คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : II
02
< แมว? ขอให้ไฟเผาหูเข้าสักวัน … อาจารย์ใหญ่? สติไม่เต็ม >
…
[ ห้องสมุด ]
ฮิบาริ เคียวยะ เขารู้สึกอยากจะเป็นบ้า…
‘ เรื่องบ้าๆ นี่มันอะไรกัน วันนี้ก้าวขาผิดข้างก่อนออกจากบ้านรึไง? ’
เขาคิดในใจ แต่สายตาก็ยังคงมองสำรวจรอบๆตัวอยู่
ตั้งแต่ที่เขาออกมาจากที่แคบๆ มืดๆ นั่น เขาก็เจอแต่โลงศพ ก็เลยลองเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่ห้องสมุด …
ฮิบาริเป็นคนอดทนเก่ง ทุกคนในนามิโมริรู้ แต่ฮิบาริก็เป็นคนที่มีน้ำโห หรือ โกรธง่ายในเวลาเดียวกัน และตอนนี้เขาก็กำลังจะประสาทกินเพราะเจ้าสัตว์กินพืชที่แมวก็ไม่ใช่ทานุกิก็ไม่เชิง
เพราะเสียงของมันดังมากพอที่จะทำให้คนอย่างกรรมการคุมกฎแห่งนามิโมรินั้นรำคาญได้
‘ น่ารำคาญ ’
นัยน์สีรัตติกาลจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นเฉียบ
“ ฟุเนี๊ยะ!! เอาเสื้อของเจ้ามาให้ท่านกริมม์ผู้นี่ซะ! เจ้ามนุษย์โง่!! ”
กริมม์ตะโกนขึ้นมา ก่อนจะส่งสายตาหยิ่งๆไปให้ชายตรงหน้า โดยที่ไม่รู้เลยว่าชะตาของตนนั้นขาดเเล้ว ตอนนี้มันเปรียบเสมือนลูกไก่ในกำมือ[1] ที่จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด
กึก!
‘ โง่เหรอ? ’ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครด่าเขาว่าโง่
สายตาวาวโรจน์ด้วยเพลิงโทสะ มือเรียวค่อยๆ เลื่อนไปหยิบทอนฟาของตนออกมา ก่อนที่จะพบว่า ตนนั้นไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนนามิโมริแล้ว
แต่กลับกลายเป็นเสื้อผ้าเหมือนของพวกลัทธิประหลาดที่ฉายตามโรงภาพยนต์ที่เขาเคยเห็น มันดูคล้ายเสื้อคลุมตัวโคร่ง ตัวชุดมีสีม่วงเข้ม โดยมีกรอบสีทองตัด ทำให้ดูสวยงามอย่างน่าประหลาด
แต่ที่แปลกก็คือ ปลอกแขนที่เขียนด้วยอักษรญี่ปุ่นยังคงอยู่เหมือนเดิม
“ เงียบอะไรเจ้ามนุษย์!! หรือว่าเจ้าเกรงกลัวข้า! ฮ่าๆๆ งั้นก็ส่งเสื้อของเจ้ามาซะ-- ”
กริมม์ยังพูดไม่จบประโยค มันก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทาบอยู่ตรงคอของมัน
“ เงียบซะ! เจ้าสัตว์กินพืชชั้นต่ำ!! บอกมาว่าที่นี่คือที่ไหน!? ไม่งั้นผมจะขย้ำแกซะ!! ”
ไม่ว่าเปล่า ฮิบาริได้นำทอนฟาไปจ่อที่คอของอีกฝ่าย บรรยากาศรอบตัวพลันเย็นยะเยือกขึ้นมาทันตา ยามนี้เขาเปรียบเสมือนพญามัจจุราชที่พร้อมจะลงทัณฑ์คนบาป
ถ้าให้กริมม์เปรียบสถานการณ์ตอนนี้ก็คงต้องบอกว่า ความรู้สึกของมันเหมือนไปทำของรักของหวงของใครพัง แล้วคนๆ นั้นก็ถามถึงต้นเหตุ
แต่ว่า..
