คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9 อีก 1 ที่มาสู่โลกใบนี้
"ปั๊บ!!! เห้อ~ มึงนี้ก็น่าคุยกันซักนิดก่อนก็ได้มั้ง"เมื่อฉันพูดจบแล้วฉันก็เอาโทรศัพย์เก็บเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะเดินออกจากห้องน้ำหลังจากที่ฉันปลดทุกข์เสร็จ
"อ๊ะ... (ปึก!!!)"
"กะ... เกิดอะไรขึ้นน่ะ!!!"
"มีคนลื่นหัวแตกน่ะ!!!
รีบเข้าไปช่วยก่อนเร็ว!!!"เสียงพูดของคนในมหาลัยพูดขึ้นมาก่อนที่จะรีบวิ่งมาหาร่างอันไร้วิญญาณของนักศึกษาปีสองคนหนึ่ง
"งืม~ ที่นี้มันที่ไหนกันเนี่ย? ที่นี้มัน...
รู้สึกไม่คุ้นเลยแฮะโรงพยาบาลรึป่าวนะ?"
"หืม~ ตื่นแล้วงั้นหรอ รัฐกาล เกิดปราง(สะกดผิด)
ดูเหมือนว่านายเนี่ยจะลื่นหัวแตกซินะ... เป็นการตายที่น่าอนาถจริงๆเลยนะ..."
".... นี้เธอเป็นใครกัน? ทำไมถึงรู้ชื่อของฉันได้หล่ะ..."ในระหว่างที่ฉันกำลังพูดอยู่นั้น
ฉันก้เงยหน้าไปมองหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับดื่มชาไปด้วย
"ชั้นน่ะหรอ... ชั้นคือไม่ซิ... ข้าคือเซริ เซริ
เทพผู้อยู่เหนือการเวลายังไงหล่ะ"
"ซะ... เซริ? เทพผู้อยู่เหนือกาลเวลา!?"เมื่อผมพูดจบผมก็เอามือไปจับหน้าผากของตัวเองเหมือนกำลังปวดหัวอยู่
ซึ่งก็ปวดหัวจริงๆนั้นหล่ะ แถม... เทพเซริ... ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
"ในโลกของนายพวกเราไม่มีตัวตนหรอกนะ
เพราะพวกเราไม่ใช่เทพของมิตินี้แต่เป็นเทพที่คอยเดินทางไปยังโลกต่างๆ
เดินทางไปในจักรวาลต่างๆ และมิติพิภพต่างๆ"
"เดินทางไปในจักรวาลแะลมิติภพต่างๆงั้นหรอ? หมายความว่า
เธอเป็นเทพที่อยู่เหนือทุกสิ่งเลยซินะ"
"จะพูดแบบนั้นก็ถูก แต่ชั้นจะขออธิบายสถาณที่ๆนายอยู่ในตอนนี้หล่ะกันนะ
ที่นี้คือ เส้นทางดวงดาว แห่งทางช้างเผือกและที่นี้คือถนนแห่งความตายหรือจะเรียกให้ถูกสำหรับดวงดาวที่อยู่ในเขตทางช้างเผือกคนต้องเรียกว่าเส้นทางแห่งการเกิดใหม่ซินะ..."
"เส้น... ทางแห่งการเกิดใหม่?"ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไหร่
แต่ที่นี้คงจะเป็นสวรรค์สำหรับคนตายแล้วซินะ....
ถึงจะไม่เข้าใจแต่มันน่าจะทำนองนั้นหล่ะนะ
"แล้ว... เธอต้องการอะไรจากฉันกันหล่ะ?""ก็ไม่มีอะไรมากหรอก
แต่ชั้นอยากจะมอบชีวิตใหม่ให้กับนายเป็นชีวิตที่ 2
ของโลกใบใหม่ร่างใหม่ให้กับนายน่ะ ว่าไงจะรับมันไว้หรือจะตายไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าชาติหน้าจะเกิดเป็นอะไรน่ะ"
"เห้อ... ให้เลือกซินะ...
เอาตามจริงมาตายตอนนี้ก่อนที่จะได้วาดมังงะลงซี่รี่มันก้น่าเสียดายเหมือนกัน ถ้าไปเกิดใหม่ก็ต้องเสียความสามารถไปอีก
ถ้างั้น... ขอรับชีวิตที่ 2 ไปเลยหล่ะกันนะ!!!"
"ตัดสินใจได้ดีนี้นา รัฐกาล
แต่ชั้นจะขอบอกนายไว้ก่อนเรื่องนึงนะว่า นายคือคนที่ 2 แล้วที่ชั้นหยิบยื่นโอกาสนี้ให้"
"หืม!? มันหมายความว่าไงกันแน่!!?"
