ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [E-Book]My babe, My love #ที่รักของราม

    ลำดับตอนที่ #5 : #ที่รักของราม:: 04[อัพครบ]

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 63


    ประกาศจ้าาาา
    ตอนนี้ไรท์มีเพจแล้ววว ไรท์จะแจ้งเกี่ยวกับการอัพนิยายที่เพจน้าา
    FB PAGE: BBeatrizXX
    จิ้มแล้วไปกดไลค์กดติดตามได้เลยยย ><
    ตอนนี้ก็ไปติดตามนิยายต่อเลยจ้าา

    'รามโถมร่างกายเข้าหาฉันด้วยความอ่อนโยน แต่ทว่าแฝงไปด้วยความดุดัน
    และทุกครั้งที่ร่างกายฉันหดเกร็ง เขาจะพูดว่า 'ไม่เป็นไร' ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำน่าฟังตลอด'




    ฉันกดเข้าไปดูโพสต์ที่เขาแท็กฉันมาก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปมเพราะสิ่วที่เขาแท็กมามันเป็นวีดิโอสั้นๆ ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ฉันเลยกดเปิดเสียงให้มันดังขึ้นเพราะจะดูว่ามันคือคลิปอะไร

    แต่แล้วฉันก็ต้องลดเสียงลงเพราะว่าเสียงจากคลิปสั้นๆ นั้นเป็นเสียงของฉันเอง

    เสียงที่ฉันพูดว่า [ไม่รู้ๆๆๆ ที่รักไม่รู้อะไรเลยอ่า] น่ะ...

    ฉันก้มลงไปมองคลิปใกล้ๆ แล้วจ้องหน้าของตัวเองที่อยู่ในคลิปแล้วได้แต่อ้าปากค้างเมื่อเห็นสภาพตัวเองตอนที่กำลังเมาได้ที่พูดเสียงออดอ้อนกับรามแถมยังถูไถใบหน้าของตัวเองลงบนหน้าอกเขาอีก

    อย่างที่บอกว่ามันเป็นคลิปสั้นๆ เท่านั้นฉันเลยไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น เราพูดถึงอะไรกัน หรือว่าหลังจากนี้เขาทำยังไงกับฉันต่อ ฉันไม่รู้เลย แต่ที่รู้และมั่นใจแน่ๆ คือเขาพาฉันเข้าไปนอนที่ห้องเขาแค่นั้น

    แล้วนี่...คืออะไร?

    เขาอัดคลิปไว้ทำไม?

    ฉันกดสองครั้งที่คลิปเมื่อกี้ก่อนจะกดออกแล้วไปดูอีกโพสต์ที่เขาแท็กฉันมาก่อนจะอ้าปากค้างหนักกว่าเก่าเมื่อรูปที่เขาแท็กมาเป็นโน๊ตที่ฉันแปะไว้ตรงตู้เย็น...

    แคปชั่นไม่ได้พูดถึงอะไรมากนอกจากอีโมจิหมาชิบะหนึ่งตัวกับแมวอีกหนึ่งตัวอยู่ข้างกันแค่นั้น

    ฉันไม่เข้าใจ... ไม่เข้าใจว่าเขาโพสต์ทำไม แต่ไม่เล้าใจตัวเองมากกว่าที่ยังไปกดไลค์สองโพสต์ที่เขาแท็กมาอยู่ทั้งๆ ที่ตอนนี้ควรโทรไปหาเขาแล้วถามว่าเขาทำทำไม

    อ่า ใช่ ฉันต้องโทรไปถามเขา

    แต่ว่า...


    @ramaram tagged you in post


    เขายังไม่หยุดแท็กมาอีก!!

    ฉันกดออกจากไอจีแล้วกดเข้าไปที่รายชื่อก่อนจะกดโทรออกไปหารามเพราะอยากรู้ว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร และรอไม่นานเขาก็กดรับสายฉันอย่างรวดเร็ว...

    "อัพอะไรของนายอ่ะ!?" ฉันถามเสียงดังลั่น

    [รูปหมาที่คณะ] เขาตอบเสียงเรียบเหมือนไม่ได้รับรู้ถึงอารมณ์ของฉันเลยตอนนี้

    แล้วเมื่อกี้บอกว่า 'หมาที่คณะ' นี่คือ...?

    อย่าบอกนะว่าโพสต์ล่าสุดที่เขาแท็กมาคือรูปหมาที่ว่าน่ะ!?

    ไอ้นี่!

