ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อินุยาฉะ รักต่างเผ่าพันธุ์ของอสูรสาวและมนุษย์

    ลำดับตอนที่ #7 : พบผู้ให้กำเนิด

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 50


    คืนนี้ในช่วงอากาศเริ่มเย็นท้องฟ้าถูกทาด้วยสีดำและกลุ่มหมอกสีขาวปุยที่ลอยละล่องอยู่บนอากาศ ไฟยามค่ำคืนส่องสว่างภายในจวนใหญ่ของพวกขุนนางชั้นสูงทั้งหลายที่มาฉลองชัยชนะที่พึ่งผ่านมาเมื่อวานด้วยฝีมือของแม่ทัพรอย


    " ท่านนี่เก่งจริงๆนะ มัสแตงคุง "

    " ท่านก็ว่าไปข้ายังต้องฝึกอีกมากและยังต้องพึ่งพาคนเก่งอย่างท่านอีกเยอะครับ "

    การสนทนาเป็นไปตามปกติของชั้นผู้น้อยชั้นผู้ใหญ่ที่มาพบปะสังสรรค์กันในวันแห่งการสำราญสุขกับนางเกอิชาและสุราเมไรต่างๆ


      หลังจวนซึ่งเป็นที่เตรียมตัวของเหล่านางเกอิชา


    " อินุยาฉะแต่งเสร็จรึยัง…"

    " อื้ม....แต่ว่าข้าไม่ชอบงานแบบนี้เลยข้าไม่ไปไม่ได้เหรอข้าไม่ชอบรำหรือเอาใจใครนะ "

    สายตาสีอำพันของเด็กสาววิงวอนขอร้องเพื่อนตนที่เป็นเกอิชาด้วยกันแต่เพื่อนคนนั้นกลับทำตาดุใส่หญิงสาวแทน


    " ไม่มีทางเลี่ยงหรอกน่าเจ้าน่ะอายุก็พอสมควรที่จะมาทำงานแบบนี้ได้แล้วนะถ้าเจ้าไม่ทำแม่เล้าต้องโกรธมากแน่ๆที่จริงก็ไม่อยากเรียกมาช่วยหรอกแต่คนมันขาดนี่นาวันนี้ก็พวกคนใหญ่คนโตทั้งนั้น"

    " ...................."

    " อย่าคิดมากเลยอินุยาฉะเจ้าไม่ต้องกลัวไปหรอกเพราะเจ้าเป็นปีศาจไม่มีใครกล้าแหยมหรอกน่า"

    " อืม......"

    เพื่อนสาวปลอบพลางปัดแก้มและทาปากให้หญิงสาวใหม่อีกครั้งเพราะเจ้าหล่อนเล่นเลียริมฝีปากตัวเองไปมาด้วยความเหนอะหนะปากที่มีอะไรมาทาเคลือบไว้จนน่ารำคาญเป็นที่สุด


    " สวยแล้วปะ..รีบออกไปได้แล้ว "

    "อืม..."

    เพื่อนสาวลากแขนเล็กของอินุยาฉะออกไปข้างนอกประตูซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าขุนนางที่เริ่มเมากันบ้างแล้วทำให้ความหวาดของครึ่งอสูรสาวมากขึ้นไปอีกเพราะเธอไม่เคยต้องมาทำงานแบบนี้เลย


    " อินุยาฉะเดี๋ยวเจ้าไปดูแลท่านขุนนางคนนั้นนะข้าจะไปหาคนทางนู้น...."

