ตอนที่ 34 : -Painful love ตอนที่24-
เมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่างเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ เป็นเวลาของคุณแม่ลูกอ่อนอย่างโลกิที่ต้องตื่นขึ้นมาทำหน้าที่มากมายหลายอย่าง การทำอะไรหลายๆอย่างด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากสำหรับโลกิ เพราะจากการหลบหนีการจับกุมหลายครา เทพเจ้าตัวน้อยมักทำอะไรได้ด้วยตัวเองเสมอ ยิ่งมาอยู่บนโลกมนุษย์แบบที่มีบ้านดีๆ เครื่องนอนอุ่นๆเช่นนี้ยิ่งสบายนักแล
แต่ชีวิตของการเป็นแม่และภรรยานั้นไม่เหมือนกัน มันคือการเริ่มต้นใหม่อีกหนึ่งก้าวของโลกิ แรกเริ่มมันยากเสียจนต้องให้ลอร่ามาชี้แนะให้กว่าจะลงตัว ลอร่าต้องสอนเขาให้นมลูก การอาบน้ำเด็ก และหลายครั้งก็มาช่วยเลี้ยงจนเขาสบายมากขึ้น
ถ้าอยู่ที่แอสการ์ดเขาก็คงมีท่านแม่คอยดูแลหลาน คอยให้คำชี้นำ
ใบหน้าหวานผินมองไปนอกหน้าต่าง ทอดมองบนท้องฟ้าไกล
“ข้าคิดถึงท่านแม่”
หากแต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะกลับขึ้นไปแอสการ์ด ทัซยังเล็กนักและการเดินทางไปแอสการ์ดดูไม่เหมาะต่อเด็กเล็ก เขาและธอร์คงต้องอยู่ที่นี้ไปสักพัก
“อ้ะ ท่านพี่” โลกิสะดุ้งโหยงเมื่อร่างทั้งร่างถูกรั้งให้นอนราบไปกับเตียง พร้อมทั้งร่างใหญ่ที่ขึ้นคร่อมเขาโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
“ท่านพี่ ปล่อยข้าก่อน”
“ยังเช้าอยู่เลยเจ้าจะรีบลุกไปไหนกัน”
“ข้าจะไปเตรียมอาหารให้ท่านกับลูกไง”
“ข้ายังไม่หิว”
“แต่ลูกอาจจะหิวก็ได้นะ”
“ลูกเราจะกินอะไร”
“น้ำนมของข้า” โลกิตอบตามความจริงโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ต่างจากคนเป็นพ่อที่คอดไปมากกว่านั้น
“งั้นให้ข้ากินนมก่อนลูกนะ”
“ท่านพี่!!!”
ยังไม่ทันที่จะได้ปฏิเสธ แขนเรียวก็ถูกยกขึ้นไปไว้เหนือหัว ธอร์จับข้อมือทั้งสองข้างไว้ด้วยมือเดียว ส่วนมืออีกข้างไม่ปล่อยให้นิ่ง อาศัยที่ตนมีกำลังเหนือกว่าปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวบางด้วยมือเดียว
สำหรับธอร์แล้วโลกิที่นอนอย่างหมิ่นเหม่ใต้ร่าง ภาพตรงหน้านั้นน่ามองยิ่งกว่ารูปวาดจากจิตรกรมือดีในแอสการ์ดสะอีก
“อย่ารังแกข้าเลยนะ” น้ำเสียงหวานนุ่มกับใบหน้าออดอ้อนยิ่งทำให้ธอร์รู้สึกเหมือนตัวเองใกล้จะละลายเหลวราวกับเปลวเทียน ยามที่ดวงตากลมโตทำหน้าตาภาวนาขอเขาให้หยุดรังแกกัน โลกิไม่รู้เลยว่ามันยิ่งทำให้เจ้าตัวน่ารังแกมากขึ้นกว่าเดิม
