ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [E-Book]My babe, My love #ที่รักของราม

    ลำดับตอนที่ #15 : #ที่รักของราม:: 13[อัพครบ+CUT]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.88K
      681
      16 มิ.ย. 63

    ประกาศจ้าาาา
    ตอนนี้ไรท์มีเพจแล้ววว ไรท์จะแจ้งเกี่ยวกับการอัพนิยายที่เพจน้าา
    FB PAGE: BBeatrizXX
    จิ้มแล้วไปกดไลค์กดติดตามได้เลยยย ><
    ตอนนี้ก็ไปติดตามนิยายต่อเลยจ้าา


    'ดวงตาที่กำลังเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาที่เธอใช้มองฉัน...มันทำให้ฉันพูดไม่ออก'



    สรุปวันนั้นหลังจากกลับจากหาหมอรามก็ตัวติดฉันทั้งวันจริงๆ ไม่มีอะไรที่พูดโอเว่อร์ไปกว่าเดิมเลยเพราะเราไม่ได้ไปไหนและอยู่แต่ในห้องเพราะเราทั้งคู่เลือกที่จะขอลาอาจาร์ประจำวิฃาของเราเพราะไม่รู้ว่าหมอจะใช้เวลาตรวจนานแค่ไหน เพราะแบบนั้นเขาเลยมีโอกาสเอาตัวเองมาคลอเคลียกับฉันแล้วคอยถามฉันว่า 'เครียดไหม? เครียดรึยัง?' ทั้งวัน แต่ว่าหลังจากวันนั้นเราก็ปกติทุกอย่างเลยนะ ใฃ้ชีวิตทุกอย่างตามปกติหมด

    ทั้งฉันทั้งรามอ่ะที่ปกติ จะมีผิดปกติก็แต่...

    "ฉันเข้าใกล้แกไม่ค่อยได้เลยนะช่วงนี้อ่ะ" ขวัญตาพูดขึ้นก่อนจะยื่นยาดมให้ฉันเมื่อเห็นฉันเดินกลับมาจากห้องน้ำ

    อาการแบบนี้จริงๆ มันไม่เรียกว่าผิดปกติหรอก มันเป็นอาการที่ปกติสำหรับคนท้องอยู่แล้วที่จะมีอาการแพ้ท้องบ้าง แต่ช่วงนี้กลิ่นน้ำหอมของเพื่อนฉันมันแรงมากจนฉันเข้าใกล้ไม่ได้เลย เวลาอยู่ใกล้กันก็จะรู้สึกพะอืดพะอมตลอด  ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่กลิ่นน้ำหอมของขวัญตาเท่านั้นเพราะกับน้ำหอมนี่ห้อที่ฉันใช้เองตอนนี้ก็ถูกเก็บใส่กล่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...

    ไม่ไหวอ่ะ อะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยง ไม่งั้นถ้ารามเกิดเป็นห่วงแบบโอเว่อร์ขึ้นมาเดี๋ยวเขาได้บอกให้ฉันไปทำเรื่องดรอปเรียนแน่ๆ 

    เขาถามฉันบ่อยนะว่าเครียดไหม แต่เป็นการถามด้วยจุดประสงค์ที่แสดงออกชัดเจนมากว่าอยากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะด้วยกัน แต่พอเกี่ยวกับเรื่องเรียนเขากลับบอกว่าอยากให้ฉันพักการเรียนเอาไว้ก่อนเพราะกลัวว่าฉันจะเครียดกับเรื่องเรียนจนมีปัญหาสุขภาพทั้งเด็กในท้องและฉัน แต่ก็อย่างที่เห็น...ฉันยอมเขาที่ไหนล่ะ

    ก็จะเรียนอ่ะ! 

    ถึงจะไม่ไหวกับกลิ่นน้ำหอมที่มันฉุนๆ ของใครหลายๆ คนรอบตัว แต่เรื่องเรียนฉันยังไหวอยู่นะ!

