ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [E-Book]My babe, My love #ที่รักของราม

    ลำดับตอนที่ #4 : #ที่รักของราม:: 03[อัพครบ]

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 63


    ประกาศจ้าาาา
    ตอนนี้ไรท์มีเพจแล้ววว ไรท์จะแจ้งเกี่ยวกับการอัพนิยายที่เพจน้าา
    FB PAGE: BBeatrizXX
    จิ้มแล้วไปกดไลค์กดติดตามได้เลยยย ><
    ตอนนี้ก็ไปติดตามนิยายต่อเลยจ้าา


    'ครั้งแรกฉันเรียกว่าความผิดพลาด...แต่ครั้งที่สองฉันเรียกว่าความประมาทในการใช้ชีวิต'



    ผมปล่อยให้ที่รักบ่นพึมพำอยู่แบบนั้นแล้วไม่ได้ให้ความสนใจเธออีก แต่เสียงพูดและเสียงหัวเราะของเธอก็ยังคงดังขึ้นเป็นระยะๆ จนผมต้องก้มลงไปมองเธอที่นอนซบผมอยู่

    เป็นเอามาก

    ครั้งแรกที่เธอเมา...เธอรุกผมด้วยการจูบและเราสองคนก็จบลงที่เตียง

    ครั้งที่สองที่เธอเมา...เธอบอกรักผมโดยที่ไม่มีความรู้สึกไหนแอบแฝง แต่ยังคงคอนเซ็ปคลอเคลียนัวเนียกันเอาไว้อยู่

    พูดก็พูดเถอะว่าลึกๆ ตัวผมเองก็อยากรู้ว่าครั้งต่อไปที่เธอเมาเธอจะทำอะไรบ้าง มันเรียกความตื่นเต้นให้ชีวิตดี 

    แต่ก็นั่นแหละ...ที่รักไม่ควรเมา 

    เมาแล้วยั่ว เมาแล้วชอบมาคลอเคลีย 

    อันตรายนิดหน่อย แต่เป็นการกระทำที่ส่วนลึกของจิตใต้สำนึกมันแอบกระซิบว่าชอบ...

    "รักกันน" แต่ไม่ชอบตรงที่เธอเมาแล้วพูดมากนี่แหละ

    "จะโหยหาความรักความเมตตาไปอีกนานไหม?" ผมถามเธอพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเกี่ยวผมออกจากใบหน้าเนียนสวยเบาๆ แล้วหยิบเอาโทรศัพท์ของตัวเองที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเปิดกล้องแล้วกดอัดวีดิโอ

    "ไม่รู้ๆๆๆ ที่รักไม่รู้อะไรเลยอ่า" คนตัวเล็กว่าแล้วถูไถใบหน้าของเธอไปมากับลำตัวของผม

    ตอนปกติเหมือนหมา ตอนเมาเหมือนแมว?

    อืม...ดูไปดูมาก็คล้ายอยู่

    ผมพยักหน้าอย่างพึงพอใจในความคิดของตัวเองก่อนจะกดบันทึกคลิปที่ถ่ายเอาไว้แล้วยกกระป๋องเบียร์ที่เหลือครึ่งกระป๋องขึ้นดื่มอีกรอบจนหมดในครั้งเดียวแล้ววางกระป๋องเปล่าเรียงไว้กับส่วนที่หมดไปแล้วของที่รัก

    ตอนเธอดื่มหมดกระป๋องเธอเอามาเรียงแถวเป็นแนวยาวแหละ ไม่รู้ว่าทำไมต้องเรียงแบบนี้ แต่เห็นว่ามันดูตลกดีเลยวางตาม จนตอนนี้มีทั้งหมดเจ็ดกระป๋องที่วางเรียงกันอยู่แล้ว

    เหลืออีกหนึ่งกระป๋องที่ยังไม่เปิด...ผมค่อนข้างลังเลใจอยู่ว่าจะดื่มให้หมดเลยดีไหม แต่ในใจก็อยากพอแล้วเพราะกลัวว่าจะมีสภาพเหมือนที่รักทั้งๆ ที่ตัวเองก็คอแข็งในระดับนึงอยู่ แต่เห็นเธอเมามาสองวันแล้วก็เริ่มไม่กล้าดื่มเยอะซะงั้น

    แบบนี้เขาเรียกว่าอุปทานหมู่ป่ะวะ?

    ช่างแม่ง

    "ไม่เมาหรอก" ผมสลัดความคิดตื้นๆ ของตัวเองออกไปก่อนจะหยิบเอาเครื่องดื่มกระป๋องสุดท้ายมาเปิดแล้วยกดื่ม มือข้างที่กอดที่รักเอาไว้ก็เปลี่ยนมาถือโทรศัพท์เพื่อเล่นแทน เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ผมนั่งนิ่งให้ที่รักทั้งนอนทับทั้งกอดอยู่เฉยๆ

    ก็ไม่ได้แย่

    ตัวเธอนุ่มนิ่มดี

    และเมื่อเวลาผ่านไปความสนใจที่มีให้โทรศัพท์ก็มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับความสนใจที่มีให้โทรทัศน์ที่ถูกปิดไปเมื่อตอนช่วงเย็น แต่ตอนนี้ผมเปิดมันขึ้นอีกครั้งเพราะได้รับไลน์จากเพื่อนว่าวันนี้ทีมฟุตบอลที่ชอบมีแข่ง ผมเลยเอาความสนใจในทุกๆ อย่างมาให้กับหน้าจอที่ฉายภาพกีฬามันๆ อยู่

    เปิดมาดูช้าไปสิบนาที...โดนนำแล้วหนึ่งลูก 

    รีบหรอถามจริง?

    ผมยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มด้วยความรู้สึกเสียดาย นี่ถ้ารู้ก่อนว่ามีแข่งบอลคงจะซื้อเป็นขวดมาเผื่อนั่งดื่มคนเดียวระหว่างดูบอลด้วย นี่ซื้อมาแค่แปดกระป๋องแล้วยังต้องมาแบ่งที่รักอีก เสียดายชิบหาย


    'ครืดๆ' 


    แต่ความเสียดายของผมก็เลือนหายไปเมื่อโทรศัพท์สั่นแจ้งเตือนข้อความจากไลน์เข้ามา


    Sing:: ไอ้รามมาคอลด้วยดิ

    Sing:: เพื่อนรอมุงอยู่

    เรย์:: นั่งหงุดหงิดโดนบอลนำอยู่ม้างงง

    Sing:: เชียร์ทีมกากเองอ่ะ

    Sing:: บู้วววว

    Sing:: โบ้ววววว

    Tawaan:: มึงอย่าไปล้อมัน 


    ผมมองข้อความจากกลุ่มเพื่อนสนิทแล้วได้แต่มองสัญลักษณ์รูปโทรศัพท์ที่ขึ้นเป็นสีแดงกะพริบๆ อยู่

    นี่ขนาดพวกมันโทรคุยกันยังอยากมให้ผมรับรู้ว่ากำลังโดนเยาะเย้ยอีก...

    อืมๆ ได้เลยเพื่อน

    ผมคิดในใจก่อนจะเมินสัญลักษณ์รูปโทรศัพท์ที่ว่าก่อนจะกดอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแล้วคว่ำโทรศัพท์ลงก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่นรัวตามหลังมาเนื่องจากการกระทำของผมเมื่อครู่


    21:34
    ราม removed Sing from the group


    แม่ง กวนตีน

    คนกวนตีนไม่สมควรอยู่ต่อ

    บายนะเพื่อนรัก...

    ผมเบ้ปากเล็กน้อยแล้วหันมาสนใจการแข่งขันฟุตบอลต่อ แต่ก็ได้ไม่นานเพราะว่าครั้งนี้ไอ้คนที่เพิ่งโดนผมเตะออกจากกลุ่มมันกดโทรเข้ามาเลย

    ผมก้มมอง ตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับดีเพราะที่รักกำลังหลับอยู่ ครั้งนี้ผมใช้คำว่าหลับเพราะเธอไม่ได้ดิ้นหรืออะไรเพ้ออะไรอีกแล้ว ทำแค่นอนหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอที่หน้าท้องของผมเท่านั้นเอง แต่ก็มีความนิดหนึ่งผุดเข้ามาว่าถ้าผมไม่รับสาย ไอ้เพื่อนตัวดีต้องโทรมาไม่เลิกแน่นอน 

    สุดท้ายผมก็กดรับอย่างห้ามไม่ได้...

    [ไอ้เวร! ไอ้คนไม่ดี! มึงเตะกูออกจากกลุ่มทำไม!? กูพูดเรื่องจริงแค่นี้รับไม่ได้หรอ โด้วววว]

    ผมคิ้วกระตุกเล็กน้อย ปรับตัวไม่ทันเพราะไอ้เพื่อนเวรของผมมันพูดมารัวเกินไป แต่ก็พอจับใจความได้เบยถามกลับไปว่า "งั้นขอบล็อกเบอร์มึงด้วยได้ไหม?"

    [ไม่ได้โว้ย!!] ไอ้ซิงเพื่อนของผมรีบตอบกลับมาเสียงดัง [กูเพื่อนมึงไหม!? หยอกไม่ได้เลยไง?] 

    "ไว้รอทีมกูชนะเดี๋ยวกูหยอกมึงคืนบ้าง" ว่าแล้วก็กดตัดสายพร้อมกับเชิญมันกลับเข้ากลุ่มไลน์เหมือนเดิมแล้วเข้ารับการสนทนาแบบกลุ่มเพราะรู้ว่าถ้ายังพูดคุยกันต่อแบบนั้นมันไม่จบคืนนี้แน่ สู้เข้ามาคุยกันเยอะๆ แล้วลืมผมไปเลยดีกว่า

    คนจะดูบอล มาชวนคุยไม่รู้เวลา

    [สุดท้ายก็มาเชิญกูเข้าเหมือนเดิม สนุกหรอมึงอ่ะ] ไอ้ซิงถาม

    [กูบอกแล้วว่าอย่าไปแกล้งมัน] ไอ้ตะวันว่า

    [บู่วๆๆๆๆๆ] แต่ไอ้ซิงไม่ยอมเลิก

    "ไอ้สัส กูจะดูบอล" ผมรีบพูดขึ้นมาก่อนที่ไอ้ตะวันกับไอ้ซิงจะเปิดศึกกันผ่านทางโทรศัพท์ แน่นอนว่าผู้ร่วมชะตากรรมอีกคนที่นั่งเงียบอยู่ก็คงรู้สึกเหมือนกันนั่นแหละ หรือไม่มันก็หาจังหวะแทรกไม่ได้เท่านั้นเอง

    [ไม่ต้องดูหรอก นำมาหนึ่งลูกตั้งแต่สิบนาทีแรกก็รู้แล้วป่ะว่าใครมาวินอ่ะ]

    "เดี๋ยวรอให้ถึงตากูตีเสมอบ้างนะมึง" ทนไม่ไหวแล้ว แต่ต้องข่มอารมณ์ไว้เพราะที่รักหลับอยู่

    เซ็งเพื่อนไม่พอ ยังต้องมาเป็นเบาะให้ยัยตัวเล็กนี่นอนทับอีก

    วันอะไรวะ?

