ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [E-Book]My babe, My love #ที่รักของราม

    ลำดับตอนที่ #7 : #ที่รักของราม:: 06[อัพครบ]

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 63


    ประกาศจ้าาาา
    ตอนนี้ไรท์มีเพจแล้ววว ไรท์จะแจ้งเกี่ยวกับการอัพนิยายที่เพจน้าา
    FB PAGE: BBeatrizXX
    จิ้มแล้วไปกดไลค์กดติดตามได้เลยยย ><
    ตอนนี้ก็ไปติดตามนิยายต่อเลยจ้าา



    'เขาเหมือนเด็กผู้ชายที่ได้ของเล่นใหม่ทั้งที่ใจฉันตอนนี้ตึงเครียดไปหมด...'



    หลังจากที่ฉันยอมตอบรามไปตรงๆ เราก็มานั่งเงียบกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่ฉันที่นั่งก้มหน้าคิดอะไรไม่ออกรู้ว่าเขามองฉันอยู่ ก็คงจะรอให้ฉันเป็นฝ่ายพูดก่อนนั่นแหละ หรือไม่ก็ตอนนี้ต่างคนต่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา

    ในสถานการ์แบบนี้...ถามจริงๆ เถอะว่าฉันต้องพูดอะไร?

    ชวนเขาตั้งชื่อลูกหรอ?

    บ้าบอ

    รามที่เอาแต่มองฉันตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเหมือนจะรู้ว่าฉันไม่พูดอะไรออกไปแน่ๆ เลยเป็นฝ่ายพูดก่อน "อย่าเงียบ คิดอะไรก็พูดออกมา" 

    "แล้วต้องพูดอะไรล่ะ?" ฉันถาม

    รามก้มมองโทรศัพท์ในมือของเขาแล้วเงยหน้าขึ้นมา "อ่อนเพลียไหม?"

    "ไม่"

    "คลื่นไส้?"

    "ไม่"

    รามนิ่งแล้วก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองอีก "เวียนหัว อยากเข้าห้องน้ำบ่อย อยากอาหาร รู้สึกอะไรพวกนี้ไหม?" ถามเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมามองฉัน

    "อยากอาหาร ช่วงหลายวันมานี้เวียนหัว" ฉันบอกเขาไป 

    ก็หิวข้าว ยังไม่ได้กินข้าวเลย ส่วนเวียนหัวก็บ่อย แต่คิดว่ามันเป็นเพราะตากแดดหรือไม่ก็มีบางช่วงที่ไม่ได้กินอะไรมั้งเลยรู้สึกแบบนั้น ไม่คิดว่าอาการเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะเกี่ยวกับท้องด้วยน่ะ

    รามพยักหน้าให้ฉันก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าแล้วพูด "อืม ทีหลังถ้ามีอาการพวกนี้ให้รีบบอก" เขาว่าแล้วยกแขนขค้นพาดพนักพิงของโซฟาผ่านไหล่ฉันไป

    แล้วเราสองคนก็เงียบอีก...

    มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่ฉันตะติดแล้วตัดสินใจเลยได้ แต่ทำไมรามไม่ได้มีท่าทีคิดมากเหมือนฉันเลยล่ะ?

    "ราม" ฉันเรียกชื่อเขาเสียงเบาก่อนจะหันไปมองเขาแล้วถามออกไป "นายไม่คิดมากเรื่องนี้เลยหรอ?"

    "ไม่" ตอบสมกับเป็นรามดี ดูไม่ใส่ใจหรือไม่สนใจอะไร แต่ถ้าได้ลองมารู้จักเขาจริงๆ แล้วจะรู้ว่าเขาค่อนข้างใส่ใจเลยทีเดียว

    ช่วงที่ผ่านมารามดูแลฉันดีมาก วันไหนเรามีเรียนเวลาเดียวกันเขาก็จะชวนนั่งรถไปด้วยแล้วถ้าฉันเลิกช้ากว่าเขา เขาก็จะรอ ถึงแม้ว่าบางครั้งมันจะหมายถึงรอทั้งวันก็เถอะ...

    แต่เขาดูแลดีจริงๆ เวลาจะกินอะไรก็นึกถึงตลอด แล้งก็จะคอยถามว่าหิวไหม กินอะไรไหม ให้สั่งข้าวให้ด้วยไหมทุกครั้งเลย ซึ่งชีวิตฉันในช่วงที่ผ่านมามันดีจริงๆ

    แต่ไม่คิดว่าเขาจะดีถึงขั้นจะรับผิดชอบแบบไม่คิดมากแบบนี้...