    แล้วอีกอย่างคือเดี๋ยวก็สอบปลายภาคแล้วด้วย จะให้ฉันนั่งเรียนทั้งเทอมเพื่อมาดรอปก่อนสอบแบบนี้ฉันไม่เอาหรอกนะ! 

    "ไปนอนพักก่อนไหมแก?" ขวัญตาถามฉันด้วยความเป็นห่วง ส่วนฉันทำได้แค่ส่ายหน้าให้เธอเท่านั้น

    แต่แทนที่ขวัญตาจะทำเป็นเข้าใจเหมือนทุกทีที่ฉันส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร ครั้งนี้เพื่อนฉันกลับถามออกมารัวเลยทีเดียว "แก...เป็นอะไรมากรึเปล่า? แกไปหาหมอยัง? ไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหมอ่ะ?" 

    "......" ฉันนิ่งไป

    "ฉันเป็นห่วงแกมากเลยนะที่รัก อาการของแกอ่ะ... มัน..." ขวัญตาพูดยังไม่ทันจะจบประตูห้องเรียนก็ถูกเปิดโดยอาจารย์ที่เดินนำกลุ่มนักศึกษาเข้ามา

    ฉันนั่งลงประจำที่ตัวเองก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของเพื่อนไว้แล้วบีบเบาๆ 

    ริมฝีปากยกยิ้มหน่อยให้เพื่อนไปก่อนจะบอกมันไปว่า "แกไม่ต้องห่วงนะ มันไม่ได้ร้ายแรงหรอก" และก่อนจะปล่อยมือของขวัญตาให้เป็นอิสระฉันก็ม่ลืมที่จับอกมันว่า "ถ้าฉันพร้อม ฉันจะบอกแกเอง"

    ขวัญตาเม้มริมฝีปากเข้าหากันก่อนจะพยักหน้าแรงๆ หลายๆ ครั้งให้ฉันเหมือนจะบอกว่าเข้าใจ 

    แต่ว่าถ้าเกิดมองดีๆ จะเห็นว่าเธอกำลังน้ำตาซึมอยู่และเมื่อขวัญตาหยุดพยักหน้ามันก็ยิ่งชัดเจนไปอีก...

    ดวงตาที่กำลังเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาที่เธอใช้มองฉัน...มันทำให้ฉันพูดไม่ออก

    ฉันรู้ว่าลึกๆ ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูร่าเริงและไม่สนโลกของเพื่อนเป็นคนอ่อนไหวง่ายแค่ไหน 

    ฉันรู้ว่าเพื่อนชอบกินอะไรและสีโปรดของเพื่อนคือสีไหน

    สถานที่ที่เพื่อนฉันชอบไปฉันก็รู้

    แต่ฉันไม่รู้ว่าเพื่อนเป็นห่วงฉันมากถึงขนาดที่จะมานั่งร้องไห้ใส่กันแบบนี้ แถมยังอยู่ในเวลาเรียนอีกด้วย

    "ยัยนี่!" ฉันทำเป็นดุเพื่อนก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะอาจารย์เริ่มสอนแล้ว

    ขวัญตาหัวเราะออกมาเช่นกันก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของตัวเองออกเบาๆ แล้วหันไปตั้งใจเรียน

    วันนี้ฉันได้รับรู้ว่าตัวเองไม่ได้ตัวคนเดียวอรกต่อไปแล้วจริงๆ

    ฉันมีเพื่อนสนิทที่เรียนมหา'ลัยด้วยกัน 

    มีเพื่อนสนิทอีกคนที่รู้จักกันตั้งแต่มัธยมต้น 

    มีรามที่เป็นทั้งแฟนและเพื่อนที่ดีของฉัน

    และมีตัวเล็กที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกเจ็ดเดือนข้างหน้า

    มีแค่นี้ก็พอแล้ว...

