คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ - เหล่าผู้หลับไหล
ครืนๆ! เสียงฟ้าร้องดังออกมาเป็นระยะๆ
เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าลงมาสลับเสียงฟ้าร้องที่ดังออกมาตลอดเหมือนเป็นการเตือนให้รู้ว่าจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น
แสงจากฟ้าผ่าส่องให้เห็นปราสาททรงยุโรปโบราณและภายในปราสาท ณ.โถงทางเดินอันยาวเหยียดปูด้วยพรมแดงทักทอขึ้นมาจากภาพเนื้อดี ผนังสีขาวมีภาพของบุคคลต่างๆมากมายเรียงรายอยู่เต็ม บ่งบอกประวัติศาสตร์อันยาวนานของเจ้าของปราสาทแห่งนี้ทุกยุคทุกสมัย แต่ภายใต้รูปภาพที่อยู่ใจกลางห้องโถงแห่งนี้กลับมีชายคนหนึ่งยืนพึงผนังอย่างอ่อนล้า ใกล้จะล้มลงเต็มทีแต่ฝืนยืนพิงกำแพงเอาไว้
เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าที่คำรามขึ้นมาอีกครั้ง เผยให้เห็นใบหน้าของคนที่ยืนพิงอยู่ใต้รูป จากแสงที่แลบออกมา
บุรุษวัยฉกรรจ์ รูปกายกำยำสวมเกาะสีแดงดุจสีเลือด ทับไปด้วยผ้าคลุมสีแดงสดที่กลางหลังมีสัญลักษณ์รูปนกสีแดงที่กำลังจะพุ่งทะยานออกจากกลางกองอัคคีอันเร่าร้อน กำลังก้มหน้าลงยืนพิงกำแพงหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
"แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก"เสียงหอบหายใจอันเหนื่อยอ่อนดังออกมาจากปากของเขา
"ยัง ฉันยังไหวอยู่ ไม่มีทางฉันไม่ยอมให้มันจบแบบนี้แน่"เสียงคำรามออกมาจากปากของเขาบ่งบอกให้รู้ว่าภายในใจยังไม่ยอมแพ้แต่อย่างใดแม้สังขารร่างกายตอนนี้จะไม่ไหวแล้วก็ตาม
เขาออกเดินอย่างช้า ใช้ร่างอันอ่อนล้าของตัวเองถูไปกับกำแพงเรื่อยจนเกิดเสียงเกราะของเขากับกำแพง สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเขาก็มีแต่ความมืดอยู่ทุกแห่งหนราวกับมันไม่มีที่สิ้นสุด แต่ทันใดนั้นเอง
ในความมืดที่อยู่เบื้องหน้าของเขาปรากฏประกายแสงขึ้นสองดวง ก่อนที่มันจะค่อยลอยเข้ามาอย่างช้าๆ
เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้ง แสงที่ส่องลงมาผ่านหน้าต่างบานใหญ่ทำให้ฉายสิ่งที่หลบซ่อนอยู่ในความมืดนั้น
ร่างของบุรุษสูงใหญ่สวมชุดเกราะสีขาวสวยงามที่ตรงกลางอกสลักเป็นรูปสิงโตสีทองใส่มงกุฎยืนผงาดอยู่ ห่อหุ้มร่างของบุรุษผู้ที่อยู่ใต้ความมืด
ประกายแสงที่บุรุษผู้บาดเจ็บเห็นมันคือแสงที่ออกมาจากประกายตาของเขาผู้นี้นั่นเองแต่ทว่านอกจากประกายตาคู่นี้แล้วจะมีก็แต่ความมืดที่ปกคลุมอยู่ทั่วใบหน้าของเขา