    [กูจะรอดู] คราวนี้มีเสียงไอ้เรย์ดังขึ้นมาด้วยพร้อมกับไอ้ซิงที่คอยอวดแต้มของมันที่นำไปแค่ลูกเดียว

    "เงียบได้แล้วพวกมึงอ่ะ" ผมรีบว่าเพราะคนที่กำลังหลับสนิทเริ่มมีปฏิกิริยาบางอย่าง

    ผมว่าผมก็ไม่ได้พูดเสียงดังนะ...

    เสียงเพื่อนผมก็ไม่ได้ดัง...

    โทรทัศน์อาจจะระดับนึง แต่ก็ไม่คิดว่าทำให้เธอตื่นได้นะ...

    "......" ที่รักที่กำลังกอดผมอยู่ปล่อยมือออกจากช่วงเอวแล้วดันขึ้นเพื่อจะลุกขึ้นนั่ง ผมเลยช่วยประคองหลังของเธอไว้เผื่อเธอหงายหลังล้มลงไป

    คนตัวเล็กนั่งเงียบ

    ผมนั่งนิ่งฟังเสียงเพื่อนทะเลาะกันผ่านโทรศัพท์

    ที่รักเริ่มเงยหน้ามองผมเล็กน้อย

    ผมจ้องเธอที่ไม่รู้ว่ากำลังจะทำอะไร

    แต่ในระหว่างที่หน้าจอโทรทัศน์ตัดเข้าโฆษณา จังหวะที่เสียงเชียร์ของคนในสนามหายไป คนตัวเล็กที่คล้ายจะสร่างเมาแล้วกลับพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ ออกมาว่า

    "รามขา..."

    ทำให้เสียงทะเลาะกันจากปลายสายเงียบลงไปเหมือนกับมีใครไปร่ายมนต์ใส่ให้พวกมันเป็นใบ้

    รู้ว่าเพื่อนทั้งสามอึ้ง 

    แต่ไม่รู้ว่าอึ้งที่ได้ยินเสียงของที่รัก หรือเมื่อกี้ได้ยินเสียงตอบกลับของผมไปอัตโนมัติว่า "ครับ?" กันแน่

    [ไอ้ราม!!!!!!]

    พวกเวร...หูจะแตก

    "เบาๆ หน่อย" ผมพูดออกไป ตั้งใจว่าจะบอกทั้งกลุ่มเพื่อนตัวเองแล้วก็ที่รักนั่นแหละ แต่เหมือนยิ่งบอกก็เหมือนยิ่งยุ...ทั้งสองฝั่งเลย

    [เสียงใครวะ!?]

    [อยู่กับใครวะ?!]

    [อีร๊าม!!!! @$)#π\£%]

    "ที่รักง่วงง่ารามม" 

    บอกให้เงียบกลับกลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งเพื่อนทั้งที่รักต่างก็แย่งกันพูดเหมือนไม่เคยได้พูดมาก่อน

    ผมที่อารมณ์ไม่ค่อยจอยตั้งแต่เรื่องบอลแล้วเลยตัดสินใจปิดโทรทัศน์เป็นอย่างแรกแล้วกดตัดสายเพื่อนเสร็จแล้วก็โยนโทรศัพท์ไปที่อื่น ก่อนจะหันมาสนใจคนที่บ่นงึมงำๆ ว่า 'ง่วง' แต่ไม่ยอมนอน

    "ง่วงก็ไปนอน" ผมบอกเธอด้วยเสียงที่ติดไม่พอใจหน่อยๆ

    จะดูบอล...เข้าใจไหมว่าคนอยากดูบอลอ่ะ

    "มันแขงง" เธอพูดพร้อมกับใช้มือทุบที่หน้าท้องของผมแรงๆ สองทีแล้วเลื่อนตัวลงไปใช้หน้าผากของตัวเองโขกลงกับหน้าท้องของผม

    ยังดีที่เป็นหน้าท้อง ถึงตำแหน่งมันจะเยื้องๆ ลงไปด้านล่างเล็กน้อยก็เถอะ แต่ก็ถือว่าพระเจ้ายังใจดีช่วยผมอยู่

    แต่พระเจ้าก็ไม่ได้ใจดีถึงขนาดที่ส่งผู้หญิงว่าง่ายมาให้ผม...

    "ต่ำไปที่รัก" ผมว่าก่อนจะดึงตัวเธอขึ้นเมื่อใบหน้าของเธอเริ่มไหลลงเรื่อยๆ แต่เพราะที่รักในเวอร์ชั่นเมาดูจะมีเรี่ยวแรงเพิ่มมากขึ้นความพยายามของผมเลยสูญเปล่า

    "ไม่นิ่มๆๆ" เธอยังคงติเรือนร่างของผมไปเรื่อยๆ แม้ว่าดวงตาคู่สวยจะปิดไปแล้วก็ตาม

    "ก็ไม่ใช่หมอน" 

    "หมอนไหน?" เชิดหน้าถามผม แต่หลับตาอยู่... 