    สำหรับฉันแค่นี้ก็พอแล้วจริงๆ...


    หลังเลิกเรียน

    "แกจะกลับเลยไหม?" ขวัญตาถามฉันตอนที่เราสองคนกำลังยืนรอลิฟท์อยู่

    เราเพิ่งเรียนเสร็จกันเมื่อกี้เพราะวันนี้มีเรียนเช้าอย่างเดียว ตอนแรกว่าจะกลับคอนโดเลย แต่ว่ารามเหมือนจะยังเรียนไม่เสร็จ ฉันเลยตอบขวัญตาออกไป "ต้องรอรามก่อนอ่ะ" 

    "ให้ฉันไปส่งป่ะ?"

    "ไม่เป็นไรหรอก แกจะไปกินข้าวกับแฟนนี่" ฉันว่าแล้วส่งสายตาแซวเพื่อนไปก่อนจะพูดต่ออีก "เดี๋ยวรามก็เลิกแล้ว"

    "งั้นก็ได้" ขวัญตาว่า 

    บทสนทนาเราจบลงแค่นั้นจนกระทั่งลิฟท์มาก็ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีก แต่ว่าพอลิฟท์ลงมาถึงชั้นล่างขวัญตาก็พูดขึ้นมาจังหวะที่เรากำลังเดินออกจากลิฟท์

    "นี่ ฉันจะรอวันที่แกพร้อมบอกฉันนะ"

    "อืม เร็วๆ นี่แหละ" ฉันว่าแล้วยิ้มให้เพื่อนไป

    วันนี้รามเลิกช้ากว่าปกติเพราะว่าอาจารย์เขาติดธุระเลยมาสายไปครึ่งชั่วโมง ดังนั้นเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปอาจารย์เลยสอนเขาต่อไปจนถึงเที่ยงครึ่ง ฉันที่เลิกก่อนและตัดสินใจนั่งรอรามเลิกเรียนก็ได้ขึ้นรถบัสประจำมหาลัยไปรอรามที่ใต้ตึกคณะของเขา เพื่อที่รามจะได้ไม่ต้องขับรถอ้อมมารับฉัน

    รอได้ไม่นานเท่าไหร่กลุ่มนักศึกษาที่ใส่เสื้อช็อปก็เดินแห่ลงมาจากตึกคณะวิศวะกรรมศาสตร์เป็นกลุ่มๆ เหมือนกลุ่มของใครของมัน แน่นอนว่าฉันที่อยู่ใต้ตึกย่อมต้องทำหน้าที่อย่างหนักในการมองหากลุ่มของรามท่ามกลางผู้ชายตัวสูงทั้งหลาย แต่ว่าเมื่อถึงตึดที่คิดว่าหาไม่เจอแน่ๆ ฉันเดินออกมาตรงที่โล่งบริเวณนั้นก่อนจะเลยหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาราม

    "ฉันอยู่หน้าตึกของนายนะ" และเมื่อรามรับสายฉันก็รีบบอกพิกัดของตัวเองให้เขารู้ทันที "มันคือต้นอะไรก็ไม่รู้อ่ะราม แต่ถ้านายเดินตรงออกมา มันจะอยู่ต้นหน้าของนายอ่ะ"

    [ตรงคนเยอะๆ ไหม?] รามถาม เหมือนเขาเองก็กำลังมองหาฉันอยู่เหมือนกันเลย

    ฉันเขย่งปลายเท้าชะเง้อมองหารามพร้อมกับตอบเขาไปด้วย "ใช่ๆ ตรงทางที่คนเดินออกมาเยอะๆ อ่ะ มีที่จอดรถมอไซด้วย"

    [รอตรงนั้น เดี๋ยวเดินไปหา] รามว่าก่อนจะกดตัดสายไป

    ฉันยืนชะโงกไปชะโงกมารอรามอยู่เกือบห้านาทีก็เห็นร่างสูงคุ้นตาเดินตรงดิ่งมาหาฉันแล้ว

