คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7 ท่านคือมาสเตอร์ของข้าใช่หรือไม่
รู้สึกไม่ค่อยดีเลย เปลี่ยนจาก ผมเป็นฉันเนี่ยรู้สึกเหมือนบทมันแปลกๆ
"งืม~ ที่นี้มัน... ที่ไหนกันเนี่ย?"
"หืม... ตื่นแล้วงั้นหรอ?"
"นายเป็นใคร?"ชั้นพูดถามขึ้นมาในทันทีหลังจากที่ได้สติกลับมาแล้ว
แต่ว่า... ที่นี้มันที่ไหนกันแน่นะ... แล้วไอ้นี้มันอะไรกัน...
"คราวนี้โชคดีชะมัดเลยแฮะ... จับอาร์สดยุคกับเจ้าหญิงลำกับที่ 2
ของบริทาเนียได้แบบนี้น่ะ... ขายได้ราคาดีแน่นอน"
"นี้พวกแก!!! คิดจะขายพวกเรางั้นหรอ!!!"
"ก็ใช่แล้วมันจะทำไมหล่ะ"นี้พวกมันคิดจะขายพวกเรางั้นหรอ...
ถ้าไอ้พวกนั่นขายพวกเรา ให้กับอาณาจักรของศัตรูมีหวังได้โดนฆ่าก่อนขายตัวกลับแน่ๆ
ถ้าเป็นแบบนั้นหล่ะก็มีอยู่ทางเดียวคงจะต้องหนีออกไปจากที่นี้ให้ได้ก่อนหล่ะนะ
แต่... จะหนีไปยังไงหล่ะ?
"เอาหล่ะๆ เด็กอย่างพวกแก 2 คนไม่ถึงกับต้องเฝ้าหรอกมั้ง? งั้นก็อยู่นิ่งๆทำตัวดีๆหล่ะ
ถ้าไม่ตายน่ะ"
"....."ไม่ค่อยอยากจะพูดเลยแฮะ...
ถ้าตาบไปไอ้พวกนี้อาจจะไหวตัวทันก็ได้มั้ง แต่ว่า... ไอ้เชือก? เอ๊ะ? ไม่ใช่เชือกธรรมดาๆงั้นหรอ?
"งืม~ ที่นี้... มันที่ไหนกันเนี่ย?"
"ตื่นแล้วงั้นหรอ ทาเนีย"
"อ่า... ค่ะแต่ว่าที่นี้มัน?"ทาเนียตื่นขึ้นมาพร้อมกับถามชั้น
ในสถาณที่ๆอยู่ในตอนนี้ ชั้นก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากมายแต่บอกไปแค่ว่าพวกเราอยู่ที่ไหนซักแห่งและโดนลักพาตัวมา
"ยะ.... แย่จังเลยนะค่ะ"
"หืม~? เหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยกังวลอะไรเลยนะทาเนีย?"
"ก็ไม่นิค่ะ เอาตามจริงหนูก้คิดไว้แต่แรกแล้วหล่ะค่ะ
ว่าต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเองแน่ๆ แต่หนูไม่คิดว่า พี่ไอร่าก็จะโดนด้วยเหมือนกัน"
"อืม...
นั้นซินะ..."เถียงกับไม่ออกเลยเราดูเหมือนว่าทาเนียจะรุ้อยู่แล้วด้วย
ถ้าเป็นแบบนี้แต่แรกชั้นคงจะไม่ออกมาพร้อมกับทาเนียหรอก
ควรจะออกมาพร้อมกับซิกฟรีสซะมากกว่า
"ขอโทษ....
ขอโทษนะทาเนียที่พี่พาเธอมาเจอกับสถาณะการแบบนี้น่ะ... ขอโทษนะ"
"ไม่ต้องพูดขอโทษหรอกค่ะ แต่ว่า... ใช้เวทย์มนต์ได้ไหมค่ะ?"
"เอ่อ... ไม่ได้น่ะ...
