“ ถ้าฉันให้โอกาสเธอย้อนกลับไป เธออยากจะกลับไปแก้ไขมันหรือเปล่า ? ” ชายชราเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
แต่หยางหลิวคิดว่าชายชราเพียงแค่ล้อเขาเล่น หยางหลิวเลยตอบกลับไปอย่างไม่คิดอะไร
“ โหยลุง ผมจะกลับไปตอนนี้เลยแหละ ”
“ เธอแน่ใจนะ ” ชายชราเอ่ยถามย้ำ พร้อมกับจ้องมองไปยังหยางหลิว
“ แน่ใจสิลุง ฮ่า ๆ ” หยางหลิวตอบอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งหัวเราะอย่างสบายอารมณ์
เขาเคยเจอคำถามเหล่านี้มาไม่น้อย นี่มันเหมือนมุกตลกที่คนชอบถามกันเล่น
ไม่ว่าใครก็อยากกลับไปแก่้ไขข้อผิดพลาดในอดีตของตัวเองกันทั้งนั้น แต่ทุกคนก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้
“ งั้นก็ได้ ” หลังจากชายชราพูดจบ ชายชราจึงยื่นมือมาแตะที่หน้าผากของหยางหลิวพร้อมด้วยใบหน้าที่จริงจัง ตอนนี้ชายชราดูจริงจังเป็นอย่างมาก หยางหลิวรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ
แต่ก่อนที่หยางหลิวจะได้พูดอะไรออกไป ทันใดนั้นก็มีแสงประหลาด ๆ ออกมาจากชายชรา
ในตอนแรกเขาเพียงเป็นชายชราที่ค่อนข้างแก่ แต่ต่อมาไม่นานร่างกายของเขาก็เปลี่ยนลักษณะไปอย่างสิ้นเชิง เขากลายเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้ากลับไม่มีอะไรอยู่เลย
' นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย ' ภายในเสี้ยววินาทีนั้นก็มีแสงแปลก ๆ บางอย่างพุ่งออกมาจากปลายนิ้วมือของชายชรา ไม่สิ ! ตอนนี้เขาไม่ใช่ชายชราอีกต่อไป เขาเป็นใครก็ไม่ทราบเมื่อมองไปยังใบหน้าก็ไม่มีอะไรที่ติดอยู่เลย ไม่มีทั้งหูตาจมูกปาก !
บรรยากาศในตอนนี้น่ากลัวเป็นอย่างมาก
หยางหลิวไม่สามารถที่จะคาดเดาว่าตอนนี้โลกกำลังเล่นตลกอะไรกับเขาอีก !
หยางหลิวได้แต่คิดในใจ ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากออกมา
จู่ ๆ เขาก็หมดสติลง และแสงที่ออกมาจากปลายนิ้วของชายตรงหน้าเขาพุ่งเข้าไปที่สมองของหยางหลิวอย่างรวดเร็ว
เสียงของใครบางคนกำลังดังขึ้นข้าง ๆ หูของหยางหลิว
“ หยางหลิว ตื่น ๆ นี่หยางหลิว ! ” หยางหลิวลืมตาขึ้นมาอย่างมึนงง เขาสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตอนนี้เขาได้แต่มองไปยังต้นเสียงที่เรียกเขา
“ อ้าว ! จ้าวหาน ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ทำไมมาอยู่แถวนี้ล่ะ ” หยางหลิวมองไปเห็นเพื่อนเก่าสมัยเรียน ม.ปลายด้วยกัน ซึ่งตอนนี้เขาไม่ได้เจอกันนานมากแล้วตั้งแต่ที่เขาเรียนจบ
‘ แปลกแฮะ ทำไมจ้าวหานมันยังดูเด็กเหมือนแต่ก่อน ’ ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น
ก็พลันมีเสียงเรียกเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ แกบ้าหรือเปล่า ไม่ได้เจอกันตั้งนานบ้าอะไรแค่ไปเข้าห้องน้ำเมื่อกี้ อยู่ดี ๆ แกก็หลับไปซะงั้น ” จ้าวหานอดไม่ได้ที่จะด่าเพื่อนของเขา
‘ หืมมม !? เข้าห้องน้ำเมื่อกี้ ’ หยางหลิวรู้สึกได้ถึงคำพูดแปลก ๆ ของเพื่อนเก่า
ขณะนั้นเขาก็ลองหันไปมองดูรอบ ๆ ตัว ‘ ทำไมสถานที่นี้มันคุ้นตาจัง เหมือนโรง… ’ ขณะที่เขากำลังคิด จ้าวหานก็พูดกับเขาอีกครั้ง
“ หยางหลิว แกมองไปทางไหนวะ ” จ้าวหานตะเบ็งสียงใส่เขา น้ำเสียงของจ้าวหานฟังดูมีน้ำโหนิด ๆ เพื่อนของเขาทำตัวค่อนข้างแปลกจริง ๆ
“ ช่างมันเถอะ ” หยางหลิวกำลังจะถามสถานการณ์ในตอนนี้ แต่เขาคิดว่าลองดูสถานการณ์ไปก่อนดีกว่า