    "เลิกว่าฉันเป็นหมาได้แล้ว!" ฉันว่าเขาแล้วนั่งทำหน้าไม่พอใจแม้ว่เขาจะไม่เห็นก็ตาม

    [งั้นเดี๋ยวอัปรูปแมวก็ได้] เขาว่า

    "ราม!" ฉันตะคอก

    [ล้อเล่น] เขาพูดเสียงเรียบจนฉันอยากจะให้เขาสาบานจริงๆ ว่านั่นคือการล้อเล่นของเขาน่ะ

    "แล้วนายเป็นอะไรถึงมาถ่ายคลิปฉันไว้เนี่ย!? แล้วอัปทำไมอ่ะ?" ฉันถามเขาออกไปหลังจากที่เราไม่มีอะไรต้องมาโต้เถียงกันแล้ว

    รามเงียบไป ไม่ได้ตอบฉันกลับมาอย่างรวดเร็วเหมือนทุกที่เหมือนกำลังคิดหาคำตอบไม่ก็ทำอะไรสักอย่างอยู่ แต่ไม่นานเขาก็ตอบกลับมาว่า... [ครั้งที่เขาบอกว่าเธอขืนใจฉันแล้วเธอไม่เชื่อ]

    "......"

    [ครั้งนี้เลยอัดคลิปด้วย แค่เมื่อคืนเธอแค่เมา ไม่ได้ขืนใบเหมือนวันนั้น] เขาตอบมาแบบนี้ก่อนจะเงียบไปเหมือนรอให้ฉันตอบอะไรกลับไป แต่ฉันเนี่ยสิ...นั่งนิ่งไปเลย

    อย่าบอกนะว่าถ้าเมื่อคืนฉันเกิดเมาจนหน้ามืดตามัวไปขืนใจเขาขึ้นมา เขาก็จะอัดคลิปไว้อ่ะ!?

    จริงจัง!?

    "นาย..." 

    [แล้วที่บอกว่าจะขอโทษวันหลังน่ะ ทำไมต้องวันหลัง?] ฉันยังไม่ทันจะได้พูดอะไร รามก็ถามขึ้นมาเสียงเรียบซะก่อน

    "ความจริงนายต้องขอโทษด้วยนะ" ฉันรีบพูดออกไปเพราะอีกฝ่ายเหมือนจะรัวคำถามมาใส่ฉันอีก "นายน่ะ..." พูดหยุดไว้แค่นี้ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องเรียนเพื่อดูว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม พอไม่เห็นใครฉันก็พูดต่อ "นายว่าฉันปากเหม็นน่ะ"

    [ก็จริง น้ำยังไม่อาบ ฟันยังไม่แปรง เบียร์ก็ดื่มอีก สภาพเมื่อวานเธอเละมาก] รามว่ามาแบบนี้

    นี่ฉันไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่าวันนี้เขาดูพูดมากผิดปกติอ่ะ?

    ฉันอ้าปากค้างกับคำพูดที่ดูตรงไปตรงมาของเขา เพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดทำร้ายจิตใจฉันซ้ำสองแบบนี้ แต่ยังไม่ได้จะได้ท้วงติงเพื่อรักษาภาพลักษณ์อะไร เขาก็พูดประโยคที่ค่อนข้างไม่เป็นตัวของเขาออกมาซะก่อน

    [ถ้าไม่ติดว่าตัวเธอนุ่มนิ่มฉันไม่นอนกอดหรอก]

    "ดะ...เดี๋ยวก่อน"

    [เมื่อกี้ชมนะ เผื่อไม่รู้] พูดจบก็ตัดสายไปโดยที่ฉันทำได้แค่อ้าปากค้างอยู่แบบนัเน

    เรื่องโพสต์รูปกับคลิปยังเคลียร์ไม่จบ อยู่ๆ ก็มาเปลี่ยนเรื่องกันง่ายๆ แบบนี้เลย...

    อืม ดี

    ดีมากราม...///

    ฉันปล่อยให้เขาวางสายใส่ไปแบบนั้นไม่คิดจะโทรกลับอีกเพราะเชื่อว่ายังไงฉันก็ไม่ได้คำตอบของคำถามฉันอยู่ดี ก็เลย...ปล่อยไปแบบนั้น ยังไงไอจีที่ลงมันก็เป็นบัญชีของเขา ถึงแม้ว่าจะมีใบหน้าของฉันให้เห็นอยู่ในนั้นก็ตาม แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา เอาไว้ฉันเดือดร้อนจากโพสต์พวกนั้นเมื่อไหร่เดี๋ยวฉันค่อยจัดการเขาเอง

    แต่ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเดือดร้อนเร็วขนาดนี้...

    "แก! บอกมาเลยนะว่าแกกับพี่รามเป็นอะไรกันอ่ะ!?" เสียงเพื่อนรักของฉันที่ชื่อว่าขวัญตาภามกันอย่างตรงไปตรงมาเมื่อเลิกคลาสช่วงเช้าแล้ว

    ฉันส่งสายตาให้เพื่อเบาเสียงลงเพราะตอนนี้ยังมีคนอีกหลายคนอยู่ในห้องอยู่ มันจะรบกวนคนอื่น แต่ยัยเพื่อนตัวดีกลับทำเมินสายตาที่ฉันส่งไปแล้วถามกันต่ออีกว่า "แล้วพี่แทนล่ะ? แกหาใหม่เร็วขนาดนั้นเลยหรอ!?"

