ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [RO FanFic] Angel’s Bodyguard - ^^ - องครักษ์แห่งเทพ

    ลำดับตอนที่ #5 : Goodbye My Love… คมดาบแห่งหายนะ

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 48


    ตำนานแห่งรักบทที่ 4 Goodbye My Love… คมดาบแห่งหายนะ





    เช้าวันต่อมา



    “อือ...” แพลทตินัมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา กองไฟได้มอดดับไปแล้ว เธอพยายามจะลุกขึ้นแต่รู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆอยู่บนตัว แขนของเนไฟรต์นั่นเอง เธอพลิกตัวกลับไปเพื่อที่จะปลุกเขา



    “จุ๊บ...” หน้าของเขาใกล้เธอมากจนริมฝีปากชนกันพอดี เธอเก็บเสียงกรี๊ดเอาไว้ ถอยหน้าออกมาและพบว่าเขาลืมตาขึ้นมาแล้ว



    “อ...อะ...อรุณสวัสดิ์ เนฟ” เธอทักเขาแบบตะกุกตะกัก



    “ตะกี้เธอทำอะไรฉันน่ะ” เนฟยกแขนออกจากตัวของเธอ



    “อะ...มะ...ไม่ใช่นะ คือมันเป็นอุบัติเหตุน่ะ อ้าาาไงล่ะ....” เธอแก้ตัวพัลวันแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจเท่าไร เนฟลุกขึ้นแล้วเอื้อมไปจับอะไรสักอย่างที่ปลายเท้า



    “เจ้าโพพอริ่งนี่เอง ถึงว่าทำไมมันหนักๆเท้า” เข้าดึงเจ้าPoporingที่กำลังมุ่งหน้าไปยังสัมภาระของพวกเขา“ออกมาห่างๆเลยนะเจ้าตัวยุ่ง อ้อ ! โทษทีนะแพลท ฉันนึกว่าเธอแกล้งอะไรฉันอีกแล้ว” เขาโยนมันออกไปห่างๆ แล้วเอากระบอกธนูขึ้นมาสะพายบ่า ในขณะที่แพลทยังพึมพำไปเรื่อย



    “เอ้า!” เนฟโยนมันฝรั่งกับแอปเปิ้ลให้เธอ “ยังละเมอไม่จบหรือไง”แพลทรับมาทานเงียบๆ พลันสายตาก็มองไปเห็นเจ้าPoporingตัวนั้น



    “อ้า! นั่นมันเจ้าตัวมะวานที่เราเจอนี่นา ตามมาถึงนี่เชียวเรอะ” เธอคว้าเอากิ่งไม้เตรียมจะขว้างใส่ แต่มันก็เด้งไปหลบข้างหลังเนฟซะก่อน แล้วทำหน้าล้อเลียนใส่เธอ



    “น่าๆ อย่าไปหาเรื่องมันเลย มันคงออกมาหาอะไรกินแหละ”เขาค้นหาของที่มันพอจะกินได้ “อ้ะ ! ถึงว่าทำไมมันเชื่องแบบนี้ ที่แท้ก็แอบมางาบBitter Herbของฉันไปนี่เอง โธ่! นึกว่าจะเอาไปขายซะหน่อย” เนฟโยนGreen Herbให้มันกิน



    “โย ขอบคุณฮับ” มันงาบเข้าไปในคำเดียว



    “...” แพลทหันซ้าย “...” แพลทหันขวา“เย้ย ! มอนสเตอร์พูดได้” เธอผงะไปข้างหลังแล้วทำท่าประหลาดๆ



    “นี่เธอ ความรู้สึกช้าไปหน่อยมั้ง” แพลทมองเธอที่ยังทำหน้าช็อกค้างอยู่ “อืม... ชื่อไรดี”



    “คุราริ่ง ดีป่ะ ?” (ใครเป็นแฟนคุราม่ากะคุราปิก้าอย่าว่าเรานะ ^^” เห็นสีเหมือนนัยน์ตาน่ะ อิอิ) เธอหายช็อกแล้ว มาดูๆไปมันก็น่ารักดีเหมือนกันแนะ



    “เอางั้นก็ได้ คุราริ่ง” พวกเขาเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ได้ไม่นานก็นึกได้ว่าพวกเขากำลังหลงป่าอยู่ เนไฟรต์ลุกขึ้นยืน แล้วมองไปรอบๆ



