ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Keeper Love บริการรักส่งถึงใจ

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 53


              พรึบ~ ( เสียงเปิดม่าน )

              แสงอรุณทอดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง ฉันรับรู้ได้ถึงอำนาจของมัน ที่พาดผ่านดวงตาฉัน ฉันบิดตัวเองจากด้านขวาไปทางซ้ายพร้อมกับเอาผ้าห่มมาคลุมหัว เพื่อนหลบหลีกแสงอาทิตย์

              พี่เจน ขอเฟียสนอนต่ออีกนิดนะคะ ฉันบ่นงึมงำ ไม่ค่อยเป็นภาษาเท่าไหร่

              ไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุด เหมาะแก่การสูดอากาศหายใจ เสียงทุ้มลึกแปลกหู แต่หากเหมือนเคยได้ยิน ทำเอาฉันลืมตาโพล่ง

              พรึบ~

              >_O

              ฉันสะดุ้งดึงผ้าห่มออกและต้องหยีตาลงหนึ่งข้างเมื่อแสงสีส้มส่องเข้ามาในตาฉัน ก่อนจะค่อยๆปรับสายตาให้ชินกับแสง มองบุคคลตรงหน้าที่ส่งยิ้มหวานมาให้

              นาย =_=^ พอเห็นเป็นนายคีปเปอร์แล้วความหงุดหงิดก็เข้ามาทันที

              อรุณสวัสดิ์ครับ เฟียส ^_^ “

              นายคีปเปอร์โค้งหัวให้ฉันน้อยๆ วันนี้เขาแต่งตัวสบายๆ เสื้อยืดสีขาว กางเกงผ้าธรรมดาสีครีม ดูสะอาดสะอ้าน ทรงผมก็เซตมาอย่างเรียบร้อยดูดี ฉันมองไปทางหน้าต่างที่ม่านถูกเปิดออก แสงสีส้มอ่อนๆนั่นเริ่มขึ้นจากท้องฟ้า กี่โมงแล้วนะ? ทำไมฉันรู้สึกว่ามันเช้าเหลือเกินล่ะ T^T

              ใครอนุญาตให้นายเข้าห้องฉันกัน ฉันถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ คนในบ้านนี้รู้ดีถ้าฉันเพลียมากๆ ห้ามมีใครมาปลุกทั้งนั้น และเมื่อคืนกว่าจะทำการบ้านเสร็จก็ปาไปเที่ยงคืน และนี่กี่โมง?

              ฉันเหลือบมองนาฬิกาทางด้านซ้าย

              6 โมงเช้า!!!

              ฉันมีหน้าที่ดูแลเธอ การที่คนเราตื่นสายมากๆ จะทำให้เสียสุขภาพนะครับ ^^ “

              ฉันตื่น 7 โมง มันเรียกว่าสายหรือไง ฉันค้อนขวับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนหมอนี่คงโดนฉันเอานาฬิกาปลุกเขวี้ยงใส่หน้าไปแล้ว เพราะเวลานอนเป็นเวลาที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมารบกวนฉันได้ =_=^

              สายครับ ช่วงเวลานี้ดีที่สุดแล้วครับ อีก 30 นาทีถึงเวลาที่ต้องลงไปทานอาหารเช้า กรุณาอาบน้ำแต่งตัวให้ทันเวลาด้วยนะครับ เขาว่าพลางมองนาฬิกาเช็คเวลาไปด้วย

              ฉันซึ่งกำลังหัวฟูอยู่บนเตียงมองนายคีปเปอร์อย่างเซ็งสุดๆ

              มีแค่นี้ใช่มั้ย?

              ครับ ^^ “

              โอเค ฉันจะนอนต่อ ว่าแล้วก็ดึงผ้าห่มมาคลุมหัวทันทีแล้วเอนตัวลงไปซบกับหมอน โดยไม่สนใจนายคีปเปอร์อะไรนั่นเลย คนง่วงอย่ากวนค่ะ!