‘ ข้าชอบกินทูน่ากระป๋องมากกว่าตั้งเยอะนะ!! ไม่ได้ชอบกินพืชสักหน่อย ’
ก็นะ … ถึงจะอยากเอ่ยสิ่งที่คิดออกไปมากแค่ไหน แต่ก็คงมีแต่จะทำให้บรรยากาศรอบตัวกดดันมากยิ่งขึ้น อย่างน้อยมันก็พอดูสถานการณ์ตอนนี้ออกอยู่นะ
ถ้าขืนพูดอะไรไม่เข้าหู เจ้ามนุษย์นี่คงจะเอาไม้แปลกๆ (?) นั่นฟาดข้าแน่นอน!! …
ในขณะที่อันตรายกำลังจะคืบคลานเข้ามาหาเจ้ามอนสเตอร์ตัวน้อยนั้น ราวกับว่าสวรรค์เห็นใจถึงได้มีคนมาขัดจังหวะพวกเขา
“ เอ๊ะ!? ยังเหลือนักเรียนอีกหนึ่งคนเหรอครับเนี่ย? ทำไมถึงไม่ไปเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศที่โถงกระจกล่ะครับ? ”
“ เอ๋!? หรือว่าเธอจะหลงทาง? งั้นตามผมมานะครับเพราะผมใจดียังไงล่ะ!-- แล้วก็กระผมชื่อ ‘ เดียร์ คราวลีย์ ’ ”
ชายสวมหน้ากากอีกากล่าวพร้อมเชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจ แม้จะดูเป็นมิตร และสติไม่เต็ม (?) แต่ฮิบาริก็รู้สึกได้ว่าคนตรงหน้านั้น
… ไม่ธรรมดา
ไหนจะดวงตาที่ดูเบื่อหน่ายกับทุกสิ่งขัดกับพฤติกรรม และคำพูดของตน แต่ดูเหมือนแววตาของอีกฝ่ายจะวาววับตอนมองเขานะ
ทำไมกัน? ทำไมถึงมองเขาเหมือนเด็กที่เจอของเล่นที่ถูกใจล่ะ? ..เขาชักจะรู้สึกไม่ปลอดภัยซะแล้วสิ
‘ อ่าา~ นักเรียนของผมหลงทางตั้งแต่วันแรกเลยเหรอเนี่ย? ’
แต่ทว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นไม่ได้ส่งไปถึงอีกคนเลย คราวลีย์ยังคงทำหน้าตาระรื่น และแสดงท่าทางเป็นมิตรต่อไปเพ่ื่อให้เด็กหนุ่มไม่ระแวงตน โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าตนนั้นได้จดชื่อเขาเข้าสู่หนึ่งในคนที่ไม่ควรเข้าใกล้ไปซะแล้ว …
“ คุณน่ะ… รู้จักผมเหรอ?! แล้วที่นี่ที่ไหน? ”
ฮิบาริถามผู้ที่อาวุโสกว่าตนด้วยความเย็นชา ดวงตาคมเฉี่ยวเพ่งมองอีกฝ่ายด้วยแววตาคาดคั้น
“ โอ๊ะ!-- ยังคงมึนๆเพราะเวทเคลื่อนย้ายอยู่สินะครับ ก็เลยเกิดการสับสน แต่ไม่เป็นไรๆ มันมักจะเกิดขึ้นบ่อย งั้นเดี๋ยวผมจะอธิบายระหว่างการเดินทางนะครับ! ”
คราวลีย์เอ่ยพลางกางแขนออกอย่างเป็นมิตร ดวงตาหรี่ลง จนกลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวแสดงถึงความไม่ประสงค์ร้าย