    “อืม เจ้านายจะทำอะไรต่อเนี่ย” คุราริ่งพูดแล้วเด้งไปชนขาของเขา



    “ไม่แน่ เจ้านี่อาจจะรู้ทางออกก็ได้นะ” แพลทเสนอความคิดเห็นแล้วลุกขึ้นบ้าง



    “Go go go”มันพูดแล้วเริ่มกระโดดไปข้างหน้า แล้วหยุดมองทั้งสองคน



    “ตามไปดูก็ไม่เสียหายนี่เนอะ” ทั้งสองเดินตามเจ้าคุราริ่งไป ซึ่งมันได้นำหน้าพวกเขาไปก่อนแล้ว





    แสงอาทิตย์ยามบ่ายส่องแสงลงมาระหว่างใบไม้ เผยให้เห็นป่าสองข้างทางที่เริ่มโปร่งขึ้นทุกที มีปีศาจสาวSoheeโผล่หน้าออกมาจากหลังต้นไม้เป็นบางครั้งบางคราว Big Footตัวโตก็ออกมาให้เห็นเป็นระยะๆ นานๆทีก็เจอไม้โยกเยกGreatest General ให้ยิงฟรีตามข้างทาง แพลทร้องเพลงไปเดินไปอย่างมีความสุขที่จะได้กลับเข้าเมือง ด้วยเสียงใสที่ดังก้องกังวานยิ่งกว่าระฆังเงินของเธอ





    “…You and I…”



    “…Fly me high…”



    “You are my world in a lifetime”



    “The love is around”



    “I pray so many times in many nights”



    “You are my soul watch for you and care for you”



    “Like the most special memory”



    “I will be the one just stand back for you”



    “Just can loving me through when love you and feel you (hu…)”





    แซ่กๆๆ... เสียงต้นหญ้าเสียดสีกัน ราวกับมีใครบ้างคนกำลังวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว



    “เอ๋ คิดไปเองมั้ง” เนฟหันไปมองข้างหลัง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น



    “มองหลังด้วย” เจ้าคุราริ่งวิ่งไปกระโดดชนเนฟ ทำให้เขารอดจากคมดาบที่ฟันลงมาจากด้านหลังได้อย่างหวุดหวิด



    เฟี้ยว~~ ฉึกๆ แพลทยิงธนูใส่เจ้าWanderer แต่มันก็หลบอย่างว่องไวแล้วง้างดาบเตรียมจะฟันเธอ



    “ว้าย!” เนไฟรต์ไถลไปผลักเธอออกทำให้เขารับคมดาบนั้นไปแทน “อ้ากกก!...”



    “เนฟฟ” แพลทมองเนฟที่นอนอยู่บนพื้นหญ้า กลางหลังมีรอยดาบพาดเป็นทางยาว โลหิตสีสดไหลซึมดั่งสายน้ำย้อมพื้นหญ้าเบื้องล่างให้เป็นสีแดงชาด ท่าทางอาการสาหัสมาก



    “รีบ...หนีไป...” เนฟพูดออกมาอย่างยากเย็น เลือดสีแดงสดไหลลงมาตามมุมปาก Wandererง้างดาบขึ้นอีกครั้งเพื่อจะฟันเขาซ้ำ ถ้าเขาโดนอีกทีคงไม่รอดแน่ แต่...

    พลั่ก! คุราริ่งกระโดดชนเจ้าปิศาจอย่างเต็มแรงจนมันชะงักไป



    “หิวแล้วยังให้ออกแรงอีก...เหนี่อย” มันพูด เจ้าWandererเปลี่ยนเป้าหมายมาที่Poporingตัวน้อยทันที



    “หมดแรงหนีแล้ว”คุราริ่งกระโดดต้วมเตี้ยมมาหาแพลทช้าๆ โดยมีเงาของคมดาบพาดผ่านอยู่ด้านหลัง



    “ดีจังหายหิวแล้ว”ทันทีที่มันพูดจบ มันก็แตกตัวออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่อหน้าต่อตาเธอคาคมดาบนั้น



    “คุราริ่งงงงง.....” น้ำตาไหลรินออกจากดวงตาที่โกรธแค้นของเธอ แต่นักธนูไม่เอาไหนอย่างเธอจะทำอะไรมันได้ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็พบกับคมดาบที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายอยู่เหนือหัวของเธอแล้ว เธอหลับตาลงอย่างยอมรับในชะตากรรมของตนเอง