              ฉันไม่มีสิทธิ์บังคับเธอ เพราะว่าเธอยังไม่เซ็นใบรับรองนั่น เพราะฉะนั้น ฉันทำหน้าที่ได้แค่นี้ ถ้าเธอตื่นสาย มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะรับผิดชอบ

              อืม ฉันขานรับเบาๆ ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินไหม ทว่าตอนนี้ฉันต้องการที่จะนอนสุดๆ

              อ้อ และอาหารเช้าถ้าเกินเวลา เจ็ดโมง  คงต้องหาทานเองนะครับ เชิญพักผ่อนตามสบาย คุณเฟียส ^^ “

              เสียงประตูปิดลงไปแล้ว ตอนนี้ฉันก็นอนหลับได้สบายใจแล้วล่ะ ไม่ต้องมีเสียงอะไรวุ่นวาย เอาน่า ฉันสัญญาว่าจะตื่นให้ทันไปโรงเรียน แน่นอน ^^W

     

              ครืด ครืด ครืด

              เสียงสั่นของมือถือ ดังขึ้น ฉันเอื้อมไปคว้ามาแล้วรับด้วยเสียงงัวเงียสุดๆ

              ฮาโหลลลล ( เสียงยานๆๆ อาการคนเพิ่งตื่น )

              [ ยัยเฟียส!!! เธออยู่ไหนเนี่ยฮะ? ] เสียงแหลมๆแวดขึ้นหูแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร

              โรสเหรอ? มีอะไรอ่ะ พูดเสียงงึมงำๆ

              [ ก็ใช่น่ะสิ! ฉันเอง แล้วทำไมเสียงเธอเหมือนเพิ่งตื่นแบบนั้นล่ะฮะ? นี่มัน เก้าโมงแล้วนะ !! ] พอโรสบอกเวลาปุ๊บฉันก็เด้งตัวจากเตียงโดยอัติโนมัติ

              ว่าไงนะเก้าโมง!!!! “ ฉันว่าแล้วหันมองนาฬิกาด้านซ้ายยังไม่กลัวคอจะเข็ด กะ...เก้าโมงจริงๆด้วย  O_O

              [ นี่เธอ รีบอาบน้ำและมาโรงเรียนเดี๋ยวนี้เลย ก่อนพวกประธานนักเรียนจะเล่นงานเธอ!!! ]

              จะไปเดี๋ยวนี้แหละ! “

              ติ๊ด!

              ฉันกดวางสายแล้วรีบลงจากเตียงเข้าห้องน้ำโดยเร็วไว ไม่ลืมที่จะคว้าผ้าขนหนูที่วางอยู่บนเก้าอี้พร้อมชุดเสื้อผ้า เสื้อใน และ กกน.มาด้วย โหย ใครเตรียมให้ฉันกันล่ะเนี่ย ยอดเยี่ยมสุดๆ ต้องเป็นพี่เจนแน่ๆ รู้ใจฉันขนาดนี้

              ฉันใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวร่วมๆ 20 นาที ฉันรีบวิ่งออกจากห้อง เสียงโครกครากในท้องบอกให้ฉันรู้ว่าฉันต้องการอาหารเช้าด่วนๆ ฉันจึงกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในห้องอาหาร แต่ปรากฏว่าไม่มีอาหารเตรียมไว้เลย เจอแต่แผ่นโน้ตเล็กๆสีขาวแปะไว้พร้อมข้อความ

              เลยเวลาอาหารเช้าแล้วนะครับ กรุณาหาทานเอง ^_^

                                            Keeper – R

     

            ฉันอยากจะกรีดร้องให้ลั่นบ้าน แล้วนี่พวกแม่ครัวหายไปไหนกันหมด ฉันไม่มีเวลาเหลือแล้ว จำต้องวิ่งออกจากบ้านหลังโตโดยไว ไม่กินแล้วข้างชงข้าวเช้า โชคดีแค่ไหนที่ยังมีลุงแดงขับรถให้ฉัน T^T

              ลุงแดงเหยียบชนิดมิดคันเร่ง เพราะฉันสั่งให้ไปถึง โรงเรียนภายในสิบนาที ไม่อย่างนั้นจะตัดเงินเดือน ตอนแรกแกก็ทำท่าจะไม่เอา พอฉันขู่เรื่องเงินเท่านั้นแหละ เหยียบจนฉันจะพุ่งทะลุไปนั่งเบาะข้างหน้า ถ้าฉันไม่จับเบาะเอาไว้แน่นๆ    พอลงจากรถปรากฏว่าประตูรั้วปิดแล้ว ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากปีน ฉันมองซ้ายขวาดูยาม ไม่มียาม และไม่มีพวกประธานนักเรียนแถวนี้ด้วย ดีนะที่ฉันยังมีสติบอกให้ลุงแดงส่งตรงประตูข้าง เพราะประตูหน้ากับประตูหลังยามจะเฝ้า ประตูนี้นานๆทีมีครั้ง เอาล่ะในเมื่อไม่มีก็ต้องปีน

              ตุ้บ!

