ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [RO FanFic] Angel’s Bodyguard - ^^ - องครักษ์แห่งเทพ

    ลำดับตอนที่ #4 : Happy Birthday to You… หลงไปในไพรวัน

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 48


    ตำนานแห่งรักบทที่ 3 Happy Birthday to You… หลงไปในไพรวัน





    Payon Forest



    เฟี้ยว~~ฉึกๆ!! เธอ Double Strafe! ใส่เจ้าSmokie แต่มันก็มุดดินหนีลงไปได้



    “นี่แน่จริงก็ออกมาสิเจ้าแรคคูน” เธอเอาลูกธนูไปจิ้มๆตรงบริเวณที่มันหายลงไป



    “เอาน่า ไม่ถึงนาทีเดี๋ยวมันก็โผล่ออกมาแล้ว” เนไฟรต์นั่งพักเหนี่อยอยู่บนขอนไม้ แล้วมันก็เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ เพียงแค่ 30 วินาที มันก็โผล่หน้าขึ้นมา และพบกับลูกธนูที่เล็งมาตรงตัวในระยะประชิด



    “หึ หึ หึ คราวนี้แหละแกไม่รอดแน่”เธอปล่อยลูกธนูใส่มันทันที ฉัวะ! มันโดนลูกธนูเข้าไปและก็ควรจะตายไปแล้วถ้ามันไม่



    Heal! บาดแผลจากลูกธนูบนตัวของมันได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย มันวิ่งเข้ามาหมายจะข่วนเธอ



    เฟี้ยว~~ฉึก! ซากSmokieมีลูกธนูไฟปักอยู่ตกลงแทบเท้าเธอทันที



    “หยึย!” เธอเขี่ยมันออกไปแล้วเดินไปหาเนไฟรต์ที่ถือคันธนูค้างไว้อยู่ สายตาของเขาจ้องมองเลยหัวเธอไป และมีสีหน้าเบื่อโลกขึ้นมาทันที



    “หายเหนี่อยแล้วเหรอ... นี่ ข้างหลังฉันมีอะไรหรอ?” เธอหันไปมองตามสายตาของเขา และพบฝูง Poison Spore เห็ดสีม่วงจำนวนหนึ่งซึ่งเธอคิดว่ามันกระโดด กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา เสียงกระเด้ง ดึ๋งๆๆเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ



    “สงสัยคงต้องเหนี่อยกันอีกรอบแล้วล่ะ แพลท” เขาและเธอวิ่งหนีกันอย่างสุดชีวิต ในขณะที่เสียงดึ๋งๆๆ ยังคงตามมาไม่หยุดหย่อน และดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเสียด้วย (ดึ๋งๆๆ)



    “เธอรู้เหรอว่าต้องวิ่งไปทางไหน?” เขาถามพลางกระโดดข้ามขอนไม้ที่ขวางหน้าอยู่ไปพลาง



    “ไม่รู้หรอก รู้แค่ว่าวิ่งหนีให้มันพ้นๆก็พอแล้ว”เธอตอบแล้วก้มหลบกิ่งไม้ที่ห้อยลงมา



    “อ่าว เฮ้ย! งั้นก็หยุดก่อน” เขาหันกลับไปแล้วหยิบธนูมาขึ้นสาย ประกายสีน้ำเงินปรากฏขึ้นบนปลายนิ้ว



    “Arrow Shower!” ลูกธนูพุ่งเข้าใส่เห็ดพวกนั้นเหมือนสายฝน แต่พวกมันก็ยังวิ่งตามพวกเขาอยู่



    “ง่ะ ยังไม่ตายอีกหรอ” เขาวิ่งถอยหลังไปแล้วหันกลับมายิงอีกรอบ คราวนี้แพลทก็หันกลับมาช่วยยิงด้วยอีกแรง



    “เกือบ 10 ตัวได้มั้งน่ะ”เธอเล็งยิงรายตัวเพราะยังใช้ Arrow Shower! ไม่เป็น “ถอยก่อนๆ” เธอบอกเมื่อเห็นว่าพวกเห็ดเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้น



    “แฮ่กๆ อีก 3 ตัว” ตอนนี้เขาไม่มีพลังเวทย์พอที่จะยิง Arrow Shower! แล้ว “เธอวิ่งไปบนหน้าผาตรงนั้น เดี๋ยวฉันลากไว้ให้” เขาล่อให้เห็ดกระโดดตามเขาเพื่อที่มันจะได้ไม่เบนความสนใจไปทางเธอ



