ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ficบารามอส... llเรื่องอนาถในปี 3ของชาวป้อมll

    ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้นความอนาถ

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 49


                                คำเตือน ผู้ใดที่มีจิตอ่อนควรพึงระวังไว้ให้มาก

    -          ผู้ใดที่ภักดีต่อเรื่องหัวขโมยแห่งบารามอสเป็นอันมากหรือไม่อยากให้นิสัยของตัวละครที่ท่านชื่นชอบผิดเพี้ยนกรุณาระงับสติอารมณ์ไว้ให้อยู่ มิเช่นนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านท่านอาจไม่เหลือซากก็เป็นได้ และหากกลัวว่าจะระงับสติไม่อยู่ทางที่ดีปิดเลยกระผมก็ไม่อาจว่าได้เพราะการผ่าเหล่าผ่ากอของฟิคนี้ ตัวละครบางตัวอาจจะมีนิสัยที่ผิดเพี้ยนไป ฉะนั้นทำใจก่อนอ่านไว้เป็นดีที่สุดครับ

    เอาหละเข้าเรื่องได้แล้ว

     

     

                    เรื่องมันเริ่มขึ้นในปี 3ของตัวเอง (ตัวป่วน) แห่งเรื่องบารามอสของเรา

     

                   เฟลิโอน่าบุตรสาวเพียงคนเดียวของเจ้าปิศาจเอวิเดส กษัตริย์แห่งเดมอส ขอร้อง (อย่างเอาเป็นเอาตาย) กับพระบิดาของตน ว่าอยากอยู่ในร่างชายอีกสักพักจนกว่าจะจบการศึกษาแต่ท่านจ้าวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ เนื่องจากขี้เกียจ จนเฟรินต้องทำทุกวิธี เช่น กรอกเหล้าเข้าปากพระบิดาของตน เมื่อเมาแล้วจึงหลอกล่อให้รับปากว่าจะช่วยแต่กลับเหลวเป้ว เนื่องจากท่านจ้าวคอแข็งอย่างแรง และอีกสารพัดวิธีซึ่งไม่ได้ผล แต่ในเมื่อคิดวิธีใดๆไม่ออกจึงมีแต่วิธีเดียว..................อ้อน.. อ้อนแล้วอ้อนเล่าขอแล้วขอเล่า

     

                   จนท่านจ้าวใจอ่อน (คิดว่ารำคาญเสียมากกว่า) แต่แทนที่จะร่ายเวทย์ให้กลับโดนหนังสือเรื่อง คู่มือการเปลี่ยนร่างสารพัดแบบ มาให้แทนเสียนี่ แล้วบอกปัดกลับมาว่า

     

                พ่อไม่ว่างไปหัดร่ายเวทเองแทนละกัน แต่อย่าร่างผิดบทหละ เดี๋ยวจะยุ่ง!”

     

                  แต่คนอย่างเฟรินรึจะขอร้องให้คนอื่นช่วยร่ายเวทให้ แน่นอนร่ายเองอยู่แล้ว โดยผู้ที่รับเคราะห์ต้องอยู่จนกว่าจะร่ายเสร็จหาใช่ใครอื่นไม่นอกจากองครักษ์ส่วนพระองค์ (ที่พึ่งแต่งตั้ง โดยเจ้าตัวไม่เต็มใจ)........โร เซวาเรส ผู้รับกรรมแห่งทริสทอร์ (โดยทั้งคาโลและคิล สองพื่อนสนิทของเฟรินกลับส่ายหน้า ส่วนคนฉลาดอย่างโรใช่ว่าจะไม่ say no แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะคำสั่งของเฟรินซึ่งเป็นนาย) แล้วเรื่องก็เริ่มต้นขึ้น

     

     

                                                      ….จบการย้อนความ.......

