ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (YAOI) Reclaim love ทวงคืนรัก #เลฟ้า

    ลำดับตอนที่ #1 : คนที่หายไปจากชีวิต

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 65


    ตอนที่ 1 คนที่หายไปจากชีวิต

    BY BLACKAPPLE

    “SKY”

    ถ้าจะให้พูดถึงความทรงจำที่แสนสวยงามของผมมันคงต้องย้อนกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้วตอนผมอายุสิบสามปีช่วงวัยมัธยมต้นของผมกับบ้านที่แสนอบอุ่นมันและเพื่อนสนิทที่แสนดีคนนั้น....

    “ท้องฟ้าวันนี้สวยมากเลยนะ ทะเล”

    คำพูดในวันวานมันยังตราตรึงในห้วงของความรู้สึกของผมไม่มีวันจางหายแต่นั่นมันก็เป็นแค่อดีตที่น่าจะเป็นผมคนเดียวที่เป็นฝ่ายจดจำ

    “แบบนี้เรียกชมตัวเองรึเปล่า”

    “ทะเลวันนี้ก็สวยเหมือนกัน”

    ตอนนั้นผมจำได้ว่าผมพูดด้วยความรู้สึกแบบไหนตอนนั้นมันใจฟูมากจนผมเองก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่คนที่ยืนข้างๆ ผมตอนนั้นเขาทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองแม้ตอนนั้นจะยังเด็กแต่ผมก็รู้ว่าความรักคืออะไรจะบอกว่าผมชอบเพื่อนสนิทตัวเองก็ได้ผมไม่เถียงเพราะทะเลของผมเขาแสนดีเกินกว่าใครๆ แม้นิสัยจะติดเย็นชาไปหน่อยแต่สำหรับผมเขาอบอุ่นมากเลยทีเดียว

    “ใครบอกว่าทะเลสวย ทะเลหล่อต่างหาก”

    คนตัวสูงกว่าหันมาพูดกับผมด้วยรอยยิ้มทำให้ผมอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ตอนนี้เรายืนกันอยู่ริมทะเลหน้าบ้านของผมเองส่วนบ้านของทะเลอยู่หลังข้างๆ ที่เนื้อที่ค่อนข้างห่างกันพอสมควร

    “อันนี้ไม่เถียงเพราะทะเลของฟ้าเนี่ยหล่อที่สุดในโลก”

    ผมว่าอย่างเอาใจจนทำให้โดนอีกคนผลักหัวหนึ่งทีไม่รู้ว่าหมั่นไส้หรืออะไรแต่ผมชอบนะเวลาโดนหยอกล้อแบบนี้ถ้าให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่เราได้เป็นเพื่อนกันก็คงมันก็คงเริ่มจากที่เราเป็นเพื่อนบ้านกันนั่นแหละบ้านเกิดของผมอยู่ที่นี่ผมเกิดและโตที่นี่ส่วนทะเลพึ่งย้ายมาอยู่ตอนเราขึ้นปอหนึ่งพอดีตอนแรกก็ไม่สนิทหรอกเพราะอีกคนนิ่งมากจนผมไม่กล้าเข้าหาแต่พอเราได้เจอกันทุกวันแถมยังเรียนอยู่ที่เดียวกันอีกมันเลยทำให้เราสนิทกันมากและมันก็ทำให้ผมได้รู้ว่าอีกคนนั้นแสนดีขนาดไหนทะเลแสนดีจนผมคิดเกินเพื่อน

    “ปากหวานแบบนี้อยากได้อะไร”

    “อยากให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป”

    คำพูดของผมทำเอาคนข้างๆ หุบยิ้มลงทันตามันยิ่งทำให้ผมใจเสียอย่างห้ามไม่อยู่นี่ทะเลไม่ได้คิดเหมือนผมงั้นหรอ

    “ไม่มีใครอยู่คำฟ้าหรอกนะ”

    “ทำไมทะเลพูดแบบนั้น”

    “สักวันเราจะต้องเติบโตไปในเส้นทางของใครของมัน เข้าใจรึเปล่า”

    “...”

    แม้ว่าผมจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ทะเลพูดแต่ผมก็พยักหน้ารับไปผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทะเลถึงพูดแบบนั้นทะเลพูดเหมือนเราจะไม่ได้เจอกันอีก

     

    ใช่ เราไม่ได้เจอกันอีกเลย.......

