ตอนที่ 10 : บทที่ 7 : แพ้ราบคาบ [ Re ]
บทที่ 7 : แพ้ราบคาบ [ Re ]
"เร้าใจกันหน่อย!"
อาคิระพุ่งตัวไปทางชายตรงหน้าพร้อมกับง้างดาบดราก้อนที่เห็นจึงจะเอียงตัวหลบแต่ก็ต้องชงักเมื่อร่างเล็กเบื้องหน้านั้นหายไป
ร่างของเด็กผู้ชายเรือนผมยาวสีดำอยู่ข้างหลังอีกฝ่ายพร้อมกับฟาดดาบออกไป
ผัวะ!! ตู้มมม!!!
กำปั้นของคนตรงหน้าซัดเข้าที่ใบหน้าของเขาก่อนที่ร่างของอาคิระจะกระเด็นไปชนกับซากปรักหักพัง
อาคิระพยุงตัวเองลุกขื้นยืนพลางมือบางค่อยๆเช็ดเลือดที่ไหลออกจากปากที่นุ่มนวลก่อนที่จะกระชับดาบในมือแน่นและเดินออกจากซากปรักหักพัง
ดราก้อนเมื่อเห็นอีกฝ่ายที่ดูไม่บาดเจ็บก็ยิ้มมุมปากเหมือนอย่างที่เขาคิดไว้ เด็กตรงหน้านั้นมีพลังของผลปีศาจที่สามารถรักษาฟื้นฟูร่างกายของตัวเองได้ ซึ่งนั้นก็หมายความว่าเขาสามารถจัดการเด็กตรงหน้าได้แบบไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของอีกฝ่าย
"ฉันเอาจริงแล้วนะคราวนี้น่ะ" ดราก้อนเอ่ยพลางหรี่ตามองและแสดงสีหน้าจริงจัง
"เออ ฉันก็เหมือนกัน" อาคิระพูดเสียงเย็นชาพลางยกดาบสูงเหนือศีรษะก่อนจะฟาดดาบออกไปด้วยความรวดเร็ว
"ดาบวายุ!!"
ลมที่มีความคมเหมือนใบมีดขนาดใหญ่พุ่งออกมาดราก้อนใช้วิชาโซลเคลื่อนย้ายตัวเองไปข้างหลังของอีกฝ่าย
ฟึ่บ เพล้ง!!
อาคิระยกดาบขึ้นมาป้องกันหมัดของดราก้อนที่มาจากข้างหลังก่อนที่เขาจะเสริมฮาคิเกราะเข้าไปในใบดาบ นั่นเป็นสิ่งที่เกินการคาดเดาของดราก้อนไป
เด็กชายร่างเล็กกระหน่ำฟันดาบไปยังคนตรงหนัาแต่ดราก้อนก็สามารถหลบหลีกมันได้อย่างรวดเร็ว อาคิระเมื่อเห็นจึงใช้วิชาโซลเคลื่อนย้ายร่างมาอยู่ข้างหลังของอีกฝ่ายและฟาดดาบใส่
เคล้ง!!
ดราก้อนรับคมดาบของอีกฝ่ายด้วยแขนข้างเดียวเป็นจังหวะที่มืออีกข้างจะอยู่ตรงหน้าอกของอาคิระ
"กรงเล็บมังกร"
ปัง!!!!
อาคิระกระอักเลือดจำนวนมากออกมาเขารู้สึกเหมือนร่างกายของตัวเองฉีกออกเป็นชิ้นๆ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้รู้สึกมาก่อนในชีวิตพลางร่างเล็กจะกระเด็นออกไปไกลและกระแทกเข้ากับซากตึกพร้อมสภาพที่นอนไร้สติ
ดราก้อนมองเด็กตรงหนัาพร้อมรอยยิ้มมุมปากพลางจะเดินไปอุ้มร่างเล็กขึ้นมาพาดบ่าก่อนจะเดินออกจากเมืองชั้นในของอณาจักรโกอา
"อพยพคนมาหมดแล้วใช่มั้ย?" อีวานคอฟกระเทยใบหนัาใหญ่ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ในกองทัพคณะปฏิวัติถามสมาชิกคนอื่น
"เรียบร้อยแล้วครับ"
สมาชิกคนนึงรายงานเขาจึงพยักหน้าและกำลังจะออกคำสั่งให้แล่นเรือแต่ก็ต้องหยุดชงักเมื่อเห็นร่างคุ้นตาในชุดเสื้อคลุมสีดำเหลือบเขียวเดินมาทางพวกเขา
"ดราก้อนรีบขึ้นมาเร็วเข้าเรากำลังจะไปกันแล้ว!" อีวานคอฟตะโกนไปยังร่างที่ยืนนิ่งอยู่นอกเรือก่อนที่ดวงตาของเขาจะเบิกกว้างเมื่อเห็นในมือของเพื่อนอุ้มสิ่งมีชีวิตบางอย่าง
"นั่นอะไรน่ะ?"