แต่ทว่า.. นัยน์ตาสีเหลืองอำพันกลับวาวโรจน์ด้วยความถูกใจในตัวอีกฝ่ายทันทีที่ฮิบาริละสายตาจากตัวเขาไปชั่วขณะ
‘ น่าสนใจจังน้าา~า เด็กน้อยของผม :) ’
…
“ อะแฮ่มๆ เอาล่ะ ที่นี่คือ [ Night Raven College ] มหาวิทยาลัยที่คัดสรรนักเวทจากทั่วทุกมุมโลกมารวมกัน เป็นโรงเรียนฝึกเวทที่มีชื่อเสียงมากในทวิสเต็ดวันเดอร์แลนด์ และผมก็คืออาจารย์ใหญ่ของที่นี่ครับ ”
ชายผู้ที่อาวุโสกว่ายิ้มระรื่น เมื่อได้อภิปรายถึงความยิ่งใหญ่ของตน ส่วนกริมม์ก็ยังคงดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ
แต่คราวลีย์กลับไม่สนใจมิหนำซ้ำยังหันไปจดจ้องใบหน้าเรียบนิ่งของฮิบาริอยู่ตลอดพลันสายตาเหลือบไปเห็นปลอกแขนประหลาดของคนข้างๆ ตน ที่เขียนด้วยตัวอักขระบางอย่างที่ตนไม่รู้จัก
ปลอกแขนนั่นมีสีแดง มีกรอบทั้งสองข้างเป็นสีเหลืองเข้ม และดูเหมือนจะเป็นของสำคัญของอีกฝ่ายซะด้วย ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับปลอกแขนนั่นดีกว่า คราวลีย์พยักหน้าเบาๆ ให้กับความคิดตามสันชาตญาณของตน
“ ประสาท เวทมนตร์มันมีซะที่ไหน เจ้าหนูนั่นให้คุณมาหลอกผมเพื่อจะทดสอบอะไรอีกล่ะ ”
ฮิบาริตอบกลับอีกฝ่ายไป คิ้วขมวดเป็นปม และอีกครั้งที่เขาต้องใช้ความคิด เขาเอียงคอนิดๆ พลางนำมือสีเหลืองปนขาวตามฉบับคนเอเชียมากุมคางของตน ปล่อยให้อาจารย์ใหญ่รับดาเมจนี้ไปอย่างช่วยไม่ได้
คราวลีย์ ; ขอบคุณที่ให้ผมเกิดมาครับ -.,- //ยกนิ้ว+กุมจมูก
“ ครับ? ผมไม่เข้าใจหรอกนะครับ ว่าเธอหมายความว่าอะไร แต่ผมจะอธิบายต่อก็แล้วกันเพราะผมใจดียังไงล่ะ! ”
เมื่อเห็นว่าฮิบาริหลุดจากภวังค์แล้ว ตนจึงรีบเก็บสายตาแปลกๆ กลับไปและปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม โดยที่ไม่ลืมที่จะตอบกลับอีกฝ่าย
‘ น่าหมั่นไส้ ’
นี่คือความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัวของชายหนุ่มผู้ที่พ่วงด้วยหลายตำแหน่งราวกับกาแฟ 4 in 1
“ ถ้าถามว่าเวทมนตร์มีจริงไหม? … มีจริงครับ แต่ต้องเป็นคนที่ถูกคัดเลือกจาก [ กระจกแห่งความมืด ] เท่านั้น ถึงจะมีคุณสมบัติในการเข้าเรียนได้ และรถม้าสีดำก็เปรียบเสมือนประตูเช่นเดียวกันครับ ”
คราวลีย์ร่ายยาวออกมา โดยหยุดพักหายใจในประโยคสุดท้าย ก่อนจะกล่าวต่อว่า