"ถึงเวลาแล้วนายจะได้รู้เอง"เมื่อเซริพูดจบร่างกายของฉันก็ได้สลายหายไปในทันที
เมื่อถึงเวลาแล้วนายจะได้รู้เอง... งั้นหรอ? มันหมายความว่ายังไงกันแน่นะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"งืม~ ที่นี้มัน... ที่ไหนกันเนี่ย...
บรรยากาศด้านนอกมืดจัง..."
"หืม~... เจ้าตื่นแล้วงั้นรึ
มารีแอน"เมื่อฉันตื่นขึ้นมา ฉันก็ได้ยินเสียงของชายคนหนึ่งพูดถึงฉัน...
แต่ว่าฉันนี้ที่หมายถึง มารีแอน? นั้นคือชื่อของฉันในโลกใบนี้ซินะ...
"แล้ว... นาย... เป็นใครกัน? อืม... ปวดหัวจัง
รู้สึกว่าลืมอะไรไปไม่รู้ แล้ว... ฉันเป็นใครกัน?"
"นะ... นี้เธอ... ความจำเสื่อมงั้นหรอ!?"
"อะ... อ่า...
ประมาณนั้นหล่ะ"เมื่อฉันพูดจบชยคนนั้นก็มานั่งข้างๆฉัน แล้ว... ทำไมต้องมานั่งข้างๆฉันด้วยหล่ะเนี่ย? แต่หมอนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรแต่เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่น่าจะเกี่ยวกับตัวตนใหม่ของฉันให้ได้รู้
"อ่า~ เรื่องมันเป็นแบบนี้เองซินะ... แล้วที่นี้มัน...
แดนปีศาจงั้นหรอ? ดูยังไงๆมันก็ไม่ใช่นี้นา?"
"เห้อ~ นี้เธอยังไม่ได้ดูด้านนอกหน้าต่างเลยไม่ใช่รึ?
งั้นก็ดีซะซิ"เมื่อเจ้านั้นพูดจบ เจ้านั้นก็ลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่างออก
เผยให้เห็นสภาพภายนอกห้องที่ฉันอยู่ ด้านนอกท้องฟ้าก็เป็นสีฟ้าปกติๆ บนพื้นดินก็เป็นสีเขียวอ่อนด้านหน้านั้นก้เป้นผืนทะเลอันกว้างใหญ่...
ที่นี้มัน... เป็นเกาะงั้นหรอ!?
"ดูไม่เหมือนดินแดนของปีศาจเลยนะ..."
"ก็แน่อยู่แล้วซิ
เพราะตั้งแต่รุ่นของฉันมาไอปีศาจที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าบนเกาะนี้ก็หายไปหมดเลย
ทำให้แสงมันเข้ามาในเกาะแล้วมันก็เป็นอย่างที่เห็นนี้หล่ะ"
"อืมๆ~ มันเป็นแบบนี้เองซินะ... แล้ว... นาย? รุ่น? นายเป็นจอมมารงั้นหรอ?"เมื่อฉันพูดจบ ฉันก็รีบลุกขึ้นจากเตียงด้วยความตกใจในทันที จะ...
จอมมารจริงๆงั้นหรอ!?
"หืม!? จอมมาร เอ่อ... ไม่ใช่งั้นหรอก
ฉันเป็นมนุษย์ธรรมดาๆน่ะ แต่ฉันมีสายเลือดของจอมมารเลยมีชีวิตได้ประมาณ 3
ร้อยปีน่ะ"
"หืม? นี้นาย... เป็นแค่มนุษย์แต่อายุยืนไปรึป่าว?"
"ก็เหมือนกับเธอนั้นหล่ะ ที่เป็นฮาร์ฟเอลฟ์
อายุยืนยาวกว่าเอลฟ์ปกติ ถึง 4 ร้อยกว่าปี"เมื่อพูดจบฉันก็เดินเข้าไปใกล้กับหมอนั้นใกล้กันจนหน้าแทบจะใกล้ชิดติดกันเลยด้วยซ้ำ
"แล้วตอนนี้ นายไม่คิดจะขยายดินแดนมั้งเลยงั้นหรอ?"