ฟึ่บ! ดราก้อนโยนร่างเล็กใหัอีวานคอฟเขาก็รีบรับร่างนั้นโดยทันทีถึงแม้จะงงๆอยู่ก็ตามก่อนที่เสียงของอีกฝ่ายจะเอ่ยขึ้น
"ไปรอฉันที่ชิโมสึกิ ฉันยังมีบางสิ่งที่ยังต้องทำ"
"ดะ..ได้! แต่เด็กคนนี้เป็นใคร?"
"ก็ต้องรอดูว่าเขาจะเป็นแสงแห่งความหวังในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้หรือว่าเขาจะเป็นความมืดที่ทำลายล้างโลกใบนี้"
ดราก้อนตอบอีกฝ่ายด้วยคำพูดปริศนาพรัอมกับจะเดินหายไปพร้อมกับสายลมอีวานคอฟรู้สึกสงสัยในคำพูดของอีกฝ่ายพลางมองไปยังเด็กผู้ชายร่างเล็กในมือของเธอ
หลายชั่วโมงต่อมา
ดวงตาสีแดงค่อยๆเปิดขึ้นพลางจะเอามือทาบอกตัวเองนั่นเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่ที่เขาเคยเจอมาตอนมายังโลกใบนี้รอยยิ้มมุมปากค่อยๆยกขึ้น
"น่าสนุกดีนี่หว่า"
ร่างเล็กเอ่ยพร้อมกับพยุงลุกขึ้นนั่งพลางหันมองรอบตัวตอนนี้สถานที่ที่เขาอยู่มันช่างไม่คุ้นตาเป็นห้องไม้กว้างที่มีเตียงนอนหลายเตียงตั้งอยู่เขาลุกออกจากเตียงนอนและเดินเปิดประตูออกไป
"ตื่นแล้วหรอจ้ะ?"
"ว๊ากกกก!!"
อาคิระร้องเสียงหลงอย่างตกใจเมื่อเห็นผู้ชายใบหน้าใหญ่แต่งตัวเป็นกระเทยปรากฏตรงหน้าอย่างกระทันหัน
"ทำไมถึงต้องแสดงท่าทีแบบนั้นด้วยฉันมีอะไรผิดปกติหรอ?" อีวานคอฟถามพลางจับใบหน้าที่ใหญ่โตของตัวเองอย่างสงสัยก่อนจะเอ่ยต่อ"เออจริงสิหนุ่มน้อยว่างรึเปล่า?"
"ไม่อ้ะ ดาบฉันอยู่ไหน?" อาคิระถามทันทีพลางหันมองรอบห้อง
"ดาบ? อ๋อเล่มนี้สินะ?"
อีวานคอฟถามพร้อมโชว์ดาบญี่ปุ่นฝักสีแดงขึ้นมาทันทีที่เห็นร่างเล็กก็คว้ามันมาอย่างรวดเร็วก่อนจะเอามาพาดบ่า
"มันเป็นของเธออยู่แล้วนี่นา ดีล่ะไหนๆเธอก็ตื่นแล้วขึ้นไปบนเกาะกับฉันหน่อย ฉันต้องไปขอเสบียงจากสำนักดาบเขา"
อีวานคอฟกล่าวขึ้นอาคิระได้ยินก็ขมวดคิ้วและถามทันที"สำนักดาบชิโมสึกิงั้นหรอ?"
