คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Magic of Love : : เริ่มต้น & ค่าย
2.00 น.
�
“เพน...ลูกยังเตรียมของไปเข้าค่ายไม่เสร็จอีกหรอลูก”
“ค่ะแม่...ว่าแต่ แม่เห็นรองเท้าพละของเพนมั๊ยคะ เพนจำไม่ได้ว่าเอาไปวางไว้ไหน”
“แม่เห็นเพนเก็บใส่กระเป๋าไปแล้วนะลูก”
“อ๋อ...ใช่ค่ะ เพนลืมไป แหะๆ”
เฮ้อ...ขี้ลืมจริงๆ เลยฉัน� เป็นคนเก็บใส่กระเป๋าเองแท้ๆ ว่าแต่ฉันยังมีอะไรต้องเตรียมอีกมั๊ยเนี้ย รองเท้า ชุดลำลอง แปรงสีฟัน ยาสีฟัน....ฯลฯ ฉันก็เตรียมเสร็จหมดแล้วนี่นา
“เพนถ้าลูกจัดกระเป๋าเสร็จแล้วก็รีบขึ้นไปนอนซะนะ พรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้าไม่ใช่หรอ”
“ค่ะแม่
”
เฮ้อ! ในที่สุดก็จัดกระเป๋าเสร็จซะที เหนื่อยเหมือนกันนะเนี้ย
เอ่อ! มัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดกระเป๋า ลืมแนะนำตัวเองเลย ฉัน...เพน รินทรา� วัฒนโรจน์ ตอนนี้ฉันอยู่ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ซึ่งมันก็มาคู่กับการเข้าค่ายประจำฤดูร้อนด้วย
การเข้าค่ายปิดเทอมฤดูร้อนนั้น จะเป็นค่ายที่จัดขึ้นทุกปี จะจัดขึ้นตอนปิดเทอม และนักเรียนที่จะได้ไปก็คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังจะขึ้นไปชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และโรงเรียนที่จะได้ไปเข้าค่ายนั้นมี 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนโอริวิชจะเป็นโรงเรียนที่มีทั้งหญิงชายรวมกัน ซึ่งก็คือโรงเรียนฉันเอง และก็มีโรงเรียนโอริเป็นโรงเรียนหญิงล้วน และก็โรงเรียนริวิชเป็นโรงเรียนชายล้วน ทั้ง 3 โรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนในเครือเดียวกันค่ะ และฉันก็คิดว่าจุดประสงค์ของการจัดค่ายครั้งนี้ก็น่าจะมีความต้องการให้นักเรียนของทั้ง 3 โรงเรียนมีความสนิทชิดเชื้อกันมากขึ้นนั่นแหละ เฮ้อ...อธิบายเสร็จซะที (เข้าใจกันใช่มั๊ยค่ะ แต่ถ้าไม่เข้าใจกรุณาเม้นบอกกันด้วยละกัน)
�
6.00 น.
ปัง ปัง ปัง !
“พี่เพน ตื่นได้แล้วโว้ยจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงใหนฮะ!” อย่าตกใจค่ะนี่มันเป็นเสียงของน้องชายตัวแสบของฉันเองค่ะ มีชื่อว่า พีม กวนพระบาทาสุดๆค่ะ ขอบอก...