     

    ปัจจุบัน

    “ครูฟ้า”

    เสียงของนักเรียนตัวน้อยทำเอาผมถึงกับหลุดออกจากห้วงความคิดที่ผมนึกถึงไม่เคยเปลี่ยนพอได้ยินเสียงใสๆ ของนักเรียนตัวน้อยมันทำให้ผมต้องหยุดเรื่องทุกอย่างในหัวเพื่อมาสนใจเด็กชายตัวเล็กตรงหน้าแทน

    “ว่าไงครับ ใบพลู”

    ผมขยับนั่งลงยองๆ ตรงหน้าใบพลูนักเรียนประจำชั้นประถมศึกษาปีที่สามที่ผมเป็นที่ปรึกษาอยู่

    “ผมมาส่งการบ้านครับ”

    “น่ารักจังเลย มาส่งก่อนเพื่อนด้วย”

    “ใบพลูเก่งมั้ยครับ”

    “ใบพลูเก่งที่สุดเลยครับ”

    ผมเอ่ยชมนักเรียนของตัวเองพร้อมกับส่งยิ้มไปให้เด็กน้อยยิ้มรับผมก่อนจะยกมือไหว้แล้ววิ่งไปหาเพื่อนๆ ในกลุ่มที่เล่นอยู่กลางสนามฟุตบอลอย่างไว เมื่อกี้ผมคิดถึงเรื่องนี้อีกแล้วงั้นหรอทำไมยังไม่ลืมซักทีนะทั้งๆ ที่เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วมันนานมากนานเหมือนตายจากกัน

    “ยืนเหม่ออะไรหรอครับครูฟ้า”

    ผมหันไปส่งยิ้มให้ครูผู้พันครูรุ่นราวคราวเดียวกับผมเราย้ายมาโรงเรียนนี้พร้อมกันครูผู้พันเป็นครูสอนดนตรีส่วนผมเป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ที่ตัดสินใจมาสอนที่นี่ผมก็มีครูผู้พันเป็นเพื่อนได้คอยปรึกษาบ้างเพราะผมมาไกลบ้านผมอยู่ติดทะเลแต่ผมกลับมาสอนโรงเรียนที่อยู่ตีนเขาของอีกภาคของประเทศจะเรียกว่าเป็นครูอาสาก็ได้เพราะโรงเรียนห่างไกลความเจริญแบบนี้ไม่ค่อยมีใครอยากมาซักเท่าไหร่หรอก

    “เปล่าหรอกครับ ผมก็ยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย”

    ผมตอบด้วยรอยยิ้มดังเช่นปกติเหมือนอย่างที่เคยทำปกติผมเป็นคนยิ้มง่ายอยู่แล้วผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเข้ากับคนง่ายคนนึงเลยหละ

    “คิดถึงแฟนหรอครับ”

    “มีให้คิดถึงก็ดีสิครับ”

    ใจผมหม่นลงอย่างห้ามไม่อยู่แม้จะรู้ว่าคนที่ผมอยากเรียกว่าแฟนเขาไม่เคยรู้เลยว่าความรู้สึกผมมันเป็นยังไงอีกอย่างเรามันก็แค่เด็กอายุสิบสามในตอนนั้นมันจะไปมีความรู้สึกที่เรียกว่ารักได้ยังไงจริงมั้ย

    “งั้นแบบนี้ผมก็พอมีโอกาสสิครับ”

    “ครูผู้พันครับ”

    ผมเรียกเพื่อนร่วมงานด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกทันทีว่าผมลำบากใจถึงแม้ว่าคนตรงหน้าจะหน้าตาดี สุภาพ สมาร์ต ดูดีไปหมดทุกอย่างแถมยังเก่งรอบด้านก็เถอะแต่ผมไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้นกับเขาเลยแม้เราจะรู้จักกันมาเกือบปีแล้ว

    “ถ้ายังไม่ถึงคิวผมก็ไม่เป็นไรครับผมรอได้”

    “อย่ารอเลยครับ”

    “ครูตัดโอกาสผมแบบไม่มีเยื่อใยเลยนะครับเนี่ย”

    ครูผู้พันยังคงยิ้มให้ผมเหมือนเดิมเพียงแต่มันไม่เต็มเปี่ยมเหมือนก่อนหน้านี้ความจริงผมก็ไม่อยากจะใจร้ายอะไรหรอกนะแต่ผมไม่อยากให้ความหวังใครยิ่งกับคนที่ดีกับผมมาตลอดและผมก็มองว่าเขาเป็นเพื่อนคนนึงผมจะไม่มีทางให้ความหวังเขาเด็ดขาดเพราะผมรู้ว่าการถูกตามใจถูกคอยช่วยเหลือมาตลอดหรือการทำให้คนอื่นเขารู้สึกดีเนี่ยมันเป็นยังไงผมเคยเป็นแบบนั้นแล้วตอนนี้เป็นยังไงหละเจ็บไม่หายจนมาถึงทุกวันนี้