    นึกว่าจะมีแค่คนอื่นที่ให้ความสนใจกับเรื่องของฉัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเพื่อนฉันจะให้ความสนใจกับเรื่องนี้ยิ่งกว่าคนอื่นเสียอีก

    ขอบคุณจริงๆ ที่ใส่ใจกันขนาดนี้...

    "ให้คนอื่นออกไปก่อน ถึงตอนนั้นค่อยถาม อันไหนตอบได้จะตอบ ตอบไม่ได้ก็จะไม่ตอบ โอเค๊?" ฉันบอกเพื่อนไปก่อนจะเก็บชีทเรียนที่เพิ่งได้รับมาลงในกระเป๋าแล้วนั่งนิ่งๆ รอให้คนออกไปจนหมด 

    แล้วก็อย่างที่ฉันบอกเพื่อนไปเลยว่าอะไรตอบได้ก็จะตอบ อะไรตอบไม่ได้ก็ไม่ตอบ

    ฉันบอกขวัญตาไปว่าฉันกับรามเป็นรูมเมทกัน ความจริงข้อนี้เพื่อนฉันรู้ว่าฉันมีรูมเมท แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร พอมันรู้แบบนี้ก็โวยวายใหญ่ที่ฉันมาอยู่ห้องกับผู้ชายแบบนี้ แถมยังแสดงอาการเป็นห่วงกันมากมายทั้งๆ ที่ฉันกับรามอยู่ด้วยกันมาสองปีแล้ว...

    เรื่องพี่แทนฉันตอบมันไปว่าคนเราต้องรู้จักมูฟออนแค่นั้น ซึ่งมันก็เข้าใจและไม่ได้ถามย้ำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉันกับคนรักเก่ามากเท่าไหร่

    ยัยเพื่อนตัวดีเหมือนจะสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับรูมเมทฉันมากกว่า

    "แล้วในคลิปที่พี่รามอัปลงคืออะไร? ตอบมานะ ข้อนี้แกตอบได้เพราะนั่นคือแก!"

    ฉันเงียบไปเพราะเดิมทีตัวเองก็ไม่ได้มีนิสัยเข้าหาคนง่ายอยู่แล้วมยิ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ชายด้วยยิ่งแล้วใหญ่ นอกจากว่าจะสนิทจรองๆ เท่านั้นอ่ะฉันถึงจะยอมให้อีกฝ่ายมาถึงเนื้อถึงตัวกันขนาดนี้ แล้วดูสภาพฉันในคลิปสิ...

    มันเป็นเรื่องที่โอ้มายก็อดสำหรับเพื่อนฉันมากเลย

    "ในคลิปแกเมาด้วยนะ!" ขวัญตาพูดทีละประเด็นที่เห็นจากในคลิป

    "......" ฉันยังเงียบอยู่

    "แล้วแกก็ซุกอกเขาด้วยนะ!" เธอยังคงพูดอยู่เหมือนเดิม

    "......" โอเค ตอนนี้ฉันเข้าใจรามแล้วว่ารู้สึกยังไงตอนที่ฉันพูดมากใส่เขาน่ะ

    "แก!"

    "ก็ดื่มด้วยกันอ่ะ อยู่ๆ ก็อยากดื่มแล้วก็อย่างที่เห็นนั่นแหละว่าเมา หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว" ฉันบอกออกไปตามความจริงเพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรหลังจากนั้นหรือเปล่า

    "โหยย อิจฉาเว่อร์อ่ะ" ขวัญตาพูดออกมาเสียงดังพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกนั่งขาไขว้ห้างแล้วพูดต่ออีก "นี่ขนาดฉันมีแฟนแล้วนะแก พวกฉันยังไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย แต่แกอ่ะได้อยู่กับผู้ชายแล้ว! แถมหล่อด้วยนะประเด็น" ว่าไปก็ยื่นมือมาดันไหล่ฉันไปด้วย

    ฉันได้แต่นั่งส่ายหน้าให้กับความคิดของมันที่อยากออกมาอยู่กับแฟนสองคน 

    ฉันไม่เข้าใจนะว่าทำเพื่อนฉันถึงอยากทำแบบนั้นเพราะตอนที่ฉันคบกับพี่แทน ฉันก็ไม่ได้อยากเก็บข้าวของย้ายไปอยู่กับเขาอ่ะ มันก็แค่...ฉันมีแฟน ฉันหวานกับแฟน แค่นี้ก็พอแล้ว 

    หรือว่าเราคบกันได้แค่แปปเดียวฉันเลยไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นนะ?

