หลังจากเหตุการณ์นั้น หยางหลิวก็เดินทางกลับไปยังภัตตาคารโจวซือ โดยมีลูกน้องของป่ายเฉียนขับรถมาส่งถึงที่ เห็นได้ชัดว่าป่ายเฉียนให้ความสำคัญกับหยางหลิวเป็นอย่างมาก และนี่ก็ยิ่งทำให้หยางหลิวค่อนข้างประทับใจป่ายเฉียนไม่น้อยเช่นกัน
พอหยางหลิวเดินทางมาถึงที่ร้าน เขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับความไม่ปกติบางอย่างที่เกิดขึ้น บริเวณด้านหน้าภัตตาคารโจวซือที่ปกติควรจะไม่มีแสงไฟใด ๆ แล้ว แต่ในตอนนี้ยังคงมีแสงสว่างอยู่ทั่วร้าน แม้ว่าเวลานี้จะเป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้วก็ตาม
ในขณะนี้ลุงโจวซือกำลังเดินกลับไปเดินกลับมา เหมือนกับว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ และในทันทีที่หยางหลิวเดินเข้ามาภายในร้าน ลุงโจวซือก็เห็นหยางหลิวพอดี ฉับพลันดวงตาของลุงโจวซือก็เป็นประกายทันที
ลุงโจวซือเดินเข้ามาหาหยางหลิวด้วยความดีใจอย่างมาก เขายื่นจดหมายซองหนึ่งที่มีตราประทับของ The CC ให้กับหยางหลิว พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันนี้ให้กับหยางหลิวฟัง
ที่แท้ลุงโจวกำลังรอหยางหลิวอย่างใจจดใจจ่อ วันนี้มีแขกผู้ทรงเกียรติท่านหนึ่งมายังภัตตาคารโจวซือ เขาคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาเป็นคนที่หยางหลิวรู้จัก และให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก เขาก็คือนักชิมฟ่งยู่นั่นเอง
อันที่จริงนักชิมฟ่งยู่ตั้งใจจะมาหาหยางหลิวเพื่อพูดคุยธุระบางอย่าง แต่บังเอิญว่าวันนี้หยางหลิวไม่อยู่ เขาจึงขอพูดคุยกับลุงโจวแทน หลังจากที่คนทั้งสองได้พบกัน ฟ่งยู่ก็พูดถึงการจัดการแข่งขันทำอาหารชื่อดังของประเทศ ในงานการแข่งขันครั้งนี้มีปรมาจารย์อาหารแห่งแดนสวรรค์ห้าคน ปรมาจารย์อาหารแห่งแดนปฐพีนับร้อย นอกจากนี้ยังมีคนอื่น ๆ ที่ถูกเชิญเข้าร่วมการแข่งขันอีกเกือบห้าร้อยคน
พวกเขาเหล่านี้ล้วนถูกเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ The CC
แล้วรายการ The CC คืออะไร ?
The CC ก็คือรายการแข่งขันการทำอาหารอย่างหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นรายการทำอาหารที่มีคุณภาพมากที่สุดของยุคนี้ก็ว่าได้ เพราะมันมีทั้งเชฟ นักชิม ดารา หรือแม้กระทั่งนักการเมืองที่มีชื่อเสียงระดับประเทศเข้าร่วมนับพันคน เรียกได้ว่ารายการนี้มีแต่บุคคลสำคัญ ๆ ของจีนมารวมตัวกันที่นี่ นอกจากนี้ในช่วงการทำอาหาร รวมทั้งการแข่งขันก็ยังมีการถ่ายทอดสดทั้งทางโทรทัศน์ และบนอินเทอร์เน็ตอีกด้วย
แล้วทำไมลุงโจวถึงต้องตื่นเต้นขนาดนั้น ? อะไรที่ทำให้นักชิมฟ่งยู่ต้องมาหาหยางหลิวที่นี่ ?
จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไง ก็ในเมื่อนักชิมฟ่งยู่เดินทางมาที่ภัตตาคารโจวซือด้วยตนเอง เพื่อที่จะมอบบัตรเชิญเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ให้กับหยางหลิว !