    "นายต้องคิดมากสิ..." ฉันบอกเขาก่อนจะเม้มริมฝีปากเข้าหากันแล้วพูดต่ออีก "พ่อกับแม่นายจะรับได้หรอ?"

    "แล้วเกี่ยวอะไรกับสองคนนั้น?" เขาถามฉันกลับ มือที่พาดผ่านหัวไหล่ฉันไปเริ่มงอข้อพับของตัวเองแล้วเล่นผมที่ถูกปล่อยสยายของฉัน

    "นั่นพ่อแม่นายนะ!" ฉันเสียงดังแล้วยกมือขึ้นไปจับมือเขาที่กำลังเล่นผมของฉันไว้นิ่งๆ "นายมาทำใครท้องก็ไม่รู้อ่ะ พวกเขาจะรู้สึกยังไง?"

    "แต่พ่อแม่ฉันรู้จักเธอ..." เขาว่า "รู้จักมานานแล้วด้วย"

    "......" ลืมเลย...

    "เธอเป็นเพื่อนน้องฉันมากี่ปี พ่อกับแม่ฉันก็รู้จักเท่านั้นแหละ"

    ฉันเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร "แต่ราม..."

    "อย่าคิดมาก เดี๋ยวจัดการเอง" เขาบอกฉันแบบนี้แล้วยกมือขยี้ผมฉันเบาๆ

    ดวงตาคมเข้มของเขาจ้องมองมาที่ฉันก่อนจะก้มลงมองที่หน้าท้องที่ยังแบนราบอยู่

    ฉันรู้แค่ว่าตัวเองท้อง แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้อายุครรภ์เท่าไหร่ ไม่รู้เลยว่าต้องทำตัวยังไงบ้างในการเตรียมตัวอุ้มท้องเด็กคนหนึ่ง แต่...แต่เดี๋ยวฉันค่อยหาความรู้เอาเองก็ได้

    ค่อยๆ เรียนรู้กันไปพร้อมๆ กับเด็กในท้องนี่แหละ

    เพราะว่าพ่อของเขาน่ะ...

    "เหมือนไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย" เขาพูดแล้วขยับห่างออกไปก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนตักของฉันแล้วหันหน้าเข้าหาหน้าท้อง "ไม่เห็นจะเด้งๆ เลย" แล้วก็พูดไปใช้นิ้วจิ้มหน้าท้องฉันผ่านเสื้อยืดไป

    "รามฉันเพิ่งรู้ว่าตัวเองท้องนะ" ฉันพูดก่อนจะปัดมือเขาออกแล้วใช้มือตัวเองลูบตรงส่วนที่เขาจิ้มเมื่อกี้เบาๆ

    "จะไปหาหมอไหม?" เขาถาม

    ฉันส่ายหน้าตอบ

    เขาทำเงยหน้ามองฉันแล้วทำหน้านิ่งใส่ "แล้วจะรู้ได้ไงว่าต้องทำยังไงบ้าง?"

    "ก็...ฉันยังไม่พร้อมไง" ฉันบอกเขา

    "อยากให้รีบๆ พร้อม" เขาพูด น้ำเสียงที่นิ่งเรียบของเขาเจือไปด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย

    เขาเหมือนเด็กผู้ชายที่ได้ของเล่นใหม่ทั้งที่ใจฉันตอนนี้ตึงเครียดไปหมด

    เขาพูดต่ออีกหลังจากที่เงียบไปสักพักหนึ่ง "อยากเห็นแล้วว่าเป็นยังไง" ด้วยน้ำเสียงและแววตาที่ตื่นเต้นกว่าเดิม...

    "นี่ราม ฉันท้องนะ ไม่ได้จะพานายไปซื้อของเล่น ไม่ต้องทำหน้าตื่นเต้นก็ได้" ฉันบอกเขาไปพร้อมกับตีมือลงบนแก้มของรามเบาๆ เพื่อเรียกสติเขาให้กลับมา

    รามรีบเงยหน้ามองฉันแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะพูดว่า "ยังไม่รู้เลยว่าในท้องเพศไหน"

    "......" อะไรนะ?

    "ไม่ต้องรีบซื้อมาขนาดนั้นก็ได้" เขาว่าอีก

    "......" เอ่อ ฉันว่าเราพูดกันคนละเรื่องกัน...