    อืม แปลกดี

    "เฮ้อ" เมื่อความอดทนที่มีต่อคนเมาหมดลงผมก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วหิ้วปีกทั้งสองข้างของที่รักขึ้นก่อนจะจับเธอพาดบ่าแล้วพาเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง

    เธอบอกว่าง่วง บอกว่าตัวผมแข็งแล้วไม่นิ่ม ผมก็เลยจะพาเธอมานอนที่เตียงนิ่มๆ ในห้อง แต่ว่ากลับพามาห้องของตัวเองทั้งๆ ที่ห้องของเธอก็อยู่แค่นี้ แค่ฝั่งตรงข้ามนี่เอง แต่ผมก็ยังเลือกจะเดินตรงไปที่เตียงต่อเหมือนเดิมทั้งที่รู้ว่าการที่ทำแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ควร แต่สุดท้ายก็วางเธอลงบนเตียงของตัวเองแล้ว

    ให้เธอนอนห้องผมนี่แหละ 

    ไม่แน่...เตียงผมอาจจะนิ่มกว่าเตียงเธอก็ได้

    แต่ถึงแม้เตียงผมจะไม่นิ่มมากพอให้ที่รักประทับใจ แต่ตอนนี้คนตัวเล็กก็นิ่งสงบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...

    ผมยืนมองเธอนิ่งๆ ดูว่าเธอจะตื่นขึ้นมาอีกไหม แต่เมื่อยืนไปได้ห้านาทีผมก็มั่นใจแล้วว่าเธอคงไม่ตื่นขึ้ยมาโวยวายอีก และหลังจากที่มั่นใจแล้วผมก็เดินออกมาเก็บเศษซากกระป๋องเบียร์ที่ดื่มหมดแล้วไปทิ้งในถุงขยะดีๆ จัดการปิดแอร์ปิดไฟแล้วเดินเข้าห้องนอนเพื่อจัดการอาบน้ำให้ตัวเองเนื่องจากมาถึงผมทำแค่เปลี่ยนชุดแค่นั้น และพออาบเสร็จผมก็มานอนลงบนเตียงอย้างที่ทำทุกวัน

    ถึงแม้วันนี้บนเตียงจะมีผู้หญิงร่างเล็กร่างน้อยนอนหันหลังให้ก็เถอะ แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่เคยนอนบนนี้ด้วยกัน

    ก็เคยนอน แต่ครั้งนี้มันไม่มีอะไรมากกว่านอนไง ไม่เหมือนครั้งนั้น...

    ผมนอนเอียงข้างหันไปจ้องแผ่นหลังเธอท่ามกลางความมืดที่สายตาของตัวเองเริ่มปรับโฟกัสได้แล้ว

    น้องสาวผมบอกว่าที่รักตัวคนเดียว ตอนนั้นผมไม่เข้าใจความหมายของคำว่า 'ตัวคนเดียว' ของน้องสาวตัวเองเลยตีความไปหลายอย่าง แต่พอได้มาอยู่ด้วยกัน ได้ลองสังเกตเธอ ผมถึงได้เข้าใจคำพูดของน้องสาวตัวเอง

    เพราะแบบนี้ด้วยล่ะมั้งวันนั้นผมถึงตอบรับข้อตกลงของน้องสาวไป

    ถึงแม้เมื่อก่อนจะเห็นเธอไปเล่นที่บ้านบ่อยครั้ง แต่เธอก็ไปเล่นแต่กับน้องสาวของผม ไม่ค่อยได้เจอผมมากนักเพราะพวกเธอไปนั่งเล่นในห้องนอนตามประสาเพื่อนหญิงมาเล่นด้วยกันที่บ้านนั่นแหละ

    พอมาคิดๆ ดูแล้วเธอก็ไม่ได้สนใจตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วนะ

    เหมือนผมที่ไม่ได้สนใจเธอนั่นแหละ

    แต่เพราะวันหนึ่งผมไปบังเอิญได้ยินพวกเธอพูดกันเรื่องของครอบครัวของที่รักเข้า

    คำพูดที่ดูเหมือนไม่ได้สนใจใยดีผู้เป็นแม่ แต่แววตาคู่สวยกลับเต็มไปด้วยความเศร้าหมองของที่รักทำให้ผมมองเธอใหม่

    อาจจะเรียกว่ามองใหม่ไม่เต็มปากเท่าไหร่เพราะเมื่อก่อนก็ไม่ได้มองอยู่แล้ว แต่สารภาพเลยว่าผมมองเธอเยอะขึ้นกว่าเดิม

    ก็แค่มอง 

    มองทั้งที่โดนเมินนั่นแหละ

    ดูเจ๋งดี

    แต่เรื่องเมื่อก่อนก็ช่างเรื่องของเมื่อก่อนไปเถอะ ยังตอนนี้เธอก็ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว...

    เธอมีน้องสาวของผมที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอและเป็นห่วงเธอมาก

    เธอมีเพื่อนที่มหา'ลัยที่ผมไม่รู้ว่านิสัยใจคอเป็นยังไง

    และวันนี้...เธอมีผมที่เป็นเพื่อนใหม่ในชีวิต แม้ความสัมพันธ์เราจะล่วงเกินกันไปแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังคงหยิบยื่นความสัมพันธ์แบบเพื่นอมาให้ผมอยู่

    ก็รู้สึกประทับใจดี

    เพราะประทับใจเลยอยากดูแลเธอให้ดี

    เพราะที่รักตัวแค่นี้...จะให้เธอกลับไปอยู่ตัวคนเดียวอีกคงจะไม่ดีเท่าไหร่...