    อืม น่าจะใช่มั้ง

    "เลิกผลักได้แล้วแม่คุณ" ฉันบอกเพื่อไปหลังจสกที่ปล่อยให้ยัยนั่นรังแกกันอยู่นานสองนานก่อนจะถือกระเป๋าแล้วลุกขึ้นยืนแล้วชวนนางไปกินข้าวเที่ยง เพราะตอนบ่ายมีเรียนต่ออีกจนภึงเย็น

    วันนี้ทั้งวันฉันนึกว่าจะมีแค่ยัยขวัญตาคนเดียวที่ถามฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ จนกระทั่งตอนเย็นหลังเลิกเรียนฉันถึงได้รู้ว่ายังมีอีกคนที่ใา่ใจกับเรื่องของฉันด้วย...

    คนที่ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับฉัน

    คนที่เป็นฝ่ายบอกเลิกฉันไปและตอนนี้มีตำแหน่งเป็นแฟนเก่าของฉัน

    เขาคนนั้นชื่อว่าแทน...

    "เธอคบกับมันอยู่หรอ!?" เขาถามฉันเสียงดังพร้อมกับกระชากข้อมือฉันแรงมากระหว่างที่กำลังจะเดินไปที่รถของตัวเอง ที่ซึ่งจอดอยู่ตรงลานจอดรถของคณะ 

    ฉันไม่ตอบเขา พยายามดึงข้อมือของตัวเองออกสุดแรง แต่กฌปล่าประโยชน์เมื่อพี่แทนยังคงออกแรงบีบข้อมือฉันอยู่อย่างนั้น

    "ตอบสิที่รัก!" และเพราะว่าเขาเสียงดังขึ้นกว่าเดิม ฉันเลยต้องหันไปมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์แล้วถามกลับไปเสียงดังแบบที่ไม่เคยทำกับเขามาก่อน

    "แล้วพี่จะอยากรู้ไปทำไมคะ!?" 

    "ที่รัก!" เขาเริ่มเสียงดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อเจอฉันถามเขากลับไปแบบนั้นก่อนจะลดน้ำเสียงลงเพื่อพูดประโยคต่อมา "ฉันไม่ให้เธอคบกับมัน"

    ฉันแค่นหัวเราะออกมาอย่างนึกสมเพชที่เขามาทำตัวหวงก้างแบบนี้ทั้งที่ตัวเขาเองไม่มีสิทธิ์นี้ตั้งแต่ขอเลิกฉันแล้ว "ทำไมคะ? ทำไมที่รับถึงคบกับคนอื่นไม่ได้ในเมื่อตอนนี้ที่รักไม่มีแฟน!?"

    เชื่อเขาเลย...

    "แต่เธอไม่มีสิทธิ์!"

    "พี่ต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์มาสั่งที่รักแบบนี้!" 

    เราเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ 

    ยิ่งเสียงดังยิ่งเป็นที่น่าสนใจของนักศึกษาที่เดินไปมาอยู่แถวนี้

    พี่แทนดูโกรธมากที่ฉันพูดแบบนั้นใส่เขาไป แต่เขาจะโกรธอะไรในเมื่อที่ฉันพูดมันคือเรื่องจริง และเขาเองก็รู้ดีอยู่แล้ว...

    เลิกกันไปแล้ว สิทธิ์ของความเป็นแฟนก็ไม่มี สิทธิ์ของแฟนเก่าเขาก็ดูจะไม่อยากได้ ทั้งที่ตอนเลิกกันยังบอกลาฉันอย่างไม่มีเยื่อใย ทำไมวันนี้ถึงมาใส่ใจกันนักล่ะ?

    "ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้หรอคะ? พี่เป็นคนขอเลิกที่รักเองนะ จำไม่ได้หรอ?"

    "เลิกกันไปไม่กี่วันเธอก็มีใหม่เลยหรอ? เก่งเกินไปรึเปล่า?" เขาถามฉันมาด้วยคำถามที่ได้ยินแล้วอยากกจะหัวเราะออกมามากๆ

    ช่างกล้าถามนะ

    "แต่ที่รักคงไม่เก่งเท่าพี่หรอกค่ะที่มีคนใหม่ตั้งแต่ยังไม่เลิกกับที่รักน่ะ!" ฉันพูดเสียงดัง

    คนแถมนั้นเริ่มซุบซิบกัน

    "เลิกกันแล้วจะมาทำตัวหวงก้างเพื่อ?!" 