    ฉันถอนหายใจแล้วบอกเขาไป "ช่างมันเถอะ"

    รามทำหน้านิ่งใส่ฉันแล้วหลับตาลง ส่วนฉันก็นั่งนึกว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่และวันอะไรก่อนจะพูดเสียงเรียบออกไปว่า "พรุ่งนี้ตอนบ่ายไม่มีเรียนทั้งคู่ ถ้าอยากพาไปหาหมอค่อยไปพรุ่งนี้" แล้วก็ปล่อยให้เขานอนอยู่แบบนั้น

    รามไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับมา ทำเพียงแค่ดึงมือฉันไปจับเอาไว้แล้วนอนนิ่งๆ จนลมหายใจเข้าออกของเขาสม่ำเสมอ

    สรุปวันนี้เราทั้งสองคนไม่ได้ไปเรียนกัน...

    ฉันตรวจครรภ์ตอนเช้าเพราะพี่เภสัชบอกว่าให้ตรวจตอนเช้า แล้วรามก็เข้ามาเพราะเห็นว่าฉันยังไม่ออกไปข้างนอกสักที

    แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น 

    รามหลับ ฉันเห็นเขาหลับสบายเลยไม่กล้าปลุก แล้วฉันที่ฉันเห็นเขาหลับสบายก็เลยหลับตาม ตื่นอีกครั้งก็ตอนสายๆ ของวันเพราะกลิ่นอาหารที่รามซื้อมา เราไม่ได้พูดกันเรื่องท้องอีกเลยตั้งแต่ตอนเช้าจนกระทั่งตอนบ่ายของวันต่อมา

    "ฉันอยากเปลี่ยนชุดก่อน" ฉันหันไปบอกรามที่กำลังขับรถอยู่เสียงเบา มือแอบชื้นเหงื่อเพราะรู้สึกประหม่าขึ้นมาเมื่อกำลังจะไปหาหมอ

    รามส่งเสียง "อืม" ออกมาก่อนจะวนรถกลับแล้วตรงไปยังคอนโด

    ฉันเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดกางเกงขายาวธรรมดา รามเองก็ไม่ต่างกัน

    เราตกลงกันว่าจะไปโรง'บาลที่ใกล้คอนโดแทนเพราะตอนแรกเราเลือกจะไปที่ที่ใกล้กับมหา'ลัยเนื่องจากเห็นว่ามันเดินทางเร็วกว่า แต่ว่าพอมาคิดดูอีกทีเราสองคนอยู่มี่คอนโดเป็นส่วนใหญ่ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้มาที่โรง'บาลใกล้คอนโดแทน

    ฉันมาจองติว นั่งรอ แล้วทำตามขั้นตอนทุกอย่างโดยมีรามคอยอยู่ใกล้ๆ ตลอด เวลาหมอถามอะไรฉันก็ตอบไปตามความจริงทุกอย่าง เป็นครั้งแรกด้วยที่รามได้รู้เกี่ยวกับอาการที่ฉันไม่ได้บอกเขาไปเมื่อวาน หลังจากนั้นฉันมีตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ความดันและอีกหลายๆ อย่างตามที่คุณหมอต้องการ ขั้นตอนนี้รามนั่งรออยู่ข้างนอก ฉันต้องทำทุกอย่างคนเดียวเพราะฉันเป็นคนบอกเขาเองว่าไม่เป็นอะไร

    หลังจากเสร็จทุกอย่างเราก็รอผลตรวจ เมื่อได้ผลตรวจฉันกับรามก็เข้าไปนั่งฟังที่หมออธิบายและบรรยายเกี่ยวกับการตั้งครรภ์

    หมอบอกว่าฉันท้องได้ 5 สัปดาห์แล้ว อาการของคนที่อายุครรภ์เท่านี้ก็มีพวกอาการเบสิคที่รามเคยถามฉันเมื่อวานกับรู้สึกเปรี้ยวปากอยากกินของเปรี้ยวหรืออยากกินพวกของแปลกๆ แต่ฉันยังไม่มีอาการนี้เพราะไอ้ของที่อยากกินก็หาได้ทั่วไปเลยมองว่ามันไม่แปลกเท่าไหร่