    และเพราะผมคิดแบบนั้น จากที่เราสองคนนอนคนละฝั่งของเตียงในตอนแรก ผมกลับเป็นฝ่ายขยับเข้าไปใกล้แล้วใช้แขนดึงร่างของเธอเข้ามาแนบแผ่นหลังเล็กๆ น่าทะนุถนอมของเธอเข้าชิดกับแผงอกของผมแล้วหลับตาลดเพื่อซึมซับความอุ่นจะร่างกายของเธอเอาไว้ แม้ว่ากลิ่นเบียร์จะฟุ้งไปทั่วตัวของเธอก็ตาม

    เกือบจะดี 

    แต่กลิ่นที่เกือบจะมอมเมากันแบบนี้...เหมือนกำลังยั่วพี่เลยนะที่รัก...

    จบบทบรรยาย:: ราม


    ตอนนี้เวลาเท่าไหร่ไม่รู้ ไม่แน่ใจ แต่สิ่งเดียวที่ฉันรับรู้ได้คือกำลังโดนแขนแกร่งของรามรัดตัวเอาไว้อยู่...

    เวร อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนเรา...อีกแล้วน่ะ?

    ฉันหลับตาลงอีกครั้งหลังจากที่ตื่นขึ้นมาด้วยความมึนหัวก่อนจะถอนหายใจในความประมาทของตัวเองแรงๆ หนึ่งที 

    ครั้งแรกระหว่างเราฉันขอเรียกมันว่าความผิดพลาด... แต่ครั้งที่สองฉันเรียกว่าความประมาทในการใช้ชีวิต

    เอาจริงๆ มันก็ประมาททั้งสองครั้งนั่นแหละ...

    ใช้ไม่ได้ที่สุดเลยฉันเนี่ย

    ฉันด่าตัวเองในใจก่อนจะดึงมือที่พาดอยู่ตรงช่วงเอวสอบของรามมาวางบนอกแกร่งแล้วออกแรงผลักตัวเขาให้ออกห่าง

    แต่ความพยายามของฉันมันไม่เป็นผลเมื่อผลักยังไงรามก็ไม่ยอมออกห่างจากฉันอยู่ดี

    ฉันลดมือตัวเองไปที่เอวของเขาอีกครั้งก่อนจะออกแรงทุบตรงส่วนนั้นเริ่มจากเบาๆ ก่อนแล้วค่อยแรงขึ้นอีกเมื่อเขาไม่ยอมขยับ

    "ตื่นสิ" ฉันพูดขึ้นมา สายตาจดจ้องที่ปลายคางของเขาแล้วลากสายตาขึ้นไปอีกหน่อยตรงเปลือกตาที่กำลังปิดสนิทอยู่ "รามตื่น"

    "......" นิ่งเงียบ

    "ราม..." ฉันเรียกเขาเสียงเรียบ

    "......" เปลือกตาของเขายังคงปิดสนิทอยู่ แม้ท่อนแขนแกร่งและขายาวๆ ของเขาที่อยู่ใต้ผ้าห่มจะเริ่มขยับแล้วเล็กน้อย แต่เพียงไม่นานจากที่เขานอนนิ่งอยู่เฉยๆ ก็เริ่มดิ้นเมื่อฉันพยายามจะมุดออกจากอ้อมแขนของเขา

    เขา...เขาขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นทั้งที่ช่องว่างระหว่างเรานั้นแทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว

    "รามม" ฉันเรียกเขาเสียงเอื่อย

    เริ่มขี้เกียจเรียกแล้วนะ...

    "นี่ ตื่นแง้วก็ลืมตาขึ้นมาสิราม" ฉันพูดมั่ว เพียงเพราะเขาเริ่มขยับแล้วเท่านั้นเลยคิดไปว่าเขาตื่นแล้ว

    แต่ก็อย่างที่เห็น...เขายังไม่ลืมตาขึ้นมาเลย

    ฉันขมวดคิ้วนอนนิ่งๆ สักพัก เริ่มคิดหาทางว่าควรทำยังไงเขาถึงจะยอมคลายอ้อมกอดออกไป แต่ก็คิดไม่ออก ที่คิดออกก็ทำไปแล้ว แต่ก็ทำไม่สุดแรงเพราะกลัวว่าเขาจะเจ็บ...

    งั้นลองทำให้แรงกว่าเดิมดีกว่า


    'ปั้กๆๆๆ'

    'ตุบๆๆๆ'


    "ตื่นสิราม! ไฟไหม้ห้องนายแล้วนะ!" ทั้งดิ้นแรงขึ้นและพูดเสียงดังขึ้นอีก จากที่ปวดหัวอยู่ก็หายไปเลยเพราะคงไม่มีเวลามาให้ปวดหัวแล้วแหละ ยิ่งตอนนี้ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้วด้วย ยิ่งไม่มีเวลาไปกันใหญ่!

    ฉันต้องไปเรียนนะ!

    "อือ อย่าดิ้น" ครั้งนี้รามส่งเสียงออกมาด้วย เขาว่าก่อนจะเริ่มคลายอ้อมกอดออกเล็กน้อย แต่กลับใช้ขามาพาดทับกับขาของฉันไว้

    ......

    "รามมันหนัก!!" ฉันว่าก่อนจะอาศัยจังหวะที่คนตัวสูงเริ่มดิ้นอีกครั้งพลักเขาออกแรงๆ แล้วลุกขึ้นนั่ง แต่ก็นั่งได้ไม่นานเพราะท่อนขายาวๆ ของเขาถูกใช้ดันให้ฉันนอนลงเหมือนเดิมแล้วพาดมันลงที่ลำตัวของฉัน...