              ฉันกระโดดลงจากประตูรั้วอย่างสวยงาม ปัดไม้ปัดมือนิดหน่อยเอาฝุ่นออก

              ฮู่วววว ฉันพ่นลมหายใจแล้วเดินเข้าไปข้างในตึก แต่ยังก้าวเท้าไม่ทันไร เสียงเรียกก็ทำให้ฉันสะดุ้งโหยง

              จะรีบไปไหนล่ะครับ คุณแมวป่าสุดสวย

              มะ...แมวป่า =[]=

              ขวับ!

              ฉันหันไปมองคนที่เรียก จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากไอ้ประธานนักเรียนจอมกวนประสาท นายฟรอซท์~!!    ฉันจะไปเรียน ฉันว่าแล้วกำลังจะวิ่งหนี หากว่ามือหมอนั่นไวมาก เขาจับแขนฉันไว้ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัว

              โดนจับคาหนังคาเขาแบบนี้ ฉันว่าเธอไปโดนหักคะแนนพฤติกรรมในห้องกิจการนักเรียนก่อนจะดีมั้ง ฟรอซท์ยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วดึงตัวฉันไป หากฉันยื้อตัวเองไว้แล้วรีบพูดทันที ไม่ได้นะ! ฉันจะโดนหักคะแนนพฤติกรรมไม่ได้ ไม่งั้นพ่อด่าฉันยับแน่ เผลอๆอาจโดนลดค่าขนมด้วย! T_T       

              ไม่ ฉันไม่ไป! “

              เธอทำผิดนะเฟียส เธอมาสายแถมปีนรั้วข้ามมาอีก ฉันต้องทำตามกฎ เขายิ้มยั่ว

    ฉันอยากจะชกหน้าสักเปรี้ยงนึง ไอ้ประธานจอมกวน!

              นายจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ แต่ขอร้องอย่าหักคะแนนพฤติกรรมฉัน ฉันบอกเสียงอ่อย เพราะฉันรู้ดีว่า ถ้าฉันยังดื้อรั้นอยู่ล่ะก็คะแนนอาจจะโดนหักมากกว่าเดิม T_T

              ว้า~ ฉันไม่มีอะไรให้เธอทำน่ะสิ เห็นทีว่าต้องขึ้นฝ่ายกิจการอย่างเดียวและล่ะ ไป คำว่า ไปของเขากดต่ำจนดูน่ากลัว มันทำให้ฉันไม่สามารถต่อรองอะไรได้อีก ใครก็ได้ช่วยฉันที TOT ฉันโดนหักคะแนนไม่ได้นะ โฮกกกก~!!

              ฟรอซท์ เสียงต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง เสียงนี้เหมือนเคยได้ยินจากไหนนะ

              อ้าว คีย์ มาทำอะไรแถวนี้วะ นายฟรอซท์หันไปทักทายบุคคลมาใหม่ ซึ่งนั่นก็คือ...

              นายคีปเปอร์อาร์นี่!!! ฉันก็ว่าแล้วเชียวเมื่อวานเหมือนจะลืมอะไร  ลืมถามเกี่ยวกับเรื่องนี้นี่เอง เขากับนายคีปเปอร์นั่นหน้าตาเหมือนกันมาก...ทว่าบุคคลิกนิ่งๆแบบนี้ไม่เหมือน นายคีปเปอร์เลยแฮะ ดวงตาก็ดูเย็นชาแปลกๆ แต่หน้าตาเขาเหมือนกันจริงๆๆนะ!! Y_Y

              ก็มาทำเหมือนที่นายทำ เขาว่าแล้วมองมาที่ฉัน สายตานั่นเหมือนกับเขาไม่เคยรู้จักฉันสักกะนิด

              แสดงว่านาย ชื่ออะไรนะ คีย์? เออใช่ นายคีย์นี่ต้องมาจับเด็กมาสายแน่ๆ ดูท่าทางจะโหดด้วย

              แล้วก็รอง( รองผู้อำนวยการ ) เขาให้ฉันมาตาม ด่วน! “

              ตามฉันเหรอ?

