงบางอย่างก็ดังสนั่นออกมาปลุกเขาให้กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ดึงเขาให้หันไปมองมัน
ตึง!!ตึง!!ตึง!!ตึง!!ตึง!!ตึง!!ตึง!!ตึง!!ตึง!!ตึง!!ตึง!!ตึง!!
นาฬิกาแขวนข้างผนังตี12 ทีบอกเวลาขณะนี้เป็นเวลา เที่ยงคืนพอดีแล้ว เขารีบสอดส่าย สายตาไปยังจอมอนิเตอร์ทันที
"มีไรผิดปกคิไหม"เขาถามคำถามเช่นเดิมแต่งด้วยน้ำเสียงที่เครียดกว่าเก่า
"ไม่มีครับบอส ทุกอย่างปกติ ครับบอส" ชายคนเดิมหันกลับมารายงานในสิ่งที่เจ้านายตัวเองอยากรู้อีกครั้ง
เวลาผ่านไป
1 นาที
3 นาที
5 นาที
7 นาที
10 นาที ทุกนาทีผ่านไปอย่างช้า ทุกเสียงภายในห้องเงียบกริบแม้เข็มสักเล่มหล่นคงได้ยินทั่วกัน
แต่แล้วก็ไม่มีไรเกิดขึ้น ลูกน้องคนเดิมจึงหันมาหาเขาแล้วพูดว่า
"มันคงไม่มาแล้วครับ บอส เห็นมาตรการป้องกันขนาดนี้ เป็นใครก็ไม่กล้าบุกหรอกครับ"
จอห์นนิ่งเงียบไปสักพักนึงก่อนจะ หันกลับไปหาลูกน้องที่คนที่หันมา
"อาจจะจริงของแก นอย มันคงจะไม่กล้ามาหรอกคนตั้งขนาดนี้"
เขาระบายลมออกอย่างโล่งอกที่ไม่มีไรเกิดขึ้น หวังว่าคืนนี้เขาคงจะเลิกวิตกกังวลได้แล้ว
"บอส น่าจะไปพักผ่อนน่ะครับเหนื่อยมาทั้งวันแล้วแบบนี้"นอยพูดประจบเอาใจเขาของตนอย่างเต็มที่เมื่อเห็นสีหน้าของขาผ่อนคลายลง
ฉัน ครุ่นคิด แปปนึงก่อนที่เขาจะตัดสินใจไปพัก
'พักได้แล้วแหละเหนื่อยมาแล้วทั้งวัน'
"ตกลง ฉันจะไปพัก มีไร รีบรายงานฉันด่วนเข้าใจไหม" เขาออกคำสั่งทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
แต่ในขณะนั้นเอง ก่อนที่เขาจะก้าวออกจากห้องนั้น ได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นในทันที
พรึบ!! ไฟทุกดวงภายในคฤหาสน์ เกิดดับลงพร้อมกัน
ความมืดเขามาปกคลุมทั่วทั้งคฤหาสน์ในบัดดล
เขาวิ่งลนลานกลับเขามาในห้องทั้งที่ยังไม่ได้ก้าวออกไปจากห้องแม้ก้าวเดียว
"เกิดไรขึ้น"เขาตะโกนถาม นอยในสิ่งที่เกิดขึ้น
"ไฟฟ้าดับครับบอส!!"นอยหันมาตอบเขาอย่างไว
"เออข้ารู้แล้วว่าไฟดับทำไมมันเกิดขึ้นโว้ยยยยยย"เขาตะโกนใส่มัน อะไรมันจะงี่เง่าอย่างงี้ ใครดูก็รู้ว่าไฟมันดับ แต่ฉันอยากรู้มันเพราะอะไรตะหาก
"กระแสไฟฟ้าทั้งหมดโดนดึงออกไปสู่ที่บางแห่งครับบอส"นอยหันไปเช็คกับคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะมันยังทำงานอยู่ได้เพราะ มันไม่ได้ใช้ไฟฟ้าปกติแต่มันดึงมาจากพลังงานสำรองเครื่องแปลงไฟ จากผลึกเวทย์ ราคาแพงระยับ แต่เพื่อความปลอดภัยของเขา มันก็ต้องลงทุนกันแหละงานนี้
"แล้วมันโดนดูดไปไหน"ฉันถามต่อด้วยความอยากรู้
"เอ่อ ."นอยอ้ำอึ้งไม่ตอบคำถามแต่ดูจากสีหน้าของมันแล้ว มันก็ตื่นตระหนกเช่นกัน