    หมอยังบอกเรื่องข้อห้ามสำหรับคนท้องช่วงไตรมาสต์แรกให้ฉันฟังอีกด้วยว่าห้ามอะไรบ้าง หลักๆ คือห้ามทานพวกของกึ่งสุกกึ่งดิบ พวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามสูบบุหรี่แล้วก็ห้ามเครียด ฉันก็ตกลงรับคำอย่างเชื่อฟัง รามที่นั่งฟังด้วยกันก็พยักหน้าให้หมออย่างเงียบๆ

    เท่านั้นแหละ แล้วเราสองคนก็ทำเรื่องฝากครรภ์ตามที่หมอแนะนำ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ต้องจ่ายรามบอกว่าจะออกเอง แต่ฉันบอกเขาว่าให้หารกันออก ตอนแรกเขาไม่ยอม แต่พอเห็นว่าฉันเริ่มไม่ยอมด้วยเขาเลยยอม... 

    หมอสั่งยังยาและพวกอาหารเสริมสำหรับคุณแม่ที่ท้องอ่อนๆ มาให้ฉันอีกด้วย

    ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเมื่อก่อนเคยหละหลวมในการใช้ชีวิตยังไง ตอนนี้ต้องเปลี่ยนใหม่หมด 

    "ฉันต้องพักผ่อนให้มากขึ้น เลือกกินแต่ของที่มีประโยชน์ ไม่คิดมากหรือเครียดเกินไป..."

    "......"

    "แล้วก็อีกนะราม?" 

    "รู้สึกว่าร่างกายผิดปกติให้รีบบอก"

    "อ่านั่นแหละ!" ฉันว่าเมื่อได้ยินที่เขาบอก ตอนนี้เราสองคนกลับมาที่คอนโดแล้ว และกำลังนั่งคุยกันเรื่องที่หมอพูดเมื่อกี้ว่าเขาให้ทำอะไรบ้าง 

    ก็อย่างที่เห็น...ตอนอยู่กับหมอมันจำได้อยู่ แต่พอนั่งรถกลับมาที่คอนโดปุ๊ปฉันก็ลืมเลย มีจำได้บางส่วนที่มันเน้นๆ ย้ำๆ ตั้งแต่อยู่โรง'บาลแล้ว บางอันที่ไม่ได้เน้นย้ำไว้ก็ลืมไป แต่รามกลับจำได้ซะงั้น

    "สมุดที่หมอเอาให้ก็มี เปิดอ่านสิ" รามว่าก่อนจะเดินมานั่งข้างกันแล้วหยิบสมุดเล่มเล็กที่อยู่ในถุงผ้าออกมาดู "ต้องเริ่มใส่ใจตัวเองให้มากกว่าเดิมแล้วนะ"

    "ค่าๆ" ฉันว่าแล้วก็ขยับเข้าไปอ่านหนังสือทำความเข้าใจต่างๆ กับเขาด้วย

    "ตั้งแต่วันนี้เริ่มนอนตอนสามทุ่มนะ" รามว่าหลังจากเปิดสมุดไปมาได้ 2-3 หน้าแล้ว

    "อื้ม!" ฉันพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย

    "นิสัยชวนดื่มก็เลิกแล้วนะ" เขาพูดอีก

    "อื้ม!"

    "ข้าวเช้าที่ไม่ค่อยกินก็ต้องกินทุกวัน"

    "เค"

    "อืม น่าจะเท่านี้แหละนิสัยที่มันติดตัวเธอน่ะ" เขาว่าก่อนจะปิดสมุดเล่มเล็กลงแล้วหันมามองฉัน

    "ก็จะเปลี่ยนตัวเองอยู่ เรื่องแค่นี้สบายมาก" ฉันพูดพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกแล้วยักคิ้วให้เขาด้วยหนึ่งครั้ง

    รามส่ายหน้าไปมาเหมือนกับเอือมที่ฉันมีท่าทีผ่อนคลายต่างจากเมื่อวานมาก ก่อนจะพูดพึมพำออกมา

    "น่าเป็นห่วงจังวะ..."