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะโดนเชือกธรรมดาๆมัดมืออยู่ซินะ แถมยังไขว้ไว้ด้านหน้าอีกด้วย
โชคดีจริงๆเลยนะ"
"....?"โชคดีจริงๆนะที่ชั้นใส่ปิ่นปักผมไว้ด้วยน่ะ
ถ้าไม่มีมันหล่ะก็ชั้นกับทาเนียคงจะจบชีวิตกันแค่นี้หล่ะ
"ทาเนียช่วยหยิบปิ่นปักผมออกที ใช้มันตัดเชือกข้อมือเธอซะ"
"ดะ... ได้ค่ะ
พี่ไอร่า"เมื่อทาเนียพูดจบเธอก็ยื่นมือมาหยิบเอาปิ่นปักผมของชั้นออกก่อนที่จะใช้มันตัดหรือคี่เอาเชือกออก
"หล่ะ... แล้วของพี่ไอร่าหล่ะค่ะ?"
"เอาออกไม่ได้น่ะ ไอ้นี้มันต้องใช้กุญแจไขออกน่ะ
ดังนั้นแล้วช่วยหน่อยได้ไหม
ถึงมันจะเสี่ยงแต่พวกเราก็ต้องหนีออกไปจากที่นี้ให้ได้นะ"เมื่อพูดจบทาเนียก็แก้เชือกที่ลัดข้อมือออกจนเสร็จและได้แอบย่องออกจากห้องที่ชั้นและทาเนียโดนจับมาขังเอาไว้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
'อืม... ตอนนี้ฉันคงจะต้องจำกัดการเคลื่อนไหวหรือเสียงหล่ะนะ...
แล้วก็คงจะต้องระวังตัวให้ดีด้วย'
"เห้อ~ อีกแล้วงั้นหรอ"เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหน้าฉันก่อนที่
ฉันจะเดินเข้าไปติดกับกำแพงและยื่นหน้าออกไปเล็กน้อยเพื่อดูว่ามีใครอยู่รึป่าว...
เมื่อฉันยื่นหน้าออกไปเล็กน้อยก็พบหับชายคนหนึ่ง ที่กำลังเดินออกไปข้างนอก
"คะ.... ใครก็ได้ช่วยด้วย!!! ชะ... ชั้นยังไม่อยากตาย!!!
ฮือๆ!!!"
'เอ๊ะ!? นั้นเสียงของเด็กผู้หญิงนี้นา...
ดังออกมาจากห้องนี้ซินะ.... เอาหล่ะ...'เมื่อฉันคิดได้อย่างนั้นแล้ว
ชั้นก็เดินเข้าไปแนบกับกำแพงที่มีเสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังออกมาจากในประตูก่อนที่ฉันจะเอื้อมมือไปเปิดประตูเข้าไป
เมื่อนั้นชั้นก็เห็นเด็กสาวผมสีบลอนต์คนหนึ่งที่โดนมัดแขนมัดขาเอาไว้
"ปะ... เป็นอะไรรึป่าวค่ะ"
"ชะ... ช่วยชั้นด้วยค่ะ"
"จะช่วยเดี๋ยวนี้หล่ะแต่ช่วยเงียบเอาไว้ด้วยนะค่ะ"เมื่อฉันพูดจบฉันก็ใช้ปิ่นปักผมของพี่ไอร่าแก้มัดเชือกออกในทันทีและเด็กสาวผู้มีผมสีบลอนต์ทองคนนั้นก็ได้แนะนำตัวเองให้ฉันรู้
"ขอบคุณที่ช่วยนะ ชั้นมีชื่อว่าเอลซ่า วาริก้า แล้วเธอหล่ะ?"
"ฉันมีชื่อว่าทาเนียน่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"เมื่อฉันพูดจบแล้ว
ฉันก็เอื้อมมือไปหาคนที่ชื่อเอลซ่าให้เธอจับมือของฉันและลุกขึ้นมาจากพื้นไม้นั้น
"แต่ว่า? ทาเนียนี้มันคุ้นๆนะ แต่ว่าก็ช่างเถอะ
แต่ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ไงงั้นหรอ?"