     

                    

                                                                -----------------------------------------------------

     

     

    ณ ลานหลังป้อมปรักหักพัง

     

                   เฟรินกำลังขะมักเขม้นอยู่กับการหาบทร่ายเวท (อ่านไม่ออกมากกว่า) ทางโรก็เตรียมตัววิ่งหนีและร่ายเวทป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่

     

                   เมื่อเฟรินหาบทที่ตรงตามความต้องการเจอจึงเริ่มร่ายเวททันที

     

               โอม............ด้วยอำนาจแห่งโนนนี่นั้นโน่น ขอให้ข้าผู้ร่างเวทเปลี่ยนจากชายเป็นหญิง หญิงเป็นชาย ตุ๊ดเป็นเกย์ เกย์เป็นตุ๊ด ทอมเป็นดี้ ดี้เป็นทอมด้วยเถิด.......

     

                  ว่าด้วยบทของเวทที่ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน (โดยฝีมือที่ไม่น่าเชื่อถือที่สุดจากพ่อมดสุดห่วยแห่งเดมอส) ทำให้โรเริ่มหน้าซีด เหงื่อตก ตัวร้อน แล้วพยายามจะขยับตัวหนี แต่ไม่ทันเสียแล้ว เนื่องจากรางร้ายที่เคลื่อนตัวเข้ามาได้มาถึงแล้ว

     

                    เมื่อเฟรินร่ายเวทจบ แสงสีต่างๆก็พุ่งออกมาจากคถา

     

                   ตูม!!!!!!!!!!!!!”

     

                   เสียงระเบิดจากลานกว้างหลังป้อมสนั่นหวั่นไหวสะท้านพิภพ

     

                   ผลกระทบคือทั้งเฟรินและโรโดนระเบิดเข้าไปเต็มๆ

                   ผลต่อมาคือคนทั้งป้อม (และจากป้อมอื่นๆ)ได้ยินเสียงระเบิด รีบวิ่งกรูออกมาดูเหตุการณ์ รวมทั้งคาโลและคิลด้วย ซึ่งพอเดาออกว่าเจ้าตัวแสบคงก่อเรื่องเข้าอีกแล้ว

     

                   แต่เมื่อทุกคนมาถึงก็มองไม่เห็นสิ่งใดเนื่องจากควันที่หนาแน่น จึงต้องรอให้ควันหายไปก่อน

     

                    เมื่อควันจางหายไป ภาพที่ปรากฏต่อหน้าตาสายทุกคน (ในป้อม) คือ.............

     

                    สองร่างบาง (?) ซึ่งในตอนนี้เฟรินอยู่ในร่างชายแล้ว นอนสลบเหมือดไร้ซึ่งสติอยู่โดยไรบาดแผล แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองอาจจะแค่หลับไปเสียมากกว่า ซึ่งเสียงยืนยันอย่างดีก็คือ...............

     

                 คร่อก~~~~~ฟรี้~~~~~”

     

                     เสียงกรนดังลั่นมาจากเจ้าหญิง (รึเจ้าชายดีหว่า) แห่งสองอาณาจักร..........

     

    เพาระเสียงกรนที่ไม่ต้องตั้งใจฟังก็รู้ ทำให้ทุกคนโล่งอก (ที่ไม่ต้องเก็บศพ) ทั้งคิลและคาโลจึงเดินเข้าไปหาเจ้าตัวปัญหาทั้งสองแล้วพยุง (ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ปะว่าใครพยุงใคร ^ ^) กลับห้องของตน (อย่างคิดมากแค่เอาไปช่วยดูแลรักษาแทนห้องพยาบาล)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                   ณ ห้องของเจ้าชายน้ำแข็งหัวหน้าป้อมโกโรโกโส

     

                    โดยที่เวลาผ่านไปนานพอสมควร

     

                   อืม....................เสียงครางเบาๆบ่งบอกว่าเพิ่งตื่นนอนของเจ้าชายเฟรินดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ที่มีเพียงบุรุษสองคนผู้สูงศักดิ์อยู่ในห้อง

     