"ที่ไหนเล่า"ฉันตะคอกใส่อย่างเหลืออด เมื่อไหร่มันจะบอกซะที
"บะบะบะบนฟ้าครับ บอส" นอยตอบกลับมาหน้าเสีย
"ห๊า!! ว่าไงน่ะ" เขารีบก้าวไปที่หน้าต่างบานใหญ่ที่ด้านหลังโต๊ะทำงาน แล้วมองไปบนท้องฟ้า แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้เขาตื่นตะลึงกับสิ่งที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
เหยี่ยวสายฟ้าตัวมหึมา กำลังบินอยู่เหนือคฤหาสน์เขา ปากของมันกำลังดูดกระแสไฟฟ้าทั่วคฤหาสน์ของเขาอย่างเอร็ดอร่อย กระแสไฟฟ้าถูกดึงไปรวมที่ปากของมันหมดทำให้ไฟฟ้าที่ใช้งานไม่ได้ทั้งคฤหาสน์อยู่ในขณะนี้เป็นเพราะมันดูดไปฟาดเรียบแบบนี้นี่เอง
ยิ่งมันดูดกระแสไฟฟ้ามากเท่าไรลำตัวของมันเริ่มเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีขาวขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูท่ามันยังจะดูดได้อีกนาน
ปัง!!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงปืนดังขึ้นมาจากส่วนไหนส่วนนึงของคฤหาสน์ซึ่งมันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างมากเพราะว่ามันไม่รู้ว่าส่วนไหนที่เกิดยิงกันขึ้น เจ้าพวกนั้นจัดการมันได้หรือเปล่า
"นอย แกทำไรไม่ได้เลยหรอไง"เขาหันกลับไปตะคอกใส่มันอย่างหัวเสีย
"ทำได้ครับ บอส ขอเวลาอีกสิบนาที ไฟฟ้าจากผลึกเวทย์สำรองถึงจะทำงานครับบอส"นอยตอบมาเสียงของมันสั่นไงไม่รู้แต่ชั่งมันเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาสนใจมัน
"จะทำไรก็รีบทำเข้า ซิ อย่าชักช้า เร็ว!!"เขาตะโกนใส่มันอีกครั้ง โวยหงุดหงิดโวยยยย
สิบนาทีอันยาวนานผ่านไป เสียงปืนที่เคยดังอยู่ภายในคฤหาสน์กลับเงียบสนิท มันน่าจะเป็นการดี อาจจะจับมันได้แล้ว แต่ ..ใจของฉันมันหวาดหวั่นไงไม่รู้ สังหรณ์ของฉันมันบอกว่า ตอนนี้ไม่มีเสียงปืน ใช่ไม่มีเสียงปืนแล้ว ถึงจะไม่มีแต่มันเงียบเกินไปแล้ว เงียบผิดปกติมาก
"กล้องวงจรปิดใช้การได้แล้วครับบอส ผมจะเอาฉายขึ้นหน้าจอน่ะครับ"นอยหันกลับมาบอกความคืบหน้าให้เขารู้
"เออ จะทำไรก็ทำเร็วเข้า" ฉันหันไปสั่งมันอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ มือของฉันชุ่มชื่นไปด้วยเหงื่อมากมายที่ฝ่ามือ ทั้งที่อากาศในห้องมันออกจะเย็นแต่ทำไมฉันรู้สึก ร้อนยิ่งกว่าเดินตากแดดหน้าร้อนเสียอีก
ภาพจากกล้องวงจรปิดขึ้นหน้าจอ สิ่งที่ปรากฏ มันทำให้เขามือเย็นหน้าซีดยิ่งกว่าเดิมเสียงอีก
ภาพของพวกลูกน้องเวรยาม มากมายภายในคฤหาสน์ของเขาล้มลงหมด ไม่รู้ตายแต่ชั่งหัวมันเถอะ แต่ที่ฉันอยากรู้ ไอ้บ้านั่นมันอยู่ที่ไหนตะหาก
