ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ฝันร้ายกับสิ่งที่ไม่อาจคาดเดา
ตอนที่ 2
--ฝันร้ายกับสิ่งที่ไม่อาจคาดเดา--
“เลิกเรียนแล้วจ้ะ กลับบ้านได้”
อาจารย์พูดพร้อมยิ้มให้นักเรียน
ข้าวฟ่างเดินกลับบ้านพร้อมฉัน เรานัดกันว่าตั้งแต่พรุ่งเราจะไปโรงเรียนพร้อมกัน และกลับบ้านพร้อมกันอย่างนี้ทุกวัน พอถึงบ้านฉันก็เล่าให้แม่ฟังว่าวันนี้ฉันเจออะไรมาบ้าง แม่ยิ้มให้ฉันแล้วบอกให้รีบไปนอนเดี๋ยวจะตื่นสาย ฉันรู้สึกว่าอาจารย์ที่นี่ทุกคนใจดี เพื่อนๆ ก็น่ารัก คงจะเจอแต่เรื่องดีๆ แน่ๆ แต่ทว่าเป็นความรู้สึกที่ประมาทเกินไป........
วันนี้ฉันตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะไม่อยากให้ข้าฟ่างรอนาน เมื่อฉันออกมานอกบ้านฉันเจอข้าวฟ่างยิ้มให้เหมือนเดิมแต่หน้าข้าวฟ่างดูซีด เหมือนคนไม่ได้นอน
“ไม่สบายเหรอจ้ะ ข้าวฟ่าง”
ฉันถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าหรอกจ้ะ รีบไปเถอะ เดี๋ยวสายนะ”
ข้าวฟ่างพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่ฉันก็สังเกตได้ว่าเธอดูกลัวอะไรบางอย่าง
“เป็นอะไรก็บอกกันได้นะ ถึงฉันช่วยจะอะไรไม่ได้แต่อย่างน้อยก็อาจทำให้เธอสบายใจขึ้น”
ฉันพยายาม ถามต่อ
“เอ่อ…เมื่อคืนฉันฝันร้าย มีคนขอให้ฉันช่วย ฉันทั้งหนาวเหมือนถูกขัง และร้อนเหมือนถูกเผา ฉัน…ฉันกลัว เสียงคนพวกนั้นฉันยังได้ยินอยู่เลย”
ข้าวฟ่างพูดเสียงสั่น
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เป็นแค่ฝันนะ ไม่ต้องกลัว”
ฉันพยายามปลอบใจ
“ไปกันเถอะ ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ”
ฉันพูดพร้อมกับจูงมือข้าวฟ่างเดินไปโรงเรียนด้วยกัน เมื่อถึงโรงเรียนจู่ๆ ข้าวฟ่างก็พูดว่า
“หยุดนะ หยุดสิ หยุด ใคร…ใครกัน บอกให้หยุด”
ข้าวฟ่างเอามือปิดหูและพูดคนเดียวอย่างทรมานจนสลบไปที่หน้าโรงเรียน
ฉันตกใจมาก และเรียกให้ภารโรงหน้าโรงเรียนมาช่วยอุ้มไปที่ห้องพยาบาล ไม่มีใครอยู่เลย ฉันนั่งลงข้างเตียงที่ข้าวฟ่างนอนอยู่ มองข้าวฟ่างอย่างเห็นใจ
“เลิกเรียนแล้วฉันจะมาหานะ”
ฉันพูดกับข้าวฟ่างที่กำลังนอนอย่างไม่รู้สึกตัว
พอเลิกเรียนฉันมาหา ข้าวฟ่าง ที่ห้องพยาบาล แต่ไม่มีใครอยู่เลย ทั้งที่รองเท้ายังอยู่ ฉันคิดในแง่ดีว่าบางทีอาจจะไม่ใช่รองเท้าข้าวฟ่างก็ได้ ข้างฟ่างอาจจะกลับไปก่อนแล้ว ทั้งที่ในใจยังหวั่นอะไรบางอย่าง
เย็นมากแล้ว ฉันรีบกลับบ้านเพราะช่วงนี้เป็นฤดูหนาวฟ้ามืดเร็ว พอเดินไปซักพักได้ยินเสียงเหมือนคนเดินตาม ทีแรกนึกว่าเป็นข้าวฟ่าง แต่พอหันหลังกลับไป กลับไม่มีใครอยู่เลย วินาทีนั้นฉันรู้สึกกลัวอย่างประหลาด พลันสายตาก็เหลือบมองขึ้นไปบนท้องฟ้า พระจันทร์เต็มดวง ฉันเจ็บตรงข้อมือขวาอีกแล้ว แสงของพระจันทร์ทำให้ฉันมองเห็นรอยจางๆ ที่ข้อมือขวา คล้ายเครื่องหมายกากบาท
-T-O--B-E--C-O-N-T-I-N-U-E
--ฝันร้ายกับสิ่งที่ไม่อาจคาดเดา--
“เลิกเรียนแล้วจ้ะ กลับบ้านได้”
อาจารย์พูดพร้อมยิ้มให้นักเรียน
ข้าวฟ่างเดินกลับบ้านพร้อมฉัน เรานัดกันว่าตั้งแต่พรุ่งเราจะไปโรงเรียนพร้อมกัน และกลับบ้านพร้อมกันอย่างนี้ทุกวัน พอถึงบ้านฉันก็เล่าให้แม่ฟังว่าวันนี้ฉันเจออะไรมาบ้าง แม่ยิ้มให้ฉันแล้วบอกให้รีบไปนอนเดี๋ยวจะตื่นสาย ฉันรู้สึกว่าอาจารย์ที่นี่ทุกคนใจดี เพื่อนๆ ก็น่ารัก คงจะเจอแต่เรื่องดีๆ แน่ๆ แต่ทว่าเป็นความรู้สึกที่ประมาทเกินไป........