    “วิ่งเร็วๆล่ะ”เธอเล็งไปที่เห็ดตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด “Double Strafe! Ok เสร็จไปหนึ่งเหลืออีก 2” เธอปาดเหงื่อที่หน้าออก เธอก็ใช้พลังเวทย์จนเกือบหมดแล้วเหมือนกัน แสงสีน้ำเงินเป็นประกายรอบปลายนิ้วของเธอดูเลือนรางเต็มทีแล้ว “วิ่งเข้า เนฟ”



    “ก็ยิงซะทีสิเจ๊”เขาวิ่งวนไปวนมาอยู่ใกล้ๆหน้าผาเพื่อที่เธอจะได้ยิงได้



    “Double Strafeๆ!!” เห็ดอีก 2 ตัวที่เหลือล้มลงไปนอนกับพื้น เธอลองขยับปลายนิ้วดู พบว่าพลังเวทย์ของเธอนั้นเหลือเป็นแค่เพียงควันสีเงินที่มองแทบไม่เห็นเท่านั้น



    “เฮ้อ... เกือบไม่รอดแล้วเรา”เธอเดิน]’ไปเก็บBlue Herbบนซากเห็ดพิษ แล้วเดินกลับมาหาเนไฟรต์ที่ดื่ม Red Potion อยู่



    “ฉันควรจะเป็นคนพูดประโยคนั้นมากกว่านะ” เขารับBlue Herbจากแพลทมา ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงของอะไรสักอย่างกำลังเคลื่อนที่อยู่ใกล้ๆพวกเขา จนสะดุ้งไปตามๆกัน



    “จะไม่ให้พักกันเลยใช่มั้ยเนี่ย”แพลทเตรียมหยิบคันธนูของเธอออกมา



    “เดี๋ยว!” เขาดึงชายเสื้อเธอเอาไว้ “ดูก่อนสิว่านั่นตัวอะไร” เธอมองตัวประหลาดสีเหลืองๆที่หมุนตัวออกมาจากพุ่มไม้ Eggyraนั่นเอง มันหมุนตัวผ่านหน้าพวกเขาไปโดยไม่สนใจพวกเขาเลย เขาทั้งสองหันไปหัวเราะให้กัน



    “โธ่เอ้ย! ตกใจกันไปได้ก็แค่ไข่หมุนตัวเดียว” เธอนั่งลงข้างๆเขา แล้วหยิบ Red Potion ขึ้นมาดื่มบ้าง



    “อือ... ก็แค่ไข่หมุน............ เฮ้ย!”อยู่ดีๆเขาก็ลุกพรวดขึ้นมา “แล้วแถวนี้มันมีไข่หมุนซะที่ไหนกันเล่า” เขาเริ่มเดินวนไปวนมาจนเธอมึนหัว



    “หืม... เธอรู้สึกมั้ยว่าแถวนี้มันไม่ค่อยคุ้นเลยแฮะ” เธอเริ่มที่จะสำรวจไปรอบๆ ดูบ้าง



    “แพลท” เขาหันมามองหน้าเธอ เธอก็มองหน้าเขาด้วยสีหน้าที่วิตกกังวลไม่แพ้กันเลย “เรา...หลงป่าซะแล้ว” ทั้งสองคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน “ทำไงดี~”





    ดวงอาทิตย์ค่อยๆลาลับขอบฟ้าไป ทิ้งไว้เพียงแสงสีทองที่เรื่อเรืองสะท้อนกับก้อนเมฆอย่างสวยงาม และค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลา แต่ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มสาวสองคนที่เดินทางอยู่จะไม่ได้รับรู้ถึงความสวยงามของธรรมชาตินั้นเลย



    “เค้าอยากกลับบ้านง้าาา” แพลทตินัมร้องขึ้นมาเป็นหนที่ 9 ได้แล้วหลังจากที่เดินสะเปะสะปะไปเรื่อย



    “อดทนหน่อย เดี๋ยวก็คงหาทางออกได้” เนไฟรต์ก็พูดประโยคเดิมได้เกือบ 10 ครั้งแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่เจอทางออกจากป่าสักที



    “เดี๋ยวอยู่นั่นแหละ แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเจอซะทีเล่า ชะอุ้ย!” เท้าเธอไปสะดุดกับอะไรสักอย่างคล้ายเยลลี่สีเขียว เจ้าPoporing มองหน้าเธอเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่างแวบนึงด้วยดวงตาสีแดง แล้วก็หลับตาลงไปหลับต่อ