    "ห่วงอะไร? ฉันน่ะดูแลตัวเองดีอยู่แล้ว" ฉันบอกรามก่อนจะยกแขนขึ้นพาดบ่าของเขาแล้วยิ้มให้

    เมื่อวานแอบเครียด แต่มาวันนี้เหมือนจะปรับตัวทันแล้ว แต่แค่ประหม่าตัวจะไปหาหมอเท่านั้น ได้ยินที่หมอพูดมาก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้เป็นห่วง ดังนั้น...ฉันต้องไม่เครียด เดี๋ยวเด็กในท้องจะสุขภาพไม่ดีไปด้วย

    รามเอื้อมมือมาดึงแก้มฉันเบาๆ แล้วรื้อของในถุงผ้าออกมาให้หมดแล้วทำท่าเหมือนหาบางอย่างก่อนจะถามออกมา "แล้วลูกอยู่ไหน?"

    ลูกอะไร? 

    เขาหมายถึงอะไร? 

    ลูกก็อยู่ในท้องฉันนี่ไง ไปหาจากในกระเป๋าได้ยังไง...

    ฉันขมวดคิ้วแล้วตอบเขาไป "ในท้องไง" ก่อนจะก้มลงมองหน้าท้องของตัวเอง

    รามเงียบ...

    เพราะเขาเงียบฉันเลยเงยหน้าขึ้นไปมองเขาแล้วเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้างก่อนจะถามออกไป "ทำไม? เป็นอะไร?"

    รามส่ายหน้าแล้วทิ้งตัวลงนอนบนตักฉันก่อนจะหันหน้าเข้ามาที่หน้าท้องแล้วพูด "นึกว่าจะได้เห็น"

    ห้ะ?

    "ในเน็ตบอกว่าไปตรวจแล้วจะได้เห็น"

    ก็จริงอย่างที่เขาว่า แต่หมอบอกว่าถ้าอยากเห็นจริงๆ ต้องรออีกหน่อยเพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้เห็นมาก แต่นัดรอบหน้าอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการอยู่

    "รอนัดรอบหน้านู้น" ฉันว่าแล้ววาวมือลงบนกลุ่มผมของรามก่อนจะแหวกว่ายนิ้วมือของตัวเองเข้าในกลุ่มผมของเขา

    ผมรามนุ่มมากนะ มันทั้งนุ่มทั้งลื่นมือจนเคยมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาเมื่อนานมาแล้วว่าถ้าวันไหนว่างๆ ฉันอยากจะลองขยุ้มแล้วก็เล่นผมเขาทั้งวันดู แต่คงไม่ได้เพราะกลัวผมเขาจะหลุดหมดหัวซะก่อน...

    รามเงียบมากกว่าเดิม ตอนแรกฉันนึกว่าเขาหลับ แต่เปล่า เขาเอาแต่จ้องหน้าท้องของฉันอยู่แบบนั้นไม่ขยับเขยื้อนอะไรเลยสักอย่าง...

    จ้องจนเหมือนอยากจะสิงเข้าไปในนั้นอย่างงั้นแหละ...

    "เป็นอะไร?" ฉันถามรามออกไปอีกครั้ง คราวนี้สายตาคมเข้มเบนความสนใจมาที่ฉัน 

    วูบหนึ่งฉันสัมผัสได้ถึงความเสียดายจากแววตาคู่สวยของเขา แต่ก็แปปเดียวเท่านั้นก่อนที่สายตาเขาจะกลับในนิ่งเหมือนเดิม

    "เปล่า" เขาตอบแค่นั้นก่อนจะเบนสายตากลับไปที่หน้าท้องฉันเหมือนเดิมแล้วพูดต่ออีก "แค่อยากเห็น อยากรู้ว่าเป็นยังไง" พูดแค่นั้นก่อนจะขยับเข้ามาใกล้แล้วแตะหน้าผากเขาเข้ากับหน้าท้องฉันอย่างแผ่วเบา

    อ๋อ...ที่แท้ผู้ชายหน้านิ่งคนนี้ก็แค่อยากรู้นี่เองว่าเด็กในท้องเป็นยังไง

    เขาก็แค่อยากเห็นลูก แต่ฉันที่เป็นคนท้องกลับรู้สึกดีที่ได้เห็นปฏิกิริยาแบบนี้ของเขาซะงั้น...

    เมื่อวานเขาก็พูดอย่างนี้ เขาดูตื่นเต้นกับการมีตัวตนของเด็กในท้องมาก จนบางทีอาจจะมากกว่าฉันซะอีก

    "เดี๋ยวก็ได้เห็นแล้ว" ฉันบอกเขาไปก่อนจะเล่นผมของเขาต่อ

    รามส่งเสียงครางในลำคอตอบฉันมา ไม่ยอมขยับไปไหน

    แปลกดี...

