ประตูบานใหญ่
เรื่องสั้นเรื่องนี้แต่งเพื่อการศึกษา หากผู้อ่านมีความคิดเห็นอย่างไร ไรต์อยากให้มาแลกเปลี่ยนกัน ได้ข้อคิดอะไร เห็นสัญลักษณ์อะไรบ้างบอกกันด้วยนะคะ
ผู้เข้าชมรวม
42
ผู้เข้าชมเดือนนี้
9
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ประตูบานใหญ่
ในค่ำคืนอันเหน็บหนาวของวันปีใหม่
ผู้คนต่างเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข
หลายครอบครัวทำอาหารมากมายเพื่อแจกจ่ายให้คนที่มาร่วมฉลองปีใหม่ทั้งเพื่อนฝูงและครอบครัว
ผู้คนต่างกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย บ้างก็ร้องรำทำเพลงกันอย่างมีความสุข
และเตรียมตัวต้อนรับศักราชใหม่ที่กำลังจะมาถึง
ชายแก่จรจัดคนหนึ่ง
เขาเดินไปยังย่านบ้านคนรวย เขาหวังจะได้รับข้าวปลาอาหารจากความเมตตาของพวกคนรวย
อย่างน้อยก็เป็นอาหารที่พวกเขากินทิ้งกินขว้างจากการฉลองอันสิ้นเปลืองก็ยังดี ตัวชายแก่นั้นไม่ได้กินอะไรมาหลายมื้อแล้ว
เขารู้สึกได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จากความหิวโหย
เมื่อเขาพยายามข้ามถนนไปยังอีกฝั่ง ก็มีรถหรูเปิดประทุนขับมาด้วยความเร็วสูง
มันเฉี่ยวชนเขาจนล้มลง ชายหนุ่มคนขับจอดรถแล้วหันมาสบถคำด่าทอเขาแล้วขว้างกระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใส่หัวของชายแก่
ชายแก่นั้นไม่มีเรี่ยวแรงที่จะโต้ตอบแล้ว เขาจึงเลือกเดินจากไป นั่นคงเป็นเพราะเขาไม่อยากแกว่งเท้าหาเสี้ยน
ชายแก่ไร้เรี่ยวแรงและบาดเจ็บที่จะไปหาเรื่องกับชายหนุ่มที่มีพละกำลังบวกกับความมึนเมานั้นมันไม่คุ้มค่าที่จะเอาชีวิตไปแลกกับความยุติธรรมโง่
ๆ เสียเลย
ร่างกายที่หิวโหยและบาดเจ็บ
มันทำให้เขาแทบไม่มีแรงจะก้าวเดินต่อ เขาล้มลงไปนอนที่หน้าบ้านหลังใหญ่หรือจะเรียกคฤหาสน์ก็ไม่ผิด
เขามองเข้าไปยังบ้านที่เปิดไฟแสงสีระยิบระยับ เสียงร้องรำทำเพลงดังก้องออกมา
ที่แห่งนี้คงเป็นที่ที่ชีวิตนี้ของเขาไม่อาจจะเอื้อมถึงได้ เขาสบถออกมาให้กับพวกคนที่ฉลองกับตัวเลขที่เปลี่ยนไปของปีเท่านั้น
มันดูไร้ประโยชน์และไร้สาระสำหรับชายแก่ที่ไม่มีแม้แต่อาหารประทังชีวิต
ชายแก่ตัดพ้อต่อโชคชะตาที่ไม่ความยุติธรรมใดเลยที่เขาได้รับ หลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเขาก็วูบหลับไป
เขายังไม่ทันได้ฝันหวานถึงบ้านหลังใหญ่ที่มีอาหารแสนอร่อย
เสื้อผ้าใหม่ที่หอมสะอาดที่ให้ความอบอุ่น เขาก็ถูกปลุกจากชายผู้ที่สวมเสื้อผ้าสีดำทั้งตัว
ชายชุดดำนั้นพยุงตัวเขาให้เดินไปสถานที่แห่งหนึ่ง
ในความคิดแรก