ถูกต้องหยางหลิวได้รับเชิญให้เข้าร่วมรายการ The CC รายการทำอาหารแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ และยังมีผู้เข้าชมให้ความสนใจเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศอีกด้วย
ถ้าหยางหลิวเข้าร่วมรายการนี้ ถึงแม้ไม่ชนะ อย่างน้อยเขาก็สามารถสร้างชื่อให้กับตนเองได้ ไม่ว่าใครที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้ พวกเขาก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าผลงานของพวกเขาพุ่งกระฉูดจนไปถึงรอบหลัง ๆ รับรองได้เลยว่าทั้งชื่อเสียง และเกียรติยศจะเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
และยิ่งหยางหลิวมีชื่อเสียง ภัตตาคารโจวซือแห่งนี้ก็จะยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีก นี่ไม่ใช่เป้าหมายของลุงโจวหรอกหรือที่ภัตตาคารของตัวเองจะมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของจีน ?
ดังนั้นในตอนนี้ลุงโจวก็เลยดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ความฝันที่เคยทิ้งไปแล้ว อาจจะเป็นจริงได้เพราะหลานชายของเขา หยางหลิว !
หลังจากการลุงโจวบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หยางหลิวฟัง หยางหลิวก็ค่อย ๆ แกะซองจดหมายเพื่ออ่านรายละเอียดต่าง ๆ ในซองจดหมาย
มันเป็นข้อความของรายการ The CC รายการนี้จะจัดการแข่งขันทำอาหารในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่จะถึง ส่วนสถานที่จัดการแข่งขันก็อยู่ไม่ไกลนัก มันอยู่ในเมืองปักกิ่งแห่งนี้ รายละเอียดอื่น ๆ ก็เป็นเพียงรายละเอียดปลีกย่อยไม่ได้บ่งบอกอะไรชัดเจนนัก เล่นเอาหยางหลิวถึงกับงุนงงไปเลยทีเดียว
หลังจากหยางหลิวลองอ่านข้อมูลอย่างรวดเร็ว เขาก็เริ่มมาคิดดูว่าจะตัดสินใจไปแข่งขันดีหรือไม่ เนื่องจากความจริงเขาก็ไม่ค่อยอยากจะไปแข่งขันสักเท่าไหร่ แต่ทว่าทั้งลุงโจวซือ ทั้งนักชิมฟ่งยู่ต่างก็ถือเป็นผู้มีพระคุณของเขา และในเมื่อนักชิมฟ่งยู่เป็นฝ่ายเชื้อเชิญเขาให้ไปถึงขนาดนี้ รวมทั้งตัวลุงโจวเองก็อยากให้เขาไปเช่นกัน ไหนเลยที่หยางหลิวจะปฏิเสธไม่ไปแข่งได้ และในท้ายที่สุดหยางหลิวจึงบอกลุงโจวไปว่าเขาตกลงที่จะไปแข่งขันในรายการนี้ และจะคว้าเอาอันดับหนึ่งมาครองให้ได้ !
เช้าวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม ความจริงแล้วหยางหลิวควรจะได้รับเงินเดือนของเดือนมิถุนายนเมื่อวานนี้ แต่ว่าหยางหลิวต้องไปแข่งขันต่อสู้เมื่อวานที่ร้านเทียนเหมิน เขาจึงไม่สะดวกที่จะรับเงินเดือน ดังนั้นหยางหลิวจึงขอเลื่อนมารับเงินเป็นวันนี้แทน
ลุงโจว และหยางหลิวเข้ามาพูดคุยกัน ในเดือนนี้ภัตตาคารโจวซือได้กำไรมากกว่าเดือนแรกถึงสองเท่าตัว หรือก็คือหนึ่งล้านหยวน !