                   เมื่อคาโลได้ยินเสียงครางดังนั้นก็เคลื่อนตัวเข้ามาดูอาการของว่าที่พระชายา (รึเปล่า) ในอนาคตด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยแต่จริงๆก็แฝงไปด้วยความเป็นห่วงอยู่ลึกๆ เนื่องจากเวทที่เฟรินใช้ไม่ใช่แค่ไม่ได้เรื่องและห่วงแตกอย่างเดียว แต่ยังส่งผลประหลายๆที่อาจจะทำให้มีภัยทั้งตนและคนรอบข้างอีกด้วย

     

                   เฟริน......เป็นไง?” คำถามที่เรียบเฉยแต่ได้ใจความเกินคาดถูกเปร่งออกมาจากเจ้าชายน้ำแข็งแห่งป้อมโกโรโกโสอย่างแผ่วเบา

     

                  ............................... ไม่มีคำตอบจากเจ้าชาย (มั้ง) ผู้สูงศักดิ์แห่งสองอาณาจักร ได้แต่ลืมตาขึ้นมาช้าๆ

     

                  นี่...... คาโลเห็นเฟรินไม่ตอบจึงเอานิ้วเขี่ยๆดูเผื่อโดนผลจากการร่ายเวทเมื่อกี้ 

     

                   เฟรินก็ยังไม่ตอบได้แต่มองไปรอบๆห้องซึ่งถูกจัดอย่างเป็นระเบียบโดยฝีมือของเจ้าชายน้ำแข็ง คาโล วาเนบลี แห่งคาโนวาล

     

                   จัดห้องได้เป็นระเบียบผิดกับเราจริงๆ อย่างกับเป็นกุลสตรีมาจัดเองเลยอย่างงั้นแหละ ทั้งๆที่เป็นผู้ชายแถมยังเป็นเจ้าชายแห่งอาณาจักรใหญ่แท้ยังจัดห้องได้ขนาดนี้ แล้วท่าไม่ใช่หละ............

     

                   ทันใดนั้นความคิดชั่วร้ายก็ผุดขึ้นมาในหัวสมองที่ไม่ค่อยจะมีข้อมูลอะไรของเฟริน ทำให้ร่างเพรียวบนเตียงแสยะยิ้มออกมา ซึ่งคนเซนส์ ดีอย่างคาโลมีรึจะไม่รู้ตัวว่าลางร้ายกำลังคืบคลานเข้ามา แต่ก็ไม่คิดอะไรมากได้แต่นั่งรอคำตอบที่รอเป็นชาติอยู่อย่างสงบ (แต่เตรียมคทาไว้แล้ว)

     

                   คาโล............... เฟรินในร่างชายเอ่ยเสียงหวานจนน่าสยดสยอง แน่นอนนั้นทำให้คาโลชะงักและเคลื่อนตัวออกห่างเล็กน้อย

     

                   มาใกล้ๆหน่อยสิ มีเรื่องจะบอก เฟรินเรียกทั้งๆที่ยังนอนอยู่บนเตียง

     

                   คาโลเขยิบเข้าไปตอบคำบอกอย่างหวาดๆ และเตรียมคทาที่เรียกออกแล้วไว้พร้อมจะฟาดลงกลางกระบาลถ้าจำเป็นจริงๆ

     

                   เมื่อคาโลเขยิบเข้าไปใกล้ตามที่ต้องการแล้ว เฟรินจึงกระตุกยิ้มแล้วกระชากข้อมือบาง (?) ของคาโลลงไปนอนแทนที่แล้วขึ้นคร่อม

     

                   “!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” คาโลที่ถูกทำแบบนั้นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แถมคทาที่เตรียมไว้ก็ดันหลุดมือไปตอนที่โดนกระชากเสียนี่ ได้แต่นอนอยู่ข้างใต้เหงื่อแตกพลั่กๆรอรับชะตากรรมที่กำลังจะบังเกิดอยู่อย่างเงียบๆ (แต่ในใจนี่ไม่แน่นะ)

     

                   เฟริน.................... คาโลตัดสินใจพูดออกมาอย่างกลาๆกลัวๆ เพื่อลองดูว่าเฟรินนั้นสมองหรือจิตรับรู้อะไรบ้าง โดยที่ภาวนาขอให้สติไม่รับรู้อะไรเลยยยยยยย

     

                   หืม.....................