“โอ๊ย! ไอ้น้องบ้าจะตะโกนให้บ้านแตกเลยหรือไงกันฮะ” ฉันตะโกนด่าไอ้น้องตัวแสบ ก่อนที่จะลุกจากที่นอน และรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จแล้วก็รีบลงไปข้างล่างเพื่อทานอาหารเช้า
“เพน รีบๆกินข้าวแล้วรีบไปเถอะลูก เดี้ยวจะสาย”
“ค่ะแม่” ฉันตอบรับแม่ แล้วรีบทานอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว
�
�
8.30 น. ณ โรงเรียนโอริวิช
�
ตอนนี้ฉันนั่งรวมอยู่กับกลุ่มเพื่อนตัวแสบของฉันแล้วค่ะ ฉันมีเพื่อนสนิทอยู่ 3 คน คือ เจสด์เบส ดริว พวกเราสนิทกันมากถึงมากที่สุดค่ะ เจอกันตอนมาเข้า ม.1 โรงเรียนนี้แหละ และตอนนี้ระหว่างที่รอการเดินทางไปค่าย พวกเราก็คุยกันเรื่อยเปื่อย และในที่สุดก็ถึงเวลาการออกเดินทางแล้วค่ะ
“นักเรียนที่จะไปเข้าค่ายให้มารวมตัวกันที่หน้าโรงเรียนได้แล้วค่ะ” เสียงประกาศดังขึ้นทำให้พวกเราทั้ง 4 คนมีปฏิกิริยาตอบสนอง- -*โดยการเดินหน้าไปหน้าโรงเรียนกันค่ะ
�
��������� “นักเรียนรีบนำของไปเก็บแล้วรีบขึ้นไปนั่งบนรถได้แล้ว” เสียงของอาจาร์วนิษาค่ะเป็นอาจารย์ประจำชั้นของพวกเรา พอสิ้นเสียงของอาจารย์ พวกเราก็นำของไปเก็บแล้วเดินไปขึ้นรถตามที่อาจารย์บอก
“ฉันนั่งริมหน้าต่าง” พอขึ้นรถได้ ฉันตะโกนบอกยัยเจสด์ทันทีพร้อมกับส่งยิ้มที่คิดว่าสวยงามที่สุดให้มัน แล้วก็เข้าไปนั่งริมหน้าต่างตามที่ต้องการเป็นที่เรียบร้อย ฮิฮิ
“ถ้าแก่จะเข้าไปนั่งเองแบบนี้ไม่ต้องตะโกนบอกฉันให้เปลืองน้ำลายก็ได้นะยัยเพน” �ยัยเจสด์พูดด้วยวาจาเสียดสีอย่างรุนแรงค่ะ แต่ช่างเถอะ
“อือ ^ ^”� ตอนนี้ใครจะพูดยังไงก็ช่างค่ะ ฉันขอสนใจขนมในกระเป๋าของฉันดีกว่า ฮาฮา
ชอกโกแลตที่รักของฉัน >*<
��������� และระหว่างการเดินทางฉันก็ได้รับประทานชอกโกแลตที่รักพร้อมกับขนมของเพื่อนๆที่เตรียมกันมา แล้วหลังจากนั้นฉันก็นอนหลับอย่างสบายใจเฉิบเลยค่ะ
��������� “เพนๆตื้นได้แล้ว” เสียงใครเนี้ย
��������� “เพน
” ใครเรียกฉันอีกแล้วนะ
��������� “ไอ้เพน!”โอ้ย! ใครฟะเสียงดังชะมัดยาด
��������� “เฮ้ย
ไรฟะตะโกนไมเนี้ยคนจะนอน o_o “ แล้วฉันก็ได้รู้ที่มาของเสียงแล้วค่ะ มันมาจากยัยเจสด์เพื่อนที่หน้ากลัว เอ้ย! น่ารักของฉันเอง ตอนนี้หน้ามันหน้ากลัวมากเลย ฮือ ฮือ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตะคอกใส่แกเลยนะ ก็คนมันง่วงนอนอ่ะทำไงได้
��������� “เจสด์
ฮือๆ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตะคอกใส่หน้าแกเลยนะ >^<” ฉันทำหน้าสำนึกผิดเต็มที่เลยค่ะ
��������� “เออๆ ช่างเหอะ แต่ตอนเนี้ยแก่ตื้นได้แล้ว” ตื้นได้แล้ว แล้วแก่จะให้ฉันตื่นเพื่อ?