    " อะ..อื้ม "

    เพื่อนที่รักของสาวเจ้าแยกไปทำงานทันทีเมื่อเจอแขกกระเป๋าหนัก ปล่อยให้หญิงสาวครึ่งอสูรอยู่คนเดียวเจ้าตัวจึงจำใจไปนั่งข้างๆขุนนางสูงอายุที่กำลังเมาได้ที่เพราะผู้เป็นขุนนางนั้นเรียกใช้


    " เจ้าน่ะรินเหล้าให้ข้าซิ "

    " เจ้าค่ะ "

    อินุยาฉะปรณนิบัติชายสูงอายุอย่างดีไม่ต่างจากพวกเกอิชาทั่วไปทั้งๆที่เป็นการทำงานครั้งแรกเลยทำให้เป็นที่ถูกใจของขุนนางคนนี้อย่างมากรวมถึงขุนนางอื่นๆที่อยากจะเชยชมในความงามของเจ้าหล่อน


          
    ปากอิ่มสีแดงระเรื่อสดกับดวงตาสีอำพันใสซื่อบวกกับรูปลักษณ์อันงดงามดุจเทพธิดาที่สวมกิโมโนลายซากุระสีขาวตัดอาภรณ์แดงที่ชวนน่าเสน่ห์มากขึ้น ผมสีเงินที่เป็นประกายเมื่อสะท้อนกับแสงจันทร์ในยามค่ำคืนจนดูเด่นกว่าเกอิชาคนใดพร้อมด้วยใบหูที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของ


    " หืม......"

    แม่ทัพรอยหันไปมองตามเสียงพูดคุยของขุนนางอื่นๆที่กำลังชมความงามของนางเกอิชาที่พึ่งออกมาจากหลังจวน เมื่อได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าแล้วร่างสูงก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าทำไมนางเกอิชาผู้นี้ถึงสามารถสะกดอารมณ์และความสนใจของขุนนางเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย


    "  อินุยาฉะ "

    เสียงเรียกแผ่วของหนุ่มตาเหยี่ยวทำให้ร่างบางหันไปตามเสียงเรียกด้วยความคุ้นเคย


    " ท่านแม่ทัพ "

    อินุยาฉะเรียกด้วยน้ำเสียงยินดีพลางขอตัวจากขุนนางที่ตนปรณนิบัติอยู่ไปหาแม่ทัพรอยก่อนจะเดินคานเข่าและเพ่งสำรวจมองด้านข้างซ้ายขวาของแม่ทัพหนุ่มด้วยความสงสัยจนแม่ทัพรอยหันมองบ้างว่าเจ้าหล่อนกำลังมองหาอะไรอยู่

    " เอ่อ..แล้ว.. "


    " ฮาวอคน่ะเหรอ "


    " เจ้าค่ะ  "

    ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าสาวที่ตนหมายปองกำลังมองหาใครอยู่แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความมั่นใจของหนุ่มตาเหยี่ยวผู้นี้ลดลงไปเลยแต่กลับส่งยิ้มหวานให้แทน


    " เจ้านั่นเฝ้าอยู่ข้างนอกน่ะ ไม่ได้เข้ามาหรอกนี่เป็นงานเลี้ยงของคนที่มียศเกินนายกองทั้งนั้นเจ้าเนี่ยไม่ชอบงานสังคมแบบนี้บอกว่าอึดอัดเลยไปนั่งกินเหล้าอยู่กับทหารข้างนอก "

    " งั้นเหรอเนี่ย...."

    " อยากเจอเหรอ "

    " เปล่านะข้าแค่อยากรู้ก็ปกติท่านอยู่ด้วยกันตลอดนี่นา "

    " อย่าพูดแบบนั้นสิ...เดี๋ยวใครเข้าใจผิดหมดคิดว่าข้ากับเจ้านั่นเป็นอะไรกันอยู่หรอก  "

    มัสแตงพูดพลางขนลุกและสะบัดหัวไล่ความคิดของตนออกไปเพราะกลัวคืนนี้จะฝันร้ายเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของครึ่งอสูรสาวได้อย่างมาก


    " ฮิๆๆ...ท่านเนี่ยเหมือนฮาวอคเลยนะพอข้าพูดอะไรพวกนี้เขาก็จะทำท่าคล้ายๆท่านนี่แหละ "

    " งั้นเรอะ..โฮย......ขนลุก "

    " ข้าขอตัวก่อนนะ  จะไปข้างนอกหน่อย  "


    ความสนิทสนมของทั้ง 2 เริ่มมากขึ้นจากตอนแรกทำให้หนุ่มตาเหยี่ยวมีความมั่นใจเป็นทวีคูณว่ายังไงสาวน้อยผู้นี้ตนก็ต้องได้เป็นเจ้าของหัวใจของเธออย่างแน่นอน