“อย่าไปทำหน้าแบบนี้ให้ใครเห็นเชียวนะ”
“ข้าไม่ทำแน่ แต่ท่านพี่ปล่อยข้าเถอะนะ” โลกิพยายามหว่านล้อม
แม้ธอร์จะเลิกใจร้ายต่อโลกิแล้วแต่เรื่องบนเตียงนั้น เขายังไม่เคยปราณีต่อโลกิเช่นเคย…
“เจ้าไม่รู้จริงๆหรือว่ายิ่งใช้น้ำเสียงแบบนี้ข้ายิ่งอยากรังแกเจ้านะ คนดี” น้ำเสียงเข้มว่า โลกิกัดปากทันทีเมื่อจบประโยค หัวใจดวงน้อยเต้นตูมตามเมื่อลายหายใจอุ่นเป่าร้อนรดไปที่ใบหู โลกิไม่กล้าพูดอะไรต่อไปอีก เพราะดูท่าแล้วยิ่งพูดยิ่งเป็นภัยต่อตนเอง
เทพเจ้าสายฟ้ายกยิ้มเมื่อเห็นโลกิมีสีหน้าขวยเขิน มือใหญ่ลูบริมฝีปากสีชมพู ธอร์ก้มลงไปบรรจงจูบโลกิอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวลแต่ทว่าโลกิกับรู้สึกซาบซ่าน ราวกับความร้อนไหลวนไปทั่วร่างกาย
“อย่ากัดปากสิ” เอื้อนเอ่ยแม้จะยังไม่ได้ขยับใบหน้าออกจากริมฝีปากเย้ายวลนั้นมานัก
“ข้ามีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำนะ” แม้ใจจะโอนอ่อนตามคนบนร่างไปเต็มทีแต่ภาระหน้าที่ยังมีอีกมากที่โลกิต้องทำ
“ไว้ก่อนไม่ได้รึไร ลูกยังไม่ตื่นหรอกหน่า” ใช่ มิผิด เพราะเมื่อคืนกว่าทัซจะหลับก็ปาไปเที่ยงคืนเห็นจะได้ เด็กน้อยเอาแต่ร้องไห้จนคนเป็นพ่อทำตัวไม่ถูกแต่ก็ยังอาสากล่อมลูกเองเพราะอยากให้โลกินอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่
แต่ดูท่าจะคิดผิดเมื่อผ่านเวลาไปสักพักลูกชายตัวดีของเขาก็ยังไม่เงียบสักที ทำเอาคนเป็นพ่อหัวหมุน ใจร้อนรน มือสั่นยิ่งกว่าไปออกรบครั้งแรกเสียอีก
จนสุดท้ายแล้วโลกิก็ต้องออกมาดูลูกเองอยู่ดี คุณแม่มือใหม่เดินมาอุ้มลูกออกจากอกสามี โลกิตบหลังลูบเบาๆสองสามครั้ง ใช้เวลาไม่กี่นาทีเสียงที่เคยแผดไปถึงแอสการ์ดก็กลับมาสงบราวกลับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
โลกิเอาลูกกลับไปนอนที่เปลตามเดิม คนตัวเล็กทำทุกอย่างด้วยใบหน้าที่ไม่สื่อแววตื่นตระหนกเลยสักนิด
‘เจ้าดูเชี่ยวชาญมาก’
‘ข้าก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน สงสัยคงจะเป็นสัญชาตญาณของคนเป็นแม่หล่ะมั้ง’
‘เก่งจริงๆคนดีของข้า’ ธอร์ลูบหัวคนรักด้วยความเอ็นดู
‘สงสัยข้าคงจะชินก็ต่อเมื่อมีลูกคนที่สามและคนที่สี่หล่ะมั้ง’
‘ไม่ไหว ข้าคงเลี้ยงลูกจนมือพันกัน’ โลกิตีไปที่อกของธอร์เบาๆ แต่นอกจากจะไม่สะทกสะท้านแล้วธอร์ยังจับมือเล็กๆนั้นมาจุมพิตก่อนที่จะโอบเอวให้ใกล้ชิดแล้วพากันไปเข้านอน
