ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ TWST x KHR ] กรรมการคุมกฎกับเหล่าว่าที่สามีตัวร้าย

    ลำดับตอนที่ #3 : III

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 65


    03

    < คัดเลือกหอ? เอาผมกลับไปเถอะ >

     

     

     

     

    [ โถงกระจก - พิธีปฐมนิเทศ ]

     

    “ ไม่ใช่ครับ! ”

     

    คราวลีย์ที่เพิ่งเดินมาถึงตะโกนคัดค้าน ส่วนฮิบาริก็เดินตามอยู่ข้างหลังด้วยใบหน้านิ่งเรียบ แต่มุมปากกลับยกยิ้มขึ้นมานิดนึงเพราะประโยคที่บุคคลในห้องโถงเอ่ยออกมา

     

    “ อ๊ะ! มาแล้ว ”

     

    ชายผนุ่มเรือนผมสีแดงกล่าวพลางเหลือบมองไปที่บุคคลปริศนาข้างหลังอาจารย์ใหญ่ด้วยความสงสัย

     

    “ ให้ตายสิ นักเรียนเข้าใหม่หายไปคนหนึ่งเลยออกไปตามหาน่ะครับ ”

     

    คราวลีย์เอ่ยแก้ความเข้าใจผิด ก่อนจะเอ่ยต่อว่า

     

    “ เอ้า คนที่ยังไม่ได้คัดเลือกหอก็เลยแค่เธอแล้วนะครับ ทานุกิคุงเดี๋ยวผมจะดูให้เอง รีบไปยืนหน้ากระจกแห่งความมืดสิครับ ตัวเล็ก

     

    ‘‘ ตัวเล็ก? ’’ เหล่านักเรียนต่างมีความคิดเดียวกัน รวมถึงฮิบาริด้วย

     

    เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยห้ามอีกฝ่าย ทำให้คราวลีย์นั้นยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ และคึกหนักยิ่งกว่าเดิม ซึ่งฮิบาริก็ไม่ได้สนใจเพราะปลงกับอีกฝ่ายแล้ว

     

    จงบอกนามของเจ้ามา

     

    หน้ากากในกระจกแห่งความมืดเอ่ยกับฮิบาริ

     

    “ …สโนว์ไวท์? ”

     

    แต่เขากลับโฟกัสผิดจุด และเผลอพูดชื่อของสโนว์ไวท์ออกมาตามที่ตนเองคิด

     

    ‘ ทำไมกระจกนี่ถึงเหมือนในเรื่องสโนว์ไวท์เลยล่ะ? ’

     

    น-นี่เจ้าเป็นใครกัน! ทำไมถึงรู้ชื่อของเด็กสาวคนนั้น!!

     

    ในขณะที่คนอื่นสงสัยว่านั่นคือชื่อของเขาจริงเหรอ กระจกแห่งความมืดกลับตื่นตระหนก และตะโกนถามฮิบาริด้วยความตกใจ ทำให้คนอื่นๆ ในห้องโถงต่างอยากรู้อยากเห็นว่าเด็กที่กระจกแห่งความมืดกล่าวคือใคร

     

    “ เรื่องจริงสินะ.. แต่ช่างมันเถอะ ”

     

    ฮิบาริกล่าวตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเอ่ยนามของตนออกไป

     

    “ ฮิบาริ เคียวยะ ”

     

    “ ฮ-ฮิบาริ เคียวยะ … !!! ”

     

    กระจกแห่งความมืดทวนชื่อของเขาซ้ำอย่างตะกุกตะกัก ก่อนจะตกใจกับอะไรบางอย่าง มันเสตาไปมองฮิบาริอย่างไม่เชื่อสายตา

     

    “ … ” นี่เจ้าเป็นมาเฟียจากโลกอื่นอย่างงั้นรึ?

     

    “ … ” แล้วแต่จะคิด

     

    “ … ” จะอนุญาตให้ข้าประกาศว่าเจ้ามาจากต่างโลกไหม?

     

    “ … ” ไม่ต้อง …

     

    ทั้งสองสื่อสารกันทางสายตาราวกับว่าสนิทสนมกันมานาน โดยที่มีฉากหลังเป็นทุกๆ คนที่ยืนงงอยู่ในโถงกระจก ยกเว้นฮิบาริ กับกระจกแห่งความมืด

     

    อา.. ทราบแล้ว

     

    “ อืม ดีมาก ”

     

    หลังจากสื่อสารกันทางสายตาจบ ทั้งสองก็เอ่ยบางอย่างที่ดูเหมือนว่ากำลังทำข้อตกลงกันอยู่ ทิ้งให้คนอื่นเก็บไปคิดเล่นๆ ว่าสิ่งที่ทั้งสองคุย (?) กัน เกี่ยวกับเรื่องอะไร

     

    เอาล่ะ! … รูปลักษณ์แห่งจิตวิญญาณของเจ้า-- ข้าไม่รู้

     

    “ ว่าไงนะครับ? ”

     