“ ว่าแต่เราจะไปไหนต่อล่ะ ” หยางหลิวจึงถามพร้อมทำหน้างุนงงเล็กน้อย
“ เราก็จะไปห้องเรียนของเราไง ไปฟังอาจารย์แนะแนวเรื่องเส้นทางชีวิตในอนาคต ” จ้าวหานกล่าวตอบ พร้อมกับเดินไปข้างหน้า
‘ ห้องเรียน ? เส้นทางชีวิต ? อาจารย์ ? ’
‘ เอ๊ะเดี๋ยวก่อนนะ จะว่าไปแล้วเราก็อยู่โรงเรียน ชุดที่จ้าวหานแล้วก็คนรอบ ๆ ตัวก็เป็นชุดนักเรียน แล้วอยู่ดี ๆ เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ถ้าจำไม่ผิด… ’
ขณะที่กำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน จ้าวหานซึ่งเดินไปได้หลายก้าวหันกลับมาจ้องมองหยางหลิวด้วยแววตาสับสน
' หยางหลิวมันเป็นอะไรของมันวะ ' จ้าวหานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมของหยางหลิว
“ เฮ้ย หยางหลิว แกตามมาฉันได้แล้ว ” สุดท้ายจ้าวหานก็ตัดสินใจตะโกนเรียกหยางหลิวให้รีบตามเขามา
“ โอเค ๆ ฉันกำลังไป ” หยางหลิวจึงกล่าวตอบพร้อมทั้งรีบเดินไปข้างหน้าอย่างว่องไว
เขาเริ่มระลึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาพบชายชราซึ่งก็คือบุรุษไร้หน้า หลังจากเขาเลี้ยงข้าวและพูดคุยกันเป็นเวลานาน จู่ ๆ เขาก็ถูกลำแสงประหลาด ๆ พุ่งผ่านเข้าไปกลางหน้าผากและเขาก็ตื่นขึ้นมาเพราะจ้าวหานเรียก
“ หรือว่าบุรุษไร้หน้าคนนั้นพาฉันย้อนกลับมาจริง ๆ ? ” หยางหลิวพึมพำและรีบเดินตามจ้าวหาน
เมื่อทั้งสองคนเดินมาถึงห้องเรียน ทั้งสองก็นั่งที่หลังห้องซึ่งเป็นที่นั่งประจำของทั้งสอง
หยางหลิวก็ยังคงสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าเขาย้อนเวลากลับมาจริง ๆ
ในเวลาเดียวกันนั้นจ้าวหานก็สะกิดหยางหลิว พร้อมกับชี้นิ้วไปยังเด็กสาวม.ปลายคนหนึ่ง
เธอชื่อว่าลู่เอิน ลู่เอินเป็นผู้หญิงที่สวยมาก มีผิวที่ขาวราวหิมะ และรูปร่างของเธอถึงแม้จะดูบอบบางแต่ก็ไม่ได้อ่อนแอแม้แต่น้อย เธอเป็นคนนี้ไม่ใช่คนที่มีแค่ความงดงาม เธอทั้งฉลาด สง่างาม และเรียนเก่งมาก
ซึ่งใครหลาย ๆ คนก็ได้หมายปองเธอไม่เว้นแม้แต่หยางหลิว อาจจะกล่าวได้ว่าลู่เอินนั้นเป็นรักแรกและรักเดียวของหยางหลิวเลยก็ว่าได้ นี่ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หยางหลิวคิดมากอยู่เสมอเพราะจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ต้องการเป็นเชฟหรอก เขาอาจจะไปเรียนที่เดียวกันกับเธอด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าเพราะหยางหลิวไม่ใช่คนฉลาด ถึงแม้หยางหลิวจะไมได้โง่แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่คนแบบเขาจะสอบเข้ามหาลัยดัง ๆ เดียวกับลู่เอินได้ เมื่อตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะไปสารภาพรักกับลู่เอินแต่เขาก็ถูกความคิดของตัวเองปฏิเสธไป
จะอย่างไรก็แล้วแต่คุณหนูลู่เอินนั้นเป็นผู้ที่สูงส่งโดยแท้จริง แม้พวกเขาทั้งสองจะคบกัน หยางหลิวก็คงไม่สามารถรับปัญหาที่จะตามมาได้เพราะเขาเป็นแค่คนธรรมดา
นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่เขาอยากเป็นเชฟระดับห้าดาว
เพราะถ้าเขาเป็นเชฟห้าดาวได้จริงเขาก็จะมีชื่อเสียงและเงินทองมากขึ้น รวมทั้งมีเกียรติจนสามารถที่จะลบคำครหาต่าง ๆ ต่อตัวเขาและตัวเธอได้
แต่มันก็เป็นความคิดที่ค่อนข้าง "เด็ก" เกินไป
ถ้ามันง่ายดายขนาดนั้นจะมีผู้คนมากมายในโลกต้องเศร้าเสียใจทำไมกัน ?
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
หวังสุงเข้าไว้้้้้้้
ขอบคุณครับ