“อื้ออ” จมูกโด่งซุกไซ้ไปที่ซอกคอเนียน ลมร้อนเป่าป่านจนทำให้รู้สึกอ่อนระทวย มือขาวยกขึ้นจับไหล่อย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกวูบวูาบเกิดขึ้นทั่วร่างเมื่อมือหนาลูบไล้ผ่านสะโพกขึ้นไปถึงยอดอก
คนใจร้ายยังไงก็คงใจร้ายอยู่อย่างนั้น ธอร์ไม่ปล่อยผ่านให้เขาเลยสักนิด โลกิครางเสียงหวานเมื่อรู้สึกชื้นแชะที่ยอดอก ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านจนเตียงยับยู่ยี่
“เจ้ารู้สึกดีใช่ไหม” น้ำเสียงแหบทุ้มว่า
“ข้า อึก รู้สึกดีมากๆเลยสามีของข้า”
“ช่างน่ารักเสียจริง” คำว่าสามีที่ออกมาจากปากโลกิทำให้ธอร์รู้สึกดีใจไม่น้อย
“อ๊า” มือใหญ่จัดการดึงกางเกงยางยืดที่โลกิสวมอยู่ ร่างเล็กโอนอ่อนลูบไล้อกแกร่งด้วยความรู้สึกดีที่มอบให้แก่กัน
“แงงงงง”
เดจาวู
ธอร์คิดแบบนั้น…
“อึก ปล่อยข้าก่อนข้าขอไปดูลูกก่อนนะ” โลกิดันอกของธอร์ออกแล้วรีบใส่เสื้อผ้าลวกๆและไปดูลูกชายที่คาดว่าน่าจะตื่นแล้ว
ธอร์ถอนหายใจ มือใหญ่ลูบใบหน้าเพื่อตั้งสติ เขาควรจะชินได้แล้วเพราะเรื่องแบบวันนี้มันเกิดขึ้นหลายครั้ง
ในบางวันที่เขากับโลกิกำลังมอบความรักให้แก่กันอย่างลึกซึ้ง ลูกชายตัวดีก็จะร้องไห้เสียงดังเสมือนว่าหวงแม่ และมันค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับเขามาก
อืม แต่ก็ช่างเถอะ…
เวลานี้เขาควรจะเอาใจใส่ลูกมากกว่าตัวเอง
“ลูกเป็นอะไร”
“สงสัยจะหิว” โลกิทำหน้าเจื่อน ร่างเล็กเดินไปนั่งที่โซฟาเพื่อที่จะเตรียมให้นมลูก ธอร์เห็นโลกิกำลังปลดกระดุมเสื้อทั้งๆที่อุ้มลูกอยู่ดูทุลักทุเลจนเขาต้องนั่งลงไปปลดกระดุมเสื้อให้
โลกิยิ้มให้น้อยๆ ก่อนจะก้มหน้าให้นมลูก
“พอได้กินแล้วเงียบเชียวนะ”
จู่ๆก็รู้สึกจุกขึ้นมา รอยยิ้มที่เคยมีจางหายไปทันที โลกิไม่ได้ทำหน้าที่ภรรยาให้ธอร์ตั้งแต่มีลูก ครั้นตกดึกทีไรทัซก็จะร้องไห้เหมือนกับรู้เวลาทุกที อย่าว่าแต่จะทำหน้าที่ภรรยาเลย แค่เวลานอนยังแทบจะไม่มี เป็นแบบนี้ทุกวันจนโลกิกลัวธอร์จะไม่พอใจ
ก็ธอร์กลายเป็นคนโมโหง่ายไปแล้ว ไม่แปลกที่โลกิจะกลัว
“ข้าขอโทษแทนลูกด้วยนะ”
“เจ้าจะขอโทษทำไม” คิ้มเข้มขมวดเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของคนรัก
“ก็…คือ…” โลกิก้มหน้าก้มตากัดปาก สีหน้าลำบากใจแกมไม่กล้าพูด ธอร์เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของโลกิจึงลูบใบหน้าเนียนนั้นเพื่อปลอบประโลม
“เจ้าเป็นอะไรบอกข้าได้ไหม”
“ท่านพี่โกรธรึเปล่าที่ข้าทำหน้าที่ภรรยาให้ท่านได้ไม่ดี”
“……”
