ตอนที่ 23 : คนคนนั้นที่มีอยู่จริง(ต่อ)
บทที่ 23
คนคนนั้นที่มีอยู่จริง(ต่อ)
จู่ ๆ คุณท่านก็ส่งต้นสนมาที่นี่ ที่อังกฤษ...
ในใจต้นสนรู้สึกสับสนบวกกับความโกรธเล็ก ๆ ที่คุณท่านทำเช่นนี้กับตน นึกจะบังคับอะไรก็ทำตามแต่ใจตนเอง...ไม่เคยเลย ไม่เคยถามความสมัครใจ...เกลียดกันขนาดนี้เลยเหรอ ?
ต้นสนเดินทางมาถึงอังกฤษเป็นเวลาเย็นของที่นั่น คุณติมารับด้วยตัวเอง...
ความอ่อนเพลียบวกกับความไม่ค่อยสบายของตนทำให้ต้นสนรู้สึกอ่อนเพลีย แต่ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ นี่เป็นการมาต่างประเทศครั้งแรก มันไม่เหมือนกับที่ฝันไว้...ในตอนที่ยังเรียนอยู่ ต้นสนหวังไว้ว่าตนเองจะได้เป็นสจ๊วตในสายการบินใดสายการบินหนึ่ง เสร็จจากงานก็ได้เดินทางไปเที่ยวในต่างบ้านต่างเมือง มีชีวิตอย่างอิสระ มีชีวิตเป็นของตัวเอง...
ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปตั้งแต่...มัน...กลับมาในชีวิต ทุกอย่างมันแย่ไปหมด
ต้นสนไม่รู้ว่า มัน จะตามมาหรือเปล่า หรือยังคงอยู่ที่บ้านนั้น...
สิ่งเดียวที่ไม่คาดคิดเมื่อมาที่นี่คือคนคนหนึ่งที่ต้นสนคิดถึงมาตลอดชีวิต...ต้นหม่อน...
น้องโตขึ้นมากจากที่เคยจินตนาการจากความทรงจำ...ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเหมือนคุณพ่อมาก ๆ อายุแค่สิบห้าแต่สูงนำต้นสนไปไกลทีเดียว...
การพบหน้าคนที่คิดถึงมากที่สุดทำให้เรื่องร้าย ๆ ที่ผ่านเข้ามากลายเป็นแค่ฝุ่นเม็ดเล็ก ๆ เพื่อแลกกับช่วงเวลานี้ ต่อให้ต้องเจ็บปวดจนตาย...ก็ยอม
“พี่...พี่ครับ...”
เสียงจากคนที่นั่งตรงข้ามเรียกคนเป็นพี่ที่ดูเหมือนจะเหม่อลอย มือเล็ก ๆ นั่นเขี่ยอาหารในจานไปมา
“ไม่อร่อยเหรอครับ ?”
“เปล่า พี่แค่...คิดอะไรนิดหน่อย ต้นหม่อน...เอ่อ...ไว..”
“เรียกต้นหม่อนก็ได้ครับ ผมชอบชื่อนี้...” เด็กหนุ่มยิ้มกว้างส่งให้พี่ชายตัวเอง ตั้งแต่ทั้งสองตื่นขึ้นมาพร้อมกันก็ตัวติดกันแทบตลอดเวลา...ความผูกพันไม่มีที่มาที่ไปฉุดรั้งทั้งสองให้ไม่อาจแยกจากกันในเวลาอันใกล้นี้...
ต้นสนยิ้มรับด้วยความสุขใจ วันนี้เป็นวันที่ตนมีความสุขที่สุดตั้งแต่เกิดเรื่องร้าย ๆ มา เมื่อกินข้าวกันเสร็จแล้ว สองพี่น้องก็พากันมาหมกตัวอยู่ในห้องอีกครั้งหนึ่ง...
“พี่ครับ เล่าเรื่องแม่ของเราให้ฟังหน่อยสิ ผมอยากฟังเรื่องของแม่...” เด็กหนุ่มเอ่ยกับต้นสนเมื่ออยู่ด้วยกันเพียงสองคนในห้อง เรื่องของแม่เป็นเรื่องที่เอ่ยถึงไม่ได้เลยเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณย่า เพราะคุณย่านั้น...เกลียดคุณแม่มาก...
“แม่เหรอ ?” แววตาของต้นสนล่องลอยไปไกล นึกถึงภาพความหลังที่เลือนราง...ความทรงจำนั้น... ร่างเล็กค่อย ๆ ไถลลงพิงกับน้องชายที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยกัน น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมาจากหางตา
“พี่จำไม่ได้แล้ว หน้าของแม่พี่จำไม่ได้ ตอนนั้นพี่ยังเด็กมาก แต่เราเคยอยู่ด้วยกัน มีแม่ พี่ แล้วก็ต้นหม่อน พ่อจากเราไปแล้วตอนนั้น...”