"ออ... ฉันเองก็โดนจับมาเหมือนกันน่ะ"
"เอ๋!? โดนจับ---- อุ๊บ!!!"
"เงียบหน่อยซิ...
เดี๋ยวเจ้าพวกนั้นก็มาหรอก"ฉันรีบเอามือไปอุดปากของเอลซ่าในทันทีและสั่งให้เธอเงียบๆเอาไว้
ถ้าเกิดเสียงดังกว่านี้อีกซักนิดนึงคงจะโดนจับแน่ๆ
"อ่า แล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดีหล่ะ?"
"ฉันกำลังตามหากุญแจอยู่น่ะ"
"หืม? กุญแจงั้นหรอ?"
"ใช่แล้วหล่ะ มันเป็นกุญแจของกุญแจมือที่กันการใช้เวทย์น่ะ
เอลซ่าเธอพอจะรู้รึป่าวว่าอยู่ไหนน่ะ?"ฉันพูดคุยกับเอลซ่าเกี่ยวกับกุญแจของกุญแจมือที่ไอร่าสวมไว้อยู่
ถึงฉันจะมารู้สึกตัวอีกทีนึงตอนที่พี่ไอร่าปลุกชั้นนั้นหล่ะ
"เอ่อ... อ๊ะ! นึกออกหล่ะ ตอนที่ชั้นโดนลักพาตัวมาชั้นได้สติก่อนที่จะโดนเก็บไว้ในห้องนี้
มีห้องอยู่ห้องนึงที่มีกุญแจน่ะ"
"ถ้างั้น... พวกเราก็ไปเอามันกันเถอะนะ"
"อะ.... เอ๋?"เมื่อฉันพูดจบเรื่องทุกอย่างก็เข้าล็อคกันเรียบร้อยแล้ว
ฉันรีบเดินออกจากห้องนั้นในทันที... แต่ว่า
ก่อนที่ทุกอย่างจะไปได้สวยนั้นเองเสียงบิตลูกบิตประตูก็ดังขึ้นมาผมจึงรีบกระซิบให้เอลซ่ากลับไปนั่งอยู่ในท่าเดิมก่อนที่ผมจะเข้ามาช่วยส่วนผมก็หลบอยู่ในมุมมืดของห้อง
"หืม... เมื่อกี้ข้าได้ยินเสียงเจ้าพูดกับใครนะ?"
"เจ้าพุดอะไรกันหล่ะ ข้าพูดคนเดียวต่างหากหล่ะ"
"เหอะๆ ทำเป็นพูดไปเจ้าโกหกอยู่ซินะ"ชายคนนั้นพูดขึ้นก่อนที่จะเดินไปหาเอลซ่าที่กำลังแกล้งทำเป็นโดนมัดเหมือนเดิมนี้ฉันจะเอายังไงดีหล่ะ...
อ๊ะ!!!ไอ้แข็งๆนี้มันอะไรกันเนี่ย? หะ... หินงั้นหรอ!!! ถ้างั้น...
เอาไงเอามันหล่ะ!!!
"เอานี้ไปกินซะ"
"อ๊ะ!!! อึก!!!"เสียงสลบดังขึ้นมา
ก่อนที่ชายคนนั้นจะล้มลงไปกับพื้นเพราะโดนฉันใช้หินแข็งๆตีไปที่ศรีษะของเขาคนนั้น....
หมด... หมดสติแล้วซินะ ไม่คิดเลยว่าแค่นี้จะสลบน่ะ
"เอ๊ะ!? นี้มันกุญแจนี้นาได้โอกาสหล่ะ"
"หืม? จัดการได้แล้วซินะ?"
