ตอนที่ 5 : ข้อความลับ
ตอนที่5ข้อความลับ
ฉันกำลังเดินสำรวจไปมาในไร่ระหว่างที่มีพี่น้ำกับป้าจ๋าช่วยกันเดินเก็บผลส้มอยู่ข้างๆ
“อ้าวหนูตุ๋นไม่ร้อนหรอจ๊ะ”
“ไม่ค่ะป้าจ๋า..วันนี้เป็นไงบ้างคะได้เยอะไหมคะ?”
“อ่อเยอะเลยจ้าป้าคิดว่าปีนี้น่าจะลูกดกกว่าปกตินะเนี่ยเป็นเพราะหนูตุ๋นมาช่วยทำปุ๋ยแน่ๆเลย”
“ไม่ใช่ตุ๋นหรอกค่ะสงสัยเป็นเพราะปีนี้มีหน้าหนาวแหละค่ะ”
“ตุ๋น...”
“คะ?พี่น้ำ”
“เมื่อไรจะมีแฟนคะเนี่ยอยู่คนเดียวไม่เหงาหรอ?”
“เพี๊ยะ...ลูกคนนี้พูดอะไรแบบนี้เนี่ยอย่าถือสาไอ้น้ำมันเลยนะจ๊ะตุ๋น”
“ไม่เป็นไรค่ะ...ตุ๋นยังไม่ได้คิดอะไรหรอก”
“งั้นป้าขอตัวไปเก็บส้มฝั่งนู้นก่อนนะจ๊ะ”
“ค่ะแล้วเจอกันตอนค่ำนะคะ”
หลังจากปลีกตัววิเวกออกมาฉันก็เดินดูไร่ไปเรื่อยเปื่อยจนมีเสียงแชทดังขึ้นระรัว
“ติ๊ง..ติ๊ง..ใครทักไรมาเนี่ย”
*เป็นยังไงบ้างคะสบายดีไหม..เอ่อพี่มีอะไรจะขอได้หรือเปล่า..สิ้นปีนี้พี่จะไปหานะคะ*
“ใครเนี่ยทักมา..โรคจิตหรือเปล่า”
*ไม่ทราบว่าเป็นใครหรอคะ?*
*Pไงคะหมู จำไม่ได้จริงๆหรอ*
*ไม่เลยค่ะแล้วอีกอย่างคุณรู้ชื่อเล่นฉันได้ยังไง*
*เราเคยเจอกันตอนเด็กๆไงคะ บู่วคนใจร้ายจำเค้าไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะเดี่ยวPจะไปหาเองสิ้นปีนี้เจอกันนะคะจุ๊บ*
*โรคจิต..*
ฉันรีบกดปิดเครื่องหนีทันทีตอนเห็นข้อความแปลกนั่นทักมา พี่คนนี้เป็นใครแถมยังรู้ชื่อเล่นฉันด้วยแต่เคยเจอกันตอนเด็กๆทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลยนะ
“เคยเจอตอนเด็กๆ....”ฉันทำได้แค่ยืนสะบัดหัวไล่ความคิดนี่ออกไปก่อนจะมุ่งหน้าไปขึ้นรถเตรียมกลับไปที่บ้านใหญ่อีกครั้ง
ระหว่างขับกลับมาฉันก็ไม้เริ่มที่จะแวะไปดูไร่องุ่น ช่วงนี้หน้าหนาวไม่รู้ว่ามีผลเสียอะไรไหมคราวที่แล้วอากาศร้อนจัดจนต้นองุ่นตายไปเยอะเลยแหะ
“ปริ๊นๆ...พี่มีนมีอะไรไหมคะ?”