“ท่านพี่โกรธข้าได้นะแต่อย่าโกรธลูกเลย ทัซยังเด็กมากเขายังไม่รู้เรื่อง” โลกิลุกลนขอโทษ ท่าทางแบบนั้นและแววตากังวลทำให้ธอร์ตกใจเพราะเขาเองไม่เคยคิดที่จะโกรธโลกิและทัซเลยสักครั้ง เขาไม่คิดว่าโลกิจะคิดมากถึงเพียงนี้
“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้าไม่ได้โกรธอะไร” ธอร์ลูบผมสีดำสยาย
“เจ้ากับลูกคือดวงใจของข้าพวกเจ้าสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด สำคัญยิ่งกว่าความต้องการของข้า เช่นนั้นเจ้าอย่ากังวลไปเลยข้าไม่มีทางโกรธเจ้าแน่นอน”
“จริงหรอท่านพี่” โลกิยิ้ม ความหนักอกที่เหมือนมีหินมาทับมากมายหายไปกับกลีบเมฆ หลายวันที่ผ่านมาทำเขาคิดไม่ตกกับเรื่องนี้ แต่พอมาได้ยินกับหูความหนักอกก็จางไป ที่ธอร์ไม่คิดจะโกรธอะไรทั้งเขาและลูก
“ถ้าอย่างนั้นท่านพี่ก็คงไม่เป็นอะไรถ้าเราไม่ต้องร่วมรักกันเลยนะสิ จริงไหม” จากที่คิหวิตกแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์
“เจ้านี่มัน!” ธอร์ก้มลงไปฟัดแก้มแดงของโลกิหลายๆฟอดและลามไปถึงลูกน้อยที่กำลังกินนมแม่อยู่ด้วย
“แบ่งให้พ่อบ้างนะลูก”
“ท่านพี่!”
#เจ็บปวดthorki
เสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ดังลั่นเงียบสงบเหมือนไม่เคยมีมาก่อน ตอนนี้ทัซกำลังหลับปุ๋ยคาอกในขณะที่โลกิกำลังตบก้นกล่อมลูกเบาๆ ส่วนคนเป็นพ่อไม่ทำตัวให้ว่างเปล่ารีบจับที่นอนให้ลูก มือที่เคยจับแต่ค้อนแต่ดาบตอนนี้กลับมาจับผ้าอ้อมผ้าห่มให้ลูกแทน
เพียงคิดก็น่าขัน แต่เขาก็เต็มใจที่จะทำ
โลกิเอาลูกไปนอนบนเตียงเด็กโดยมีธอร์คอยช่วยอยู่ใกล้ๆ เด็กน้อยขยับตัวเล็กน้อยเมื่อหัวถึงหมอน โลกิบรรจงจัดที่นอนให้ลูกดีๆ ส่วนธอร์ก็ดึง็าห่มขึ้นมาให้ถึงอกเด็กน้อยเพื่อกันความหนาว
“เดี๋ยวข้าจะไปทำอาหารให้นะท่านพี่”
“ข้าทำเองก็ได้ เจ้าเหนื่อยมามากแล้ว” มือใหญ่เอื้อมไปลูบหัวโลกิ
ทั้งดูลูกตั้งแต่เช้าจนถึงดึก ไหนจะถูกเขาคลอเคลียอีก โลกิคงเหนื่อยแย่
“ข้าไม่เหนื่อยเลยท่านพี่” โลกิยิ้มหวาน เขาจับมือที่กำลังลูบหัวมาไว้ที่แก้มของตัวเอง
“ข้าแค่อยากแบ่งเบาภาระของเจ้าบ้าง”
“อืม ถ้างั้นท่านพี่ช่วยออกไปซื้อของสดให้ข้าได้หรือไม่ วัตถุดิบในตู้เริ่มน้อยแล้วข้าเกรงว่าจะไม่มีอะไรทำอาหารสำหรับวันพรุ่งนี้”
“ได้ ได้สิ ข้าจะรับไปเดี๋ยวนี้”
“ไปดีๆหล่ะท่านพี่ เสร็จแล้วจะได้กลับมากินอาหารกันนะ” โลกิยิ้มให้ธอร์ แค่มีรอยยิ้มหวานธอร์ก็พร้อมออกไปไล่ล่าวัตถุดิบทั้งตลาดมาให้คนตรงหน้าได้
“ข้าจะรีบกลับมากินอาหารฝีมือภรรยาเลย”
#เจ็บปวดthorki.