    'เพื่อน' ฉันคนนี้ดูจะตื่นเต้นกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในท้องของฉันดี...


    บทบรรยาย:: ราม

    "เลิกเรียนจะมารับ" ผมพูดเสียงเรียบ

    "อื้ม" คนตัวเล็กพยักหน้ารับคำ

    "ถ้ามีอะไรจริงๆ ให้บอกเพื่อนก่อน" บอกพร้อมกับเบี่ยงตัวไปหยิบเสื้อแขนยาวก่อนจะโยนให้อีกฝ่าย "คอนโดอยู่ไกล กลัวมาไม่ทัน"

    "จะพูดประโยคเดิมทุกวันเลยไหม?" ที่รักถามแล้วใส่เสื้อแขนยาวคลุมตัวเองไว้

    "อือ จะบอกทุกวันเลย" ผมว่าแล้วมองที่รักแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ก่อนจะปิดประตูรถแล้วโบกมือให้กันจากนั้นก็เดินเข้าตึกคณะไป

    ผมมองจนเธอหายไปจากสายตาของตัวเองค่อยกลับมาที่คอนโดตามเดิม

    วันนี้อาจารย์ยกคลาสแล้วจะสอนชดเชยวันอื่นแทน ผมเลยว่าง...แต่ถึงจะว่างยังไงก็ยังมีงานของวิชาอื่นให้ทำอยู่ดี แต่ก็นั่นแหละ เรื่องงานเอาไว้ก่อน ผมมีเรื่องอื่นที่สำคัญให้ทำมากกว่า

    เช่นเรื่อง...

    "แล้วตอนที่แม่ไม่ได้กินของที่อยากกิน พ่อทำยังไง?" 

    [แม่ได้กินตลอด พ่อแกต้องขับรถดึกๆ ดื่นๆ ออกไปหาไก่ย่างมาให้แม่กิน]

    ถามแมื่ว่าตอนที่แม่ท้องเป็นยังไง...

    ผมต้องถามคนที่ใกล้ตัว เพราะข้อมูลที่หมอให้มามันไม่ได้ลงลึกขนาดนั้น เหมือนมันยังมีอีกหลายอย่างที่หมอไม่ได้บอก หรืออาจจะไม่รู้

    "แล้วแม่เป็นยังไงอีก?" ผมถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น เชื่อว่าคนเป็นแม่ต้องตกใจแน่ๆ ที่ลูกขายของท่านมาสนใจเรื่องพวกนี้น่ะ...

    [แม่สงสัยมาหลายวันแล้วนะ รามไปทำใครท้องหรือเปล่าลูก?] แล้วแม่ก็ถามออกมาจนได้ [รามถามแม่เรื่องนี้มาหลายวันแล้วนะ]

    ผมว่าแม่พูดเกินไป มันไม่ได้หลายวันขนาดนั้น ผมก็แค่...ถามตั้งแต่รู้ว่าที่รักท้อง แล้วนี่ก็เพิ่งผ่านมาอาทิตย์เดียวเอง 

    ก็แค่เจ็ดวัน...

    ยังไม่ถึงสิบวันเลย...มาหลงมาหลายวันอะไรล่ะ?

    "แค่อยากรู้ อยากศึกษาไว้" ผมเลี่ยงที่จะบอกความจริงออกไป

    ที่เลี่ยงไม่ใช่ว่าไม่ได้อยากบอก แต่ว่า 'แม่ของลูกผม' ยังไม่พร้อมที่จะบอก ผมที่เห็นว่าที่รักดูปกติดีทุกอย่างก็เลยยอมรอให้เธอพร้อมก่อน ไม่อยากไปเซ้าซี้ให้รีบบอกมากเกินเพราะกลัวมันจะไปทำให้เธอเครียด ก็เลย...ได้แต่เลี่ยงที่จะบอกความจริงกับแม่ไปแบบนี้

    [แล้วลูกจะศึกษาไปทำไม? รู้ไหมว่ารามถามเหมือนคนเตรียมตัวจะมีลูกเลยนะ] แม่ผมยังไม่ยอม

    วันก่อนก็ว่าแบบนี้ เมื่อวานก็พูดแนวเดียวกัน ส่วนผมก็โกหกไปเหมือนเดิม

    "ก็แค่อยากรู้เฉยๆ" เสียงผมแผ่วลง เป็นจังหวะกับที่แม่ของผมเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น 