"อ่าๆ~ เรื่องนี้งั้นหรอ? ฉันเข้าใจว่าเธอมีความแค้นกับพวกบริทาเนียกับพวกเอลฟ์แต่ว่า
ตอนนี้คงไม่ได้หรอก"
"หืม!? ทำไมถึงไม่ได้หล่ะ?"เมื่อฉันพูดจบ
ฉันก้ทำหน้าแปลกใจในทันที พร้อมกับเดินไปนั่งลงบนเตียงนอนอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเอามือกุมหัวขมับ
"ถ้าจะให้ฉันพูดในตอนนี้หล่ะก็
พวกเราไม่มีกำลังมากพอที่จะขยายดินแดนไงหล่ะ กองทัพที่ฉันมีอยู่ก็มีแต่ปีศาจที่บินได้
แค่ไม่ถึงเหมื่นเลยด้วยซ้ำไป แล้วอีกอย่างหนึ่งฉันเป็นคนเดียวที่สามารถใช้เอลบัน
ไนร์ได้เธอเองก็ใช้มันได้เหมือนกันและยังมีอีก 3 คนที่ใช้มันได้"
"แล้ว... ไอ้เอลบัน ไนร์ นี้มัน... อะไรกัน?"ฉันพูดถามหมอนั้นในทันทีหลังจากที่หมอนั้นพูดจบ
เอลบัน ไนร์ๆอะไรกัน? ไม่เคยเห็นจะรู้จักเลย
"เอลบัน
ไนร์คือเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างจากชิ้นส่วนของมังกรหรือก็คือ
มีโครงสร้างคล้ายๆกับ ซิลูเอส ไนร์เมื่อกาลนานก่อนไงหล่ะ แต่เอลบัน ไนร์
มีพลังและความสามารถเหนือกว่าซูลูเอส ไนร์ทุกอย่างไงหล่ะ"
"อืมๆ~ มันเป็นแบบนั้นเองซินะ...
น่าสนใจจริงๆนั้นหล่ะ"ซิลูเอส ไนร์ ที่มาจากมังงะเรื่อง Knight &
Magic ซินะ... แต่ว่า... โลกใบนี้มันเป็นยังไงกันแน่นะ?
"เอ่อ... แผนที่โลกใบนี้มีรึป่าวหล่ะ?"
"เอ๋? แผนที่โลกงั้นหรอ? ถ้างั้นก็...
มหาเวทย์ World Maps On"เมื่อหมอนั้นพูดจบก็ร่ายเวทย์อะไรๆซักอย่างออกมาเป็นแผนที่โลกลอยบนอากาศให้ฉันดู
ก่อนที่หมอนั้นจะมานั่งลงบนเตียงข้างๆฉันและชี้นิ่วไปที่แผนที่นั้นๆ
"ด้านบนของเกาะปีศาจ นั้นคือดินแดนของพวกเผ่าคาออส
พวกมันเป็นชนเผ่าป่าเถื่อนๆ... ถึงจะบอกว่าเป็นชนเผ่าแต่พวกมันก็สร้างระบบจัดการแบบขุนนางขึ้นมาเมืองหลวงของพวกมัน
มีชื่อว่า มหานครคาเอนเดีย มีกำลังทหารถึง 5 แสนถึงพวกมันจะไม่มีเอลดัน
ไนร์ก็ตามแต่พวกมันนับถือปีศาจเป็นเทพของพวกมัน ดังนั้นแล้วพวกที่กลายร่างเป็นปีศาจจะมีพลังและอนุภาคเทียบเท่าเอลบัน
ไนร์ 300 เครื่องเห็นจะได้หล่ะมั้งนะ"
"เห้อ~ นี้นายจะอธิบายระเอียดไปรึป่าวน่ะ"
"ก็ต้องละเอียดขนาดนั้นหล่ะ
เพื่อที่จะให้เข้าใจถึงเรื่องราวทั้งหมดว่าทำไมพวกเราถึงไม่ขยายดินแดนไงหล่ะ"เมื่อเจ้านั้นพูดจบ
ในหัวของฉันก็มีความคิดอยู่มากมายสับสนไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนั้นเรื่องนี้
"เอาหล่ะ ต่อไปก็ ตรงนี้คืออาณาจักรบริทาเนียตอนนี้
อาณาจักรนี้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง ตอนนี้เจ้าหญิงอลิสได้ขึ้นเป็นกษัตริของอาณาจักรส่วนน้องสาวอย่างทาเนีย
ตอนนี้กลายเป็น อาร์สดยุคผู้ครองแคว้นใหญ่ทางตอนเหนือของ
บริทาเนียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วและก็ ไอร่า อาร์ส ไบรเซ็นไทร ตอนนี้เป็น อาร์สดยุคทางตอนใต้ของบริทานียปกครองดินแดนและดูแลชายแดนของบริทาเนียและบิสคร็อตตี้และดูเหมือนว่ากำลังมีศึก
2 ทางอยู่ซินะ..."
"หืม~? ศึก 2 ทางงั้นหรอ?"
"ก็ประมาณนั้นหล่ะ...