    คนตัวสูงถอดเสื้อช็อปของตัวเองออกก่อนจะเอามาคลุมหัวของฉันเอาไว้แล้วกอดคอพาฉันเดินออกมาจากตรงโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ

    แต่ว่านะ... เรื่องที่ว่าแปลกมันก็แปลก เรื่องที่ว่าไม่แปลกมันก็ไม่แปลก

    จริงอยู่ที่ฉันได้กลิ่นน้ำหอมของตัวเองกับขวัญตาแล้วรู้สึกจะอาเจียนตลอด แต่ว่าพอเป็นกลิ่นที่รามใช้กลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลย แทบจะเรียกได้ว่าปกติเลยด้วยซ้ำ

    มันแปลกนะ หรืออาจเป็นเพราะฉันก็ยังไม่เคยได้ลองกับผู้ชายคนอื่น?

    ก็เป็นไปได้ แต่จะว่าไม่เคยก็ไม่ได้นะเพราะจุดที่ยืนอยู่เมื่อกี้ก็มีผู้ชายอยู่เต็มไปหมด แต่ฉันก็ยังไม่ได้มีอาการอะไรเป็นพิเศษเลย

    ทำไมนะ?

    "ถึงรถแล้ว" เสียงทุ้มต่ำของรามดังขึ้นจังหวะเดียวกันกับเสื้อช็อปของเขาที่ถูกกระชากกลับไปคืน ทำให้ฉันตั้งสติได้ว่าตัวเองเผลอคิดเรื่องเรื่อยเปื่อยไป แต่พอตั้งสติได้ฉันก็รีบขึ้นรถทันที

    ตอนแรกตั้งใจจะนั่งเงียบๆ แต่ว่าพอสายตาหันไปเห็นเสื้อช็อปของรามที่กองยับยู่ยี่อยู่บนตักของเขาก็เลยตัดสินใจเอื้อมมือไปหยิบเสื้อของเขามือถือเอาไว้

    ไม่สิ

    ไม่ใช่ถือ

    แบบนี้น่าจะเรียกกอดมากกว่า เพราะฉันปั้นมันเป็นก้อนกลมๆ แล้วใช้แขนทั้งสอบข้างกอดมันแนบตัวเอาไว้แล้วส่ายไปมาด้วยความรู้สึกที่เรียกได้ว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว

    "ยับหมด" รามว่าพร้อมกับยื่นมือข้างซ้ายมาจิ้มแก้มฉันเบาๆ 

    "เดี๋ยวรีดให้" ฉันบอกเขาไปก่อนจะก้มหน้าลงแล้วทำท่าฟุดฟิดๆ ดมเสื้อเขาเหมือนคนโรคจิต

    บ้า ไม่ถึงขนาดที่ใช้คำว่าโรคจิตด้วยได้หรอก

    มั้ง

    "อย่าดมเสื้อฉันแล้วยิ้มแบบนั้น" รามว่า

    ไม่รู้ว่าเขาแอบเหล่มามองฉันตอนไหน แต่ว่าช็อตที่เขาเห็นเมื่อกี้มันต้องดูไม่ดีแน่ๆ เลยเพราะหลังจากที่เขาพูดเสร็จฉันก็ได้หันไปมองเสี้ยวหน้าที่จัดได้ว่าหล่อเหลาของรามแล้วเห็นว่าตอนนี้เขากำลังส่ายหน้าเบาๆ ให้กับท่าทีของฉันอยู่แหละ

    "ทำไมส่ายหน้าแบบนั้น? ฉันแค่ชอบเฉยๆ มันผิดตรงไหน!?" ฉันพูดเสียงดังขึ้นเล็กน้อย 

    รามไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับมานอกจากนั่งขับรถด้วยท่าทางสบายๆ เช่นเดิม เพิ่มเติมคือเขากำลังยิ้มมุมปากอยู่นั่นเอง

    มายงมายิ้ม ชิ!