    [อื้มใช่! แล้วหนูที่รักเป็นยังไงบ้างช่วงนี้?] น้ำเสียงแม่ผมปราศจากน้ำเสียงที่ดูจับผิดต่างจากเมื่อกี้เมื่อพูดถึงที่รัก

    ทุกครั้งที่โทรมาแม่ผมชอบถามถึงเธอตลอด เหมือนตอนนี้ผมกลายเป็นคนคอยรายงานแม่กับน้องสาวของตัวเองไปแล้วว่าที่รักเป็นยังไงบ้างน่ะ

    "ก็ปกติดีทุกอย่าง" ผมตอบแม่ไป

    แม่ผมส่งเสียง [อ๋อ] กลับมาก่อนจะเงียบไปแล้วพูดขึ้นมาใหม่ ด้วยน้ำเสียงใหม่... [แล้วเมื่อไหร่รามจะลองจีบๆ หนูที่รักดูล่ะ?]

    'ลองจีบ' พูดง่ายเหมือนให้เดินไปทักทายเพื่อนบ้านไม่มีผิด...

    ทำไมต้องให้ลองจีบ? 

    ทำไมต้องจีบ?

    ทำไม?

    ในเมื่อผม "ไม่ได้รู้สึกอะไร ทำไมต้องจีบ?" ผมถามแม่ออกไปด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมาจากปลายสาย ไม่ใช่แค่นั้นยังมีเสียงตบเข่าดังตามมาด้วยอีก...

    ตลกอะไร?

    มีอะไรให้ตลก?

    [โอ้ย! แม่ล่ะเบื่อ!] แม่ผมพูดแบบนั้น แต่น้ำเสียงดูไม่เข้ากับประโยคที่พูดออกมาเลยสักนิด

    แม่ผมดูชอบใจทั้งๆ ที่เพิ่งพูดออกมาว่าเบื่อ...

    อืม ดูเข้าใจยากดี

    [เอาเถอะๆ งั้นแม่ก็ฝากดูแลหนูที่รักด้วยนะ น้องเขาตัวคนเดียว] แม่ผมพูดแค่นั้นทำท่าเหมือนจะวางสายแต่ผมก็เรียกเอาไว้ก่อน

    "เดี๋ยวแม่" 

    [ว่าไง?]

    "แม่ชอบที่รักไหม?" ผมถามออกไป น้ำเสียงเรียบนิ่งของตัวเองยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่ได้ดูจะสนใจกับคำตอบของผู้เป็นแม่เท่าไหร่

    แม่ผมเงียบไป ก่อนจะตอบกลับมาว่า [ชอบสิ ลูกแม่ชอบใครแม่ก็ชอบคนนั้นด้วยนั่นแหละ] ตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าต้องกำลังยิ้มอยู่แน่ๆ

    ผมเงียบแล้วตอบกลับว่า "อืม" แค่นั้นก่อนจะกดวางสายไป

    ผมไม่ได้คิดอะไรกับคำตอบของแม่ แค่รู้ว่าแม่ชอบที่รักแค่นั้นก็พอแล้ว เพราะถ้าวันไหนต้องบอกเรื่องที่เธอท้องให้คนในครอบครัวของผมฟัง มันน่าจะป็นเรื่องง่ายถ้าคนในครอบครัวผมโอเคกับเธอก่อน...

    ต้องคิดให้เยอะๆ คิดให้มากๆ จะได้ไม่ต้องมาเครียดหรือมีปัญหาทีหลัง

    อืม แบบนั้นน่าจะดี

    ผมวางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนเตียงแล้วมานั่งทำงานของตัวเองให้เสร็จเพื่อรอเวลาไปรับที่รักจากมหา'ลัยในตอนเที่ยง แต่ผมต้องเผื่อเวลาไว้ด้วยเพราะไหนจะรถติด ไหนจะที่จอดรถในมหา'ลัยที่มีน้อยมากอีก 

    สรุปก็ต้องออกมาตั้งแต่ห้าโมงห้าสิบ...