    ฟ้าว~~ฉึกๆๆๆๆ แพลทลืมตาขึ้นมอง มีเหยี่ยวFalconตัวหนึ่งโฉบผ่านหัวเธอไป เจ้าปิศาจWanderer หายไปแล้ว เธอมองตามนกตัวนั้นไปก็พบHunterกับPriestกลุ่มหนึ่งกำลังเผชิญหน้ากับเจ้าปิศาจตัวนั้นอยู่ มันติดกับดักทำให้ไม่สามารถขยับได้ เมื่อเห็นดังนั้นเธอก็รีบวิ่งไปหาเนฟที่นอนอยู่ไม่ไกลทันที เขายังหายใจอยู่แต่ก็รวยรินเต็มทีแล้ว เธอกรอกRed Potionให้เขาไป 2-3 ขวด เลือดเริ่มหยุดไหล แพลทถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันใดนั้นก็มีมือมาแตะไหล่เธอเบาๆ



    “ให้ฉันช่วยนะ” นักบวชสาวคนนั้นบอกเธอ แพลทหลีกให้



    “Heal!” เนฟเริ่มหายใจเป็นปกติแล้ว แต่ยังคงมีรอยบาดแผลอยู่ “ฉันช่วยได้เท่านี้แหละ แล้วหนูล่ะ บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า?”



    “หนูไม่เป็นไรค่ะแต่...” เธอมองไปทางก้อนเยลลี่สีเขียวกองหนึ่งบนพื้น “คุณคงชุบชีวิตให้มันไม่ได้ใช่มั้ยค่ะ” แพลทถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว พรีสท์สาวมองหน้าเธออย่างเข้าใจ แล้วยื่นมือให้



    “ปะกลับเมืองกันเถอะ” เธอจับมือที่ยื่นมาให้แล้วยันตัวขึ้น ส่วนฮันเตอร์อีกคนหนึ่งก็มาแบกเนฟที่ยังไม่ได้สติกลับไป





    ณ โรงพยาบาล Payon Town



    “ฟื้นแล้วหรอ” เสียงใสๆถามขึ้น แพลทนั่นเอง “พวกฮันเตอร์เขาพามาส่งให้น่ะ อีกเดี๋ยวพ่อแม่เธอคงจะมาแล้ว” เนฟเอียงหน้าไปมองเธอ



    “ตุ๊กตาโพริ่งถูกๆ จ้า ซื้อวันนี้ แถมฟรี Skirt of Virgin จ้า”เสียงแม่ค้าแว่วมาจากข้างนอก



    “แปปนะ” แพลทเดินออกไปคุยกับแม่ค้าสาวคนนั้นสักพักเธอก็กลับเข้ามา เนฟมองตุ๊กตาตัวนั้น



    “นี่หรอ?” เธออุ้มตุ๊กตาบนตักเธอขึ้นมา “Poring Dollไง แม่ค้าเขาขายให้น่ะ ถึงสีมันจะไม่เหมือนแต่ก็คล้ายๆกันล่ะนะ ใช่มะ คุราริ่ง” เธอหน้าสลดลงนิดหน่อย “พวกฮันเขาบอกว่ายังดีที่ออกมาถึงชายป่าแล้วไม่งั้นคง...” แพลทกอดเจ้าตุ๊กตาแน่นขึ้นอีก ถ้าไม่มีคุราริ่งช่วยพาพวกเขาออกมา ก็คงจะไม่ได้มานั่งกันอยู่ตรงนี้อีกแล้ว น้ำตาของเธอค่อยๆซึมออกมา แต่เธอก็รีบเช็ดมันออกเพราะเดี๋ยวคนไข้จะไม่สบายใจ



    ตึกๆๆ!! เสียงฝีเท้าตรงมาที่ห้องของเขา ประตูเปิดออกพอให้เห็นร่างของคนสามคนนำหน้า และมีผู้คนตามเข้ามาอีกราวกับยกกันมาทั้งหมู่บ้าน แพลทเดาเอาว่าคงเป็นพ่อแม่แล้วก็น้องสาวของเขา ผู้เป็นแม่วิ่งเข้ามากอดเนฟเอาไว้



    “ลูกของแม่ โธ่ ! ไม่น่าเลย” แม่ของเนฟโผเข้ากอดลูกชายตัวเองเอาไว้ เธอหันมามองแพลทด้วยสายตาที่คาดเดาความคิดไม่ได้เลย