นั่นทำให้ช่วงนี้ลุงโจวมีอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องที่ช่วงนี้หยางหลิวขอลาหยุดงานบ่อย เขาก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ลุงโจวปล่อยให้หยางหลิวทำตัวตามสบาย อีกทั้งลุงโจวยังคิดจะมอบเงินจำนวนสองแสนหยวนตามที่ตกลงไว้ให้กับหยางหลิวอีกด้วย
ทว่าหยางหลิวกลับเป็นคนปฏิเสธเงินก้อนนั้นไปเสียเฉย ๆ ลุงโจวมอบเงินให้เขาถึงสองแสนหยวน แต่หยางหลิวกลับรับเพียงครึ่งเดียว ครึ่งเดียวเท่านั้น ส่วนสาเหตุ นั่นก็เพราะว่าหยางหลิวตำหนิในเรื่องที่เขาไม่ค่อยได้มาทำงานในช่วงนี้ และอีกอย่างเขาก็ไม่ได้ต้องการเงินมากขนาดนั้นจากลุงโจวอีกด้วย แม้ว่ากำไรที่ได้จะมาจากแนวคิด และสูตรอาหารของหยางหลิวก็ตามที เพราะไม่ว่ายังไงหยางหลิวก็ไม่ขอรับเงินมากไปกว่านี้อีกแล้ว
ลุงโจวเห็นท่าทีหัวแข็งของหยางหลิว เขาไม่ยอมรับเงินท่าเดียว ทำให้ลุงโจวเองก็จนปัญญา แต่ถึงอย่างนั้นลุงโจวก็ยังรู้สึกชื่นชมในตัวหลานชายคนนี้มากโข ลุงโจวรู้สึกได้เลยว่าหยางหลิวเป็นคนที่ดีจริง ๆ ถ้าเป็นเชฟคนอื่นที่มีฝีมือเท่ากับหยางหลิว หรือแม้กระทั่งน้อยกว่า พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่แน่ว่าจะยอมจบแค่เงินเพียงเท่านี้ เผลอ ๆ พวกเขาอาจจะเห็นแก่เงิน จนขอค่าจ้างเป็นครึ่งหนึ่งจากกำไรก็เป็นได้
อันที่จริงแล้วหยางหลิวเองก็ต้องการเงินไม่น้อยเช่นกัน เนื่องจากการที่เขาคิดที่จะเป็นแฟนกับลู่เอิน หรือแม้กระทั่งเรื่องแต่งงานกับเธอ เขาจำเป็นที่จะต้องมีชื่อเสียงเงินทองมากเป็นพิเศษ ตัวเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าต้องมีจำนวนเงินมากน้อยเท่าใดเพื่อให้พ่อแม่ของลู่เอินยอมรับในตัวเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ต้องการเงินจากลุงเขาเพื่อสร้างฐานะให้กับตนเอง
หรือถ้าจะพูดให้กระจ่างหน่อยก็คือ เงินเดือนทั้งสองเดือนนี้เขาเพียงต้องการนำไปใช้กับการศึกษาเล่าเรียนของตนเอง และนำเงินเหล่านี้ไปให้กับครอบครัวของเขาก็เท่านั้น ส่วนในเรื่องการสร้างฐานะของตนเอง เขาก็ค่อย ๆ คิดไปจะดีกว่า
หลังจากหยางหลิวพูดคุยกับลุงโจวเสร็จเรียบร้อย เขาก็ขออนุญาตลุงโจวออกไปข้างนอกอีกหนึ่งวันเช่นเคย ครั้งนี้เขาต้องการจะไปทำธุระสองเรื่อง หนึ่งคือไปหานักชิมฟ่งยู่ พูดคุยถึงเรื่องการเข้าแข่งขันทำอาหารในรายการ The CC และอีกหนึ่งก็คือไปเปิดบัญชีธนาคาร