��������� “แล้วตื่นไมอ่ะ” ตอนนี้หน้าและคำพูดของฉันมันโง่มากเลยใช่มั้ยเนี้ย ยัยเจสด์มันถึงได้ทำหน้าเอือมระอาฉันขนาดนั้นน่ะ� ฮือๆ ก็คนมันไม่รู้นี่หว่า ทำไงได้
��������� “ก็มันถึงค่ายแล้วไง!” โอ้ย! ไม่ต้องตะโกนก็ได้ แหม คนถามแค่เนี้ย Y^Y
��������� แล้วต่อจากนั้นฉันก็เดินตามเพื่อนๆ ไปด้วยอาการที่ง่วงนอนสุดขีดเลยค่ะ เฮ้อ
ในที่สุดก็ถึงซะที เมื่อยเหมือนกันนะเนี้ย แต่พูดถึงฉันไม่ได้ดูเลยนะเนี้ยว่าเดินทางกันมาที่ไหนจังหวัดอะไร เออแต่ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยไปถามยัยเบสก็ได้ยัยเนี้ยนะรู้ทุกเรื่องแหละ รีบลงไปเอากระเป๋าลงก่อนดีกว่า �������
���������
ค่ายสุดโหด
��������� “นักเรียนทุกคนรีบนำกระเป๋าไปเก็บที่เต็นท์นะ ทุกเต็นท์จะมีบอกรายชื่อของนักเรียนที่อยู่แต่ละเต็นท์ไว้แล้ว พอเก็บเสร็จแล้วก็รีบมารวมตัวกันที่ลานอเนกประสงค์ตอน 16.00 น. ถ้าใครมาช้าจะโดนทำโทษ� ไป! แยกย้ายกันได้แล้ว” หุหุ� ง่ายเนอะคนเรา แต่จะว่าไงได้ เดินไปหาเต็นท์ดีกว่า เออว่าแต่ตอนนี้กี่โมงแล้วเนี้ยถามดริว ดีกว่า
��������� “ดริว กี่โมงแล้ว”
��������� “สามโมงสี่สิบห้า” ตอบด้วยเสียงที่นิ่งมากค่ะ แเต่มันไม่ควรนิ่งนะที่จริงอ่ะ สามโมงสี่สิบห้า งั้นเราก็มีเวลาหาเต็นท์แค่สิบห้านาทีเองอ่ะซิ
��������� “เฮ้ย! เหลือเวลาแค่สิบห้านาทีเอง รีบเหอะ” ยัยเจสด์พูด
ทุกคนพยักหน้าตอบ แล้วก็ช่วยกันเดินตามหาเต็นท์ ว่าแต่เต็นท์มันอยู่ไหนเนี้ย
��������� “เฮ้ย! เจอแล้วๆ อยู่นี่ไง เย้! พวกเราได้นอนด้วยกันวุ้ย” โห
ยัยเบสนี่เร็วจริงๆเลย ว่าแต่ทำไมในรายชื่อมันมีชื่อคนอื่นนอนกับเราด้วยล่ะ ดูจากชื่อแล้วนะฉันไม่รู้จักเลย และไม่น่าจะอยู่โรงเรียนเดียวกับพวกเราด้วย
��������� “พวกแก ทำไมมันมีชื่อคนอื่นนอนรวมกับเต็นท์เราด้วยล่ะ” ฉันถามพวกนั้น แต่คำตอบที่ได้
ก็คือ���
“(- -� )(� - -)(- -� )(� - -)” เฮ้อ
พวกแกเนี้ยนะ ส่ายหน้าได้พร้อมเพรียงกันเหลือเกิน ไม่อยากจะเชื่อว่าขนาดยัยดริวยังไม่รู้เลย
“ช่างมัน รีบเก็บของดีกว่า” ฉันบอกเพื่อนๆ แต่ฉันว่าฉันกำลังจะได้คำตอบจากคำถามเมื่อกี้แล้วแหละ เพราะตอนนี้มีเด็กผู้หญิงสองคนกำลังเดินมาทางเต็นท์ของพวกเรา ไม่น่าจะอยู่โรงเรียนโอริวิชนะ เพราะหน้าไม่คุ้นเลย น่าจะเป็นเด็กโรงเรียนโอริมากกว่า ดูหน้าตาไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับพวกเราเท่าไหร่เลยนะ
“พวกเธออยู่เต็นท์นี้หรอ” ยัยเบสถามยัย 2 คนนั้นค่ะ โฮะๆยัยเบสนี่กล้า ทุกสถานการณ์จริงๆ
แต่ความกล้าของยัยเบสคงจะไม่มีประโยชน์แล้วล่ะค่ะ เพราะพอยัยสองคนนั้นกำลังจะตอบ ก็มีเสียงสวรรค์ประกาศว่า
���“นักเรียนทุกคนมารวมตัวกันที่ลานเอนกประสงค์ ณ บัดนี้ค่ะ” ฮือๆ ไม่มีเวลาจะมาถาม
อะไรแล้วค่ะ รีบเก็บของแล้วรีบวิ่งดีกว่าค่ะ ฮือๆจะไปทันมั้ยเนี้ย เดี๋ยวโดนทำโทษก็ตายกันพอดี�
ความคิดเห็น