    “เฮ้ย! มองหน้าหาเรื่องเรอะ ไม่พอใจอะไรก็พูดออกมาเลยเซ่” ด้วยความหงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้เธอหาเรื่องได้แม้กระทั่งกับPoporing เธอเตะมันทีนึง เจ้าเยลลี่สีเขียวก็ลืมตาขึ้นมามอง แล้วก็กระเด้งไปหาที่นอนใหม่



    “หนอยแน่ะ กล้าเมินฉันเรอะ เดี๋ยวมีเฮ” เนไฟรต์เดินเข้าไปล็อกแขนเธออย่างเอือมระอาแล้วพาเดินต่อ



    “สงบสติอารมณ์หน่อย ดูซิแม้แต่โพพอริ่งยังไม่อยากยุ่งกะเธอเลย” เขาจูงมือเธอออกมา



    “ก็แล้วใครมันจะไปใจเย็นเหมือนเธอเล่า” เธอมองคู่สนทนาที่ยังทำหน้าเฉยๆอยู่ได้



    “ช.ม.ด. พ่อสอนมาแบบนี้นี่ แล้วก็นะตอนนั้นฉันบอกเธอแล้วว่าทางนี้ฉันไม่รู้จัก เธอก็ยังจะมาอยู่นั่นแหละ ฉันเลยพลอยหลงทางมากับเธอด้วย”เขาลากเธอมาโดยไม่ได้สังเกตว่าเธอสะดุดกับขอนไม้



    “หยุดๆ” เธอกระตุกมือของเขา “นี่เราวนกลับมาที่เดิมนี่นา แหงะ!”เธอลงไปนั่งอย่างหมดอาลัยตายอยาก



    “สงสัยวันนี้คงต้องนอนป่าซะแล้วล่ะมั้ง” เขาหันไปมองเหมือนจะขอความเห็นจากเธอ



    “ก็คงต้องหยั่งงั้นแหละ” แพลทตินัมลุกขึ้นไปเก็บท่อนไม้แถวๆนั้นเพื่อมาจุดไฟ เมื่อเธอก้มลงไปเก็บก็มีห่อของหล่นลงมาจากกระเป๋าของเธอ



    ตุ้บ! มันทำให้เธอนึกอะไรบางอย่างออก เธอเก็บมันขึ้นมา แล้วรีบเอาไม้กลับไปสุมไฟ ที่เนไฟรต์ได้จุดเตรียมไว้แล้ว



    “เนฟ ทายซิวันนี้วันอะไร?” เธอถามเสียงสดใส



    “24 ตุลา ทำไมหร...” เธอยิ้มให้เขาพร้อมกับยื่นห่ออะไรบางอย่างให้



    “สุขสันต์วันเกิดจ้า” เธอตบมือดัง แปะ แปะ



    “จำได้ด้วยแฮะ นึกว่าลืมซะแล้ว” เขาค่อยๆแกะห่อนั้นออกและพบที่ติดผมหยกขาวแกะสลักรูปผีเสื้อ 2 อัน “เอ่อ... มันก็ดีใจอยู่หรอกนะ แต่ว่า... เธอคงไม่ได้ลืมอีกแล้วนะว่าฉันเป็นผู้ชายน่ะ”



    “ไม่เห็นเป็นไรนี่ ฉันยังเคยเห็นผู้ชายบางคนใส่หูกระต่ายเลย (Bunny Band) แล้วนี่มันก็อันนิดเดียวเอง” เธอหยิบขึ้นมาอันนึงแล้วติดบนเชือกผูกผมของเขา “น่ารักดีออก เนไฟรต์แปลว่าหยกขาวนี่ พอดีเจอน่ะก็เลยซื้อมาเลย” เธอขยับมันให้เข้าที่เข้าทาง



    “เออๆ” เขาเริ่มยอมรับในชะตากรรมของตนเองแล้ว “ทำไมมันมี 2 อันล่ะ”



    “ก็อีกอันนึงของฉันไงล่ะ” เธอหยิบขึ้นมาติดบนผมเธอบ้าง “ทีนี้ก็เหมือนกันแล้ว”



    “เออนี่แพลท ฉันสงสัยมานานแล้วนะว่าทำไมเธอถึงชอบทำผมพองๆ แล้วก็ไม่ยอมรวบผม” เขายื่นมือออกมาหมายจะจัดผมเธอ แต่เธอก็ถอยหนีเขา



    “แหะ แหะ ไม่มีอะไรหรอกช่างมันเถอะ” เธอเอามือกดๆผมของเธอตรงบริเวณหู เหมือนจะปกปิดอะไรซักอย่าง