“...” เมื่อเห็นความเศร้าโสกในแววตาของพี่ชาย ไววิทย์หรือต้นหม่อนก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอีก มันคงเจ็บปวดมากถ้าพี่จำได้ขัดเจน...
“แต่พี่รู้ ว่าแม่รักเรา ถ้าแม่ยังอยู่...จะไม่มีอะไรมาทำร้ายเราสองคนได้...พี่มั่นใจ”
ไววิทย์รู้สึกแปลกใจกับท่าทีที่แปลกไปของพี่ชาย เสียงนั้นเหมือนเข้มขึ้นคล้ายข่มขู่บางสิ่งบางอย่าง...อากาศเหมือนจะเย็นขึ้นมา แต่เด็กหนุ่มก็ตัดสินใจปัดเรื่องเล็ก ๆ นั้นทิ้งไปพร้อมกับกอดตอบคนเป็นพี่ที่เคลื่อนเข้ามาโอบกอดตน...โดยไม่ได้เห็นสายตาของพี่ชายที่จ้องไปทางมุมห้อง
มันตามมา...
ต้นสนกระชับกอดน้องชายอย่างแนบแน่นและปกป้อง...มันจะไม่มีทาง มันทำร้ายต้นสนได้ แต่ไม่มีวันที่มันจะทำร้ายต้นหม่อน...
แม่ครับ...แม่ช่วยผมกับน้องด้วย
******************************************************************************
คืนนั้น ติยศไม่กลับมา สองพี่น้องจึงตัดสินใจนอนด้วยกันเป็นคืนแรก หลังจากที่นอนหลับไปทั้งคู่เมื่อตอนบ่าย เวลานี้ทั้งสองจึงได้แต่นอนตาค้างเมื่อถึงเวลานอนจริง ๆ
“นอนไม่หลับเลย...พี่ต้องสวยเหมือนแม่แน่ ๆ เลยผมว่า” จู่ ๆ ไววิทย์ก็กล่าวขึ้นมาอย่าไม่มีปี่มีขลุ่ย ความหวงพี่ชายเริ่มแผ่ออกมาเมื่อได้พิจารณาหน้าตาพี่ชายบ่อย ๆ เข้า
“สวยอะไร พี่ไม่ดีใจหรอกนะที่มาชมกันแบบนี้” ต้นสนเอ่ยออกมาด้วยความขัน มองพ่อน้องชายตัวโตที่ทำสีหน้าพิจารณาใบหน้าของตน
“ก็จริงนี่นา แล้วพี่...อยู่ที่ไทยมี...แฟนหรือเปล่า ?” น้องชายขี้หวงเริ่มถามนั่นนี่กับพี่ชายด้วยความหวงที่คุกรุ่นขึ้นมา
“...” ต้นสนนิ่งไปเมื่อเจอคำถามนั้น แฟนเหรอ ? พอนึกถึงคำนี้ ใบหน้าของคนคนหนึ่งก็ลอยมาให้เห็น...อดจะถามตัวเองไม่ได้ว่าเราเป็นอะไรกับผู้ชายคนนั้นนะ ? ทั้งที่...ผ่านเรื่องแบบนั้นด้วยกันมาแล้ว...ทำไมทุกสิ่งอย่างมันดูคลุมเครือสำหรับต้นสนอยู่เลย...
แล้วนี่ตัวเองจากมาอยู่ไกลถึงอังกฤษ...แล้วพี่เสกข์จะรู้หรือเปล่า ถ้ารู้จะเสียใจไหมนะ ?
“ว่าไงพี่...เงียบไปเลย ว่าไง ?” น้องชายยังคงขยั้นคะยอไม่เลิกเมื่อเห็นพี่ชายเงียบลงไป
“เอ่อ...ยังหรอก ไม่มี..”
“ตอบแบบนี้ผมสงสัยนะเนี่ย...”
“มีแน่เลย ใคร...ผู้หญิงหรือผู้ชาย บอกมานะพี่!” คราวนี้เจ้าน้องชายตัวแสบถึงกับลุกมาเขย่าแขนคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ อย่างไม่ยอมแพ้
“อะไรเล่า ไม่มีสักหน่อย ต้นหม่อนนี่! นอนได้แล้ว!” ต้นสนหันหลังหนีน้องชายที่กำลังเขย่าแขนเซ้าซี้อยู่ไม่ยอมหยุด จึงตัดสินแกล้งหลับเพื่อหนีเจ้าเด็กจอมซนข้างหลัง
“พี่...พี่ โถ่...ฮึ้ย!” เจ้าตัวเมื่อเห็นว่าเซ้าซี้แล้วไม่ได้ผลจึงตัดสินใจหันหลังกลับให้พี่ชายบ้างแล้วก็ทำท่างอนตุบป่องจนผล็อยหลับไป...