    “เธอใช่มั้ย ที่พาว่าที่หัวหน้าหมู่บ้านของพวกเราไปที่ป่านั่น” คนอื่นๆที่ตามมาเข้ามารุมเธอ



    “ค่ะ???” เธอพูดอะไรไม่ออกไปเลยเมื่อรู้ว่าเนฟเป็นลูกของหัวหน้าหมู่บ้าน เนฟก็ไม่เคยพูดถึงเลย แต่ดูท่าทุกคนจะคิดว่านั่นเป็นคำตอบรับ ทั้งหมดหันไปซุบซิบกัน แต่แล้วเด็กผู้หญิง ที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นน้องของเขาก็พูดขึ้น



    “เธอต้องเป็นคนไม่ดีแน่เลย เห็นชอบมาเกาะอยู่กับพี่เนฟตลอดคงจะถูกส่งมาทำร้ายพี่เค้าแน่เลย” แพลทกับเนฟถึงกับอ้าปากค้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอพอจะรู้แล้วว่าทำไมเนฟถึงปวดหัวที่มีน้อง น่าแปลกที่คำพูดของเด็ก 2 ขวบซึ่งไม่รู้ว่าไปเอาไอคิวมาจากไหน ทำให้ทุกคนหันมามองเธอด้วยสายตาที่น่ากลัวเหลือเกิน นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เธอร้องไห้ได้แล้ว โดยไม่ต้องมีคำกล่าวหาใดๆอีก



    “ไล่เธอออกจากหมู่บ้านไปเลย” เสียงชาวบ้านดังแว่วๆ น้ำตาที่เก็บไว้ค่อยๆไหลพรั่งพรูออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด น้ำใสๆไหลรินออกมาจากดวงตาสีเทาที่หม่นหมอง ทุกอย่างเป็นความผิดของเราใช่มั้ย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เพราะเราใช่มั้ยเธอคิดอย่างเจ็บปวดแล้วหันหลังวิ่งออกไปทันทีโดยไม่รู้เลยว่าจะไปที่ใด เพราะดูเหมือนว่าจะไม่มีที่ใดต้องการเธอเลย เธอยอมรับว่าคืนนั้น เธอหลับทั้งน้ำตาโดยมีเพียงแค่เจ้าคุราริ่งอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น





    เช้ามืดวันต่อมา



    เด็กสาวในชุดโจโกริสีขาวที่สวมทับด้วยจิมะสีชมพูอ่อน บนผมสีเงินยาวสลวยที่ปลิวน้อยๆตามแรงลมยามเช้ามีหยกรูปผีเสื้อมัดอยู่อยู่ เผยให้เห็นหูเรียวแหลมที่โผล่ออกมาระหว่างเส้นผม ดวงตาสีเทาเงินเป็นประกายจากดวงดาวที่ยังไม่ลับขอบฟ้า แลดูเหมือนกับเทพธิดาองค์น้อยลงมาบนพื้นดินเลยทีเดียว เธอเดินอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้มุ่งหน้าไปยังบ้านของเด็กหนุ่มที่กำลังหลับใหล เธอมองผ่านหน้าต่างเข้าไปในห้องของเขา ใบหน้ายามหลับไม่ต่างไปจากเด็กน้อยวัยเยาว์เลย น้ำตาใสๆ ของเธอไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆ ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น



    “ลาก่อน เนไฟรต์ ซักวันเราคงได้พบกันอีก” เธอกล่าวอำลาแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบของสายลม



    “ชะตากรรมของเธอ 2 คนได้ถูกกำหนดไว้แล้ว เปลี่ยนแปลงมันไม่ได้หรอก” เสียงเล็กๆดังขึ้น แต่เมื่อเธอหันไปมองต้นเสียงก็ไม่พบใครเลย



    “คงหูฝาดไปมั้ง” เธอเดินออกจากหมู่บ้านไป โดยไม่ได้สังเกตเห็นร่างเล็กๆ ที่หลบอยู่หลังต้นไม้ ซึ่งกำลังแสยะยิ้มอยู่ ที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน



    “อีก 4 ปี เดี๋ยวก็รู้” หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครได้พบเห็นแพลทอีกเลย





    จบบทที่ 4 Goodbye My Love… คมดาบแห่งหายนะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×