    “ไหนดูหน่อยซิ เอามือออก” เขาดึงมือของเธอออกแม้ว่าเธอจะขัดขืนก็ตาม เขาเอามือปัดผมของเธอออก



    “อย่านะ” เธอพยายามเอามือบังไว้แต่ไม่สำเร็จ



    “หะ...หูเธอ!” ใบหูของเธอแทนที่จะโค้งมน กลับเรียวแหลม มันโดนกดให้แบนราบไปกับหัวของเธอโดย Sticky Mucus เธอปัดมือเขาออกทันที



    “อะ...Elven Ears น่ะ อย่าสนใจเลย” เธอแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ



    “เธอ... ?” เขาอยากจะถามว่าเธอเป็น(ตัว)อะไร แต่ก็ละเอาไว้เพราะคิดว่ามันคงไม่ดีเท่าไร



    “...” เธอเงียบไปเหมือนจะคิดว่าควรจะตอบอย่างไรดี “ฉันเอง ก็ยังไม่รู้เลย”



    “แล้วเธอโตมาได้ไง?” เขายังถามต่อ



    “ถ้าฉันบอกว่าอยู่ดีๆก็มาที่ หน้าปราสาท Training Ground ล่ะ เธอจะเชื่อมั้ย?” แววตาของเธอไม่แสดงว่าโกหกเลย



    “โผล่มาก็อายุ 12 เลยเนี่ยนะ” เขาอึ้งกับคำตอบของเธออยู่พอสมควรเลยทีเดียว “หรือว่าเธอความจำเสื่อม???”



    “ไม่รู้สิพอจะนึกย้อนไปหลังจากนั้น ก็จำได้แค่ว่ามีแสงสีขาวๆนั้นแหละ”เธอทำหน้านิ่วคิ้วขมวด พยายามจะนึกให้ได้มากกว่านั้น “แล้วฉันก็อยู่คนเดียวมาตลอด... ยังงงอยู่เลยว่าอยู่ได้ไง แต่เนฟนี่ดีเนอะ อยู่กันทั้งครอบครัว แถมยังมีน้องด้วย” แพลทนึกอิจฉาเนฟหน่อยๆ



    “มีพี่น้องก็ไม่ใช่ว่าจะดีน่ะนะ อยู่ด้วยแล้วมึนหัว” เนฟนึกไปถึงน้องก็พลอยคิดถึงบ้านขึ้นมา (แน่ใจ ???)



    “แต่ก็ยังดีที่มีน้องนี่นา ฉันอยากมีพี่น้องจะตาย เป็นแฝดเลยก็ได้”



    “โห! แค่เธอคนเดียวก็ทำฉันปวดหัวขนาดนี้ ถ้ามีแฝดด้วยจะป่วนขนาดไหนนะ ฉันคงมึนไปเลยล่ะ” เนฟพูดขำๆ แต่หารู้ไม่ว่า มันจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นจริงๆขึ้นมาสักวัน



    “อือ...นี่ก็มืดแล้วนอนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่มีแรงเดิน” เขาตัดสินใจไม่คุยอะไรต่อจากนั้น แล้วล้มตัวลงนอน



    “นี่เนฟ เธอกอดฉันได้มั้ย?” เธอถามเบาๆ



    “หา!” (เนฟ: พวกเรายังอายุแค่ 14 เองนะ)



    “กลางคืนนี่เย็นจังเลย” เธอกระเถิบตัวมาใกล้ๆแล้วดึงแขนเขามาหนุนนอนด้วยความเหนี่อยอ่อน



    “อะ..อืม”(เนฟ :โธ่เอ้ย! เรานี่ก็ คิดไปถึงนู่น) เขาโอบแขนรอบตัวเธอแล้วผล่อยหลับไป





    จบบทที่ 3  Happy Birthday to You… หลงไปในไพรวัน





    “ใครกันนะ ที่บอกว่าอีกชาตินึงตอนที่ 3 ก็ไม่เสร็จน่ะ” Blue Planet พูดอวดๆ



    “ที่เราหลงป่าก็เพราะคนแต่งเค้าแก้แค้นจากคราวที่แล้วป่าวเนี่ย” เนฟพูดเบาๆให้แพลทได้ยิน



    “ใช่แหงๆ พิมพ์เร็วขึ้นหน่อยเดียวก็พิมพ์ซะเยอะเลย” แพลทตอบรับพลางเหล่คนแต่งที่กำลังลัลลากับความเร็วในการพิมพ์ที่เพิ่มขึ้นมาเพียง 9 ตัว ต่อนาที มันน่าดีใจมั้ยเนี่ย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×