เป็นเวลาพอสมควร...หลังจากที่รู้สึกว่าต้นหม่อนหลับไปแล้ว ต้นสนจึงค่อย ๆ หันกลับมามองแผ่นหลังของน้องชาย...คงจะงอนไปแล้วแน่ ๆ คิดในใจว่าพรุ่งนี้ค่อยง้อ ถ้าน้องชายรู้ว่าพี่ชายคนนี้ไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์อีกแล้ว...จะรังเกียจต้นสนหรือเปล่านะ ?
ต้นสนพลิกกายมานอนหงาย มองเพดานห้องเงียบ ๆ ด้วยนอนไม่หลับ ยังไม่ชินกับเวลาที่นี่เท่าไหร่ พลางคิดเลื่อนลอยไปเรื่อย ๆ และเผลอหลับไปเมื่อไรไม่รู้...
“แม่จ๋า...ร้องไห้ทำไม ?” ภาพเด็กชายตัวน้อยวัยประมาณห้าหกขวบเขย่าแขนคนเป็นแม่ที่แอบมานั่งเงียบ ๆ ร้องไห้เพียงลำพัง
“แม่ทำให้หนูตื่นเหรอลูก ?” คนเป็นแม่รีบเช็ดน้ำตาให้แห้งทันที พร้อมกับยิ้มแย้มให้ลูกชายเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แม่ร้องไห้ หนูเห็นนะ!” เด็กชายยังจับผิดด้วยท่าทางแสนชาญฉลาดอย่างไม่ยอมแพ้
“แม่ไม่ได้...”
“ออกไปนะ! คนนั้นมาอีกแล้ว อย่ามาทำร้ายแม่เรานะ!” เด็กน้อยขว้างหมอนในทิศทางปลายเตียงที่ว่างเปล่า
“ต้นสน มานี่ มาหาแม่มา” คนเป็นแม่โอบกอดลูกชายเข้าอ้อมอกอย่างหวงแหน สายตามองความว่างเปล่าที่ปลายเตียงอย่างกังวล...ทำไมนะ ทำไมเรื่องแบบนี้จะต้องมาเกิดขึ้นกับลูกเธอด้วย..
“แม่จ๋า ใครทำอะไรแม่ ใช่คนนั้นหรือเปล่า...” ดวงตาใสแจ๋วเงยมาสบกับผู้เป็นแม่ มือเล็ก ๆ สั่นไหวอย่างหวาดกลัว...แต่กลับไม่ยอมแพ้
“เปล่าลูก เปล่า...อย่าพูดถึงมันนะลูก แม่อยู่ตรงนี้ มันทำอะไรเราไม่ได้...”
“แม่ร้องไห้ทำไม หนูเห็นแม่ร้องไห้บ้อยบ่อย” เจ้าตัวน้อยยังเจื้อยแจ้วไม่หยุด...
“แม่แค่...ดีใจ” เปล่าเลยสักนิด ตอนนี้ หัวใจของคนเป็นแม่แทบแหลกสลาย...หลังจากที่ได้รับข่าวร้าย พร้อมกับ..
“...???...”
“แม่กำลังมีน้อง...น้องของต้นสนไงละลูก..” น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาอาบใบหน้าแสร้งยิ้ม...มันคงจะเป็นเรื่องน่ายินดีมาก ถ้าหากว่าเธอไม่ได้รับข่าวร้ายก่อนหน้านั้น...สามีเธอ เสียชีวิตแล้ว...
“น้องเหรอ...แม่จ๋า!!!”
“ฮิ ๆ”
“อ๊าก!!!”
ใบหน้าของคนเป็นแม่พลันเปลี่ยนไป...เป็นคนคนนั้นที่ยืนอยู่ปลายเตียง มือคู่นั้นบีบคอเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดอย่างต้องการเอาชีวิต!
“อึก...ฮึก หนูหะ...หายใจ ไม่...ออ..ก แฮ่ก ๆ” มือเล็กนั้นปัดป่ายไปมาอย่างรุนแรง ใบหน้าน่ากลัวนั้นแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็น
“ฮิ ๆ ตาย...ตายไป...เลย ฮิ ๆ”
ลมหายใจค่อย ๆ หลุดลอยออกไป มือเล็ก ๆ ตกลงข้างลำตัว...
“พี่...พี่ครับ!!! พี่!!!”
เสียงคนเรียก แรงเขย่าตัว และเสียงความวุ่นวายรอบตัวดูสับสนวุ่นวายไปหมด...
“อาครับ พี่ไม่ตื่นเลย ผมเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น!!!”
“เรียกรถพยาบาล!!!”
“สน...ต้นสน ต้นสน อย่าเป็นอะไรนะ!!!”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอนะคะ
รอค่ะ