    "ฉันไม่ได้หวงก้าง!" เขาว่า แต่การกระทำนี่ตรงกันข้ามมาก

    "งั้นอย่าทำแบบนี้ค่ะ แล้วก็รบกวนปล่อยด้วย" ฉันกดเสียงต่ำ พยายามทำใจให้นิ่งมากที่สุดเพราะรู้ว่าฉันอารมณ์ฉันขึ้นอีกครั้งหนึ่งมันจะไม่มีอะไรมาฉุดอีกแล้ว

    "ฉันไม่ปล่อย" เขาว่าก่อนจะลากฉันไปในที่ลับตาคน ฉันที่แรงน้อยกว่าเขาถูกลากไปอย่างง่ายดายแม้จะขืนตัวเองแค่ไหนก็ตาม

    แต่ตอนที่กำลังโดนกระชากลากถูอยู่นั้น


    'ครืดๆ'


    โทรศัพท์ที่ตั้งเป็นโหมดสั่นก็ดังขึ้นในกระเป๋าที่ใช้เก็บเอกสาร แรงสั่นของมันค่อนข้างแรง ดังนั้นฉันเลยได้ยินมัน และแน่นอนว่าคนที่ลากถูฉันอยู่ตอนนี้ก็น่าจะได้ยินมันเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้หันมามอง...

    แน่นอนว่าฉันรีบใช้มือข้างที่ว่างหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นพลางกดรับสายทันทีโดยที่ไม่ได้มองว่าใครโทรมา 

    แต่พอรับสาย เมื่อหูได้ยินเสียงนิ่งๆ จากอีกฝั่ง ฉันก็ไม่สนแล้วว่าเขาจะโทรมาเพราะเรื่องอะไร และเขาอยู่ไหน แต่ตอนนี้ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเขา

    "ระ...ราม!" เพราะทั้งถูกลาก ทั้งหอบเหนื่อย ความคิดที่จะพูดออกไปทันทีเลยหายไป อีกทั้งคำขอร้องของฉันก็ยังหายไปอีกด้วยเมื่อโทรศัพท์เครื่องบางถูกคนที่ใช้กำลังกับฉันอยู่ตอนนี้กระชากมันไปถือไว้

    พี่แทนมองชื่อที่อยู่หน้าจอก่อนจะเอาโทรศัพท์แนบหูแล้วกรอกเสียงที่ต่ำจนน่ากลัวลงไป "กูไม่ได้ มึงก็ต้องไม่ได้" 

    ฉันนิ่งชะงักไปกับคำพูดนั้นของเขา ทั้งเพราะคำพูดและเพราะสายตาที่เขามองมานั่นแหละ...

    พูดตรงๆ ตอนนี้พี่แทนน่ากลัวมาก ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะได้เห็นอีกด้านของเขาไปแล้ว แต่ภาพตรงหน้านี้ทำให้ฉันรู้สึกขนลุกเกลียวขึ้นตามลำตัวพร้อมกับกับสั่นเนื่องจากกลัวไปด้วย

    ไม่นะ...

    "จำใส่หัวมึงไว้ด้วยว่ากูมาก่อน กูต้องได้ก่อน" เขายังคงพูดต่อโดยที่ฉันไม่รู้ว่ารามได้พูดอะไรกลับมาไหม แต่ตอนนี้ฉันจะมัวแต่กลัวไม่ได้ ทั้งๆ ที่ปากก็ไม่ได้โดนปิดไว้แท้ๆ แต่ทำไมฉันไม่พูดออกไปล่ะ 

    พูดออกไปสิ

    ให้เขามาช่วยสิ

    "ลานจอดรถ! ฮึก ฉันอยู่ตรงลานจอดรถ! ฮือ" รู้ว่ามันไม่ใช่คำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกอยากช่วยเท่าไหร่ แต่ฉันเชื่อว่าเขาต้องได้ยิน

    เขาได้ยินแน่

    เขาต้องมาช่วยฉันแน่ๆ

    ถึงจะไม่รู้ก็เถอะว่าไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน แต่เขาต้องมา

    "กูไม่อยู่รอให้มึงหาเจอหรอก ไอ้ควาย" พี่แทนประกาศออกไปแบบนั้นก่อนจะกดตัดสายทิ้งไปแล้วโยนโทรศัพท์ฉันลงพื้นก่อนจะพาเดินไปต่อ

    และจุดหมายของเขาเป็นลานจอดรถแน่นอน ดังนั้นฉันเลยเลือกที่จะบอกรามไปแบบนั้น แต่ก็ไม่คิดว่าคนที่โทรมาเมื่อกี้จะอยู่ที่ลานจอดรถแล้วเรียบร้อยและยืนอยู่ตรงรถของฉันด้วยเพราะ

    เขาเดินตรงเข้ามาหาเราสองคน เดินมาแล้วจับแขนอีกข้างของฉันเอาไว้แล้วทำท่าจะลากให้ไปอยู่กับเขา แต่เพราะอีกข้างฉันโดนจับเอาไว้อยู่เขาเลยไม่ดึงฉันฉันต้องเจ็บ