              อืม -_- “ นายฟรอซท์ลังเลใจนิดหน่อย ว่าจะไปไม่ไปดี ตามจริงก็ต้องไปนั่นแหละ รองสั่งมาตามเชียวนะ  ฮุฮุ ไปเร็วๆสิ ฉันจะอาศัยจังหวะที่เขาปล่อยแขนฉัน ใส่เกียร์หมาวิ่งสุดชีวิต ^^

              ตะ...แต่ว่า รองที่พูดถึงน่าจะเป็นรองฝ่ายกิจการนักเรียนนะ ก๊อด!!

              =[]=

              ก็ดีเลย ไปห้องกิจการ จะได้พาเธอไปด้วย ^_^ “ นายฟรอซท์ยิ้มหวาน ทว่านายคีย์ก็ขัดขึ้นมาก่อน

              รองให้ไปพบที่สนาม ส่วนผู้หญิงคนนี้ฉันจัดการเอง เขาว่าแล้วชี้มาที่ฉัน

              คงเพราะฟรอซท์มัวแต่กังวลว่าฉันจะหนีมั้ง นายคีย์นี่ก็เลยตัดสินใจจะจัดการฉันเอง มันน่ากลัวมากนะ ฉันยอมให้นายฟรอซท์มายิ้มยั่วโมโหฉันดีกว่า เอาอีตาเย็นชานี่มาทำหน้าเดียว -_- แบบนี้ใส่ฉันนะ เพราะฉันอ่านความรู้สึกไม่ออก กลัวหนีแล้วหมอนั่นจับฉันหักแข้งหักขาจะว่าไง ( เวอร์มากกกก =_=^^ )

              “ ฝากด้วยแล้วกัน ยัยนี่แสบใช่เล่น หาตัวจับมาลงโทษยากจะตาย “ เขายีหัวฉัน จนฉันปัดมืออกแทบไม่ทัน หัวฟูเลยทีเดียว ฉันค้อนตาเขียวปั๊ด พร้อมชูหมัด นายฟรอซท์หัวเราะก่อนจะรีบวิ่งไปทางสนามโรงเรียน

              เอาล่ะ...ถึงเวลาใส่เกียร์หมาแล้ว

              1

              2

              หมับ!

              “ เฮ้ยยย~!! ปล่อยฉันนะ “ ฉันพยายามแกะมือเขาจากแขนฉัน ไม่น่านับเลย ถ้าวิ่งไปแต่แรกก็คงหนีรอดแล้ว T^T

              “ อ้อมตึก 9 ไป และหลบพวกยาม กรรมการนักเรียนดีๆล่ะ อย่าให้ฉันเดือดร้อน “ เขาว่าแล้วเดินหันหลังไปทำหน้าที่ตัวเองต่อไป

              ฉันก็ได้แต่ยืน งงๆ

     ฮะ? เขาไม่ได้จับฉัน ไม่ได้ส่งฉันไปฝ่ายปกครอง หากกลับปล่อยฉันไป เอ่อ...ฉันต้องขอบคุณเขาไหมอ่ะ แต่ว่าไม่ทันแล้ว ขอบคุณในใจแล้วกัน T^T

             

              ฉันเดินอ้อมหลังตึก 9 ที่เขาว่า เพราะตรงนี้ปลอดคนดี ไม่เจอยามหรือกรรมการนักเรียนสักคน สงสัยคงดักรอตามรูตามช่องล่ะมั้ง แบบว่ามันมีคนทำขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน นักเรียนโรงเรียนฉันเองล่ะ!

              เฮ้อ...เหนื่อยแฮะ หิวน้ำจัง  

    ฉันเดินตรงไปที่แท้งค์น้ำ ปกติที่เคยเห็นตามโรงเรียนหรือตามห้าง ที่กินน้ำจะเป็นแบบว่าก๊อกกดแล้วเอาแก้วหรือกระดาษทรงกรวยรอง แต่โรงเรียนฉันเป็นก๊อกแบบว่าหัวหันขึ้น เวลาเปิดก๊อกน้ำจะพุ่งขึ้นมา ดีเหมือนกันนะ ไม่เปลืองแก้วไม่เปลืองกระดาษลดโลกร้อนด้วย