“นายมาทำอะไรแต่เช้าเพื่อน”
“จะมาชวนไปซื้อของที่ตลาด”
“ซื้อของ?”
“โลกิวานให้ข้าออกไปซื้อของ แต่ข้าไม่ชินทางเสียเท่าไหร่”
บาร์ตันมองเทพเจ้าสายฟ้าในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาๆกำลังถือตระกร้าเอาไว้สำหรับใส่ผักและของสด
“แปลกดีนะ ปกติจะติดภาพนายถือค้อนสะมากกว่า”
ธอร์หันซ้ายหันขวา ใช่ว่าเขาจะไม่เขินอายเสียหน่อย แต่เพราะโลกิไหว้วานมาแล้วเขาก็อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของภรรยาบ้าง
“ข้าก็ไม่ชิน แต่ช่างเถอะ ข้าจะรีบๆทำให้มันเสร็จ ว่าแต่เจ้าจะไปกับข้าไหม”
“นี่บังคับหรือชวนหล่ะ”
“คุณก็… ไปกับคุณธอร์เขาหน่อยเถอะค่ะ เอารถของเราขับไปก็ได้” ลอร่าเดินมายืนข้างสามีแล้วตีไหล่บาร์ตันเบาๆ
“ก็ได้จ้ะ” บาร์ตันหันไปยิ้มให้ภรรยาแล้วเพยิดหน้าให้ธอร์เดินตามตัวเองไปที่โรงรถ
.
.
.
.
.
.
“เทพเจ้าสายฟ้ามาตลาด ดูแปลกๆดีแหะ” บาร์ตันว่าในขณะที่กำลังหันมองรอบตัว ผู้คนมากมากเดินขักไขว่ไปมา แต่บุคคลที่ดูเด่นสะดุดตาคงจะเป็นเทพเจ้าตัวสูงที่มีรูปร่างกำยำต่างจากคนทั่วไป
“รีบๆซื้อเถอะ จะได้กลับบ้านกันสักที” ธอร์กัดฟันพูด เขาก็อายอยู่เหมือนกันแต่เพื่อภรรยา เขาพยายามท่องไว้
“โอเค๊” บาร์ตันยักไหล่
สองมือของสองพ่อบ้านเต็มไปด้วยวัตถุดิบมากมาย ธอร์ซื้อของครบถ้วนตามที่โลกิจดเอาไว้ให้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าไม่มีบาร์ตันเขาก็คงอยู่ในตลาดครึ่งวันเป็นแน่
“ตอนที่เมียเจ้ามีลูก เจ้าทำยังไง…”
บาร์ตันหันไปมองธอร์ที่กำลังทำสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“อืม…ฉันก็พยายามช่วยทุกอย่างที่ทำให้เธอไม่ต้องเหนื่อยมาก”
“ข้าก็อยากช่วย ลูกข้าร้องกลางดึกทุกคืนข้าไปปลอบก็ไม่หยุดแต่พอโลกิเดินไปอุ้มแค่ครู่เดียวลูกข้ากลับยอมสงบได้ง่ายๆ”
“ลูกนายคงติดแม่น่าดูเลยสิ”
“คงงั้น”
“งั้นนายช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือทำงานบ้านดูสิ”
“ข้าทำไม่เป็นน่ะสิ”