"เช็คดูทุกกล้องมันอยู่ไหน"เขาออกคำสั่งให้เหล่าลูกน้องที่อยู่ในห้อง ค้นหาไอ้บ้านั่นแต่ไม่มีกล้องไหนจับภาพมันได้สักตัว
"บัดซบเอ๊ย ซื้อมาตั้งแพง ใช้การไม่ได้เลย ไร้ประโยชน์จริงๆ"เขาสบถอย่างหัวเสีย จะไม่ให้เสียได้อย่างไรล่ะในเมื่อเขาลงทุนซื้อกล้องวงจรปิดมาด้วยราคามหาศาลมาติดทั่วคฤหาสน์เพื่อหวังจัดการไอ้บ้านั่น แต่ที่ไหนได้ แค่จับภาพมันยังทำไม่ได้เลย แล้วยังงี้มันไม่เรียกว่าไร้ประโยชน์แล้วมันจะเรียกอะไร
"บอสครับ พบแล้วตรับมันกำลังต่อสู้กลับสองพี่น้องเดเมี่ยนอยู่ครับ"นอยหันมาบอกเขา
"เอาภาพขึ้นหน้าจอแล้วขยายใหญ่ซะ"เขาหันไปสั่งมันทันที
ไม่กี่วินาทีภาพก็ถูกส่งขึ้นหน้าจออย่างรวดเร็วมันเป็นการต่อสู้ของชายสองคน กำลังรุมชายอีกคนอยู่
สองพี่น้องเดเมี่ยน เอริค และ ลองนาส เดเมี่ยน สองพี่น้องนักฆ่าชื่อดังแห่งวงการนักฆ่าที่เขาจ้างมาด้วยราคาค่าตัวสูงลิบลิ่ว กะลังต่อสู้กับชายชุดดำอย่างสูสี ถ้า พูดอย่างให้ความหวังตัวเองน่ะ แต่ดูแล้วมันกำลังเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัดและดูท่ามันสองคนก็ใกล้จะแพ้แล้วด้วย แล้วถ้าสองตัวนั้นมันแพ้อีก เขาคงจะไปไหนไม่รอดแน่นอน เพราะ ตอนนี้มันกำลังสู้อยู่ที่หน้าห้องทำงานที่เขาอยู่นี่เอง ถ้ามันแพ้ก็มาถึงห้องนี้แล้วน่ะสิ
"พวกแก้ยืนทำไรกันอยู่ว่ะ เร็วมาตั้งป้อมยิงหน้าประตูใคร เข้ามายิงมันเลย ไม่ต้องสนใครก็ช่างมันเร็วเข้า"เขาออกคำสั่งอย่างบ้าคลั่ง ใครเข้ามาพ่อยิงสั่งยิงแหลกล่ะ
เขาเดินไปคว้าปืนกลที่ว่างไว้อยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นแล้ววิ่งมาหลบหลังลูกน้องที่ตั้งป้อมเตรียมยิงทุกสิ่งที่พุ่งเข้ามาโดยไม่สนหน้าไหนตามคำสั่งของเขาทันที
แต่ล่ะคนต่างจ้องไปที่ประตูกันเขม็ง เสียงการต่อสู้มาเป็นระยะ เสียงระเบิดเสียงปีนยิงกันสนั่นหน้าห้อง เสียงแต่ล่ะเสียงที่ดังมามันช่างกระตุนให้หัวใจของเขาต้นเร็วขึ้นเร็วขึ้นเสียจริง สารอดีนารงอาดีนารีนหลั่งกันเยิ้มเปียกชุ่มชื่นอยู่ในสมองของเขาแล้วมั้งตอนนี้ มันตื่นเต้นตรึงเครียดเสียจริง เมื่อไหร่จะจบๆไปว่ะ ไอ้เหตุการณ์แบบนี้ ในชีวิตไม่เคยเจอมาก่อนเลยให้ตายเถอะ
"อ๊ากกกกกกก!!"เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมา มันชวนให้เขาหวาดกลัวเสียงจริง แต่ก็ได้ภาวนาว่าเสียงนี้เป็นเสียงของไอ้บ้าชุดดำนั้น แต่ก็ป่าวเลย เสียงการต่อสู้ยังคงดังก้องอยู่เพราะงั้น 1 ใน 2 พี่น้องเดเมี่ยนคงเสร็จมันไปแล้ว แน่นอน ทีนี่ทำยังไงดี ทำไงดี
ตูม!! เสียงประตูใหญ่สองบานดังขึ้นมา บางสิ่งบางอย่างพุ่งออกมาจากประตูนั่นพุ่งตรงมายังตัวเขา