     

                   ‘O.K. สติยังอยู่ดีทุกประการ.............. เฮ้ย!!!!!!!! งั้นที่ทำอยู่ก็รู้ตัวนะสิ O-O’ สิ่งที่คาโลคิดกับความเป็นจริงมันช่างบั่นทอนจิตใจยิ่งนัก แถมยังขุดหลุมฝังตัวเองอีกต่างหาก

     

                   คาโล.........ชั้นมาคิดๆดูแล้วนะ นายมีความเป็นระเบียบแถมเรียบร้อยกว่าชั้น สงบเสงียมอีกต่างหาก เฟรินเริ่มเปิดฉากเจรจาทั้งๆที่ยังคร่อมตัวคาโลอยู่

     

                   ล......แล้วไง ?” คาโลถามออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆอีกรอบ

     

                   ตอนนี้ชั้นอยู่ในร่างผู้ชายแล้ว แถมชั้นยังสูงเกือบเท่านายแล้วด้วย.... เฟรินเปลี่ยนเป็นการสาธยายตนเองแล้วนะครับท่าน

     

                   นายต้องการจะพูดอะไรกันแน่...........?” คาโลยังคงเป็นฝ่ายรับ (คำถาม) อยู่

     

                   นายมาเป็นของชั้นเถอะ...............

     

                   สิ่งที่เฟรินพูด แม้เป็นประโยคสั้นๆ แต่ก็ได้ใจความเกินคาด โดยมีเจ้าชายแห่งคาโนวาลเป็นพูดฟังและเข้าใจความหมายที่เฟรินมานอนคร่อมตน บรรยายสรรพคุณความแมนของตัวเอง จนอยากจะอวก

     

                   แล้วทำมั้ยไม่บอกตั้งแต่แรก............. เมื่อรู้ซึ้งถึงความหมายคาโลก็กล่าวออกมาอย่างโล่งอก แล้วถอนหายใจอย่างสบายใจ

     

                   .........................................................

     

                   ........................................................

     

                   เอ๊ะ !  แบบนี้ก็หมายความว่า....................!!!!!!!!!!!!!!!!’ คาโลที่พึ่งตระหนักว่าตอนนี้ตนอยู่ในสภาพไหนจากถอนหายใจอย่างโล่งอกก็กลายเป็นเหงื่อออกอย่างวิตกแทน

     

                  เฟรินเห็นคาโลทำหน้าแบบนั้นจึงอธิบายความคิดแพลงๆของตน

     

                   ก็ปกติในตอนที่ชั้นเป็นร่างหญิงนายก็เป็นฝ่ายรุกตลอด ถึงชั้นจะเป็นหญิงแต่ก็ถูกเลี้ยงแบบชายนะ...........ตอนนี้ชั้นอยู่ในร่ายชายแล้วก็ควรเสมอภาคกันดิ แถมนายก็เรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือนมากกว่าชั้นเสียอีก เพราะงั้นไว้วันหลังนายค่อยรุกก็แล้วกัน เฟรินพูดออกมาอย่างไม่อายปาก

     

                   จะบ้าเรอะ ที่ว่าเรียบร้อยไม่ค่อยพูดเนี่ย เค้าเรียกว่าเย็นชาโว้ย !!!!!!!!!!’ คาโลตะโกนออกมาดังๆในใจ นี่เค้า เจ้าชายคาโล วาเนบลี แห่งคาโนวาล จะต้องกลายมาเป็นฝ่ายรับงั้นรึ !!!!!!!!

     

                   ระหว่างที่คาโลกำลังคิดเรื่องไร้สาระปั่นทอนจิตตนเอง เฟรินก็เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้คาโล.................

     

                   เฮ้ย !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

                   นั่นคือเสียงสุดท้ายของคาโลที่ร้องโหยหวนดังแว้วมา เพราะเราขอเซ็นเซอร์ไว้เพียงเท่านี้ (เดี๋ยวติดเรท)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×