    ทำแบบนี้ด่าได้ไหม?

    ด่าเขาว่าออกไปว่า 'ไอ้เวร' ดังๆ ได้ไหม?

    ถ้าด่าออกไปเขาจะว่าอะไรฉันกลับคืนมาไหม?

    ได้แต่ตั้งคำถามในใจ แต่ถามไปก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี ดังนั้นฉันเลย...

    "ไอ้เวร!!" 

    ตะโกนออกไปสุดดเสียง แล้วใช้มือของตัวเองบีบจมูกเขาเอาไว้โวยวายเสียงดัง

    "นายใช้กำลังกับฉันหรอ?! นี่เมื่อกี้นายยกขาขึ้นมาใช้กับฉันที่เป็นผู้หญิงหรอ?!" ถามเสร็ตก็ใช้มืออีกข้างที่ว่างทุบขาของเขาไปสามทีแล้วพูดต่อ "ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะราม! มันเช้าแล้ว ฉันต้องไปเรียน!"

    "อืมๆๆๆ" ครั้งนี้เหมือนการกระทำของฉะนจะได้ผลเมื่อรามลืมตาขึ้นมาเห็นฉันปั้นหน้ายักษ์ใส่เขาอยู่

    คนตัวสูงปัดมือที่บีบจมูกของฉันออกแล้วผละตัวออกจากฉันไปด้วย 

    ผละไปทั้งตัว รวมทั้งขาที่เมื่อกี้พาดอยู่บนลำตัวของฉันน่ะ

    "เสียงดัง" เขาพูดมาสองคำพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้ผมที่ไม่ได้ทรงของตัวเองแล้วมองมาที่ฉันด้วยสายตาหงุดหงิด

    "ไม่ต้องมองฉันด้วยสายตาหงุดหงิดเลยนะ ฉันต่างหากที่ต้องรู้สึกแบบนั้นน่ะ" ฉันว่าพร้อมกับดึงเสื้อของตัวเองให้เข้าที่แล้วยกมือขึ้นกอดอก "นายนอนกอดฉันแน่นมาก ฉันหายใจไม่ออก แล้วนายก็เอาขามาก่ายฉันด้วย มันหนัก ส่วนตอนนี้ฉันก็มีเรียน ปลุกนายตั้งนานไม่ยอมตื่นสักที ฉันจะไปเรียนสาย ต้องหงุดหงิดไหม?" ฉันร่ายยาวใส่เขา แต่สิ่งที่คนตัวสูงตอบกลับมามีแค่คำถามที่ฉันฉันกลับเท่านั้น

    "ยังเมาอยู่หรอ?"

    "ไม่เมาแล้ว!" ฉันตอบเขากลับ

    "ไม่เมาก็น่าจะรู้ป่ะว่ามันยังมืดอยู่?" เขาว่าก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง แต่ว่าก่อนที่เขาจะดึงผ้าห่มไปห่ม เขาได้เอื้อมมือไปหยิบเอาบางอย่างที่หัวเตียงมาโยนใส่ฉันแล้วนอนต่อโดยครั้งนี้เขานอนหันหลังให้ฉันด้วย

    ฉันหยิบโทรศัพท์เครื่องบางของเขาขึ้นมามองไม่เข้าใจว่าทำไม แต่นิ้วฉันไปถูกอะไรสักอย่างของโทรศัพท์เขาเข้าหน้าจอของมันก็สว่างวาบขึ้นทันที

    ตอนแรกก็กะจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วจะทำเนียนวางทิ้งไว้แล้วรีบวิ่งกลับห้องตัวเอง แต่บางอย่างที่แสดงอยู่บนหน้าจอทำให้ฉันนิ่งไปทันที


    '01:09 น.'


    อ่า...เพิ่งตีหนึ่ง

    ยังไม่เช้าเหมือนที่รามบอกจริงๆ ด้วย

    แต่เมื่อกี้โวยวายใส่เขาไปเยอะเลย... แถมยังกล่าวหาเขาด้วยว่าทำให้ฉันไปเรียนช้าน่ะ... 

    แล้วเมื่อกี้ฉันไปเอาความมั่นใจจากไหนไปว่าเขามำฉันสายกันนะทั้งๆ ที่ในห้องก็ยังมืดอยู่ ถึงจะมีแสงสว่างเล็กน้อยจากอะไรบางอย่างบนโต๊ะที่อยู่ข้างเตียงฝั่งของเขา แต่มันก็มืดอ่ะ

    ฉันผิดสินะ...

    ไม่รอบคอบเอง แถมยังเล่นใหญ่ด้วย

    "ราม เมื่อกี้ขอโทษนะ" ฉันพูดเสียงเบาก่อนจะขยับเข้าไปใกล้เขาแล้วใช้มือสะกิดบนแผ่นหลังที่เขาหันมาหาฉัน

    รามนอนนิ่งไม่ยอมตอบอะไร ฉันเลยเข้าใจว่าเขาหลับไปแล้วอีกครั้ง เลยตัดสินใจลงจากเตียงของเขาไปแล้วกลับไปที่ห้องลองตัวเอง

    ไม่กวนแล้วก็ได้

    ไว้รอขอโทษอีกครั้งตอนเขาตื่นแล้วก็ได้

    ไว้ค่อยมำมื้อเช้าไว้ให้เขาแทนคำขอโทษก็ได้...