    ก็ดีกว่าต้องให้ที่รักรอนั่นแหละ

    ช่วงนี้ ไม่สิ ทุกวันนี้แดดแรงมาก ผมไม่อยากให้เธอมาตากแดดรอกันนานๆ ถึงที่รักจะไม่ได้ตากแดดแต่ก็ไม่ควรให้อยู่ในที่ที่อากาศร้อนอยู่ดีนั่นแหละ

    ไม่รู้สิ เหมือนไม่กล้าให้เธอทำอะไรสักอย่างเลยช่วงนี้

    แต่คิดว่าน่าจะแค่ช่วงแรกๆ แหละมั้ง หลังจากนี้ผมคงจะปรับตัวได้แล้วค่อยเพลาๆ เรื่องพวกนี้ลงเอง

    คนเราคงไม่ตื่นตัวกับเรื่องนี้ตลอดเวลาหรอกมั้ง

    แต่...

    หลับตานึกภาพมองตัวเองในอนาคตยังไงผมก็เห็นตัวเองเอาแต่เป็นห่วงที่รักอยู่ดี

    จากที่เมื่อก่อนจิตใจไม่สงบเพราะเธออยู่แล้ว ตอนนี้มันไม่สงบยิ่งกว่าเดิมซะอีก

    บางอย่างมันแก้ไม่ได้อ่ะนะ

    ต้องทำใจ

    ผมปรับแอร์ในรถให้มันเย็นจนหนาวระหว่างที่รอที่รัก พอเห็นว่าเธอไลน์มาบอกว่าเลิกแล้วก็ลดแอร์ลงให้มันอยู่ในระดับที่เย็นเฉยๆ พอเธอลงมารถมันจะได้เย็นแบบฉ่ำๆ แต่ไม่หนาวเกินไป

    แล้วเมื่อที่รักมาถึงรถ... "ร้อนมากเลยอ่ะ เป็นวูบๆ ไปหมด" เธอก็บ่นพร้อมกับถอดเสื้อแขนยาวตัวที่ผมโยนให้เมื่อเช้าออกแล้วรวบผมที่ปล่อยยาวของเธอขึ้นก่อนจะเอาคอไปจ่อที่แอร์

    ผมเห็นแบบนั้นเลยหันไปหยิบยางมัดผมที่เอามาใส่ไว้ตรงประตูรถตั้งแต่ที่เราตกลงเป็นเพื่อนกันได้ระยะหนึ่งขึ้นมาแล้วจัดการขยับตัวไปมัดผมให้เธอพร้อมกับถาม "จะกินข้าวที่ห้องหรือข้างนอก?"

    ที่รักหันมาตอบผมอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงสดใส "อยากกินซูชิ" 

    อารมณ์ต่างกันกับตอนที่บ่นว่าร้อนเลย...

    หรือที่เขาบอกว่าคนท้องมีหลายอารมณ์เป็นเรื่องจริง?

    แต่แบบนี้...มันน่าจะเป็นเรื่องปกติของที่รักไหมวะ?

    สงสัย แต่ไม่ถามออกไปเพราะมันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ แต่ก็ตอบคำถามของที่รักไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า "อืม" แล้วก็พาเธอไปร้านที่เธอต้องการไปทันที

    ดีแค่ไหนที่ที่รักอยากกินซูชิตอนเที่ยงน่ะ... ถ้าเกิดอยากกินไก่ย่างตอนกลางดึกเหมือนแม่ผมขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะเตรียมตัวได้เลย...

    ไม่ได้นอนทั้งคืนแน่วันนั้น

    "เอาแบบบุฟเฟ่ต์นะราม"

    ก็ยังดีอยู่...

    "บุฟเฟ่ต์เค้ก"

    มั้ง

    "กับบุฟเฟ่ต์ผลไม้ด้วย มันอยู่ที่จังหวัดไหนนะราม?"

    "หน้าคอนโดก็พอมั้ง" 

    ผมว่าผมคงต้องหาวิธีจัดการกับว่าที่คุณแม่ที่กำลังคิดถึงแต่เรื่องกินคนนี้แล้วแหละ...

    จบบทบรรยาย:: ราม





    Hashtag On Twitter
    #ที่รักของราม

    Talk
    มาแล้วววว วันนี้มาช้า 555555
    อ่านเสร็จเม้นเด้อ

    Talk2
    มาล้าวววว เม้นๆด้วยนะ!

    Talk3
    ใครว่าพี่รามเห่อลูก พี่รามไม่ได้เห่อ! พี่รามแค่ตื่นเต้นเอง 55555
    เม้นเด้อ ค่ำๆมาเจอกันอีกจ้า

    Talk4
    มาตีความจากคำพูดของคูมแม่พิรามกัน!


    เสพติดรัก
    1 เม้น = 1 กำลังใจน้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×