ตอนนี้บริทาเนียกำลังโดนทัพอ็อคแดงบุกอยู่เจ้าหญิงทาเนียกำลังยันทัพของพวกออร์คแดงอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่ป้อมปราการคาร์มไลร์
ส่วนอีกทางนึงก็ทางทิศตะวันตกที่ป้อมปราการ FYCK(ย่อมาจากอะไรนี้คือคำถาม) น่ะ"เมื่อหมอนั้นพูดจบ
หมอนั้นก็แสดงภาพฉายตามเวลาจริงๆให้ฉันได้ดูแสดงให้เห็นสงครามที่เสียเลือดเสียเนื้อรวมถึงการศูนณ์เสียอีกด้วย
"ส่วนตรงแหลมนี้คืออาณาจักรคาร์มเป็นอาณาจักรเดียวที่เป็นศัตรูกับ
บิสคร็อตตี้และ บริทาเนีย แต่ทั้งสองอาณาจักรก็ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่หรอกก็เพราะมันเล็กน่ะ....
แต่ตอนนี้ทางนั้นกำลังระดมพลโจมตีอาณาจักรเพื่อนบ้านของ บริทาเนียอยู่
น่าจะอีกไม่นานหรอกมั้ง?"
"มันก็....
งั้นๆหล่ะพวกอาณาจักรเล็กๆน่ะต้องทำทุกสิ่งเพื่อที่จะอยู่รอดต่อไปไม่ใช่รึไงหล่ะ?"
"ก็ประมาณนั้นหล่ะ ส่วนบิสคร็อตตี้ตอนนี้กำลังโจมตีแดนอ็อคเขียวอยู่น่าจะใช้เวลาซัก
2 ปีก็น่าจะยึดได้หมดแล้วหล่ะมั้งนะ? แล้วก็อีกอาณาจักรนึงคือโรมใต้ตอนนี้ยกทัพตีโรมเหนือแล้วหล่ะปีหน้าก็คงจะรวมแผ่นดินกันกลายเป็นโรมันแล้วหล่ะมั้ง?"เมื่อหมอนั้นพูดจบอีกแล้ว ผมก็เริ่มเข้าใจมาอย่างนึงคือ ทางด้านขวาของอาณาจักร
บริทาเนียและบิสคร็อตตี้นั้นมีอาณาจักรนึงที่ใหญ่เอามากๆ แต่โดน ดราฟราเกซิส คนเคราะและเอลฟ์ขวางเอาไว้....
นั้นคืออาณาจักรอะไรกันแน่นะ...
"หืม~? อาณาจักรใหญ่ๆนี้คือ จักรวรรดิอัคเครเดีย
เมื่อครั้งหนึ่งประมาณ 80 ปีที่แล้วได้มั้งตอนนั้นจักรวรรดิ์นี้ได้ทำการขยายดินแดนเพื่อที่จะเป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว
แต่กษัตริอาเธอร์ที่ 2 แห่งบริทาเนียได้นำทัพทหารนับเรือนแสนและกองทัพ เอลดัน
ไนร์ร่วม 5 ร้อยเครื่องเข้าสู่การรบ ถึงแม้ว่ากษัตริอาเธอร์ที่ 2
จะเสียเปรียบในด้านกำลังรบแต่เนื่องด้วยว่า กษัตริอาเธอร์ที่ 2 นั้นถือครอง เอลดัน
ไนร์ที่มีชื่อว่า
เอ็มเดลเข้าสู้รบทำให้บริทาเนียได้ชัยชนะในสงครามครั้งนั้นและหลังจากนั้น 6
ปีได้ร่างสนธิสัญญาแวร์ซายขึ้นมาทำให้อัคเครเดียไม่สามารถทำการรบได้ถึง 74
ปีและสนธิสัญญานี้จะหมดในอีก 6 ปีข้างหน้านี้"
"หืม~? ดูเหมือนว่า 6
ปีข้างหน้าจะเกิดศึกครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้งซินะ...."เมื่อฉันพูดจบเจ้านั้นก็พยักหน้าอย่างนั้นก่อนที่จะปิด
World Maps ลงไปและเดินออกจากห้องในทันที
หลังจากที่ได้ฟังจกาเจ้านั้นแล้ว... ฉันรู้สึกได้เลยว่าในอีกไม่นานนัก ในอนาคตข้างหน้านี้
จะมีศึกนองเลือดน่าดู
หมายเหตุ ตอนนี้จะเป็นเรื่องราวหลังจากที่ทาเนียได้เป็นดยุคแล้วซึ่งเนื้อเรื่องก่อนทาเนียจะไปกำศึกที่คาร์มไลรืตะเป็นตอนที่ 10 แทนหล่ะกัน อ่านดีๆนะผมใส่คำถามไว้ในตอนนี้ด้วย
ความคิดเห็น