ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหญิงจอมป่วนกับรักอลม่าน

    ลำดับตอนที่ #1 : คำทำนาย

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 49


     

     

      อาณาจักรเอลิคกลาส

     

     ทันทีที่รัตติกาลมาเยือน แสงเดือนเพ็ญสาดส่อง ณ อาณาเขตของน้ำสีครามจับตัวกันเป็นแผ่นน้ำแข็งหนาและแข็งแรง 

    ใจกลางของทะเลสาบใหญ่ซึ่งมีปราสาทที่ถูกสร้างจากผลึกน้ำแข็งขนาดยักษ์ดูหรูหราและงดงาม  เมื่อต้องกับแสงจันทร์ยามเดือนเพ็ญยิ่งดูแฝงพลังอำนาจและงามนวลตา  บรรยากาศโดยรอบมีลมพัดหนาวเย็นยะเยือก  ต้นไม้ที่น่าจะมีใบเต็มต้นกลับมีเพียงกิ่งก้านสาขาที่แห้งแล้ง ไร้ใบไม้ปกคลุม  ด้วยสภาพช่นนี้จึงไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตจะอยู่อาศัย ทิ้งไว้เพียงความแห้งแล้ง ความรู้สึกว้าเว่  กับแผ่นดินสีขาวโพลน

     ทายาทแห่งเทพจะถือกำเนิด ณ ที่นั้นตามคำสัญญาที่ให้ไว้ของพระเจ้า

    น้ำเสียงของหญิงชราภายใต้ผ้าคลุมสีขาว เส้นผมสีขาวที่ลอดออกมาจากผ้าคลุม บอกถึงอายุที่มีมานาน ดวงตาสีน้ำเงินเข้มยังอ่านต่อกับสิ่งที่อยู่ในกระดาษสีน้ำตาลเก่าๆ ถ้อยคำสุดท้ายที่เรียกสายตาของผู้รับฟังนับหมื่นคนถึงกับแตกฮือกันด้วยความตกใจ

     ท่านสูมิค ตัวแทนแห่งเทพ...คำทำนายบทนี้มันหมายความว่าอย่างไรกันท่าน

                    ชายร่างกำยำเรือนผมยาวสีนิลถูกก้าวไว้อย่างลวกๆ ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมแฝงไปด้วยอำนาจที่เกินประมาณ ในชุดผ้าคลุมสีเงินถามอย่างสงสัยมองหน้าหญิงชราพูดอ่านคำทำนาย

                    ท่านกษัตริย์เดโคมิล โปรดใจเย็นก่อน คำทำนายนี้ไม่ได้ร้ายแรงแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องน่ายินดีเสียอีกหญิงชรายังคงกล่าวต่อด้วยยิ้มบนใบหน้าที่เหี่ยวยน

                    แล้วมันดีอย่างไรค่ะท่าน ข้าไม่เห็นเข้าใจ

                    หญิงสาวอายุประมาณ 30กว่าปี ดวงหน้าหวานเข้ารูป ดวงตาสีทองคู่สวยดูทรงอำนาจแต่เจือความอ่อนโยน เรือนสีน้ำตาลทองยาวถูกปล่อยทิ้งไว้ถึงกลางหลัง สาวงามในชุดกระโปรงยาวกับผ้าคลุมไหลสีเงิน มีเครื่องประดับเพียงชิ้นเดียวคือสร้อยคอจี้เป็นคริสตัลสีน้ำเงินเข้ม  หญิงสาวที่นั่งเคียงข้างกษัตริย์เดโคมิล   เธอถามแล้วกลับมาดูพลางลูบผมสีน้ำตาลอ่อนเด็กหญิงตัวเล็กๆที่อายุประมาณห้าขวบในอ้อมกอดซึ่งนิทราอยู่

                    เรียน ท่านราชินีโอเฟเลีย...เรื่องนี้ข้าไม่สามารถบอกท่านได้ มันคือกำหนดของสวรรค์ บรรพชาของพระเจ้า

                    ถึงกระนั้นก็ไม่มีผลร้ายต่ออาณาจักรและหลานสาวของข้าใช่หรือไม่

                   ชายอีกคนในชุดเสื้อสีดำนิล ใบหน้าคล้ายกษัตริย์เดโคมิลแต่อ่อนวัยกว่า ดวงตาสีนิล  ผมสีน้ำตาลเข้มถูกซอยสั้นดูดีปกปิด  รอยแผลไหม้เป็นรูปนกกลางหน้าผาก น้ำเสียงขุ่นมัว ใบหน้าแสดงถึงความกังวลใจ