บุรุษผู้บาดเจ็บ เงยหน้ามองภาพของเงาที่ผาดลงมาเนื่องจากแสงแปลบจากฟ้าผ่าที่ส่องให้เห็นเงาของสิ่งกีดขวางอยู่เบื้องหน้า
บุรุษผมสีแดงดุจเปลวเพลิงผมซอยสั้นฟูชี้ไปทั้งหัว ดวงตาโตปานกระดิ่งสีแดงสดดุจโลหิตบวกกับประกายตาอันร้อนแรงดุจเปลวของอัคคีที่ลุกโชนสั่นไหวไปมาทำให้พอที่จะทำให้ผู้ที่พบเจอครั้งแรกคาดเดาลักษณะนิสัยอันใจร้อนดุจดั่งเปลวเพลิงได้เป็นอย่างดี ใบหน้าสีเหลี่ยมซีด เต็มไปหนวดเคราสีแดงยาวพร้อมด้วยเหงื่อกาฬที่ไหลไปทั่วใบหน้า บ่งบอกความเหนื่อยอ่อนของชายผู้นี้เป็นอย่างดี
"ไอ้เดวิด แก "เสียงตะโกนดังลั่นแสดงความโกรธแค้นที่สุมอยู่ภายในใจของเขาเอื้อนออกจากปากอันอ่อนล้าของชายผมแดง ที่รู้จักคนเบื้องหน้าว่าเป็นใคร ก่อนที่จะยกมือขึ้นแล้วดันไปเบื้องหน้า
"เฟลมช็อต"เปลวเพลิงขนาดเท่าลูกบาสถูกส่งออกจากมือที่อ่อนล้า ยิงเข้าใส่เป้าหมายอย่างไม่ปราณีใดๆทั้งสิ้น
เปรี้ยง ! เสียงลูกบอลเพลิงถูกชายที่ถูกเรียกว่า"เดวิด"ยกดาบในมือปัดกระเด็นออกไปอย่างง่ายดายก่อนที่มันจะไปชนกำแพงแล้วเกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้เป็นที่กำแพงเกิดรูโหว่ขนาดใหญ่ พร้อมทั้งผ้าม่านที่อยู่ในบริเวณโดนสะเก็ดไฟลามเลียลุกติดไฟตามมา
ตอนนี้แสงเพลิงที่ลุกไหม้ผ้าม่านอยู่ส่องให้เห็นใบหน้าของผู้ที่มาเยือนพร้อมความมืดให้เห็นอย่างชัดเจน
หนุ่มรูปหล่อที่มีทรงผมรองทรงสั้นสีทองพลิ้วไหวไปตามแรงลมที่เกิดจากการระเบิด
ดวงตาสีเขียวยาวรี ประกายตาที่แสดงออกถึงความแน่วแน่นและมั่นคง จ้องมองบุคคลที่รู้จักกันอย่างช้านาน
"เฮ้อ"ก่อนที่จมูกโด่งเป็นสั้นคล้ายคนยุโรปต้องถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย และวงหน้ารูปไข่ที่ทำให้ใบหน้าของเขาดูเหมือนเทพบุตรอย่างใดอย่างนั้น สั่นไปมาอย่างช้า ๆ
"มันจบแล้ว ไฟลัช
.."เสียงนุ่มลอดออกมาจากชายผมสีทองบอกแด่บุรุษที่ล้มลงกับพื้นก่อนจะพูดต่ออย่างช้าๆ
"ฉันผนึกธาตุดิน ของฉันอีกทั้ง ธาตุไฟ ลมและน้ำด้วย"เขาหยุดเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
"ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เหล่าธาตุทั้งหลายจะอ่อนกำลังลงอีกครั้ง ถึงนายอยากจะสู้ต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก" เขาสูดลมหายใจเข้าแล้วกล่าวต่อไปว่า
"อีกอย่าง เหล่าธาตุที่อยู่ภายใต้ควบคุมนายที่ยังพอเหลือพลังอยู่ ตอนนี้มันก็เหลือไม่ถึง หมื่นด้วยซ้ำเพราะงั้น เวทของนายถึงนายอยากจะใช้ก็ใช้มันได้ไม่เต็มที่หรอก"
ก่อนจะส่งสายตาอันแน่นิ่งลงไปสบตาสีแดงเพลิงอย่าง ช้าราวกลับต้องการย้ำเตือนให้ผู้ฟังนั้นเข้าใจและตั้งใจฟัง