"ประมาณนั้นหล่ะ แต่... ดูนี้ซิชั้นเจอกุญแจด้วยหล่ะ"
"อ๊ะ!!! ถ้างั้นก็ดีเลยซิ เธอจะไปช่วยคนไม่ใช่หรอรีบๆไปกันเถอะนะ"เมื่อเอลซ่าพูดจบฉันก็รีบหยิบเอากุญแจและรีบวิ่งกลับไปที่ห้องที่พี่ไอร่าอยู่
พร้อมกับเอลซ่าที่วิ่งตามฉันมาด้วย วิ่งทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมาแบบนี้แย่แน่ๆ
ต้องรีบหล่ะ
"พี่ไอร่าค่ะ!!!"
"อ๊ะ!!! เงียบหน่อยซิ!!! เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมันก็มาหรอก!!"
"ไม่ทันแล้วค่ะ!!! ตอนที่มาห้องนี้หนูรีบวิ่งมาน่ะค่ะ
อีกไม่นานพวกมันก็มาแล้วหล่ะค่ะ"ฉันพูดขึ้นมาก่อนที่จะหยิบเอากุญแจในมือมาไขกุญแจมือของพี่ไอร่าอย่างเร่งรีบ
พร้อมกับเสียงวิ่งเข้ามาใกล้ๆเรื่อยๆและดังขึ้นมาทุกทีๆ
"เฮ้ย!!! พวกแก!!! เตรียมตัวไว้ให้ดี!!! ครั้งนี้คงจะมีเจ็บตัวแน่ๆ!!!
อ๊ะ..."
"ด้วยนามแห่งเทพเฮริฟิทัส จงระเบิดพลังแห่งสายลมออกไป Wind Impact"เมื่อพี่ไอร่าร่ายเวทย์จบบทแรงลมก็กระแทกเข้าใส่ชายฉกรรณ์ที่วิ่งเข้ามาในห้องเป็นคนแรก
แรงดันลมทำให้ชายคนนั้นกระเด็นออกไปไกลจนตัวกะเด็นออกจากหน้าต่างไป
"เฮ้ย!!! มีเด็กกำลังจะหนีเว้ย!!! รีบไปจับด่วนเลย!!!"
"ระวังด้วย เด็กพวกนั้นมันบรรลุนิติภาวะกันแล้ว
ระวังเวทย์มนต์ของพวกมันด้วย!!!"บรรลุนิติภาวะในที่นี้คือสามารถใช้เวทย์มนต์ได้แล้ว
อธิบายเพื่อคนที่เข้ามาดูตอนนี้เป็นตอนแรก
หลังจากที่พี่ไอร่าโจมตีใส่ชายฉกรรณ์จนร่างของชายคนนั้นปลิวออกนอกหน้าต่างไปแล้ว
ก็มีเสียงของกลุ่มชายฉกรรณ์จำนวนมากกำลังวิ่งเข้ามาหาพวกฉัน
"เอาหล่ะ ตัดสินใจได้หล่ะ ทาเนียตามชั้นมาหล่ะ
พวกเราจะหลบหนีออกจากที่นี้กัน แล้วตามชั้นมาให้ทันหล่ะ!!!"
"อ่า... ได้ค่ะพี่ไอร่า แต่ว่าจะหนีได้จริงๆงั้นหรอค่ะ?"เมื่อฉันพูดจบพี่ไอร่าก็จับมือของผมและรีบวิ่งออกจากห้องในทันที
โดยที่ไม่รอให้ฉันเตรียมพร้อมก่อนเลย
"ด้วยนามของเทพไพเซมเร่
จงเป็นหอกน้ำแข็งจำนวนมากทิ่มแท็งร่างของพวกมัน Ice Spear!!!"หลังจากร่ายเวทย์จบแล้ว
หอกน้พแข็งนับ สิบก็พุ่งไปโจมตีเหล่าชายฉกรรณ์พวกนั้นจนพสกมันบาดเจ็บจนไม่สามารถไล่ตามพวกฉันได้
ส่วนเอลซ่าก็วิ่งตามฉันและพี่ไอร่ามาติดๆ
.
