bombombom
@bombombom
ตอนนี้ยังไม่มีคำขอเป็นเพื่อน
มีเพื่อนๆ เล่น My.iD อีกเยอะเลย ลองไปดูกันเถอะ
dummyaliasname
@dummyusername
dummymsg
ตอนนี้ยังไม่มีข้อความลับ
ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งเตือน
เล่าเรื่องราวของคุณหรือสิ่งที่สนใจผ่านการตั้งกระทู้ ถ้ามีเพื่อนๆ มาตอบจะได้รับการแจ้งเตือนด้วยนะ
เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อรับแจ้งเตือนบทความมาใหม่ในหมวดที่คุณสนใจ
ตอนนี้ได้ติดตามบทความเรียบร้อย
เมื่อบทความที่ติดตามอัปเดตจะแจ้งเตือนทันที ขอให้สนุกกับการอ่านบทความนะครับ
คุณยังไม่ได้ตั้งรหัสผ่านในบัญชีของคุณ
ตั้งรหัสผ่านตอนนี้เพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านได้
ค่าเริ่มต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สวัสดีค่ะ พบกันอีกแล้ว... วันนี้จะขอนำเสนอการสร้างบทละครเวทีด้วยการสร้างตัวละครกันค่ะ อา...แค่ฟังก็น่าสนุกกันแล้วใช่ไหมละคะ สำหรับเรื่องนี้ต้องบอกว่าไม่ยากเลยจริงๆ เพราะมันค่อนข้างจะไม่ต่างจากการสร้างตัวละครสำหรับนวนิยายสักเท่าไหร่เลยค่ะ หากการสร้างตัวละครสำหรับละครเวทีจะแตกต่างตรงในส่วนเรื่องของเวลาแสดง และตัวนักแสดงเข้ามาเป็นหลักสำคัญค่ะ
ขั้นแรก เราต้องหาวิธีให้ได้ค่ะ ว่าเราเขียนบทอย่างไรให้คนดูเข้าใจนิสัยของตัวละคร โดยเราอาจหาวิธีสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
กำหนดนิสัย จุดที่จะทำให้ตัวละครในเรื่องแตกต่างกันก็คือ “นิสัย” นี่ล่ะ เพราะฉะนั้นควรระวังและปูฐานนิสัยของตัวละครแต่ละตัวให้ดี เพราะมันส่งผลต่อเนื้อเรื่องทั้งหมด
สร้างภูมิหลัง มนุษย์ทุกคนย่อมมีอดีตตัวละครก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีปมหรือเรื่องราวในอดีต เหตุการณ์ในปัจจุบันก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะไม่มีแรงจูงใจพอที่จะกระทำลงไป หากอยู่ๆ ตัวละครเราก็เกิดนึกอยากฆ่าใครสักคนด้วยเหตุผลที่ไม่หนักแน่นก็จะทำให้คนดูเบื่อ และรู้สึกว่ามันไม่ใช่ของจริง! การจะทำให้ตัวละครของเราสมจริง เราจึงควรต้องสร้างปม สร้างเรื่องราวต่างๆ บ่มเพาะนิสัย ความคิดของตัวละครมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นตัวตนในปัจจุบัน เช่น เหตุการณ์ในอดีตทำให้สูญเสียบุคคลที่รัก และความเปลี่ยนแปลงไปของบุคคลใกล้ชิดทำให้เธอหันหลังให้พระเจ้า ภายใต้ความนุ่มนวลเรียบร้อยนั้น จิตใจของเธอได้ถูกความมืดกลืนกินโดยสมบูรณ์และพร้อมที่จะทำลายทุกคนที่เข้ามาขวางทางเธอ!
มีคำพูดติดปาก จุดนี้ถือเป็นเอกลักษณ์อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ตัวละครของเราโดดเด่นขึ้นมาอีกระดับชั้น และจุดนี้เองที่จะเป็นการสื่อให้คนดูได้รู้จัก และเข้าใจตัวละครนั้นมากขึ้น หรืออาจให้ตัวละครมีคำพูดติดปากเป็นคีย์เวิร์คสำคัญของเรื่องก็ได้ อย่างเช่น ตัวเอกของเรื่องนี้ชอบพูดว่า “ถ้าแม่ยังอยู่ ทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้” แอบเป็นการชวนให้คนดูรู้สึกเอ๊ะใจว่า แล้วถ้าเธอไม่พอใจสถานการณ์ในตอนนี้ แล้วเธอจะทำไงล่ะให้เป็นอย่างที่เธอหวัง
สร้างเอกลักษณ์ด้วยนิสัย สี หรือสิ่งของ บางตัวละครเราอาจรู้สึกว่ามันธรรมดาไป เราอาจใช้สีเพื่อเน้นบุคลิกของตัวละคร หรือเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้สิ่งของเข้าช่วยด้วยก็ได้ เช่น เด็กสาวเอมิลี่เป็นคนติดตุ๊กตาเด็กผู้หญิง เธอมักชอบพกมันไปไหนมาไหนด้วยเสมอ
ท่าทาง ท่าทางแสดงออกถึงนิสัยอีกทางหนึ่งได้เช่นกันซึ่งการที่ตัวละครจะแสดงท่าทางออก มาได้นั้น นักเขียนต้องคิดด้วยว่าเขากำลังอยู่ในอารมณ์แบบไหน ต้องการอะไร และด้วยนิสัยของตัวละครนั้นจะทำให้เขาแสดงท่าทางออกมาแบบไหน เช่น เด็กสาวเอมิลี่มักจะแสดงอาการใช้มีดแทงตุ๊กตาที่ตัวเองเล่นซ้ำๆ เมื่อต้องการสื่อให้เห็นถึงความต้องการลงโทษคนชั่ว