    เขามองหน้าฉัน 

    เราสบตากัน

    เขาละสายตาไปมองพี่แทน

    เขาเริ่มขยับปากพูด

    "เมื่อกี้มึงพูดเหี้ยไร?" ประโยคแรกเป็นคำถามที่ดุดันพอสมควร แต่ความดุดันของเขาในตอนนี้ไม่ได้ทำให้ฉันกลัวเลย เหมือนความน่ากลัวเหล่านั้นถูกส่งไปที่อีกคนมากกว่า

    "หมายถึงประโยคไหน?" พี่แทนถามพร้อมกับบีบข้อมือของฉันแรงขึ้น

    ฉันเบ้หน้าเพราะเริ่มทนความเจ็บไม่ได้แล้ว และเหมือนรามจะสังเกตเห็นสีหน้าของฉันเขาเลยก้มลงมือที่ข้อมือข้างที่ถูกพี่แทนจับเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าแล้วตอบคำถามของอีกฝ่ายไป

    "ทุกประโยค"

    พี่แทนแสยะยิ้มมุมปาก แต่ไม่ทันได้ตอบก็โดยรามถามเพิ่มมาอีก

    "มึงไม่ได้อะไร แล้วกูไม่ได้อะไร?"

    น้ำตาฉันเริ่มคลออีกครั้งเพราะลึกๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าพี่แทนหมายถึงอะไร

    และคงเป็นเพราะรู้อยู่แล้วเมื่อกี้ฉันเลยสั่นกลัวขึ้นมาเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรบ้าๆ กับฉัน...

    "แล้วอะไรคือมาก่อนต้องได้ก่อน?" รามยังถามไม่หยุด ใบหน้านิ่งเรียบของเขาทำให้ฉันรู้สึกว่ามันนิ่งกว่าทุกครั้ง...

    "ถามโง่ๆ กูคบยัยนี่มาสองปี อย่างน้อยกูก็ต้องได้ซิงป่ะวะ?!" คำตอบที่ดังชัดเจนของพี่แทนทำให้น้ำตาที่คลอไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้

    เลิกกันไปก็ควรจะอยู่ใครอยู่มัน

    ที่ได้คบจนเลิกกันเพราะเรื่องพนันของเขาฉันยังไม่โกรธอะไรเขาเลย

    แต่ว่าครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆ ครั้งนี้เขาทำตัวไม่ให้เกียรติฉันมากเกินไปแล้วจริงๆ

    "ฮึก!"

    "ไว้กูพอใจตอนไหนมึงค่อย..."


    'ผลั้วะ!'


    ยังไม่ทันที่พี่แทนจะได้พูดจบประโยค อยู่ๆ หมัดหนักๆ ของรามก็พุ่งผ่านหน้าฉันแล้วตรงไปที่ปลายคางของคนที่เพิ่งพูดจาไม่เกียรติฉันไปอย่างรวดเร็วโดยไม่บอกกล่างกันเลยสักนิด

    การกระทำนั้นส่งผลให้พี่แทนปล่อยมือออกจากข้อมือของฉันเพื่อไปจับคางของตัวเองไว้แล้วมองมาด้วยแววตาโกรธจัดเมื่อเห็นว่าตอนนี้ร่างกายอันสั่นเทิ่มของฉันพุ่งเข้าสู่อ้อมกอดของรามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ฉันซุกหน้าเข้ากับแผงอกของรามแล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายเขา

    เจ้าของอกแกร่งและลำแขนที่พาดโอบรอบตัวฉันอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้รังเกียจด้วย แม้ว่าเสื้อเขาจะเริ่มเปียกไปแล้วก็ตาม

    เหมือนตอนนี้เขาจะสนใจแต่กับพี่แทน

    เพราะเขาถามพี่แทนฉันเลยรู้ว่าตอนนี้ความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่พี่แทนเท่านั้น

    "สันดานแบบมึงสิทธิ์อะไรมาทำเมียกูร้องไห้?"

    น้ำเสียงที่ดูโกรธเกรี้ยวของรามทำให้ตอนนี้ฉันร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม

    และครั้งนี้เขาก็เหมือนจะรู้ถึงความรู้สึกของฉัน เขาเลยใช้มือข้างหนึ่งลูบผมฉันเบาๆ แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนเดิม

    "อย่ามายุ่งกับที่รักอีก" เขาพูดแค่นั้นก่อนจะผละฉันออก แต่ยังคงโอบเอวของฉันไว้ด้วยมือหนึ่งข้าง

    ฉันจับเสื้อนักศึกษาของเขาแล้วซุกหน้าเอาไว้อย่างเดิมไม่คิดจะมองหน้าใครทั้งนั้นนั้น