                    ข้ายังขอยืนยันคำตอบเดิมเจ้าชายลูครอซัส...ข้ามิอาจทราบได้ แต่คงไม่เป็นเช่นนั้น

                    ถ้าเช่นนั้น งานฉลองครบห้าปีของเฟโลคิสจะยังคงดำเนินต่อไป อีกสามวันต่อจากนี้ ข้าต้องการให้พวกท่านปฏิบัติหน้าที่เตรียมงานนี้ให้พร้อมและทันตามกำหนด ถ้อยดำรัสจากกษัตริย์เดโคมิลที่หันไปพูดกับขุนนาง ข้าราชบริพารในห้องประชุมก่อนจะเสด็จออกจากห้องประชุม

     

                  

    ในค่ำคืนเดียวกันใต้ท้องฟ้ายามราตรี    ป่าร้างอันไกลโพ้นห่างออกไป ราตรีที่เคยเงียบสงบ บัดนี้มีกลุ่มชนจำนวนมากตั้งกลุ่มเป็นค่ายขนาดย่อม  กองไฟถูกจุดเพื่อให้แสงสว่างและทำอาหาร  มีเต็นท์ขนาดใหญ่ห้าถึงหกหลังถูกกางไว้อย่างเรียบร้อย รอบค่ายเต็มไปด้วยทหารเวรยามผลัดเปลี่ยนเฝ้าเวรกันเป็นแห่งๆคอยคุ้มกันภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น

    แซทัว...เจ้าสั่งเตรียมการพร้อมแล้วใช่หรือไม่เสียงเข้มจากชายในชุดทหารที่มีเข็มกลัดติดเสื้อแสดงยศฐาบันดาศักดิ์ที่สูงกว่าทหารคนอื่นๆเอ่ยกับเด็กหนุ่ม ผมสีดำอายุราวๆย่างเข้าสิบห้าปี ผู้เข้ามาใหม่

    ขอรับกระหม่อม อีกสามวันจะเริ่มตามแผนการเสียงหัวเราะอย่างปลื้มปิติยินดีมองเด็กหนุ่มนามแซทัว ดวงตาสีฟ้ายังคงมองแผนผังเมืองด้วยใบหย้าที่เฉยเมย

    ดีมาก เจ้าไม่เคยทำให้ข้าผิดหวังจริง...แซทัวเสียงหัวเราะยังคงดังเป็นระลอกพลางตบบ่าเด็กหนุ่ม

    ขอบพระทัย ฝ่าบาทที่ทรงไว้ใจกระหม่อมแซทัวโค้งคำนับผู้เป็นนายตามมารยาท

     ข้าต่างหากที่ต้องขอบใจเจ้า ในไม่ช้าอีกสามวันเท่านั้นพวกชนชั้นต่ำจะได้หมดไปเสียที ข้าขอบใจเจ้ามากจริงๆเสียงหัวเราะยังคงดังเป็นระยะไม่ขาดสายภายในเต็นท์หลังใหญ่

     

    ไง! แซทัว...ได้ความดีความชอบมาอีกล่ะสิเสียงทักจากเด็กหนุ่มผมสีแดงส้มทันทีที่แซทัวเข้ามาในเต็นท์ที่พักของสี่ขุนพล

                    มันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว คูเอส เพราะตอนนี้คงเป็นที่ไว้วางใจของท่านผู้นั้นไปแล้วเสียงสนับสนุนจากเด็กหนุ่มผมสีทอง ดวงตาสีเขียว สายตายังคงอ่านหนังสือในมือ แซทัวเมื่อได้ยินถ้อยคำเย้าแย่ของเพื่อนถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ สีหน้ายังคงเรียบเฉยก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินออกจากเต็นท์ไป

                    มันเป็นอะไรของมันอ่ะ เจไตคูเอสถามกับเพื่อนข้างตัวที่ร่วมวงแกล้งมัน สายตาสีเพลิงของเขายังคงมองเพื่อนที่เดินออกไปจากเต็นท์อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

                    นายถามฉัน แล้วฉันจะไปรู้ไหม แล้วนายอ่ะ...คาทิล คิดว่าไงเจไตตอบกลับไปอย่างกวนๆไม่ว่าเปล่าหันไปถามเด็กหนุ่มผมสีเทาดูยุ่ง ดวงหน้าน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง ดวงตาสีม่วงใต้เปลือกตาที่ปิดสนิทเพื่อพักผ่อน ร่างของเด็กหนุ่มนาม คาทิล ยังคงนอนเอกเขนกบนเตียงของตนก่อนที่จะเอ่ยคำตอบที่เล่นเอาเพื่อนอีกสองคนงงไปตามๆกัน

                    มันง่วง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×