การแต่งตัว การแต่งตัวสื่อให้เห็นถึงนิสัย และรสนิยมของตัวละคร ยิ่งถ้าเป็นแนวเรื่องเฉพาะ เช่น เทพนิยาย ยุคไทยในอดีต ยุควิคตอเรีย เป็นต้น การแต่งกายจะเป็นการสร้างสีสันให้คนดูอินกับบรรยากาศ สามารถเข้าถึงอารมณ์ได้มากขึ้น
จากที่กล่าวไปนั้นถือเป็นพื้นฐานของการสร้างนิยายทั่วไปอยู่สักหน่อย งั้นเรามาเข้าเจาะลึกกันสักนิดดีกว่านะคะ ว่าตัวละครในละครเวทีมันเหนือชั้นว่านิยาย หรือเรื่องสั้นทั่วไปอย่างไร
การสร้างปมให้ตัวละครทำให้ละครเวทีน่าสนใจมากขึ้น หรือใส่แรงจูงใจของทุกตัวละคร หากเป็นบทแนวฆาตกรรมจะยิ่งเป็นการเพิ่มความท้าทายให้คนดูได้เดาคนร้ายต่างๆนานา เพราะทุกคนมีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง ดังนั้นจงผลักดันการกระทำของตัวละครนั้นออกมาให้คนดูต้องติดตามอยากรู้ว่าทำไมเขา หรือเธอถึงต้องทำแบบนี้...
ผลักดันสิ่งภายในออกสู่การแสดง ละครเวทีไม่สามารถเสนอ หรือเล่าแง่มุมภูมิหลังของตัวละครออกมาได้หมดเหมือนนิยาย-เราจึงต้องเขียนให้ตัวละครแสดงภูมิหลังออกมาผ่านทางการกระทำ แววตา คำพูด หรือการปฏิบัติตัวกับคนรอบข้าง
เลือกใช้ประโยคคำพูดให้เหมาะกับนิสัย วัยวุฒิ และอาชีพ ที่สำคัญคือต้องไม่มีใครมายืนนิ่งในฉากๆ นั้น ยกตัวอย่าง คาร์ลเป็นผู้ชายพราวเสน่ห์ คารมดี อาชีพเจ้าของโรงพิมพ์ทำให้กว้างขวาง : ประโยคพูดจึงต้องค่อนข้างอวดดี ยโส และปากหวานเฉพาะผู้หญิง เช่น “มาหาภรรยาผมแต่เช้า งานการนี่ไม่ทำแล้วหรือไงกัน หืม?”
เลือกนักแสดงให้ตรงกับคาแรคเตอร์ของตัวละคร จุดนี้สำคัญมากทีเดียว เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยเจอนักแสดงที่ดูแล้วรู้สึกว่าไม่ตรงคาแรคเตอร์นางเอกเรื่องนี้เอาซะเลยกันบ้างใช่ไหมละคะ ถ้าไม่อยากให้เรื่องของตัวเองเป็นแบบนั้น เราก็ต้องมีการคัดเลือกนักแสดงก่อนค่ะ
การออกแบบพื้นที่แสดง ควบคุมจำนวนตัวละครต่อฉากๆ หนึ่งไม่ให้มากเกินไป และวางตำแหน่งยืน ท่าทาง การเดินของตัวละครให้ดี - นักแสดงไม่ควรหันหลังให้คนดู แต่ต้องมีปฏิสัมพันธ์/สบตากับคนดู - หากตัวละครมีจำนวนเยอะพยายามมาร์คตำแหน่งยืนให้สมดุล - อย่าปล่อยให้กลางเวทีว่างพยายามเดินให้ผ่านศูนย์กลางเวทีเสมอ
ไม่ควรใช้ตัวละครเปลืองโดยไม่จำเป็น เพราะจะเป็นการรกเวทีและชวนให้คนดูสับสนความสัมพันธ์ของตัวละครอีกด้วย-ขอแนะนำให้พยายามสร้างความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงของตัวละครทุกตัวที่มีอยู่ในเรื่อง โดยเราอาจป้องกันการสับสนของความสัมพันธ์ตัวละครด้วยการสร้าง พงศวดาร หรือก็คือแผนผังความสัมพันธ์ภายในครอบครัว
หรือเพื่อให้เห็นภาพ และเข้าใจคาแรคเตอร์ของตัวละครมากขึ้น เราอาจทำตารางลักษณะนิสัยของตัวละครขึ้นมาค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับบทความเกี่ยวกับการสร้างบทละครเวที ตอนที่2 เริ่มเห็นความสนุกกันแล้วใช่ไหมล๊าา เตรียมพบกับตอนหน้า...ตอนสุดท้ายแล้ว เราจะมาสอนการเขียนบทไดอะล็อกกันค่ะ รับรองว่าสนุก และได้รับความรู้อย่างเต็มที่แบบที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนอีกแล้วค่ะ (ขนาดนั้น???) ฮ่าๆ แล้วจะรู้ว่านักเขียนบทละครเวทีไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป...
ขอขอบคุณรูปสวยๆ จาก www.facebook.com/toontonie www.facebook.com/multistage5 www.facebook.com/MultiStageBangmod
ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด
อีบุ๊ก ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น