“คะ?น้องตุ๋น..ไม่มีหรอกค่ะยังดีนะค่ะที่ปีนี้ต้นแข็งแรงกว่าคราวก่อน”
“ค่ะ..งั้นตุ๋นกลับไปบ้านใหญ่ก่อนนะคะ”
“ค่ะขับรถดีๆนะ”
พี่มีนทำหน้าที่ดูแลไร่องุ่นในโซนนี้ทั้งหมดส่วนพี่น้ำจะเป็นคนดูและสวนส้มให้ ส่วนฉันก็ทำหน้าที่เป็นคุณหนูตัวป่วนโผล่ไปทุกทีแล้วก็ไปป่วนคนอื่นไปเรื่อย แต่ทำไงได้งานหลักๆฉันมีแค่ดูแลไร่นี่แทนป๊าที่คุมแก๊งอยู่ญี่ปุ่น
“บรืน....เอี๊ยด..”ดับเครื่องยนต์เรียบร้อยระหว่างกำลังจะก้าวขาเดินเข้าบ้านไปพี่ป่านก็มายืนทักรับหน้าประตูซะแล้ว
“อ้าวตุ๋นกลับมาแล้วหรอ...”
“ยังไม่กลับเลยพี่แค่ขับรถมา...”
“อ่อๆ...งั้นพี่ไปหาไรกินต่อแหละหิวมากกกกกก”
“ไม่ได้กินข้าวเที่ยงหรอพี่?หรือไม่พอกิน”
“ได้กินสิ..แต่ไม่หมีใจร้ายมาแย่งกินแฮะ...ไม่อิ่มเลย..หาวววว..”
“หมี?ไม่อิ่ม?...อะไรเนี่ยหลีกๆตุ๋นจะไปหาไรกินหิวใจจะขาดแล้ว”
“คร้าบๆเจอกันที่โต๊ะนะ”
“อือ..”ฉันหยักหน้ารับเบาๆระหว่างเดินไปที่ครัวหาป้านวลที่กำลังทำกับข้าวก้มๆเงยๆ
“ป้านวลลลลลทำอะไรกินคะหอมจังเลย”
“ของโปรดคุณหนูของป้าไงคะ”
“ของโปรดๆเย้..งั้นตุ๋นไปนั่งรอนะคะถ้าเสร็จก็บอกได้”
“ค่า...”
ฉันเดินยิ้มแก้มปริมานั่งที่โซฟาระหว่างรออาหารเสร็จ พอว่างมากก็เปิดทีวีหาไรดูไปเลยแทนที่จะตั้งมานั่งหาวหวอดๆไปมากับตัวเองจนน้ำตาเล็ด
“รายงานข่าวสดค่ะ”
“เอ่อ..คุณมาเน่อร์ครับ ขอสัมภาษณ์หน่อยครับ ว่าทำไมคุณถึงวางแผนจะบินกลับไทยภายในสิ้นปีนี้กันครับ
”ปล.ข่าวต่างประเทศแบบมีซับไทย
“เพราะอะไรน่ะเหรอ ฉันจะกลับไปหาคู่หมั้นน่ะสิ..”
หญิงสาวคนนี้ ชื่อ คลาสมาร์ โรส มาเน่อร์ นักธุรกิจสาวหมื่นล้าน เจ้าของ สวนองุ่นชื่อดัง โรงแรมและอื่นๆ ประเทศสเปน ได้ข่าวในว่าเป็นลูกสาวผู้มีอิทธิพลในเมืองss
“หืม? คู่หมั้นอยู่ที่ไทย 0.0)!!”ฉันถึงกับลุกพรวดขึ้นนั่งอย่างไว
“เอ่อ..คุณมาเน่อร์คะ แล้วน้องสาวฝาแฝดของคุณล่ะคะ?”
“กลับมาถึงแล้ว เมื่อวานนี้น่ะ”เธอยืนกอดอกเชิดหน้ามองเหล่านักข่าวที่รุมล้อม
“เอ่อ..คุณมาเน่อร์ครับ แล้วคู่แข่งของคุณล่ะครับ”
“สงครามน้ำลาย ของพวกหมาบ้าหิวเงินไง”เธอยืนตอบคำถามด้วยน่าเบื่อหน่าย
“แล้วคู่หมั้นคุณ อายุเท่าไหร่ครับ?”