เขาเข้าใจว่าคงเป็นพวกที่อยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่หาคนมาไล่เขาให้พ้นจากอาณาเขตบ้านของพวกเขา
ไม่ก็คงมีใครสักคนใจดีพาเขาไปอยู่ในที่ที่มีอาหารให้เขากิน
ทว่าเขาคิดผิดในทั้งสองทาง
ชายชุดดำนั้นพาไปยังสถานที่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
สถานที่แห่งความว่างเปล่า เสื้อผ้าอาภรณ์อันสกปรกเก่าใกล้หมดสภาพที่โชยกลิ่นเหม็นเน่าของเขาหายไป
เขาเปลือยกายและถูกลากให้เดินต่อไป เขาเดินไปด้วยท่าทางละอายใจในตอนแรก
แต่ดูเหมือนชายชุดดำนั้นหาได้สนใจในตัวเขาไม่ อีกอย่างถ้าจะให้มองย้อนไปชีวิตของเขาทั้งชีวิตก็น่าอับอายกว่านี้มาก
แค่นี้คงไม่เป็นไร
ชายชุดดำปิดบังใบหน้า
เขาท่าทางหยิ่งยโส นิ่งเงียบ ดูแล้วไม่น่าอภิรมย์ใจนัก เขาพาชายแก่มุ่งไปยังเส้นทางที่มีจุดหมายเป็นประตูบานใหญ่
ซึ่งมีเพียงบานเดียวให้ผู้คนมากมายเดินผ่านไป ผู้คนที่เดินร่วมทางกับเขานั้นต่างเปลือยกาย
ทุกคนก็จะดูไม่สนใจผู้คนรอบข้าง ผิดกลับชายแก่ที่รู้สึกประหลาดกับผู้คนเหล่านี้อย่างยิ่งยวด
เหตุใดกันผู้คนทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กน้อยไปจนถึงคนแก่ มีมากหลายชนชาติ มีมากหน้าหลายตา
ผู้คนทั้งหลายนี้เดินมุ่งหน้าไปยังประตูเพียงบานเดียวที่มีอยู่ด้วยสีหน้าของคนที่ไร้จุดหมายเหมือนตัวเขาก่อนหน้านี้
มันทำให้ชายแก่เริ่มสงสัยกับสถานที่แห่งนี้
เมื่อเดินผ่านไปอีกสักครู่
ชายแก่มองย้อนหลังกลับไปยังเส้นทางที่เขาพึ่งเดินมา เขาเห็นเด็กหนุ่มที่เคยขับรถหรูเฉี่ยวชนเขาเมื่อก่อนหน้านี้
ชายแก่เกิดความสงสัยว่าเหตุใดชายหนุ่มคนนั้นจึงมาในที่แห่งนี้เช่นเดียวกับเขา ชายหนุ่มดูสับสนและกระวนกระวายกว่าเขาเป็นร้อยเท่า
เขาทำท่าทางแตกตื่นเหมือนปลาพ้นน้ำ แต่แล้วก็นิ่งไป ไม่นานนักชายแก่ก็รู้สึกเบื่อและเลิกใส่ใจชายหนุ่มคนนั้น
ชายแก่มองไปยังฝั่งตรงข้าม
มันมีอีกเส้นทางหนึ่ง เส้นทางอีกฝั่งมีทิศทางที่ตรงกันข้ามกับทางของเขา
มีประตูมากมายหลายร้อยประตูเรียงรายกันเป็นชั้น ๆ ประตูของอีกฝั่งนั้นเขียนบอกถึงสิ่งต่าง
ๆ ทั้งชื่อเพศ ชื่อชนชาติ ภูมิภาค ศาสนา อาชีพ ระดับชนชั้น ข้อสังเกตที่น่าแปลกอีกฝั่งนั้นก็คืออีกฝั่งมีเพียงเด็กทารกเท่านั้น
เมื่อเดินต่อไปอีก
ชายแก่มองไปยังฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง เขาก็ต้องสะดุดตากับบางสิ่งจนเขาต้องหยุดยืนดู ชายแก่มองไปยังหญิงสาวผู้สง่างาม
เธอแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสดใส เธอดูเป็นคนที่มีชีวิตชีวา เธอชวนมอง ราวกลับว่าเธอศูนย์กลางแห่งความชุ่มชื้นในชีวิตต่อผู้คนที่ได้พบเห็น