    คิดแบบนั้น แต่การกระทำกลับตรงกันข้ามเพราะเมื่อเข้ามาในห้องตัวเองเรียบร้อย ปิดปนะตูเสร็จสรรพฉันก็ตะโกนเสียงดังว่า

    "ฉันขอโทษ!!" 

    ออกไปอยู่ดี ด้วยความหวังว่าเขาจะได้ยินแล้วให้อภัยกันง่ายๆ แต่ว่า...


    'แกร็ก'


    เสียงเปิดประตูห้องของเขาดังขึ้น ฉันที่ได้ยินเสียงเลยเปิดประตูของตัวเองออกพร้อมกับเอียงหน้าไปดูด้วยความตื่นเต้น

    แต่ความตื่นเต้นของฉันก็ดับหายวูบลงในพริบตาเมื่อได้ยินเสียงเรียบเนือยของรามดังออกมาว่า

    "เหม็นปากโว้ย"

    ไอ้เวร เอาคำขอโทษฉันคืนมาเลย

    แต่ยังไม่เอาตอนนี้หรอก เขาพูดมาขนาดนี้ฉันก็ต้องไปอาบน้ำแปรงฟันสิ! 

    หึ่ย!

    "ไอ้บ้าๆๆๆๆ" ปิดประตูลง เดินไปถอดเสื้อเตรียมอาบน้ำก็ด่าเขาไปด้วย

    อะไรอ่ะ!? ฉันก็แค่ยังไม่อาบน้ำ ฟันยังไม่แปรงแค่นี้เอง ทำไมต้องมาว่าแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้! คนเขาอุตส่าห์ขอโทษดีๆ แล้วแท้ๆ แต่มาเจอคำพูดแบบนี้บอกเลย...ฉันไม่พอใจ!

    ฉันใช้เวลาอาบน้ำเกือบยี่สิบนาที แปรงฟันอีกสามรอบเพื่อความมั่นใจแล้วเดินออกมาใส่ชุดนอนข้างนอกแล้วนั่งลงบนเตียงแรงๆ ถึงแม้จะอาบน้ำขจัดความสกปรกและกลิ่นต่างๆ ออกจากตัวๆปแล้ว แต่ความกรุ่นโกรธยังคงสถิตอยู่ในใจฉันอยู่ดี 

    ดังนั้นฉันคนนี้ที่นอนเต็มอิ่มแล้วและรู้สึกสดชื่นมากๆ ได้ตัดสินใจเดินออกไปข้างนอกห้องนอนของตัวเองก่อนจะเดินไปห้องฝั่งตรงข้ามแล้วเปิดประตูห้องเขาเข้าไป

    ตอนแรกคิดว่าเขาจะล็อกห้องนะ แต่ไม่ค่ะ...เขาไม่ได้ล็อค เพราะงั้นตอนนี้ฉันเลยยืนจ้องหน้าเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

    หน้าของรามตอนนี้ดูต่างจากเมื่อกี้เล็กน้อยตรงที่เมื่อกี้เขาหลับด้วยใบหน้าที่ขมวดคิ้ว เหมือนกำลังฝันร้าย แต่คงไม่ใช่ฝันร้ายหรอก คงเป็นฉันนี่แหละที่กวนเขาจนเขานอนหลับไม่สนิทจนแสดงใบหน้าแบบนั้นออกมา ส่วนตอนนี้...นายรามคนนิ่งกำลังนอนหลับด้วยใบหน้าที่ดูไม่มีพิษภัย ดูไร้การป้องกันมากจนฉันนึกอยากจะแกล้งเขาให้สมกับที่เขาว่าฉันเมื่อกี้ แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้ฉันนั่งย่อลงไปข้างๆ เตียงแล้วมองเสี้ยวหน้าของเขาแบบนั้นด้วยความตื่นเต้น

    ถึงฉันจะไม่ได้รู้สึกวี้ดว้ายราม แต่ยอมรับว่ารามเป็นคนหล่อระดับนึงเลย องค์ประกอบทุกอย่างบนหน้าของเขามันดูดีมาก แม้จะอยู่ภายใต้ความมืดที่มองไม่ค่อยเห็นก็ตาม

    แต่ว่าขนาดตอนมืดเขายังดูหล่อขนาดนี้ แล้วถ้าสว่างจะหล่อขนาดไหนก็คิดเอานะคะ

    แต่ก็นั่นแหละ...เขาตอนหลับดูดีกว่าตอนตื่นเยอะเลย

    ฉันมองหน้าของรามต่ออีกไม่กี่นาทีก่อนจะตัดสินใจเอานิ้วชี้ของตัวเองไปจิ้มแก้มข้างขวาของเขาเบาๆ แล้วพึมพำขึ้นมาคนเดียว

    "เห็นว่าหลับสบายหรอกนะเลยไม่แกล้งน่ะ" จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินกลับห้องของตัวเองมาข่มตานอน เพราะอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาที่ต้องตื่นจริงๆ

    ไว้พรุ่งนี้ค่อยจัดการเขาก็ได้

    ชิ!


    เช้าวันต่อมา

    เป็นเช้าที่ปกติเหมือนทุกวันนั่นแหละ อาการเจ็บปงดของฉันเริ่มทุเลาลงแล้ว ส่วนอาการเวียนหัวหรือมึนหัวอะไรนั่นก็ไม่มีแล้วหลังจากพักผ่อนเต็มที่ ดังนั้นวันนี้คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเท่าไหร่

    มั้ง...