    "ทีตัวเองยิ้มมุมปากฉันยังไม่เห็นว่าอะไรเลย" ฉันบ่นอุบอิบ แต่ก็ยังกดจมูกเข้ากับเสื้อของเขาอยู่ดี

    ติดไปคิดมาก็คล้ายกับโรคจิตอยู่นั่นแหละ...

    ฉันเหลือบไปมองราม เห็นเขามองกลับมาก็ฉีกยิ้มกว้างไปหนึ่งที รามที่เห็นแบบนี้นก็ถอนหายใจใส่ฉันยาวแล้วหันหน้ากลับไปมองถนนเหมือนเดิม แต่ก็ยังพูดขึ้นมาว่า "ทีหลังถ้าแดดมันร้อนมากก็ไปนั่งรอในคาเฟ่" 

    "อ่าห้ะ" ว่าพร้อมกับกางเสื้อเขาออก

    "เป็นลมขึ้นมาอีกจะทำไง..." ประโยคนี้เขาพูดเสียงค่อนข้างเบา แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ได้ยิน

    ฉันเงียบแล้วทำท่าคิดว่าถ้าเป็นลมตัวเองจะจัดการยังไง แต่พูดอะไรออกไปก็คงไม่ดีเหมือนเดิมเพราะสุดท้ายก็เท่ากับว่าฉันเป็นลมนั่นเอง

    รามที่เห็นว่าฉันเงียบไปก็เอื้อมมือมาลูบผมฉันอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียงที่ใช้พูดเพื่อบอกฉันว่า "ที่พูดคือเป็นห่วง" 

    "รู้" ฉันว่าแล้วพยักหน้าให้รามไป เขาก็ค่อยดึงมือกลับไปขับรถเหมือนเดิม

    ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเขาเป็นห่วง 

    ฉันน่ะ...รู้ดีกว่าใครเลยด้วย

    และเมื่อรามขับรถมาใกล้ถึงกับบริเวณที่ตั้งของคอนโด เขาก็หันมาถามฉันตอนที่รถจอดติดไฟแดงว่า "หิวยัง?"

    "นิดหน่อย" ตอบไปตามความจริง แม้ว่าตอนนี้จะเกือบบ่ายโมงแล้วก็ตาม "แต่อยากกินข้าวผัดฝีมือนายอีกอ่ะ"

    "อร่อย?" 

    "อื้ม!" พยักหน้าแรงๆ แล้วทำตาเป็นประกายให้เขาเห็นด้วย

    รามหันไปมองสัญญาไฟจราจรที่ขึ้นสีแดงแสดงการนับถอยหลังจากหลักร้อยเพื่อไปไฟเขียวแล้วหันกลับมาหาฉัน เขายื่นหน้ามาใกล้ก่อนจะใช้มือหนึ่งข้างเอื้อมมารั้งท้ายทอยฉันเข้าไปหาแล้วก่อนจะกดริมฝีปากลงช้าๆ แล้วผละออกไป

    สัมผัสที่แผ่วเบาจากเขาทำให้ฉันเผลอกัดริมฝีปากขณะที่มองหน้ารามโดยไม่พูดอะไรออกมาเพราะทำตัวไม่ถูก แต่รามก็ทำลายความเงียบนั้นลงด้วยคำพูดที่ว่า

    "พูดจาน่ารัก" แล้วเลื่อนฝ่ามือหนามาที่ใบหน้าของฉันก่อาจะใช้นิ้วโป้งจับที่ปลายคาง ส่งผลให้ฉันเผลอคลายริมฝีปากของตัวเองออกจากกัน

    คนตัวสูงหลุลตามองริมฝีปากฉันก่อนจะขยับนิ้วขึ้นมานวดเคล้นริมฝีปากล่างของฉันเบาๆ พร้อมกับทำท่าจะประกบริมฝีปากของเราเข้าหากันอีก แต่ฉันก็ร้องห้ามขึ้นมาก่อน