"ยิง" เขาสั่งยิงทันทีไม่สนหน้าอินหน้าพรหมที่ไหนช่างหัวมัน ยิงไปก่อน
ปังๆๆ ปังๆๆ ลูกกระสุนมากมายพุ่งออกจากปากกระบอกปืนของเหล่าลูกน้องตามคำสั่งยิงของเขา
ลูกกระสุนทุกนัดเข้าเป้าหมด ด้วยแรงกระสุนที่เข้าเป้าหมดทุกนัดส่งผลให้เป้ากระเด็นถอยออกไป ดีมากไม่เสียแรงที่ไว้ใจ ฮิฮิ
"ไปดูที่ศพสิ มันเป็นใคร"เขาสั่งลูกน้องใครคนใดคนหนึ่งที่อยู่หน้าเขา แต่ดูพวกมันมองหน้ากันไปมองหน้ากันมา เกียงกันอยู่ไปมา จนทำให้เขาเหลืออด
"ใครก็ได้สักคนไปดูซะทีสิไม่ได้ยินที่ฉันสั่งหรอไง"เขากล่าวอย่างเหลืออดแค่ศพพวกมันจะกลัวไรกันหนักหน้า
ลูกน้องของเขาพร้อมใจกันลงมติให้ไอ้ดวงซวยคนหนึ่งในกลุ่มของพวกมัน เดินไปดูที่ ศพไอ้เจ้านั้นทำหน้าเหรอหรา แต่สุดท้ายมันก็ยังลุกเดินอย่างๆช้าเหมือนมันจะกลัวไรสักอย่างจะกัดมัน ยังงั้นเมื่อไหร่มันจะถึงซะทีล่ะเนี่ย
เจ้าลูกน้องคนนั้นมันเอาปืนพลิก "ซาก" ขึ้นมา เท่านั้นแหละ ทั้งเขาแล้วก็พวกมันแต่ล่ะคน หน้าซีดกันไปเป็นแถวๆ จะไม่ให้ซีดได้ไงล่ะ ก็ไอ้ซากนั้นมันเป็น ศพของพี่น้องเดเมี่ยน เอริค ที่พรุนเป็นรังผึ้ง นอนจมกองเลือดอยู่น่ะสิ ถ้างั้นไอ้บ้านั่นมันก็ยังไม่ตายน่ะสิ
"อ่ะแฮ่ม"เสียงขัดคอดังขึ้นมาจากทางประตู ทำให้หัวใจดวงย้อยที่มันหดตัวจนเล็กของเขาสะดุ้งรีบหันไปมองยังต้นเสียงในทันที ด้วยความหวาดผวากับสิ่งที่เขาคาดว่าจะอยู่เบื้องหน้าประตูที่พังออกมาก็เถอะถึงใจไม่อยากยอมรับแต่ก็ทำไม่ได้
ตัวอย่างตอนต่อไป ตอน ทัณฑ์แห่งสายลม
เขามองไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่พร้อมสอดมือไปที่ซองกระเป๋าเล็กๆที่เหน็บอยู่ที่เข็มขัดหนังของเขาแล้วล้วงเอาการ์ดออกมาใบหนึ่ง
การ์ดในมือของเขามีภาพของนกสีเหลืองตัวมหึมากางปีก เตรียมโผบินสู่ท้องฟ้า ตัวการ์ดมีสีดำตัดเป็นขอบส่งผลให้ภาพยิ่งดูโดดเด่นเป็นเท่าตัว ด้านหลังการ์ดเป็นสีน้ำเงิน ดูสูงสง่า แสดงว่าการ์ดใบนี้ต้องมีคุณค่ามหาศาลแน่นอน
"ด้วยพันธะสัญญาที่เคยให้ไว้แด่ข้า จงออกมา Zhane, The Thunder Falcon (เหยี่ยวสายฟ้าซีน) ข้าขอปลดปล่อย (Release)"
..
ปัง!!ๆๆๆๆๆ เหล่ายามต่างสาดกระสุนปื้นเข้าใส่เด็กหนุ่มอย่างไม่มีหยุดยั้งคงมีกันไม่ต่ำกว่า 7-8 คน
เด็กหนุ่มผมเงินกางฝ่ามือขวาไปเบื้องหน้า ยังกับต้องการจะหยุดกระสุนมากมายที่พุ่งเข้ามาใส่ตัวเขาด้วยมือเพียงข้างเดียว
..
ขอบคุณทุกคนน่ะครับที่เข้ามาอ่านตาผลงานของผม
ช่วยตอบเม้นกันเยอะนะครับนักเขียนจะได้มีกำลังใจเขียนต่อ สวัสดีทุกๆท่านครับผม
(BlueWish)
(BlueWish)
(BlueWish)
ความคิดเห็น