เธอชวนให้น่าพิสมัยยิ่งนัก และเธอดูตรงกันข้ามกับชายชุดดำที่ยืนข้างเขาทุกอย่าง
เมื่อผ่านมายังเส้นทางอันยาวไกล
เขากำลังจะเดินผ่านไปยังประตูบานใหญ่บานเดียวนี้ เขาเกิดความฉงนใจอย่างที่สุด
เขาจึงรวบรวมความกล้าถามชายชุดดำผู้เคร่งขรึม
ชายแก่ถามชายชุดดำว่า
สถานที่ต่อจากนี้คือที่ใด ชายชุดดำจึงตอบเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “สถานที่หลังจากนี้เป็นสถานที่ของฉัน”
ชายแก่ก็ถามต่ออีกว่า แล้วสถานที่จุดหมายของฝั่งตรงข้ามคือที่ใด ชายชุดดำตอบเขาว่า
“สถานที่นั้นคือสถานที่ของนางผู้นั้น” ซึ่งคงหมายถึงหญิงสาวผู้งดงามคนนั้นแน่นอน
ชายแก่ถามชายชุดดำว่าเหตุใดประตูของฝั่งนี้จึงมีเพียงบานใหญ่บานเดียวนี้
แล้วเหตุใจอีกฝั่งจึงมีประตูมากมายนัก ชายชุดดำตอบเขาว่า “ประตูของนางคือสิ่งที่คนแต่ละคนจะได้รับต่างกันและประตูของฉันคือสิ่งที่ทุกคนจะได้รับอย่างเท่าเทียม
เพราะฉันนั้นยุติธรรมและนางผู้นั้นอยุติธรรม”
ชายแก่ถามชายชุดดำต่อว่า
เขาคือใคร ชายชุดดำตอบว่า ตัวเขาเรียกตัวเองว่า “ความจริงอันเจ็บปวด”
ชายแก่จึงถามต่อมา หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นคือใคร ชายชุดดำตอบว่า
ตัวเขาเรียกเธอว่า “คำโกหกอันงดงาม”
ชายแก่ฉงนใจกับคำพูดนั้น
จึงถามต่อว่า พวกเขามีชื่ออื่นหรือไม่ มันเข้าใจยากเกินไป ชายชุดดำยิ้มอย่างภูมิใจแล้วเขาก็ตอบชายแก่ว่า
“นางผู้นั้นคือชีวิตและตัวฉันคือความตาย”
เมื่อได้ยินดังนั้นชายแก่ก็รู้ได้ทันทีแล้วว่า
เขานั้นจากโลกแห่งชีวิตมาแล้ว แต่แทนที่ชายแก่จะโศกเศร้าเสียใจ ชายแก่กลับยิ้มตอบชายชุดดำ
ชีวิตสำหรับเขาคือความโหดร้ายและน่าเวทนา มันทำให้เขาเข้าใจในทุกคำพูดของชายชุดดำอย่างลึกซึ้ง
ชีวิตมันไม่ยุติธรรมและเป็นเพียงคำโกหก แม้ว่าสำหรับใครหลายคนชีวิตคือความสวยงามและน่ายินดี
ความตายนั้นคือเรื่องน่าเศร้าและเลวร้าย แต่สำหรับชายแก่นั้นตรงกันข้าม
ความตายนั้นอาจจะเป็นของขวัญอันงดงามเท่าที่เขาจะสามารถเอื้อมถึงได้
ชายแก่รู้สึกถึงการได้ปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการแห่งชีวิตแล้ว
เขามีโอกาสได้ยืนในจุดเดียวกันกับพวกคนชั้นสูง และในตอนนี้เขายินดีที่จะผ่านประตูบานนั้น
ชีวิตอันน่าหดหู่ของเขาได้รับความยุติธรรมเช่นเดียวกับผู้คนทุกชนชั้น นั่นคือ
ความตาย ชายแก่ยิ้มอย่างปลื้มปีติให้ชายชุดดำ แล้วก้าวเดินเข้าไปในประตูบานใหญ่
ประตูแห่งความตาย ด้วยใจเป็นสุข
ปล.หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ผลงานอื่นๆ ของ กิ่งกุญชร ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ กิ่งกุญชร
ความคิดเห็น