    "ไม่ได้นะ" ห้ามด้วยเสียงเบาๆ

    "ทำไม?" รามถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้แสดงออกว่าคาดหวังอะไรมากนัก

    "อยู่บนรถ ทำไม่ได้" ฉันว่าแล้วทำเป็นหันหน้าไปทางอื่น

    รามเงียบไปแค่แปปเดียวแล้วค่อยถามขึ้นมาอีก "แสดงว่าถึงห้องแล้วทำได้?" และครั้งนี้...เขาถามด้วยความคาดหวัง 

    ฉันอมยิ้มเล็กๆ แล้วหันกลับไปมองรามอีกครั้ง ริมฝีปากขยับตอบคำถามเขาไปว่า "รอถึงห้องก่อนเดี๋ยวตอบ" แล้วก็เลื่อนตัวเข้าไปจรดริมฝีปากลงบนแก้มของรามเบาๆ

    ไม่อยากจะพูดเลยว่ากลิ่นน้ำหอมของรามหอมจริงๆ นะ

    และเมื่อเรามาถึงคอนโดแล้ว...

    "ทำได้ไหม" รามถามขณะที่วางกระเป๋าของตัวเองลงที่พื้นแล้วเดิาตรงมาหาฉันที่ตามหลังเขาอยู่

    ฉันเม้มริมฝีปากเข้าหากัน แต่ก็ยื่นมือไปกอดแขนแกร่งของรามเอาไว้แล้วพยักหน้าเบาๆ

    รามที่ได้รับการอนุญาตแล้วก็พาฉันเดินเข้าห้องของเขา เราสองคนตรงไปที่เตียงโดยไม่มีใครพูดหรือทักท้วงอะไรขึ้นมาเลย 

    รามจับมือแล้วดึงให้ฉันไปยืนประจันหน้ากันกับเขา ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างกอบกุมแก้มของฉันเอาไว้ในมือแล้วถาม "เธอพูดแล้วนะ" 

    ฉันพยักหน้าแล้วหลับตาลงเตรียมตัวที่ตะรับสัมผัสจากราม

    ริมฝีปากเย็นชืดของรามประกบลงบนริมฝีปากของฉันอย่างแผ่วเบาราวแล้วค่อยๆ ขยับขบเม้มตามริมฝีปากของฉันช้า

    ไม่ได้มีการรุกล้ำกันตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือ แต่เป็นการค่อยๆ เพิ่มระดับความร้อนแรงของสัมผัสของเขาขึ้นเรื่อยๆ ทุกการผละออกและประกบลงมาใหม่ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่เรียวลิ้นของเราเริ่มพันเกี่ยวกันไปมา

    ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เราตอบรับสัมผัสที่หวานละมุน แต่กลับอันตรายกันโดยไม่สนใจอะไร รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ฉันนอนราบลงกับเตียงโดยที่มีรามขึ้นมาคร่อมร่างกายของฉันไว้ด้วย

    มือหนาเริ่มเคลื่อนลงมาที่ร่างกายของฉันแล้วปัดป่ายไปมามั่วไปหมด และทั้งๆ ที่ฉันก็ยังพอมีสติที่ถึงขั้นรู้ว่าเขาทำอะไร แต่ฉันก็ไม่ห้ามหรือทักท้วงออกไปอยู่ดี ขนาดชุดนักศึกษาถูกถอดออกไปฉันยังคงนอนนิ่งจูบตอบเขาอยู่เหมือนเดิม ยกเว้นแต่ตอนที่ฉันกำลังจะหมดลมหายใจจากการจูบดูดวิญญาณของเขาน่ะนะ...