.
.
.
"แฮ่กๆ!!! รีบๆวิ่งเร็วเข้าซิ!!! ทาเนียเธอด้วยนะ
ยัยหนูผมทอง!!!"
"แต่ว่าๆ... พี่ไอร่าค่ะ พวกหนูจะไม่ไหวแล้วนะค่ะ"
"ไม่ไหวก็ต้องวิ่งนะ
ถ้าไม่วิ่งให้เร็วกว่านี้หล่ะก็เดี๋ยวก็โดนจับอีกรอบหรอก!!! วะ..
ว้าย!!!"เมื่อพี่ไอร่าพูดจบ พี่ก็ล้มลงไปนอนกับพื้นในทันที อาการ...
อาการดูไม่ดีเลยนะแบบนี้น่ะ
"พะ... พี่ไอร่าค่ะ!!! ปะ... เป็นอะไรรึป่าวค่ะ!!!"
"มะ... ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่ใช้พลังเวทย์มากเกินไปหน่อยน่ะ"
"มะ... มากเกินไปหน่อยหรอค่ะ!!! จะฝืนขีดจำกัดมากไปแล้วมั้งค่ะ!!?"ฉันพูดบอกกับพี่ไอร่าไปพร้อมกับพยายามช่วยพี่ไอร่าลุกขึ้นมาจากพื้น
แต่ว่าร่างกายของพี่ไอร่ารู้สึกหนักขึ้นอย่างมาก หนักเป็น 2-3 เท่าเลย
นี้่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?
"แย่หล่ะ!!! ถึงจะเป็นพลังเวทย์ก็เถอะนะ
ถ้าพลังเวทย์หมดแล้วยังขืนใช้พลังเวทย์ต่อไปมากกว่านั้นร่างกายจะรู้สึกหนักขึ้นมาทันทีและถ้าเขินใช้มากกว่านั้นร่างกายจะหนักขึ้นเป็น
3 เท่าและจะมีอาการหอบและเบลอขึ้นมา อย่าบอกนะค่ะว่าคุณไอร่าฝืนทำน่ะค่ะ!!!"
"วะ... ว่าไงนะ!!! นี้พี่ไอร่าฝืนมากไปแล้วนะค่ะ!!!"เมื่อผมพูดจบผมก็ไม่ไหวเลยค่อยๆวางร่างของพี่ไอร่าอย่างช้าๆ
ก่อนที่พวกชายฉกรรณ์พวกนั้นจะตามพวกฉันมาทันและโดนล้อมกรอบอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
"ถ้า... ถ้าเป็นแบบนี้หล่ะก็คงจะมีแต่ต้องลองซินะ...
อึก!!!"
"ทะ... ทำอะไรของเธอน่ะ!!! ทาเนีย ละ... เลือดไหลออกมาแล้วนะ!!!"เอลซ่าพูดขึ้นมาก่อนที่ฉันจะเอาปิ่นปักผมที่แท็งไปที่มือออกมา
อึก!!! จะ... เจ็บชะมัด แต่ก็มีแต่ต้องลองนั้นหล่ะนะ...
ส่วนสื่ออัญเชิญก็ต้องเป็นเลือดของฉันนั้นหล่ะ
"ธาตุเงินและเหล็กก่อรากฐาน
ด้วยหินและพันธสัญญาแห่งขุนนางชั้นสูงสุด"
"ทะ... ทาเนียเธอคิดจะทำอะไรกันแน่?"พี่ไอร่าพูดขึ้นมา
พร้อมกับสีหน้าที่ดูแปลกใจและงุนงง พร้อมกับเหล่าชายฉกรรณ์ที่กำลังตื่นตนกอยู่นั้น
"และสีแดงเป็นสีที่ข้าใช้สังเวย ประตูทั้งสี่ทิศปิดบัง
กำแพงป้องกันสายลมโหมกระหน่ำ ถอดมงกุฎ นำพาสู่สามแนกแห่งอาณาจักร"
"ระ... รีบเร็วก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้น!!!"เมื่อฉันท่องบทเวทย์ไปได้ซักพักหนึ่ง
วงเวทย์ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาบนพื้นที่เลือดของฉันไหลหยดนองอยู่
สองแห่งวงเวทยืส่องสว่างเหมือนจันทรา
และในตอนนั้นเองพวกโจรก็ตัดสินใจที่จะปิดชีพของฉันก่อนที่จะเกิดเรื่องที่พวกมันเสียท่าให้กับฉัน...