    ทันทีกระจกแห่งความมืดกล่าวจบ คราวลีย์ก็เอ่ยขัดขึ้นมาราวกับว่าตนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลยพลางขมวดคิ้วแน่นเพื่อเพิ่มความสมจริง

     

    ข้าสัมผัสถึงคลื่นพลังเวทมนตร์ของคนผู้นี้ไม่ได้เลย ทั้งสี ทั้งรูปลักษณ์ ทั้งหมดว่างเปล่า

     

    “ ห้ะ?! แล้-- ”

     

    แต่ทว่าคนผู้นี้กลับมีบางสิ่งที่คล้ายๆ กับเวทมนตร์อยู่ … มันมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับเปลวเพลิงสีม่วง ดูทรงพลัง และแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ไม่มีหอไหนที่เหมาะสมกับคนผู้นี้เลย! ”  

     

    ข้าไม่แนะนำให้พาคนผู้นี้ไปอยู่หอร่วมกับผู้อื่น …เพราะเขารู้ข้อมูลมาก-- มากเกินไป จนอาจทำให้โชคชะตาเปลี่ยนแปลงไป

     

    หลังจากที่กระจกบานเดิมป่าวประกาศกับทุกคนแล้วว่าไม่มีหอไหนที่เหมาะสมกับฮิบาริ และไม่ควรให้อยู่ร่วมกับผู้อื่น มันก็กล่าวประโยคหลังอย่างแผ่วเบา แต่ฮิบาริที่อยู่ตรงหน้ากลับได้ยินเกือบทุกคำ 

     

    ประโยคนั้น ทำให้เขาสงสัย แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพียงแค่ยืนอย่างใจเย็น ผิดกับนักเรียนคนอื่นๆ ที่กำลังถกเถียงกันอยู่ ในขณะที่คราวลีย์ทำเป็นกล่าวอะไรบางอย่างออกมาด้วยความตกใจ 

     

    แต่เขาก็ไม่แม้แต่จะชายตาไปมองด้วยซ้ำ

     

    ‘ ข้อมูล? โชคชะตา? ’

     

    ให้ตายสิ … มีปริศนาเข้ามาอีกแล้ว

     

    คิดได้ไม่ทันไร ก็ต้องหงุดหงิดอีกครั้งเพราะเสียงของทานุกิ (?) เจ้าเก่าเจ้าเดิม

     

    “ แง่มๆ … ฮ่า! ”

     

    มันดิ้นหลุดจากพันธณาการของคราวลีย์ ก่อนจะตะโกนขึ้นมาด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ว่า

     

    “ งั้นที่ว่างนั่นน่ะ เอามาให้ข้าคนนี้เลยนะ! ”

     

    หลังจากที่มันกล่าวจบแล้ว ก็ตั้งท่าเตรียมพ่นไฟทันที

     

    “ หยุดเลยนะ! เจ้าทานุกินี่! ”

     

    “ …พูดแบบนั้น แล้วมันจะหยุดให้คุณไหมล่ะครับ!! ”

     

    คราวลีย์ตะโกนใส่กริมม์ โดยมีนักเรียนใหม่คนหนึ่งตบมุกกลับด้วยความขำขัน

     

    “ ข้าใช้เวทมนตร์ได้! ไม่เหมือนเจ้ามนุษย์นั่น! เพราะงั้นให้ข้าเข้าโรงเรียนแทนซะ!! ”

     

    “ จะให้ข้าโชว์เวทมนตร์ให้ดูตอนนี้เลยก็ได้นะ!! ”

     

    กริมม์ยังคงพล่ามต่อไปด้วยความกระตือรือร้น พร้อมกับตั้งท่าเตรียมพ่นไฟ โดยที่ไม่รู้เลยว่า … ตนนั้นกำลังจะทำให้คนๆ หนึ่งพิโรธเอาซะแล้ว

     

    “ ทุกคนหมอบลง!! ”

     

    “ ฟุเนี๊ยะ! ”

     

    ฟู่ววว

     

    สิ้นเสียงของชายหนุ่มผมแดง กริมม์ก็พ่นไฟออกมาทันที 

     

    “ หวา ร้อนๆ ไฟไหม้ก้นแล้ว! ”

     

    “ ถ้าเป็นอย่างนี้ โรงเรียนได้กลายเป็นทะเลเพลิงแน่! ใครก็ได้จับทานุกินั่นหน่อยครับ! ”

     

    คราวลีีย์ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย โดยที่ไม่ได้คิดเลยว่า ตนนั้นเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ ทำไมไม่จัดการเอง?