“ ตั้งแต่โบราณ รถม้ามีไว้รับเหล่านักเรียน ราคาตลาดได้ถูกกำหนดไว้ในวันพิเศษ-- เอาล่ะ! รีบไปปฐมนิเทศกันเถอะ! ”
หลังจากที่คราวลีย์อธิบายแบบคร่าวๆเสร็จ ทั้งสองก็ไม่สนทนาอะไรกันต่อ ความเงียบได้เข้ามาแทนที่ มีเพียงเสียงรองเท้าที่กระทบกับพื้นไปเรื่อยๆตามจังหวะการเดิน
… และเสียงของกริมม์ที่ยังคงดังต่อไป โดยที่ไม่มีใครสนใจเลย
‘ ไร้สาระ เจ้าหนูนั่น ถ้ากลับไปได้จะขย้ำซะ ’
…
[ โถงกระจก - พิธีปฐมนิเทศ ]
“ --เอ้า เท่านี้พิธีปฐมนิเทศกับคัดเลือกหอก็จบแล้วใช่ไหมนะ? เข้าใจไหมพวกนักเรียนใหม่ ที่หอฮาร์ทสลาบิวล์ ผมคือกฎ ใครขัดขืนก็จะบั่นคอเข้าให้ จำเอาไว้ด้วย! ”
ชายร่างเล็กเรือนผมสีแดงกล่าวขึ้นมาคนแรกด้วยความจริงจัง
“ … หาว~ว พิธีเหนื่อยๆ นี่จบสักที รีบกลับหอกันได้แล้ว หอสะวันน่าคลอว์ ตามมา ”
ต่อด้วย ชายหนุ่มที่มีหูสิงโตหาวอย่างไม่อายใครพลางกล่าวกับนักเรียนใหม่ด้วยน้ำเสียง และท่าทางที่แสดงออกถึงความเบื่อหน่ายอย่างชัดเจน
“ นักเรียนใหม่ทุกคนครับ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ! เพื่อให้ทุกท่านได้ใช้ชีวิตนักเรียนอย่างมีคุณค่า ผมจะขอซัพพอร์ททุกคนในฐานะประธานหอออคตาวิเนลล์อย่างเต็มที่นะครับ ”
ชายหนุ่มที่สวมแว่นจึงกล่าวกับนักเรียนใหม่ต่อด้วยคำพูดที่ราวกับคนขายประกัน
“ ถึงงั้นก็เถอะ อาจารย์ใหญ่ไปไหนกันเนี่ย? จู่ๆ ก็พุ่งออกไประหว่างพิธีเลยนี่? ”
ชายหนุ่มหน้าหวานผู้มีเรือนผมสีบลอนด์ปลายม่วงกล่าวออกมาด้วยความสงสัย ทว่ามันช่างขัดกับน้ำเสียง และท่าทางของเจ้าตัวที่ดูไม่แยแส
“ ละทิ้งหน้าที่… ” ประโยคที่ราวกับติเตียนอาจารย์ใหญ่ดังออกมาจากแท็บเล็ตด้วยเสียงที่นิ่งเรียบ
“ ไม่ใช่ว่าปวดท้องหรืออะไรเหรอ? ” ชายหนุ่มสวมผ้าโพกหัวออกความคิดเห็นต่อด้วยท่าท่างร่าเริง
“ ไม่ใช่ครับ! ”
TBC .
…
เอ๋ๆๆ อะไรกันล่ะเนี่ย คุณคราวลีย์ดูแปลกๆนะคะเนี่ย:) แต่ตอนนี้ขอไปเรียนพิเศษก่อน ปวดหลังมาก พอดีเมื่อวานติดธุระก็เลยไม่ได้มาลง ตอนที่สองก็เลยลงยาวๆเลยจ้า แต่งไปเลย 6,036 ตัวอักษร ฮิ้ววววว
ปล. [1] ลูกไก่ในกำมือ = เป็นสุภาษิตหมายถึง คนที่มีอำนาจหน้าที่หรือตำแหน่งสูงกว่าคนที่อยู่ใต้อำนาจ ซึ่งจะทำอย่างไรกับคนๆนั้นก็ได้ตามต้องการ
*ยังไม่ได้แก้คำผิด
ความคิดเห็น