แต่ว่า... ฉันไม่ยอมหรอกนะ
"จงมายังวงแหวนแห่งการหยุดยั้ง
สู่หัตถ์ของผู้ปกป้องตราช่างสวรรค์!!!!"
"สะ... แสบตา!!!
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ว่ะ!!!"เมื่อฉันร่ายเวทย์จนจบบทแสงสีทองก็พุ่งขึ้นจากวงเวทย์ที่ผมร่ายเวทย์ขึ้นมา
ก่อนที่เสียงปัดดาบของศัตรูจะดังขึ้นมาและปิวไปติดกับกำแพงบ้านในตอกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นตอกที่พวกฉันโดนลักพาตัวมา
"ข้าขอถาม ท่านคือมาสเตอร์ของข้าใช่หรือไม่?"
"ใช่แล้ว ชั้นคือมาสเตอร์ของเธอ ชั้นมีชื่อว่า ทาเนีย บริทาเนีย
ยินดีที่ได้รู้จัก
เซเบอร์ตลาส"เซอร์แวนที่ฉันอัญเชิญหันหน้ามาทางฉันก่อนที่จะถามว่าฉันคือมาสเตอร์ของเธอใช่หรือไม่
วึ่งฉันก็ตอบไปตามจริงและแนะนำตัวเองให้กับเซเบอร์ได้รู้จัก
"แล้ว ท่าน---"
"เอาไว้ก่อน!!! ตอนนี้ช่วยจัดการกับไอ้พวกโจรพวกนี้ทีจะได้ไหม?"
"หืม~? เจ้าพวกนี้งั้นหรอ? ถ้างั้นคงจะใช้เวลาไม่นานนักหรอก"
"แกหาว่าใครกากฟ่ะ!!!
ไอ้ตัวประหลาด!!!"ชายฉกรรณ์คนหนึ่งพูดขึ้นมาก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปโจมตีเซเบอร์แต่
เธอก็จัดการกับชายคนนั้นโดยไม่ต้องขยับตัวมาก
"หน็อย!!! อย่าไปกลัว!!!
พวกเรามีจำนวนมากกว่าหมาหมู่ไปเลย!!!"
"ถ้างั้น... ก้เข้ามาพร้อมกันตามที่เห่าเลยมา"เซเบอร์พูดประชดเหล่าชายฉกรรณ์พวกนั้น
ก่อนที่จะเกิดการต่อสู้ขึ้นมาแต่ทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่แพ้ให้กับฝีมือของเซเบอร์ในดาบเดียวกันทั้งนั้น
"เอาหล่ะมาสเตอร์ ข้าขอถามที่นี้คือที่ไหน?"
"ที่นี้คือตองที่ไหนซักแห่งในเมืองหลวงน่ะ"
"เมืองหลวงงั้นหรอ?"
"ใช่แล้วหล่ะ... ที่นี้คือเมืองหลวงของอาณาจักรบริทาเนียไงหล่ะ"
"บริทาเนี---- ซินะ"เซเบอร์พูดขึ้นมาพรางเหมือนอยู่บ้านแล้ว
อะไรประมาณนั้น ก่อนที่เธอจะเก็บดาบโดยการสลายมันกลายเป็นปะจุเวทย์มนต์
ไม่ซิเหมือนมันหายไปเองซะมากกว่า
"แล้ว... ท่านใช้อะไรเป็นสื่องั้นหรอค่ะ?"