วันนี้ฉันตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะไม่อยากให้ข้าฟ่างรอนาน เมื่อฉันออกมานอกบ้านฉันเจอข้าวฟ่างยิ้มให้เหมือนเดิมแต่หน้าข้าวฟ่างดูซีด เหมือนคนไม่ได้นอน
“ไม่สบายเหรอจ้ะ ข้าวฟ่าง”
ฉันถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าหรอกจ้ะ รีบไปเถอะ เดี๋ยวสายนะ”
ข้าวฟ่างพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่ฉันก็สังเกตได้ว่าเธอดูกลัวอะไรบางอย่าง
“เป็นอะไรก็บอกกันได้นะ ถึงฉันช่วยจะอะไรไม่ได้แต่อย่างน้อยก็อาจทำให้เธอสบายใจขึ้น”
ฉันพยายาม ถามต่อ
“เอ่อ…เมื่อคืนฉันฝันร้าย มีคนขอให้ฉันช่วย ฉันทั้งหนาวเหมือนถูกขัง และร้อนเหมือนถูกเผา ฉัน…ฉันกลัว เสียงคนพวกนั้นฉันยังได้ยินอยู่เลย”
ข้าวฟ่างพูดเสียงสั่น
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เป็นแค่ฝันนะ ไม่ต้องกลัว”
ฉันพยายามปลอบใจ
“ไปกันเถอะ ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ”
ฉันพูดพร้อมกับจูงมือข้าวฟ่างเดินไปโรงเรียนด้วยกัน เมื่อถึงโรงเรียนจู่ๆ ข้าวฟ่างก็พูดว่า
“หยุดนะ หยุดสิ หยุด ใคร…ใครกัน บอกให้หยุด”
ข้าวฟ่างเอามือปิดหูและพูดคนเดียวอย่างทรมานจนสลบไปที่หน้าโรงเรียน
ฉันตกใจมาก และเรียกให้ภารโรงหน้าโรงเรียนมาช่วยอุ้มไปที่ห้องพยาบาล ไม่มีใครอยู่เลย ฉันนั่งลงข้างเตียงที่ข้าวฟ่างนอนอยู่ มองข้าวฟ่างอย่างเห็นใจ
“เลิกเรียนแล้วฉันจะมาหานะ”
ฉันพูดกับข้าวฟ่างที่กำลังนอนอย่างไม่รู้สึกตัว
พอเลิกเรียนฉันมาหา ข้าวฟ่าง ที่ห้องพยาบาล แต่ไม่มีใครอยู่เลย ทั้งที่รองเท้ายังอยู่ ฉันคิดในแง่ดีว่าบางทีอาจจะไม่ใช่รองเท้าข้าวฟ่างก็ได้ ข้างฟ่างอาจจะกลับไปก่อนแล้ว ทั้งที่ในใจยังหวั่นอะไรบางอย่าง
เย็นมากแล้ว ฉันรีบกลับบ้านเพราะช่วงนี้เป็นฤดูหนาวฟ้ามืดเร็ว พอเดินไปซักพักได้ยินเสียงเหมือนคนเดินตาม ทีแรกนึกว่าเป็นข้าวฟ่าง แต่พอหันหลังกลับไป กลับไม่มีใครอยู่เลย วินาทีนั้นฉันรู้สึกกลัวอย่างประหลาด พลันสายตาก็เหลือบมองขึ้นไปบนท้องฟ้า พระจันทร์เต็มดวง ฉันเจ็บตรงข้อมือขวาอีกแล้ว แสงของพระจันทร์ทำให้ฉันมองเห็นรอยจางๆ ที่ข้อมือขวา คล้ายเครื่องหมายกากบาท
-T-O--B-E--C-O-N-T-I-N-U-E
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น