“ก็ต้องลองฝึกดู เลี้ยงลูกมันเหนื่อยนะยิ่งพวกนายไม่มีญาติที่ไหนมาคอยช่วยอีก เมียนายคงเหนื่อยแย่”
“นั่นแหละ ข้าสงสารโลกิ”
“แค่นายช่วยโลกิก็ไม่เหนื่อยแล้วหน่า ดีใจที่นายคิดอยากช่วยเมียนะต่างจากไอคนเมื่อหลายเดือนก่อนเยอะเลย”
“อย่ารื้อฝืนหน่า” ธอร์นึกย้อนไปถึงวันเก่าที่เขาใจร้ายกับโลกิ คนๆนั้นเหมือนตายหายไปแล้วเหลือแต่เขาคนนี้ที่เถิดทูนโลกิกับลูกมากกว่าสิ่งใด
ในขณะเดียวกันโลกิกำลังทำมื้อเช้าให้ตัวเองกับสามีอยู่ แค่คิดว่าธอร์เป็นสามีของตัวเองแล้วแก้มใสก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากคนที่เขาลอบมองแอบชื่นชมมานานกลับกลายเป็นคนๆเดียวกันพีวงด้วยลูกอีกหนึ่งคนแบบนี้หลายครั้งที่โลกิคิดว่าเขาฝัน ความรู้สึกดีๆอัดล้นเหมือนกับลมในลูกโป่งที่ใกล้จะระเบิดออกมา เหมือนมีมวลสีชมพูฟุ้งไปมารอบห้อง ดูท่ามื้อนี้จะเป็นมื้อที่หวานโดนที่โลกิไม่ต้องปรุงน้ำตาลเสียแล้ว
“แงงงง”
เสียงร้องของลูกเปรียบเสมือนค้อนทุบหัวเขาเข้าสู่ความจริง โลกิรีบละทุบอย่างออกจากมือแล้ววิ่งไปหาลูก
มือเรียวรีบอุ้มลูกขึ้นมา ดูท่าเทพน้อยจะรู้สึกเหนอะหนะเพราะถ่ายมา โลกิรีบจัดการเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก เสียงร้องไห้ค่อยๆเบาลงเมื่อทัซรู้สีกสบายตัวขึ้น โลกิเดินไปหยิบผ้าอีกผืนในตู้เพื่อเช็ดน้ำตาให้ทัซ
เด็กน้อยกลับมาเงียบอีกครั้งเมื่อโลกิแกว่งเปล โลกิก้มมองลูกน้อยที่กำลังหลับปุ๋ย ทัซได้ตาสีฟ้ามาจากพ่อ ผิวสีขาวมาจากเขา โลกิยังไม่แน่ใจว่าลูกมีพลังอะไรบ้างคงต้องรอให้โตกว่านี้ก่อนคงจะรู้กันแต่สิ่งที่รู้แน่ก็คือทัซดูท่าจะติดเขามาก แค่อยู่ห่างก็จะร้องไห้หาแม่จะมีก็แต่แค่ตอนที่ทัซหลับที่โลกิจะได้พักจากลูกบ้าง
ความคิดค่อยๆเลือนหายเมื่อมีกลิ่นไหม้ตลบอบอวนขึ้น โลกิรีบเด้งตัวจากพื้นข้างเปล ปิดประตูห้องนอนลูกเพื่อกันกลิ่นแล้วตรงดิ่งเข้าไปในครัว
“โอ้ย!!! ไม่นะ!!” โลกิรีบเข้าไปปิดเตาแก๊ส ควันลอยวนอยู่รอบกระทะส่งกลิ่นไหม้ฟุ้งไปทั้งครัว
“โลกิ!!!”