    อ่า...น้ำเย็นเจี๊ยบเลย

    ขนาดที่กำลังก้มดื่มน้ำอยู่นั้น ฉันเหลือบตามอง คนข้างๆที่เพิ่งเดินเข้ามาดื่มน้ำ มือใหญ่ดูคุ้นตาเปิดก๊อก ก่อนจะก้มตัวเองลงมาดื่มน้ำ สร้อยคอที่ห้อยไว้ ออกมาจากตัวเสื้อเห็นเป็นรูปแหวนสีเงินถูกแขวนอยู่กับสร้อยเส้นสีดำ ดวงตาฉันเบิกโพล่งเมื่อเห็นตัวแหวนที่สลักว่า S&F

    “ แค่กๆๆๆ “ ด้วยความที่มัวแต่ตกใจกับแหวนนั่นทำให้ น้ำพุ่งเข้าปากเข้าจมูกฉันจนสำลักออกมา ฉันบิดปิดก๊อกก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากระโปรงขึ้นมาเช็ด

    ซวยแล้วฉัน!

    แบบนี้พี่แซนด์ก็รู้ว่าเป็นฉันน่ะสิ!

    “ เฟียส!! เป็นอะไรหรือเปล่า “ เสียงเรียกชื่อฉันอย่างแปลกใจ ก่อนจะเดินเข้ามาหา นั่นทำให้ฉันถอยห่างแล้วเก็บผ้าเช็ดหน้าใส่กระเป๋า พร้อมกับเดินหลีกจะขึ้นตึกเรียน

    “ ไม่เป็นไรค่ะ ขอตัว “ ฉันว่าเสียงเรียบ ไล่ภาพแหวนที่สลักชื่อย่อเขากับฉันเอาไว้ แหวนนั่น แหวนที่ฉันให้เขาในตอนวันเกิดปีที่แล้ว ทำไม...ทำไมเขาต้องเก็บมันไว้

    “ เดี๋ยวสิ “ พี่แซนด์รีบมาดึงแขนฉันเพื่อยื้อตัวไว้ ฉันพูดโดยไม่หันไปมองเขา กลัวว่าเขาจะเห็นแววตาที่เจ็บปวดของฉัน

    ทำไมต้องเป็นตอนนี้...ทำไมเราต้องมาเจอกันตอนนี้ด้วย รู้แบบนี้ฉันยอมให้นายฟรอซท์พาฉันไปส่งที่กิจการดีกว่ามาเจออะไรแบบนี้...

    “ เฟียสรีบมาก ขอโทษค่ะ “ ฉันพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่น ภาพแหวนวงนั้นยังคงหลอกหลอนฉันอยู่

    “ ดีหรือเปล่า “ เสียงพี่แซนด์อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ฉันฟังไม่ค่อยออก

    “ คะ? “ ฉันหันหน้าไปมองบุคคลข้างหลังที่หลบหน้ามาตลอด 2 อาทิตย์ ใบหน้าซูบผอม ดวงตามีรอยช้ำเหมือนคนร้องไห้ นั่นทำให้หัวใจฉันถึงกับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

    ใครทำอะไรพี่!

              นี่คือสิ่งแรกที่ฉันอยากจะถาม...หากต้องเก็บมันไว้ในใจ ฉันกับเขาตอนนี้เราอยู่ในฐานะอะไรฉันรู้ดี...

              “ เปล่าน่ะ ดูแลตัวเองดีๆนะ “ น้ำเสียงเป็นห่วงของเขา ถ้าฉันไม่ได้คิดไปเอง มันเต็มไปด้วยความคิดถึง ความโหยหา ความเจ็บปวด...

              อย่า!

              ฉันห้ามใจตัวเอง ห้ามไม่ให้หัวใจสั่นไหวไปกับน้ำเสียงของเขา ฉันหลบตาที่เริ่มรื้นไปด้วยน้ำใสๆ พยักหน้าช้าๆ ก่อนเดินหันหลังแล้วรีบวิ่งจากไป สองมือเช็ดน้ำตา สมองกำลังสลัดภาพแหวนสีเงินออกไปในหัว

              ทำไมทุกครั้งที่ฉันกำลังจะลืม...หลายครั้งที่ไม่ได้นึกถึงเขา...แต่เขากลับมา มาทำให้หัวใจฉันสั่นคลอนอีกแล้ว     แหวนของฉันทำไมเขายังห้อยอยู่ คล้ายกับว่าเขาไม่เคยถอดมันออกเลย การกระทำกับคำพูดของของเขาทำให้ฉันไขว้เขว พี่แซนด์อย่าทำแบบนี้ อย่าทำกับเฟียสแบบนี้!!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×