     

    ซึ่งเมื่อคราวลีย์กล่าวจบ ในสายตานักเรียนทุกคนก็พลันเห็นตัวอักษรใหญ่ๆประทับอยู่บนหน้าของอาจารย์ใหญ่ว่า

     

    ‘ ไร้ ความ รับ ผิด ชอบ ’

     

    ถ้าคราวลีย์รู้ เขาคงเสียใจ (?) แย่ แต่ด่าอาจารย์ใหญ่คนเดียวคงจะไม่ใช่ไนท์เรเวนคอลเลจ เพราะทางหัวหน้าหอก็กำลังถกเถียงกันอยู่ หรือ ถ้าจะให้กล่าวตามตรงก็คือ การโบ้ยกันไปโบ้ยกันมา นั่นแหละ

     

    “ ชิ! เหนื่อยใจ ”

     

    “ อ้าว!? เก่งเรื่องล่านักไม่ใช่เหรอ? ของว่างอ้วนๆ กลมๆ เลยนะนั่น ”

     

    “ ทำไมฉันต้องไป? แกจัดการสิ ”

     

    ชายหนุ่มผู้มีหูสิงโตบ่นออกมา ก่อนจะถูกกล่าววาจาเหน็บแหน็บใส่ โดยชายหนุ่มหน้าหวาน

     

    “ อาจารย์คราวลีย์ ไว้ใจผมได้เลยครับ ”

     

    “ สมแล้วที่เป็นนาย อาซูล วิธีแอบหาทางเพิ่มคะแนนเสริมมาแล้ว-- ”

     

    ตัดมาอีกทาง ชายหนุ่มเรือนผมสีม่วงดันแว่นให้เข้าที่พลางกล่าวกับคราวลีย์ด้วยความมั่นใจ ทำให้แท็บเล็ต (?) หมั่นไส้ และกล่าวเหน็บแหน็บไป 

     

    ซึ่งสถานการณ์ไม่ต่างจากสองคนก่อนหน้านี้ …

     

    “ นี่ ใครก็ได้มาช่วยฉันดับไฟที่ตูดหน่อยได้ไหม!? ”

     

    ท่ามกลางเหล่าหัวหน้าหอที่กำลังปะทะฝีปากกันอย่างไม่ยอมใคร ก็ได้มีชายหนุ่มที่สวมผ้าโพกหัวตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ

     

    แต่ด้วยความสงสาร สมเพช หรืออะไรก็ไม่ทราบ ฮิบาริได้เดินเข้าไปหาชายคนนั้น ก่อนจะออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวที่ไม่เปลี่ยนแปลง

     

    “ นอนลงไป ”

     

    เพียงเอ่ยประโยคสั้นๆ ชายหนุ่มอีกคนก็ทำตามที่ฮิบาริสั่ง โดยอัตโนมัติ

     

    ตู้ม!

     

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายลงไปนอนแล้ว เขาก็ทำการเตะไปที่หน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของชายผิวสีคล้ำ ร่างของผู้ถูกกระทำลอยไปกระแทกกำแพง ทำเอาเหล่าพยานที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันซี้ดปากให้กับความรุนเเรงของฮิบาริ

     

    … แต่ถึงอย่างงั้น ก็ราวกับว่าพวกเขาเห็นคนบ้า คนบ้าที่กำลังยืนขอบคุณชายหนุ่มที่เตะตนไปชนกำแพง จนกำแพงยุบด้วยท่าทางร่าเริง แม้ว่าบนศีรษะของเขาจะมีน้ำแดงไหลลงมาไม่หยุด ..อืม น้ำแดง ถึงจะไม่รู้ว่าเอามาจาก-- 

     

    --เดี๋ยวนะ!

     

    “ กรี๊ดดดด~ เลือดไหลจากหัวของหัวหน้าหอไม่หยุดเลย!! ”

     

    ทันทีที่คิดได้ หนึ่งในนั้นก็กรี๊ดออกมา โดยไม่สนเพศสภาพของตนอีกต่อไป 

     

    เหล่านักเรียนคนอื่นๆ รวมถึงชายหนุ่มผิวสีคล้ำคนเดิม หัวหน้าหอ กริมม์ และอาจารย์ใหญ่ ยกเว้นฮิบาริ ก็เริ่มสังเกตน้ำแดงนั่นด้วยความพินิจพิเคราะห์ จนในที่สุดก็ได้รู้ว่ามันคือ … เลือด

     

    กรี๊ดดดดดดด~~~

     

    กรีดร้องพร้อมกัน ก่อนจะเป็นลมไปบางส่วนพร้อมกับเจ้าของเลือดที่สลบเหมือด โดยมีหน่วยพยาบาลหามร่างของชายคนนั้นออกไปอย่างขยันขันแข็ง และมีฮิบาริมองตามด้วยความงุนงง แต่กลับยืนอย่างกล้าหาญไม่หวั่นไหวกับเลือด

     

    ทำให้เหล่าผู้ที่ยังไม่สลบบางกลุ่มมองด้วยความตกตะลึงพลางมองไปที่แผ่นหลังอันเด็ดเดี่ยวด้วยความเคารพ

     

    ‘ แข็งแกร่งยิ่งนัก! ’

     

    ว่าแล้วก็มีเสียงลอยมากับสายลมว่า

     

    หมดกันภาพลักษณ์ที่สั่งสมมา … (เอ๊ะ-- หรืออาจจะไม่มีอยู่แล้ว?)

     

     

    TBC .

     

     

    ไรท์ will be like ; 

     

    แอน ฮิบาริ will be like this ;

     

    *ยังไม่ได้แก้คำผิด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×