คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : CHAPTER:: 07[200 Per.]
เรานั่งอยู่บนรถกัน การเดินทางตอนช่วงสองทุ่มยังคงติดขัดเหมือนเดิม ฉันที่นั่งหลังชิดเบาะไม่ได้เพราะถ้าหลังแนบเบาะแล้วหลังฉันจะเป็นรอยโซ่ก็ได้แต่นั่งตัวตรงไขว้ห้างบนรถสวย ๆ เช็คโทรศัพท์มือถือไปพลาง
“คนอื่นเขาไปกันยัง?” พระพายถาม
“น่าจะไปแล้วมั้ง” ฉันว่าพร้อมกับเลื่อนดูข้อความในโทรศัพท์ของตัวเองก็เห็ฯว่าพี่อ้อยบอกว่ามีคนไปที่ร้านแล้ว 2-3 คน เลยให้เข้าไปนั่งรอและสั่งอาหารได้เลย อยากสั่งอะไรเพิ่มนอกเหนือจากที่เคยบอกฉันเอาไว้ก็สั่งมาเลย ฉันสามารถกินด้วยได้หมด หรอถ้าไม่หมดอยากจะห่อก็ตามสบาย เพราะบางครั้งฉันก็ห่อกลับบ้านเหมือนกัน
เป็นภาพที่เห็นบ่อยเลยทีเดียว
“นายเอาปลาอะไรสักอย่างลุยสวนมั๊ย?”
“อยากได้ปลาสักอย่างนึ่งมะนาว”
“โอเค” ฉันว่าก่อนจะพิมพ์เมนูของพระพายลงไปด้วย
ปกติตอนเลิกงานเสร็จแล้วฉันจะให้ทุกคนรวมเมนูที่จะกินมาแล้วค่อยสั่งตอนที่ใกล้ถึงเวลานัดเพราะถ้าคนไปถึงแล้วอาหารก็จะได้มาเสิร์ฟพอดีเลย แต่บางครั้งก็ตกลงกันไม่ได้ว่าจะเอาอะไร ก็จะมีการสั่งเพิ่มทีหลังแบบนี้แหละ โดยปกติแล้วคนที่ไปถึงคนแรกจะเป็นพี่อ้อยนั่นเอง
“มีคนไปถึงแล้ว” ฉันว่าพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ลงใส่กระเป๋าแล้วนั่งมองทางไปด้วยก่นอจะคิดอะไรขึ้นได้
ถ้าพี่อ้อยไปถึงก่อน...นั่นแสดงว่าเคทก็ต้องไปถึงด้วยรึเปล่า?
มันจะดูแปลก ๆ มั๊ยถ้าเขาไปถึงที่นั่นแล้วต้องนั่งรอแบบไม่มีคนคุยด้วย เพราะนอกจากพี่อ้อยเคทก็ไม่รู้จักใครเลยอ่ะ
ลืมไปเลย รู้งี้รีบออกจากบ้านดีกว่า
“เราสามารถไปถึงเร็วกว่านี้ได้มั๊ยอ่ะ? เพื่อนฉันน่าจะไปถึงแล้ว” ฉันหันไปถามพระพาย
“เคทอ่ะหรอ?”
“อืม”
“ไม่เป็นไรหรอก ก็น่าจะมีคนอื่นที่เขาไปถึงเป็นเพื่อนของเพื่อนเธอแล้วป่ะ?” พระพายว่า
“เพื่อนฉันจะพูดกับใคร เขาจะนั่งนิ่งเงียบคุยกับใครมั๊ย? ฉันกังวลจังเลยอ่ะ”
กังวลจริง
กังวลจัง
สภาพน่าจะไม่ต่างจากแม่ที่ให้ลูกไปโรงเรียนวันแรกเท่าไหร่
“ที่เห็นจากการทำงานวันนี้ก็ไม่เห็นเพื่อนเธอพูดกับใครเลยนะเขาดูเป็นคนเงียบ ๆ อ่ะ” พระพายว่าพร้อมกับหันมามองหน้าฉันหลังจากที่รถหยุดนิ่งเพื่อติดไฟแดง
“ปกติเขาก็ไม่ใช่คนเงียบนะ ก็พูดได้ คุยได้อ่ะ”
“งั้นก็ให้เพื่อนเธอได้ลองคุยกับคนใหม่ ๆ บ้างเผื่อจะเข้าวงการจริงจัง”
“ฉันนึกภาพเคทเข้าวงการไม่ออกเลย...” พูดไปพร้อมกับแอบนึกภาพไปด้วย
ไม่ได้เลยอ่ะ เพราะตั้งแต่รู้จักกันเขาก็ไม่ได้มีวี่แววว่าอยากเข้าวงการเลย
งั้นทำไมจู่ ๆ ถึงมาเป็นนายแบบได้นะ?
มีแต่คำถามเต็มไปหมด แล้วถ้าเคทอยากทำอาชีพนี้จริงจัง ฉันสามารถให้พี่อ้อยรับเข้าเข้าสังกัดด้วยได้มั๊ยนะ?
หรือฉันสามารถฝากคุณแม่ของพระพายรับเขาเข้ามาเป็นนายแบบของแบรนด์ได้รึเปล่า?
แล้วนี่เขามาที่ไทยคนเดียวหรอ?
ทำไมอยู่ดี ๆ ฉันก็เครียดขึ้นมาเลยล่ะ?
“ทำหน้าเครียดอีก” พระพายเอื้อมมือมาดันปลายคางของฉันขึ้นก่อนจะหันไปมองถนนแล้วออกตัวรถอีกครั้งเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว “พอจะวันนั้นของเดือนแล้วเธออ่อนไหวกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ไม่ได้นะ”
“ไม่ใช่กับทุกอย่างสักหน่อย” ฉันปฏิเสธไปแล้วยกมือขึ้นกอดอกเอาไว้
“แต่วันนี้เธอหลายอารมณ์ฉิบหายเลย อย่าไปร้องไห้ตอนกำลังกินข้าวอยู่นะ”
“ไม่ร้องหรอกไอ้บ้า แต่งหน้ามาสวยขนาดนี้จะร้องไห้ได้ไง” ฉันตอบออกไปก่อนจะสะบัดผมไปทางพระพาย
“แต่สวยจริง” พระพายว่าก่อนจะเอื้อมมือหนึ่งข้างมาจับปลายผมของฉันไปแล้วเอียงตัวลงมาเล็กน้อยจากนั้นก็สูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะปล่อยลงไว้เหมือนเดิม “เดี๋ยวต้องหาโอกาสให้เธอแต่งสวย ๆ แบบนี้อีกแล้ว”
ความคิดเห็น