“....”เธอทำได้เพียงยืนนิ่งเงียบ และเดินออกไปขึ้นรถคู่ใจ
“หลีกทางหน่อยครับ คุณมาเน่อร์จะไปแล้ว”
“คุณมาเน่อร์คะ/คุณมาเน่อร์ครับ”
“บรืนนนนนน” รถจากัวร์คันสีดำวิ่งชิ่วออกไปด้วยความเร็ว
นักข่าวหลายคนทำได้เพียงถอนหายใจเบาๆ
“อุส่าห์นึกว่าจะได้ข้าวเด็ดๆไปขึ้นหน้าหนึ่งอีกแล้วเชียว”นักข่าวคนนึงบ่น
“แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ ก็เธอเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อเมืองนี้นี่”
“ต้องรีบจัดสกุ๊ปข่าวเด็ดๆ จะได้เลื่อนขั้นไวๆสักที”
พิธีกรหันกล้องแอบถ่ายนักข่าวที่จัดวงสนทนาเบาๆ โดยไม่รู้ว่าโดนแอบถ่ายออกอากาศ แล้วกล้องก็ตัดจบหันมาที่หน้าพิธีกร
“ขอจบการสัมภาษณ์ข่าว ถ่ายทอดสดเพียงเท่านี้นะครับ”
“เฮ้อ ลุงตู--- แถลงข่าวจบย้างน้า ปิ๊บ”
“*ร้อนแรง แซงนรก*ชื่อรายการข่าว ขอคั้นรายการข่าวค่ะ สิ้นปีนี้นักธุรกิจหมื่นล้าน คลาส โรส มาเน่อร์ จะบินมาไทย เพื่อมาหาคู่หมั้นค่า อู้ววว ใครกันน้อคือคนโชคดีคนนั้น ไม่เคยรู้มาก่อน----ปิ๊บ”
“หญิงสาวรวยล้นฟ้าและการมาไทยแบบฟ้าลั่นสั่นสะท้านทั่วประเทศ”
จะคิดยังไงก็แปลกพิลึกจะตายที่ต้องมานั่งดูข่าวแปลกๆแบบนี้แต่ก็นะเค้าคงจะมาเที่ยวแหละมั้งก็ไทยน่าเที่ยวนะแต่อันตรายมากไปหน่อย หวังว่าคงจะไม่โดนโกงจนหมดตูดหรอกมั้ง
“คิดไรคะ?”
“คะ?เปล่าหรอกพี่ป่าน ว่าแต่ส้มโอล่ะพี่”
“อ่อพี่เอาไปส่งบ้านแล้ว....”
“อ่อ..งั้นไปกินข้าวกันเถอะป้านวลเรียกแล้ว”
“อื้อๆ”
วันนี้ก็นั่งกินข้าวแบบปกติสุขเช่นทุกวันไม่มีอะไรผาดโพนลิงโล้ด ทุกๆค่ำฉันจะชอบออกไปที่ระเบียงก้องแล้วยืนมองดูดาวไม่ก็ท้องฟ้าที่มืดครื้มละลมหนาวที่พัดวูบวาบเล่นเอาซะจนขนแขนลุกพรึ่บๆ
“ฟู่...หนาวชะมัดอาบนน้ำนอนดีกว่า...บรื๋อ”
สุดท้ายแล้วก็ยังคิดเรื่องปริศนาไม่ออกว่าคนที่ชื่อPคนนั้นเป็นใครและรู้ชื่อฉันด้วย ประเด็นหลักๆคือเราเคยเจอกันด้วยหรอ
“ถ้านึกออกก็ดีสิ...”บอกกับตัวเองก่อนจะนอนหลับลงไปอย่างอ่อนเพลัยจากการทำงานมาทั้งวัน คงไม่มีอะไรดีกว่าการนอนอีกแล้วล่ะมั้งเนี่ย
จนแล้วจนรอดจนเช้าฉันตื่นมาก็ยังคงนึกอะไรไม่ออก ยิ่งคิดก็มีเพียงความงงงวยเต็มไปหมด ณ ตอนนี้เวลานี้
ระหว่างยืนแต่งตัวใส่เสื้อผ้าสายตาเจ้ากรรมก็ดันไปเหลือบมองเห็น แหวนวงเล็กๆที่ทำมาจากเถาวัลย์สีน้ำตาลแตกๆวางบนกล่องสมุดรูปภาพเดิม
“แหวนนี่...มาจากไหนกันนะ”
ฉันถึงกับยืนชะงักไปพักนึงตอนจับแหวนนี่ ก่อนจะนึกเรื่องเล็กๆออกแล้วตอนนี้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