    ไม่มองใครและไม่ให้ใครมองด้วย

    "มึง...!" เสียงพี่แทนดังขึ้นหลังจากเงัยบไปนานแล้วส่งผลให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย แต่รามก็ลื่นมือขึ้นมาลูบที่กลางหลังของฉันเบาๆ แล้วพูดออกไปก่อนที่พี่รามจะพูดออกมา

    "กูมีสิทธิ์กว่าที่มึงคิด" ความเรียบนิ่งของประโยคและน้ำเสียงของเขา...ฉันเชื่อว่ามันส่งถึงอีกฝ่ายให้รับรู้ได้แน่นอนว่าที่เขาพูดมันคือ 'เรื่องจริง'

    ถึงแม้ 'สิทธิ์' ที่เขาว่ามาฉันจะไม่ได้หยิบยื่นมันให้เขาเอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเกินเลยกันไปแล้ว...

    พี่แทนเงียบไปหลังจากได้ยินที่รามพูดแบบนั้น 

    ตอนแรกฉันนึกว่าเขาจะหยุดบ้าแล้วจากกันไปดีๆ ได้แล้ว แต่ไม่...ครั้งนี้เขาหันมาสนใจฉันแทน "มันหมายความว่ายังไงวะที่รัก!!?" 

    "เฮือก!" คราวนี้ฉันปล่อยมือที่จับเสื้อรามออกแล้วเปลี่ยนเป็นกอดที่ช่วงเอวของเขาแทนด้วยความกลัวก่อนจะเรียกชื่อเขาออกไปเสียงเบา "ราม..." 

    ทั้งสั่นกลัวและเบาหวิว...

    "ขยับเข้ามาอีกก้าวเดียวเดี๋ยวมึงได้รู้เลยว่าพ่อกูทำอะไรกับพวกเยี่ยวม่วงได้บ้าง" รามไม่ได้ใช้น้ำเสียงที่ดูข่มขู่ ทั้งที่ประโยคของเขามันเหมือนกับขู่กันมาก

    แต่เพราะมันไม่เหมือนกับการข่มขู่นั่นแหละ ฉันเลยได้ยินเสียงฟึดฟัดของพี่แทนก็จะเป็นเสียงเดินกระแทกเท้าจากไปจากบริเวณนี้

    เนิ่นนานกว่าความสนใจของรามจะกลับมาที่ฉัน

    เนิ่นนานกว่าเขาจะจัดการความรู้สึกของตัวเองได้แล้วใช้น้ำเสียงอ่อนโยนพูดกับฉัน

    "ไม่เป็นไรแล้ว..."

    แค่ไม่กี่คำ แต่ก็ทำให้ฉันที่กำลังอยู่ในช่วงอารมณ์อ่อนไหวอยู่ปล่อยโอออกมาทันที

    "ฮึก ฉันกลัวมากเลยอ่ะ ฮืออ" 

    "ไม่เป็นไรแล้ว" 

    "ฮึกฮืออ"

    ฉันนั่งร้องไห้ตลอดทางจากมหา'ลัยจนถึงคอนโด เรามาโดยรถของฉันและมีรามเป็นคาขับรถ ตลอดการเดินทางระยะสั้นมือของฉันถูกรามจับไว้ตลอด แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมันก็เป็นเพราะฉันไม่ยอมปล่อยมือของเขาตั้งแต่แรกด้วยนั่นแหละ แล้วพอเรามาถึงคอนโดรามก็พาฉันเข้าไปในห้องของเขา

    เราทั้งคู่เงียบ...

    จริงๆ ไม่ถึงกับเงียบหรอกเพราะเสียงฉันสะอื้นยังคงดังเป็นระยะๆ อยู่

    แต่ก็นั่นแหละ...มีแค่เสียงสะอื้นเท่านั้น ไม่มีการพูดคุยกัน ไม่มีการถามถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ว่าเป็นมายังไง ไม่ได้ถามไปด้วยว่าทำไมเขาถึงไปอยู่ที่รถของฉันได้ เหมือนกับว่าทุกคำถามของเราตอนนี้ถูกเหยียบไว้จนจมพื้นดินเพียงเพราะอารมณ์ที่อ่อนไหวของฉันเท่านั้น

    จนกระทั่ง...

    "คุก...คุกเข่าทำไม?" ฉันถามคนตัวสูงที่ตอนนี้นั่งคุกเข่าอยู่หน้าฉันที่นั่งอยู่ปลายเตียง

    รามไม่ได้เงยหน้ามองฉัน เขาจับจ้องมาที่ข้อมือของฉันข้างที่ถูกพี่แทนจับ ซึ่งตอนนี้มันแดงเถือกเลยทีเดียว...

    เจ็บ...

    กลัวด้วย...