"ผู้ใช้ธาตุแห่งเอเทลสิ้นชีพแล้ว ส่วนผู้ใช้ธาตุคนอื่นๆก็หลับหมดสิ้น ถ้าจะเหลือก็เหลือเพียงแต่เราเท่านั้น แหละ"
"ตอนนี้ก็ได้แต่ขอให้นายเตรียมพร้อมสำหรับสงครามครั้งหน้าไว้เถอะ"เดวิดพูดจบเตรียมหันกายจะจากไปแต่แล้ว
"แหะๆๆ"เสียงหัวเราะดังออกมาจากบุคคลที่ล้มลงอยู่กับพื้น
"ไม่มีทาง ฉันยังสู้ไหว "แววตาอันร้อนแรงลุกโชนอีกครั้งก่อนที่จะค่อยๆดันร่างตัวเองพิงกำแพงลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ
"ผู้ที่ฉันเชื่อมั่น ก็ได้ตายไปแล้ว เอเทลรุ่นต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง"เขาค่อยทรงตัวยืนขึ้นเรื่อยๆ
"เพราะงั้น ฉันไม่อยากอยู่ใต้บังคับบัญชาของเอเทลรุ่นต่อไปแล้ว"
เขาค่อยๆผลักตัวออกจากกำแพงเรื่อยจนในที่สุดไฟลัชก็ยืนได้แล้วถึงยังไม่ค่อยมั่นคงก็ตาม
"นี่
นาย"บุรุษผมทองจ้องมองมายังคนที่อยู่เบื้องหน้าตนเองอย่าง พิศวงกับความคิดอันดื้อรันของเขา
พรึบ เสียงเปลวไฟลุกโชนขึ้นในมือของเดวิด ก่อนที่จะสะบัดผ้าคุลมที่คลุมร่างตัวเองออกแล้วก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
"ฉันจะใช้เวทปลุกเจ้าพวกที่ขี้เกียจทั้งหลายให้ตื่นขึ้นมาสู้กันต่อให้หมดเลยคอยดู"เสียงประกาศกร้าวของชายผมแดง สร้างความไม่พอใจให้กับ ชายหนุ่มผมสีทองที่ยืนอย่างสงบอยู่ จนทำให้คิ้วขมวดเข้าหากันแล้วพูดว่า
"งั้นก็ช่วยไม่ได้ ที่ต้องใช้กำลังกับนาย"
"อย่างฝันเลยจะทำไรฉันได้"
ตูม!! เสียงระเบิดดกึกก้องดังสะท้านไปทั่วทิศกลบเสียงฟ้าร้องอย่างสิ้นเชิง
ในยุคโบราณ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนมีจิต วิญญาณสิงสถิตอยู่ และเคยเกิดสงครามที่ไม่เคยได้รับการจารึกลงในประวัติศาสตร์หน้าไหนทั้งนั้น
สงครามที่ทำให้เกิด ไฟมหึมาที่โพยพุ่งเต็มท้องฟ้า ทะเลคลุ้มคลั่งดุจน้ำที่เดือดอยู่ตลอด สายลมพัดกรรโชกอย่างบ้าคลั่ง ความมืดมิดเข้าปกคลุมไปทั่ว
สงครามอันศักดิสิทธิ์ที่รุนแรงเกินคำบรรยายของเหล่านักรบผู้ใช้ธาตุ หรือ ที่เรียกกันว่า เอเลเม้นทัลเลอร์ ผู้ควบคุมจิตวิญญาณชองสรรพสิ่งทั้งหลาย เข้าห่ำหั่นกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งมาครอง
สงครามที่แย่งชิงความเป็นเจ้าของทุกสรรพสิ่ง เพื่อบงการอำนาจอันมหาศาลของเหล่าธาตุให้เป็นไปตามใจนึก เปลี่ยนแปลงสรรพชีวิตให้เป็นอย่างที่หวัง สร้างสรรค์หรือทำลาย ได้ตามต้องการ
สงครามที่จะกำหนดชะตากรรมของโลก
และนี่คือ “มหาสงครามทลายฟ้า”
ความคิดเห็น