ลุงโจวเองก็ไม่ได้ว่าอะไรหยางหลิว แถมยังรู้สึกเห็นด้วยอีกต่างหาก หนึ่งเพราะนักชิมฟ่งยู่จะไม่ได้บอกเรื่องการลงทะเบียนเพื่อแข่งขันในรายการ The CC ให้ละเอียดนัก รวมถึงเรื่องรายละเอียดการแข่งขันก็เช่นกัน ดังนั้นจึงจะดีที่สุดที่จะให้หยางหลิวเป็นฝ่ายเข้าไปพูดคุยกับนักชิมฟ่งยู่เพื่อให้หยางหลิวได้เตรียมพร้อมกับการแข่งขันในครั้งนี้ ส่วนเรื่องการเปิดบัญชีธนาคารเขาก็เห็นว่าหยางหลิวควรไปเปิดบัญชีไว้ตั้งนานแล้ว นั่นจึงทำให้ลุงโจวยังแปลกใจไม่น้อยที่เมื่อเดือนก่อนหยางหลิวกลับไม่ได้ไปเปิดบัญชีธนาคารไว้แต่เนิ่น ๆ เพราะเงินจำนวนแสนหยวนที่เขาให้ไปเมื่อเดือนก่อน การพกพาก็ไม่ค่อยสะดวกแถมค่อนข้างยากด้วยซ้ำ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการโดนโจรกรรมอีกด้วย ดังนั้นพอลุงโจวได้ฟังหยางหลิวพูด เขาก็ไล่หยางหลิวให้ไปเปิดบัญชีในตอนนี้เลย
สุดท้ายวันนี้หยางหลิวก็ยังคงไม่ได้ทำงานอีกวัน ตั้งแต่เก้าโมงเช้าเขาก็ไปที่ธนาคารเพื่อทำการเปิดบัญชีของตัวเอง และจากนั้นเขาก็ยังโอนเงินจำนวนหนึ่งแสนหยวนที่ได้มาสด ๆ ร้อน ๆ ให้กับครอบครัวของเขา
เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ทั้งพ่อ แม่ และน้องสาวก็ต่างอยู่ในบ้านด้วยกันทั้งนั้น แต่พอพวกเขาทราบข่าวที่ว่า หยางหลิวโอนเงินจำนวนหนึ่งแสนหยวนมาให้ นั่นจึงทำให้พวกเขาถึงกับตกตะลึงไปโดยปริยาย จากนั้นพ่อของหยางหลิวก็ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า “ เงินพวกนี้ได้มายังไง ไปทำงานอะไรกันแน่ถึงได้เงินเยอะขนาดนี้ ”
พ่อ และแม่ของหยางหลิวต่างก็ไม่เข้าใจว่าหยางหลิวกำลังทำงานอะไรอยู่ ก่อนหน้านี้ที่คุยโทรศัพท์กันหยางหลิวก็บอกแค่ว่าได้เป็นเชฟของภัตตาคารโจวซือแล้ว อีกทั้งลุงโจวซือก็ดูแลเขาดีมาก ๆ ด้วย นั่นจึงทำให้คนในครอบครัวของหยางหลิวต่างพึงพอใจเป็นอย่างมากแล้ว ทว่าเงินจำนวนหนึ่งแสนหยวนที่หยางหลิวโอนมานั่นทำให้พวกเขาถึงกับตะลึงงัน และเกิดความสงสัยขั้นรุนแรง
ณ ตอนนี้พวกเขากำลังคิดว่า หยางหลิวไปทำงานผิดกฎหมายบางอย่างเข้า ทั้งพ่อ ทั้งแม่ต่างเป็นกังวล พร้อมกับดุด่าว่ากล่าวให้หยางหลิวเลิกทำงานแย่ ๆ แบบนั้นซะ โดยที่หยางหลิวทำได้แต่ทนรับฟัง และรอโอกาสที่จะได้พูดแก้ตัว
กว่าคนทั้งสามจะพูดเข้าใจกันรู้เรื่องก็ปาไปเกือบสิบนาที แต่ถึงกระนั้นพ่อแม่หยางหลิวก็ยังคงไม่เชื่ออยู่ดี ในที่สุดหยางหลิวก็คิดหาทางออกได้ เขาบอกให้แม่ของเขาลองโทรไปสอบถามเรื่องราวกับลุงโจวซือดู และให้ลุงโจวซือยืนยันด้วยตัวเอง
และหลังจากที่แม่ของหยางหลิวโทรไปถามลุงโจวซือ คนที่กำลังพูดในโทรศัพท์ก็ร้องถามด้วยความประหลาดใจ
“ อะไรนะ !? หยางหลิวโอนเงินให้หนึ่งแสนหยวน ! ”
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
สำหรับใครที่ขี้เกียจรอ สามารถอ่านได้จากลิงก์ด้านล่างเลยครับผม
แต่ไม่มีความทะเยอทะยานเลย
จะเอามาชื้อทักษะก็ได้
เดี่ยวก็โดนรังแกหรอก
ขอบคุณครับ