    รามผละใบหน้าออกห่าง ปล่อยให้ฉันได้พักหายใจเพียงครู่เดียวก่อนจะประกบริมฝีปากลงมาใหม่เหมือนคนที่อดอยากปากแห้งมานานมาก 

    ฉันเอื้อมมือไปกอดคอของรามเอาไว้เพราะไม่รู้ว่าจะวางมือไว้ตรงไหน จัดการใช้นิ้วทั้งห้าของตัวเองแหวกว่ายเข้าไปในกลุ่มผมของรามแล้วขยุ้มเบาๆ จนรามส่งเสียงคำรามในลำคออย่างพอใจ

    เขาผละใบหน้าออกจากฉันอีกครั้ง ส่วนฉันก็ได้แต่มองตามด้วยความมึนงงเพราะเพิ่งผละออกไปได้ไม่นาน แต่รามก็โน้มตัวลงมาอีกรอบ ทว่ารอบนี้เขาไม่ได้จะมาบดขยี้ที่ริมฝีปากของฉันอีก ครั้งนี้เขาก้มลงไปแนบริมฝีปากเย็นชืดลงบนต้นคอของฉัน...

    "อ๊ะ!" ทั้งแนบทั้งขบเม้มจนฉันเกิดตกใจแล้วส่งเสียงแปลกๆ ออกไป แต่ถ้าคิดว่าเขาทำแค่ครั้งเดียวล่ะก็...ไม่ค่ะ

    เขาลากริมฝีปากไล่ระดับจากต้นคอลงมาที่กระดูกไหปลาร้า ต่ำลงมาที่เนินอก เคลื่อนมาหยุดที่ใจกลางหน้าอก แล้วหยุดลงก่อนจะสอดมือข้างนึงไปข้างหลังฉันแล้วทำการปลดตะขอบราของฉันออกแล้วดำเนินการต่อ

    ริมฝีปากรามวุ่นวายกับร่างกายฉันไม่แพ้ฝ่ามือร้อนของเขา และแน่นอนว่าความรู้สึกที่ตีรวนในอกของฉันก็มาจากสัมผัสเหล่านี้ของรามทั้งนั้น

    ทั้งจากริมฝีปากและฝ่ามือ

    และเมื่อริมฝีปากของรามลากลงมาถึงหน้าท้องของฉัน... "อยู่ในนี้ใช่ไหม?" เขาก็ถามฉันเสียงเบาแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน

    ฉันพยักหน้าตอบเพราะรู้สึกว่าตัวเองเปล่งเสียงออกไปไม่ได้

    มัน...มันไม่รู้ว่าต้องพูดยังไง ต้องพูดด้วยน้ำเสียงแบบไหน หรือว่าพูดด้วยอารมณ์ยังไง

    มันไม่พร้อมที่จะพูด แต่ว่าไม่รู้ทำไมเสียงครางถึงหลุดออกจากปากของฉันทุกครั้งที่รามขบเม้มตามร่างกายนะ...

    ไม่ได้อยากร้องสักหน่อย เสียงแบบนี้มันน่าอายจะตายไป...

    แต่ว่า "ระ...ราม" คำแรกที่หลุดออกจากปากของฉันเป็นชื่อของรามในตอนที่เขาสบตากันแล้วใช้นิ้วชี้ลากวนไปมาอยู่หน้าท้องของฉัน

    มือข้างหนึ่งของเขาถอดเสื้อไปรเวทสีดำของตัวเองออกแล้วโยนมันทิ้งก่อนจะเลื่อนลงมาปลดหัวเข็มขัดของตัวเองออกอย่างเชื่องช้า

    ช้า...เหมือนเขาไม่รีบ

    และช้า...เหมือนจังหวะของนิ้วที่วนไปมาอยู่หน้าท้องของฉัน

    "อนุญาตแล้วนะ" รามถามย้ำอีกรอบ...

    รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ก็รู้เหมืแนกันว่าตัวเองอนุญาตเขาไปแล้ว ถึงจะแค่จูบก็เถอะ แต่ว่าฉันก็พยักหน้าตอบกลับรามไปอยู่ดี

    พยักหน้าทั้งที่รู้ว่าเขาไม่ได้หมายถึงเรื่องจูบ...

    รามตะกองแผ่นหลังของฉันขึ้นมาโอบกอดไว้มือข้างหนึ่งจับที่แผ่นหลังของฉัน มืออีกข้างฉันไม่รู้ว่มเขาเแาไปไว้ไหนเพราะตั้งแต่ลุกขึ้นนั่งกอดรามอยู่แบบนี้ฉันก็ไม่ได้สนใจอีกเลย มังแต่สนกลิ่นที่ได้จากผิวกายของเขา

    ตอนแรกฉันคิดว่ากลิ่นน้ำหอมจะติดอยู่กับเสื้อรามอย่างเดียว แต่พอเขาถอดเสื้อทั้งหมดออกฉันกลับยังได้กลิ่นหอมจากตัวเขาอยู่เลย 


    'ติ๊ด!' 


    ท่ามกลางความเงียบ เสียงเครื่องปรับอากาศภายในห้องเริ่มทำงาน...

    มืออีกข้างของรามวางลงที่สะโพกของฉันหลังจากเสียงนั้นก่อนที่ตัวฉันจะถูกวางลงเหมือนเดิม

    รามหยัดตัวเองขึ้นยืนแล้วดึงเอากางเกงของเขาออกโดยที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ฉัน ดึงชั้นในของเขาออกตามไปด้วยแล้วขึ้นมาบนเตียงใหม่อีกครั้ง

    ส่วนฉัน...ก็นอนชันเข่ามองทุกอย่างที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่ร้อนเห่อ

    เกินไป...

    ขนาดของมัน...เคยเห็นมาแล้ว แต่ยังรู้สึกว่ามันเกินไปจริงๆ

    รามจัดการถอดกระโปรงนักศึกษาของฉันออกพร้อมกับแพนตี้ตัวเล็ก เขาดึงทั้งสองอย่างออกพร้อมกันก่อนจะโยนมันหายไปที่ไหนสักที่ในห้องแล้วจับเข้าที่เข่าสองข้างของฉันแล้วแหกออก

    ฉันอยากจะขัดขืน...

    อยากจะ...แปลว่าไม่ได้ทำ

    และใช่ ตอนนี้พื้นที่สงวนของฉันถูกรามจ้องมองมาด้วยสายตาที่เป็นประกาย

    "ราม..." ฉันเรียกชื่อของคนตัวสูงอีกครั้ง เรียกร้องความสนใจจากเขาเพราะรามเอาแต่จ้องสิ่งสงวนของฉันอย่างไม่ละสายตา แตาถึงจะเรัยกยังไงรามก็ไม่สนใจฉันอยู่ดี

    เขาโน้มหน้าลงไปใกล้กับมันแล้วใช้นิ้วร้อนแตะตรงจุดอ่อนไหวแล้วพูดเสียงต่ำออกมาเพียงแค่ประโยคเดียว

    "จะเข้าไปหาลูก"

    หลังจากนั้นก็ไม่พูดไม่จาอะไรกันอีกเลย





    เม้นเยอะเดี๋ยวอัพ NC ลงกลุ่มให้จ้ะ
    ^.<



    Hashtag On Twitter
    #ที่รักของราม

    Talk
    เอาความสัมพันธ์ของเพื่อนมาก่อนจย้าา พี่รามออกมาบ่อยเดี๋ยวเบื่อนาง 55555
    อ่านเสร็จเม้นด้วยเด้อออ


    Talk2
    พี่รามคาดหวังแล้วนักอ่านหวังอะไรมั้ย 555555
    เม้นเด้ออ พรุ่งนี้มาต่อจย้าา


    เสพติดรัก
    1 เม้น = 1 กำลังใจน้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×