    "เมื่อวานจอดรถทิ้งไว้ที่มออ่ะเลยต้องรีบไปแต่เช้าเนี่ย"

    [อ่าๆ งั้นก็จองโต๊ะไว้ให้ด้วย] เสียงปลายสายดังขึ้นอย่างงัวเงียก่อนจะตัดสายทิ้งไป

    ฉันเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากระโปรงนักศึกษาของตัวเองก่อนจะเปิดเตาไฟฟ้าขึ้นเพื่อจะทำมื้อเช้าจากของที่มีในตู้เย็น

    มีแค่ไข่...กับไข่...แล้วก็ไข่ เป็นไข่ที่ไม่รู้ว่าใครซื้อมาไว้ด้วย แต่ถ้าถามออกไปก็จะดูโง่ไปหน่อยเพราะห้องก็มีอยู่แค่สองคน คงไม่มีใครนอกจากเขาซื้อมาใส่ตู้เย็นไว้หรอก

    ดังนั้นเมื่อภายในห้องครัวของฉันมีแค่ไข่ ฉันเลยได้ตัดสินใจว่างั้นค่อยทำมื้อเช้าขอโทษรามวันที่ซื้ออาหารสดเข้าห้องดีกว่า เพราะถ้าจะทำแค่ไข่ดาวให้เขาเฉยๆ มันคงไม่น่ารักเท่าไหร่

    พอคิดแบบนั้นฉันเลยปิดเคาไฟฟ้าไว้เหมือนเดิมก่อนจะแปะโน๊ตไว้ที่ตู้เย็นแล้วเข้าไปเตรียมอุปกรณ์การเรียนจากนั้นก็ออกไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าคอนโดเพื่อไปมหา'ลัย


    'จะขอโทษวันหลังนะ - ที่รัก'


    ไม่รู้ว่าเขาจะเห็นที่แปะไว้ไหม แต่เห็นไม่เห็นก็ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจของฉันล้มลงอยู่ดี

    แม่จะโชว์ฝีมือให้ดู!

    ฉันนั่งรถมาที่มหา'ลัยพลางนึกเมนูไปด้วยว่าตัวเองถนัดอะไร ควรทำอะไรให้เขาทาน แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาแพ้อะไรรึเปล่า แต่อีกใจก็อยากจะขอโทษแบบเซอร์ไพรส์ สุดท้ายก็ไม่ได้ตัดสินใจอะไรอยู่ดี และเมื่อมาถึงตึกคณะของฉัน เหล่านักษาที่มารอเรียนกันตั้งแต่เช้าก็หันมาให้ความสนใจฉันกันหมด

    ฉันได้แต่ยืนงงว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานเพิ่งมีซีนดราม่าและโรแมนติกเกิดขึ้นกับฉันไป...

    เนี่ย อีกละ ก็แค่ล้มแล้วมีคยมาช่วยแค่นี้ต้องให้ความสนใจกันด้วยหรอ? 

    ก็แค่แฟนเก่านั่งหัวโด่อยู่เฉยๆ มองฉันที่มีสภาพแย่ๆ โดยที่ไม่ช่วยอะไรเลยแค่นี้คนต้องสนใจกันด้วยหรือไง?

    มันน่าตื่นเต้นตรงไหนอ่ะ?

    ได้แค่คิดแต่ไม่ได้ถามคนแถวนั้นออกไป ทำได้แค่เดินเข้าไปที่ตึกด้วยใบหน้านิ่งเรียบของฉันแล้วไปนั่งรอที่ห้องเรียนแค่นั้น

    เรื่องเล็กน้อยแบบนี้เดี๋ยวคนก็ลืม ฉันแค่ต้องทนกับสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนพวกนี้ไปสักระยะเท่านั้นเอง

    ฉันปล่อยให้ตัวเองจัดการกับความรู้สึกที่น่าอึดอัดพวกนี้เพียงชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจหยิบเอาโทรศัพท์ของตัวเองมาเล่นรอเวลา แต่จังหวะเดียวกันนั้นเอง แจ้งเตือนจากแอพอินสตาแกรมก็เด้งขึ้นมา

    มันเป็นคำขอติดตาม

    ปกติฉันไม่ได้สนอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ฉันกดเข้าไปดูแอคเค้าท์นั้นก่อนจะกดอนุญาติให้เขาฟอลแล้วกดฟอลไอจีเขากลับ


    @ramaram started following you


    ฉันนั่งยิ้มอยู่คนเดียวระหว่างส่องแอคเค้าท์ที่ดูเหมือนจะเป็นรวมภาพถ่ายที่นึกอยากถ่ายก็ถ่าย สวยก็ถ่าย เบลอก็ถ่ายของเจ้าของบัญชีแล้วก็ได้แต่ยอมรับว่านี่มันค่อนข้างแสดงถึงตัวตนของเขาอยู่เล็กน้อย ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าตัวตนของเขาเป็นยังไงก็ตาม ดูเป็นบัญชีที่ใช้เก็บพวกภาพถ่ายของเขามากกว่าเพราะมันไม่มีรูปหน้าคนเลย

    แต่ว่า...


    @ramaram tagged you in a post

    @ramaram tagged you in a post


    นายราม...เขาแท็กอะไรฉันมา....





    Hashtag On Twitter
    #ที่รักของราม

    Talk
    เม้นโหน่ยจิ...

    Talk2
    เม้นค่ะ เม้นค่ะ หนูชื่อเม้น มาบังคับให้เม้นนะคะ 55555555 เม้นมา!

    Talk4
    เม้นนะ


    เสพติดรัก
    1 เม้น = 1 กำลังใจน้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×