“เกิดอะไรขึ้น!” ธอร์ที่พึ่งกลับมาจากตลาดรีบวิ่งไปหาโลกิในครัว ภาพตรงหน้าคือโลกิที่กำลังรีบปิดเตา แล้ววิ่งไปเปิดหน้าต่างทุกบานให้ควันระบายออก เมื่อเห็นแบบนั้นธอร์ก็รีบเข้าช่วยอีกแรง
“ท่านพี่” เสียงอ่อนว่าขึ้นด้านหลัง ธอร์ที่จัดการเปิดหน้าต่างบานสุดท้ายหันมาหาโลกิมีสีหน้ารู้สึกผิด
“ข้า..ข้า…”
“เกิดอะไรขึ้น ดีนะที่ควันมันไม่ไปถึงห้องลูก!” เขาไม่ได้โกรธแต่ตกใจเสียมากกว่าที่เข้ามาเห็นควันเต็มบ้าน
“ข้า…ข้ากำลังทำกับข้าวแล้วทัซก็ร้องขึ้นมา พอข้าไปกล่อมลูกอาหารก็ไหม้เสียแล้ว” ประโยคของธอร์ยิ่งทำให้โลกิรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก บ่าเล็กแบกความผิดไว้เสียจนหนักอึ้ง
“ข้าขอโทษข้ามันแย่เอง ท่านกลับมาเหนื่อยๆกลับไม่ได้กินข้าว อีกทั้งลูกก็เกือบ…ฮึก”
“ชู่ว ข้าไม่ได้ว่าเจ้า” ธอร์รีบรุดเข้าไปกอดร่างเล็กที่กำลังตัวสั่น มือหนาลูบหัวเพื่อปลอบคนที่กำลังใจเสียเบาๆ
“ข้าขอโทษ”
“เจ้าทำดีที่สุดแล้ว ข้าสิที่ผิดเองที่ช่วยเจ้าไม่ได้เท่าที่ควร ต่อไปนี้ข้าจะช่วยเจ้าให้มากกว่านี้นะ”
ธอร์กระชับกอดโลกิมากขึ้น ริมฝีปากหนาบรรจงจูบที่กระหม่อมของโลกิ พรางคิดว่าเขาเข้าใจโลกิดีที่ต้องทำอะไรหลายอย่างในเวลานั้น โลกิคงไม่ได้ตั้งใจที่จะลืม อีกทั้งช่วงนี้โลกิก็เหนื่อยกับการตื่นมาดูลูกยามดึก ถ้าอยู่แอสการ์ดโลกิคงมีคนช่วยแบ่งเบาหน้าที่ไปได้มาก แต่ตอนนี้มีแต่เราสองคนและธอร์ยังคงงุ่นง่านทำอะไรไม่ถูกนัก เห็นทีเขาจะต้องช่วยโลกิให้มากกว่านี้เสียแล้ว
“ข้าว่าเราอุ้มลูกไปกินข้าวบ้านบาร์ตันกันเถอะคนดี คงใช้เวลากว่าควันจะหมด”
“ข้า…”
“ถ้าขอโทษข้าอีกเจ้าจะไม่ได้กินข้าวแต่จะเป็นข้าที่จะกินเจ้าแทนนะ”
“ฮืออ ท่านพี่”
“หึๆๆ เลิกร้องไห้ได้แล้ว”
สุดท้ายทั้งคู่ก็ต้องไปขอพึ่งบ้านข้างเคียง ล่อร่ารีบทำกับข้าวให้โดยมีโลกิคอยเป็นลูกมือ ส่วนธอร์ก็กำลังดูทัซกับบาร์ตันและลูกๆของเขา
ทั้งคู่ได้คำแนะนำจากคุณพ่อคุณแม่มือฉมัง ความรู้สคกผิดที่บีบแน่นของโลกิค่อยๆจางหายลงไปกับกลีบเมฆเมื่อได้คำปลอบโยนจากธอร์และคำชี้แนะจากลอร่า
ไรท์เตอร์ยังไม่ตายนะคะทุกคน!!! แค่กำลังปั่นebookให้ทุกคนอยู่น้าาา ตอนนี้สำเร็จไปได้เกือบครึ่งแล้วค่ะ บวกสเปให้ทุกคนเพิ่มอย่างตุใจแน่นอน!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

555 ไม่รู้จะสงสารใครดี (แต่แอบสมน้ำหน้า ธอร์) ไรท์กลับมาแล้ววววว ดีใจจัง คิดถึงไรท์นะค่ะ
ดีใจจัง. กลับมาแล้ว