"ใช่ ตอนนี้เรายังอยู่ในอณาจักรโกอาหมู่บ้านชิโมสึกิ เรามาเพื่อขอเสบียงเขาเพิ่มเพราะผู้คนที่เราอพยพมาจากเกรย์เทอร์มินัลมีเยอะกว่าที่คิด"
อีวานคอฟตอบคำถามอีกฝ่ายก่อนที่เด็กชายร่างเล็กเรือนผมสีดำยาวนัยน์ตาสีแดงจะแสดงแววตาหดหู่และถอนหายใจพร้อมสบท
"แม่งเอ้ยนี่ฉันทำงานพลาดหรอเนี่ย ป่านนี้เจ้ามังกรฟ้านั่นคงไปถึงที่นั่นแล้วล่ะ"
"มังกรฟ้า?! นี่เธอที่พูดเมื้อกี้..." กระเทยใบหน้าใหญ่คะยั้นคะยอถามอีกฝ่ายทันที
อาคิระเมินอีวานคอฟและก้าวเท้าเดินไปมองสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านชิโมสึกิตรงหน้าก่อนที่เขาจะยิ้มบางๆออกมา
"สงบสุขดีจังแฮะที่นี่" เสียงที่เอ่ยดูผ่อนคลายแต่ก็ปนความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สบายใจ
"เอส ลูฟี่ ขอโทษนะที่ไม่ได้ล่ำลานายสองคน หวังว่าสักวันเราต้องเจอกันแน่นอน ที่ไหนซักแห่งบนผืนทะเลที่กว้างใหญ่ของโลกใบนี้"
อาคิระกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มฉีกกว้างและความรู้สึกมุ่งมาดคิดว่าอนาคตพวกเขาจะต้องได้เจอกันอย่างแน่นอน และกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน
"เจ้าเด็กบ้ารีบตามมาได้แล้วยืนรำพึงรำพันอะไรอยู่ได้?" อีวานคอฟกล่าวไปทางร่างที่ยืนยิ้มอยู่บนเรือขณะที่ร่างของเขายืนอยู่บนแผ่นดินของหมู่บ้านชิโมสึกิ
"เดี๋ยวสิคนเพิ่งฟื้นมาถึงก็ใช้งานเลย หน้าใหญ่ไม่พอใจยังเหมือนยักษ์อีกด้วยนะนายเนี่ย" อาคิระเอ่ยพลางยักไหล่สองข้างพร้อมยิ้มล้อเลียนอีกฝ่าย
"ว่าใครใจยักษ์ยะ!!"
เด็กชายเรือนผมสีดำยาวอมยิ้มออกมาพลางทั้งสองจะเดินเข้าไปในโรงฝึกอิชินณ.หมู่บ้านชิโมสึกิอีวานคอฟเข้าไปเจรจากับเจ้าของโรงฝึกที่มีใบหน้ายิ้มตลอดเวลา
อาคิระที่ได้แต่มองก็กวาดสายตามองบรรยากาศของโรงฝึกแห่งนี้ด้วยสายตาเรียบนิ่งอาจเป็นเพราะเขาไม่สัมผัสถึงผู้แข็งแกร่งได้เลยจากที่นี่
"หาว~" อาคิระอ้าปากหาวออกมาอย่างเบื่อๆพลางยืดแขนขึ้นสูงเผื่อคลายกล้ามเนื้อ
อิชิน โคจิโร่ เจ้าของโรงฝึกแสดงสีหนัาตกใจเมื่อเห็นดาบในมือของเด็กชายร่างเล็กก่อนจะเอ่ยออกไป
"นี่เธอดาบนั้น…?!"
ลูกศิษย์ในสำนักต่างหันไปมองอาจารย์เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงที่ดูตื่นตระหนกจากเขาไม่เว้นแม้แต่คุอินะเด็กสาวผมสั้นสีดำที่กำลังฝึกดาบยังต้องชงัก
"ฮ้ะๆ มีอะไร?" อาคิระขยี้ตาพร้อมถามออกไปอย่างงัวเงียเพราะเริ่มง่วง
"ดาบอสูรคิโยสึมิ 1 ใน 21 ดาบชั้นยอด"
"เห~ดาบนี้ดีขนาดนั้นเลยหรอ" อาคิระถามกลับพร้อมกับมองดาบในมือด้วยแววตาแปลกใจ
"ไม่ดีเลยซักนิด ดาบอสูรคิโยสึมิ มันเป็นดาบอาถรรพ์"
หลังจากที่โคจิโร่บอกทุกคนในโรงฝึกก็ต่างฮือฮาขึ้นมาซึ่งอีวานคอฟที่ได้ยินก็หันมองรอบอย่างมึนงง
"ดาบอาถรรพ์?" อีวานคอฟเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
"ดาบอาถรรพ์ ผู้ถือครองมันจะต้องตายอย่างเวทนา แต่คิโยมิสึแตกต่างออกไป มันจะสูบพลังชีวิตของตัวผู้ใช้ และจะค่อยๆเปลี่ยนตัวของผู้ใช้เป็นอสูรกายทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นดาบที่ช่างตีดาบตระกูลคะชูสร้างขึ้นก่อนที่ตระกูลจะล้มสลายไป เล่ากันว่าวิญญาณของคิโยมิสึที่เป็นช่างตีดาบเล่มนั้นเข้าไปสิงสู่ เพราะงั้นดาบนี้มันถึงได้อันตรายมาก ทางที่ดีฉันว่าเธอไม่ควรจะใช้มันนะ"
โคจิโร่เตือนออกไปด้วยใบหน้าจริงจังทุกคนในโรงฝึกเมื่อได้ยินก็ฮือฮาอีกครั้ง อีวานคอฟรีบพุ่งไปเอ่ยกับร่างเล็กทันที
"ถ้าเป็นจริงเธอก็ควรทิ้งมันไปนะ!"