    ภายในหนึ่งวันพี่แทนทำให้ฉันทั้งเจ็บและกลัวเขาได้ขนาดนี้ สิ่งที่ฉันเจอในวันนี้อาจจะมีส่วนดีตรงที่มันจะทำให้ฉันลืมเรื่องราวดีๆ ระหว่างเราได้เร็วขึ้น แต่เหตุการณ์แย่ๆ มันจะฝังลึกอยู่ในความทรงจำของฉันแทน...

    ขอโทษกี่ครั้งมันก็คงไม่ทำให้ฉันลืมได้หรอก

    "ขอโทษ" แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น อยู่ๆ คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าฉันก็พูดขอโทษขึ้นมาทั้งที่เขาไม่ได้มีความผิดอะไรเลย... 

    "ฮึก!"

    "ขอโทษ"

    "ขอโทษทำไม ฮึก นายไม่ได้ผิดสักหน่อย" ฉันพูดแบบนั้นก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดเขาอีกครั้งแล้วร้องไห้ออกมา

    ถ้าวันนี้ฉันไม่มีราม...ฉันคงอยู่ในสภาพที่แย่กว่านี้

    ถ้าวันนี้เขาไม่อยู่ตรงนี้...ฉันคงคิดเรื่องบ้าๆ ไปแล้ว

    รามกอดฉันตอบ ยกมือขึ้นลูบผมฉันลงไปที่หลังแล้วหยุดไว้แค่นั้น

    ฉันปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ต่อจนรามผละฉันออก ฉันถึงได้หยุดร้องแล้วมองหน้าเขาตรงๆ ถึงจะสะอื้นอยู่บ้าง แต่ก็นิ่งขึ้นมากว่าเดิมแล้ว

    คนตัวสูงจับมือข้างที่มีรอยแดงเถือกขึ้นมาดูแล้วก้มลงไปมองมันก่อนจะจรดริมฝีปากเย็นชืดของเขาลงไปบนข้อมือของฉันเบาๆ 

    เขาบรรจงพรมจูบที่ข้อมือและท่อนแขนของฉันอย่างแผ่วเบาเหมือนจะทำให้ฉันลืมความเจ็บปวดที่เกิดจากพี่แทน 

    รามลุกขึ้นจากพื้นเมื่อริมฝีปากของเขาเลื่อนสูงขึ้น แต่ร่างกายฉันกลับถูกดันให้ต่ำลง...

    ต่ำจนแผ่นหลังราบไปกับเตียงนิ่มๆ ของราม

    ฉันมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ 

    มองรามที่รุกล้ำเข้ามาภายใต้เสื้อนักศึกษาของฉันก่อนจะถามออกไป "ทะ...ทำอะไร?"

    คนตัวสูงไม่ตอบแต่เลื่อนใบหน้ามาในระดับเดียวกันก่อนจะปิดปากของฉันด้วยริมฝีปากของเขาแล้วขบเม้มกันเบาๆ เหมือนกำลังหยอกเย้ากันก่อนจะผละออกไปแล้วตอบคำถามของฉันว่า "กำลังปลอบ"

    เขาบอกฉันว่าสิ่งที่เขาคำคือการ 'ปลอบฉัน'

    บอกว่าการจูบอย่างดูดดื่มของเขาคือการ 'ปลอบกัน'

    บอกว่าฝ่ามือหนาที่เคล้นคลึงตามลำตัวฉันคือการ 'ปลอบโยน'

    และเพราะอะไรก็ไม่รู้จากตัวเขาหรือสายตาคมเข้มที่ต้องมา...ฉันไม่สามารถขัดขืนได้ แม้ว่าเพิ่งจะแสดงท่าทีไม่ชอบใจที่พี่แทนจะทำแบบนี้กับฉันก็ตาม

    "ไม่เป็นไร" ประโยคนี้จากคนตัวสูงดังขึ้นมาอีกหลังจากที่ตอนนี้ร่างกายของฉันปราศจากเสื้อผ้าอาภรทุกชิ้นแล้ว และตัวตนของเขาจดจ่ออยู่ที่กลางกายสาวของฉัน...



    Hot scene cut
    v
    v
    v
    BBeatrizXX[CUT!]



    Hashtag On Twitter
    #ที่รักของราม

    Talk
    อิพี่รามของไรท์นางตัดสายใส่เลยจ้าาา 555555555 

    Talk2
    เม้นจิ ต้องเม้นนะ เม้นรัวอัพเร็ว เม้นน้อยอัพช้านะ

    Talk3 
    เอาแล้วๆๆๆๆ เอาล้าวววววว
    มีคำพูดและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนะคะ ห้ามลอกเลียนแบบนะคะคนดีของไรท์ -/\-

    Talk4
    มันมีนิดเดียวอ่ะ แต่ไม่กล้าใส่หมดกลัวถูกเด็กดีแบน 555555
    อ่าเสร็จเม้นด้วยยย


    เสพติดรัก
    1 เม้น = 1 กำลังใจน้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×