"ไม่เห็นต้องถามเลยนี้นา? มันก็ต้องเป็นเลือดอยู่แล้วนี้ไงหล่ะ"
"ละ... เลือด... งั้นข้าขอถามท่านคือใครกันแน่มาสเตอร์?"เซเบอร์ถามฉันต่อ
แต่ว่าคำถามมันก็ง่ายซะยิ่งกว่าอะไร แต่ว่าเซเบอร์จะเชื่อรึป่าวนั้นก็อีกเรื่องนึง
"เรามีนามว่า ทาเนีย บริทาเนีย เป็นเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรบริทาเนียแห่งนี้และตอนนี้พี่ของเรา
ท่านพี่อลิสคือผู้นำของอาณาจักรนี้
และนามจริงของเจ้าเซเบอร์เจ้าคือผู้นำคนแรกของอาณาจักรบริทาเนีย
กษัตริอาเธอร์ซินะ"
"ตามนั้นหล่ะ
แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะว่าหลังจากที่ฆ่าตายไปลูกหลานของข้าได้สร้างอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิมแล้วซินะ?"
"อืม... ก็ประมาณนั้นหล่ะมั้งค่ะ
ท่านประถมกษัตริแห่งบริทาเนีย"ผมพูดตอบคำถามของ
อาเธอร์ไปผมก็สั่งให้บรรพบุรุษอย่างเธอช่วยแบกร่างอันหนักอึ้งของพี่ไอร่าและเดินทางกลับพระราชวังส่วนเอลซ่าฉันก็ไม่รู้จะจัดการยังไงดีก็เลยพาเธอกลับมากับฉันด้วย
นอกบทบทเบือนประวัติศาสตร์จริงๆกันหน่อยครับ
ในนิยายของผมขอบิดเบือนประวัติศาสตร์จริงหน่อยคือ อาเธอร์มีลูกกับแลนซาล็อตขุนนางเล็กๆคนนึงของอาเทอร์ซึ่งตอนช่วงที่อาเธอร์กำลังท้องนั้น อาเธอร์ได้อ้างว่าป่วยและใช้เวลานานถึง 4 เดือน(ช่วงท้องเริ่มป่องหล่ะ)เก็บตัวอยู่ในห้องและคลอดลูกสาวที่มีนามว่าอารีอันน่า เธอหวังที่จะให้ อารีอันน่าเติบโตมาเป็นผู้นำที่ดีและหวังว่าเมื่อตนเองตายแล้วจะให้ อารีอันน่าสืบทอดบังลังค์ต่อจากตนเอง แต่เรื่องกับแย่ลงไปอีกเนื่องด้วย 1 ในอัศวินโต๊ะกลมได้บอกว่าตนเองนั้นคือลูกสาวของอาเธอร์กับแม่มดแห่งเมอร์ลินผู้พี่(อันนี้เอาบทตามมังงะเรื่อง Fate/apocalypse)หลังจากนั้นอัศวินหรือลุกสาวของอาเธอร์ได้ออกจากภาคีและอาณาจักรไปเป็นผู้นำกองทัพกบฏ อาเธอร์เห็นท่าไม่ดีนักจึงตัดสินใจให้ แลนซาล็อตสามีของนางพา อารีอันน่าหนีไปเพื่อช่วยชีวิตของสามีของตนเองและลูกสาวแท้ๆของตนเอง หลังจากนั้นก็ตามประวัติศาสตร์เรื่องเล่าอะไรต่างๆนาๆนั้นหล่ะครับ และหลังจากสงครามจบลงอาเธอร์ตายและอาณาจักร บริทาเนียก็ล่มสลายหลังจากนั้น 15 ปีต่อมา อารีอันน่ากลับมากู้ชาติบ้านเมืองอีกครั้งและก่อตั้งราชอาณาจักรบริทาเนียอีกครั้งนึง
[จบ]
ความคิดเห็น