    " อืม....แล้วไม่ดูแลแขกต่อเรอะ "

    หนุ่มตาเหยี่ยวถามพร้อมชะเง้อมองมองขุนนางคนที่อินุยาฉะดูแลอยู่เมื่อครู่

    " ไม่เอาอ่ะจะโดด  ข้าไม่ชอบมาทำงานเอาใจแบบนี้ข้าไปล่ะขอบคุณที่เรียกข้าออกมานะอยากไปจะตายแล้วถ้าท่านไม่เรียกข้าคงยังต้องรินเหล้า และ รำ ให้อีตาพุงโตนั่นแน่ๆเลยขอบคุณนะ "

    เมื่อกล่าวขอบคุณจบอินุยาฉะก็แจ้นไปที่ประตูทันทีพลางหันมาโบกไม้โบกมือลาและยิ้มอย่างสวยใสแบบเด็กสาววัยละอ่อนให้ทหารผู้เก่งกล้าหัวใจหวั่นไหวเล่นก่อนจะออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วเพื่อหลบสายตาเหล่าขุนนาง   ไม่นานหนุ่มผมดำก็ฉุกคิดขึ้นมาได้

    " เฮ้ย.............จริงสิ แบบนี้เจ้าฮาวอคก็ได้แต้มสิเนี่ย  "

    ชายหนุ่มกัดริมฝีปากตนด้วยความไม่พอใจที่ประมาทไปหน่อยจึงเริ่มระบายอารมณ์อย่างบ้าคลั่งโดยการดื่มสาเกแบบไม่ยั้งจนทหารคนสนิททั้ง 2 หันไปมองด้วยความสงสัย

    " เค้าเป็นอะไรไปน่ะ... "

    " เครียดงานล่ะมั้งไม่ก็ถูกผู้หญิงทิ้ง อ๊าก!!!!!! "

    เสียงนกกานามเบรด้าและฟาแมนถูกย่างสดสถานที่เกิดเหตุคือหน้าจวนหลวงโดยฆาตรกรนาม แม่ทัพรอยมัสแตงเป็นผู้ปลิดชีพด้วยเปลวเพลิง


    "  พวกนกกาปากมาก  "

    เมื่อกล่าวจบแม่ทัพรอยก็ดื่มสาเกต่ออย่างสบายใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ณ รั้ววัง


    " ฮึๆ....เสร็จข้าล่ะ  ไม่มีทหารเลย  "

    หญิงสาวในชุดยูกาตะสั้นสีแดงมีผ้าคลุมสีดำปกปิดตำหนิเดียวบนเรือนร่างเอ่ยอย่างพอใจเมื่อตนแอบหนีออกมาโดยไม่มีใครเห็นเธอเลยเพราะเหล่าทหารต่างก็ออกไปฉลองชัยชนะกันทั้งนั้นเป็นโอกาสสะดวกที่สาวครึ่งอสูรจะได้ออกไปโลกภายนอกบ้างแล้ว


     
    เด็กสาวกระโดดข้ามกำแพงวังที่สูงเกินร่างชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ๆได้อย่างคล่องแคล่วและง่ายดายจนน่าเหลือเชื่อว่าสาวร่างบอบบางแค่นี้ไม่น่าทำได้

    " วันนี้มีตลาดรอบดึกซะด้วย  คนคงเยอะน่าดูแฮะ  "

    อินุยาฉะบ่นพึมพัมขณะที่เดินดูของในตลาดไปเรื่อยๆอย่างเพลิดเพลินกับของสวยงามสำหรับหญิงสาวในวัยของตนถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนรักสวยรักงามอะไรมากแต่เมื่อได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพศหญิงแล้วจึงทำให้อินุยาฉะไปถูกใจกับปิ่นปักผมอยู่ 1 อันที่ดูเรียบง่ายเหมาะกับตัวเอง


    " สวยจัง....ขายเท่าไหร่เหรอยายแก่ 
    "