    “ผมยังอยากมีเพื่อนแบบครูผู้พันนี่ครับ”

    ผมยืนคุยกับครูผู้พันซักพักก่อนจะถึงเวลาเข้าแถวของเด็กนักเรียนโรงเรียนที่ผมมาสอนที่นี่เป็นโรงเรียนไกลบ้านมีเด็กไม่ถึงห้าสิบคนเลยด้วยซ้ำแถมครูที่นี่ก็มีแค่สามคนรวมผมด้วยแถมเด็กที่มาเรียนทุกคนฐานะทางบ้านไม่ดีครอบครัวไม่มีเงินส่งไปเรียนโรงเรียนในเมืองเลยส่งเด็กๆ มาที่นี่ส่วนผมพึ่งเรียนจบครูยังไม่อยากสอบบรรจุเพราะที่บ้านไม่สนับสนุนให้เรียนด้านนี้พ่อผมอยากให้เรียนเกี่ยวกับบริหารด้วยความที่ที่บ้านผมมีกิจการโรงแรมและรีสอร์ตท่านอยากให้ผมไปสานต่อกิจการของท่านแต่ก็นั่นแหละผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวของผมเท่าไหร่แต่ผมก็ค่อนข้างจะรู้เรื่องเกี่ยวกับการบริหารโรงแรมนะเพราะพ่อกับแม่สอนผมผมเลยคิดว่าต่อให้ผมไม่เรียนบริหารผมก็สามารถดูแลธุรกิจต่อจากพ่อได้เหมือนกันตอนที่ผมตัดสินใจมาสอนที่นี่พ่อกับผมมีปากเสียงกันนิดหน่อยท่านบอกผมว่าหากผมอยากเป็นครูก็ให้ไปสอนโรงเรียนใกล้บ้านจะได้ดูแลกิจการช่วยท่านได้แต่เข้าใจผมมั้ยว่าผมสนใจโรงเรียนนี้เพราะที่นี่ไม่มีอะไรเลยผมอยากมาช่วยพัฒนาโรงเรียนนี้เพราะครูส่วนใหญ่เขาไม่มาที่นี่กันหรอกแม้จะมีน้ำไฟใช้ไม่ขาดแต่สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ หรือแม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อก็ยังอยู่ไกลจากที่นี่มากหลายสิบกิโลอยากซื้ออะไรซักอย่างก็ต้องขับรถไปซื้อในเมืองเอาและแน่นอนว่าความสัมพันธ์ของผมกับพ่อมันไม่ดีเท่าไหร่แม้ว่าอยากจะขอความช่วยเหลือจากท่านเรื่องงบประมาณการพัฒนาโรงเรียนแห่งนี้ผมยังไม่กล้าครั้นจะรองบจากส่วนกลางอย่างเดียวมันก็มาช้าซะเหลือเกิน

    ผมลืมแนะนำตัวเองรึเปล่านะ ผมหน่ะท้องฟ้า ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ตั้งแต่เกิดด้วยความที่มีบ้านอยู่ติดทะเลตื่นเช้าขึ้นมามองออกไปนอกบ้านก็เจอฟ้าสีครามที่สวยพอๆ กับทะเลสีเดียวกันแต่น่าแปลกที่พวกท่านไม่ได้ตั้งชื่อผมว่าทะเลทั้งๆ ที่ทะเลมันมองเห็นง่ายกว่าท้องฟ้าด้วยซ้ำไม่ต้องแหงนมองให้เมื่อยคอด้วยแต่ก็นั่นแหละชื่อท้องฟ้ามันก็เพราะไปอีกแบบผมชอบชื่อนี้ด้วยอีกอย่างชื่อทะเลมันเหมาะกับอีกคนมากกว่าคนที่บางทีก็นิ่งขรึมเหมือนน้ำทะเลที่คลื่นสงบบางทีก็ดุร้ายราวกับคลื่นทะเลยามมีพายุเข้า นี่ผมยังมัวแต่คิดถึงเขาอีกหรอเนี่ยทั้งๆ ที่คนคนนั้นเขาหายไปจากชีวิตผมมาเป็นสิบปีแล้วนะไม่มีแม้แต่จะบอกลาหรือแม้แต่จะติดต่อมาให้หายคิดถึงก็ยังดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×