    " นี่นังหนูพูดดีๆหน่อยนะ สวยก็สวยอย่าปากร้ายนักสิเจ้าน่ะ 
    "


    " เอาน่า...ยายเท่าไหร่ว่ามาข้าอยากได้
    "


    "  ก็ราคา........หืม............
    "


    " อะไร ยาย 
    "


    " เจ้า.........  ไม่ใช่คนใช่มั้ย
    "

    " ......................... "


    สายตาดุดันของยายแก่ชราภาพที่ขายเครื่องสวยงามสำหรับผู้หญิงนั้นค่อยๆเหลือบขึ้นมามองอินุยาฉะอย่างช้าๆด้วยแววสงสัย


    " รู้ไงยังไง...อึก !!! "

    สาวครึ่งอสูรรู้สึกชาวาบขึ้นมาทันทีเมื่อคำตอบที่ได้รับคือรอยยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมของหญิงชราที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าเหยี่ยวย่นมันฉายแววบางอย่างที่ทำให้หญิงสาวไม่สามารถแม้แต่จะขยับตัวไปจากตรงนั้นเพราะเหมือนมีอำนาจอะไรบางอย่างตรึงร่างของตนไว้


    " ในที่สุดก็เจอตัวซักทีนะ.......ตามหามา 18 ปี เต็ม ฮึๆๆๆๆ... "

                        ..........หมายความว่ายัง นี่มันอะไรกันเนี่ย  !!! ขะ ขยับไม่ได้ ยัยแก่นี่สะกดร่างเราไว้............


    ร่างของเด็กสาวยืนขึ้นและเดินตามหญิงชราไปอย่างว่าง่ายโดยที่จิตสำนึกของอินุยาฉะไม่ได้ต้องการแบบนั้นแม้แต่น้อยมันกลับเรียกร้องให้รีบหนีออกจากหญิงชราผู้น่ากลัวคนนี้ด้วยซ้ำ

      ครึ่งอสูรสาวกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บใจและโกรธเคืองที่ไม่สามารถทำอะไรได้จนบัดนี้ ตนถูกมนต์สะกดบังคับร่างกายให้เดินตามยายแก่ชรามาที่กระท่อมข้างๆศาลเจ้าแห่งหนึ่ง


    " อย่าทำตาแบบนั้นสิ  ข้าไม่ใช่คนร้ายอะไรหรอกนะนังหนู "


    หญิงชราหันมาพูดด้วยพลางดีดนิ้วบังคับร่างของสาวครึ่งอสูรเข้าไปในกระท่อมนั้น
        ภายในมีกลิ่นหอมอ่อนๆของสตรีผู้หนึ่งอยู่และพลังวิญญาณอันแกร่งกล้าที่เด็กสาวครึ่งอสูรสัมผัสถึงได้จากข้างในนั้น


    ....................มันดูเหงา และ เศร้าสร้อย .....................


    ความรู้สึกแรกที่อินุยาฉะรู้สึกถึงไม่ใช่ความกลัวหรือโกรธแค้นดั่งตอนแรกแต่มันกลับเป็นความสงสัยเสียมากกว่าเมื่อได้พบมิโกะสาวหน้าคมผู้หนึ่งอยู่ภายในแววตาของหญิงสาวผู้นี้ดูเหงาเสียเหลือเกิน แต่ พอได้หันมาพบอินุยาฉะแล้วความเหงาเมิ่อครู่ที่สาวครึ่งอสูรสัมผัสได้หายไปหมดสิ้นกลับกลายเป็นความเย็นชาเข้ามาแทนที่


    "
    อินุยาฉะ เด็กสาวครึ่งอสูรที่ข้าตามหาอยู่สินะ  "

    มนต์สะกดถูกคลายออกเมื่อหญิงสาวเอ่ยถามร่างบางอีกคนด้วยน้ำเสียงเรียบ อินุยาฉะ สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไปอย่างฉะฉาน


    " ใช่..ข้าชื่ออินุยาฉะ "


    " เจอกันซักทีนะ  อินุยาฉะ "

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×