"เห~น่าสนใจกว่าที่คิดแฮะนายเนี่ย" อาคิระเอ่ยพร้อมยิ้มมุมปากไปยังดาบในมือก่อนจะกล่าวต่อ"เปลี่ยนตัวของผู้ใช้เป็นอสูรกายทั้งร่างกายและจิตใจ...ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อนะแต่ว่าฉันกับดาบเล่มนี้น่ะผ่านอุปสรรคต่างๆมาอย่างลำบากถึงเจ้านี่จะเคยตัดร่างกายของฉันเป็นส่วนๆมาแล้วก็เถอะ"
"นี่เธอไม่ใช่ว่า…" โคจิโร่มองเด็กผู้ชายเรือนผมสีดำยาวตรงหนัาด้วยใบหน้าจริงจัง
"คิฮ่าฮ่าฮ่า~ แล้วมันจะยังไงล่ะเพื่อพลังที่จะเป็นนักดาบของโลกแล้วกับแค่ชีวิตน่ะมันไร้ค่าสิ้นดี อีวานคอฟฝากขนเสบียงแทนฉันด้วยนะ"
อาคิระกล่าวพลางโบกมือลาพร้อมกับก้าวขาเดินออกจากโรงฝึกแต่ก็ต้องหยุดเดินเมื่อมีเด็กผู้ชายผมสีเขียวร่างเล็กยืนขวางทางอยู่
"นายบอกว่าจะเป็นนักดาบของโลกสินะ แต่เสียใจด้วย เพราะฉันคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด! มาดวลกับฉันซะ!"
เด็กในโรงฝึกเมื่อได้ยินก็ตกตะลึงในหมู่เด็กผูัชายโซโลคือคนที่เก่งที่สุดและกำลังท้าดวลกับเด็กแปลกหน้าคนนึง
"นี่เธอเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อ---" ขณะที่อีวานคอฟกำลังจะเอ่ยอาคิระก็ยกมือห้ามอีกฝ่าย
"---ทำไมฉันต้องดวลกับนาย?" อาคิระถามคนตรงหนัาด้วยใบหน้าราบเรียบ
"ฉันเกลียดท่าทางอวดดีของนาย แล้วก็เกลียดนายด้วย!" โซโลเอ่ยตอบด้วยใบหน้าจริงจัง
"คิ ซื่อตรงดีนี่ ชื่ออะไรหรอเราน่ะ? ฉันจะได้ไปไหว้หลุมศพของนายถูก" อาคิระถามพลางดึงดาบออกฝัก
"โรโรโนอา โซโล แล้วคนที่จะอยู่ในหลุมไม่ใช่ฉัน แต่เป็นนายตังหาก!"
"เดี๋ยวก่อนที่นี่เราต้องดวลกันด้วยดาบไม้ไผ่ ใช้ดาบจริงไม่ได้หรอกนะ" โคจิโร่บอกออกไปเพราะเป็นห่วงลูกศิษย์กลัวจะได้อันตราย
"ห๊ะ? งี่เง่าชะมัด แต่ก็ช่างเหอะ" อาคิระเอ่ยอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะฝากดาบคิโยสึมิไว้กับอีวานคอฟและเดินไปหยิบดาบไม้ไผ่ในที่เก็บ
"เบาจังแฮะ" อาคิระพึมพำพลางแกว่งดาบในมือไปมาขณะที่เดินไปยืนตรงข้ามโซโล
"ต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้พวกคุณเสียเวลาแบบนี้" โคจิโร่หันไปขอโทษกระเทยใบหน้าใหญ่ข้างๆ
"ไม่หรอกที่จริงเด็กของทางเราก็เสียมารยาทเหมือนกัน" อีวานคอฟเอ่ยให้อีกฝ่ายสบายใจ
"เริ่มการดวลได้!" โคจิโร่ประกาศขึ้น
"โซโลเล่นมันเลย! / ชนะให้ได้นะ!"
เสียงเชียร์ต่างดังขึ้นมาและเทไปทางเด็กชายผมสีเขียวคนนี้ซักส่วนใหญ่ โซโลพุ่งเข้ามาพร้อมกับสองดาบในมืออย่างมั่นใจ ดวงตาสีแดงมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเบื่อหน่ายและแสดงใบหน้าเรียบนิ่งก่อนที่เขาจะฟาดดาบไปที่หน้าของอีกฝ่าย
เพียะ!
"โซโล แพ้" เสียงประกาศดังขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเริ่มการดวลได้ไม่ถึงสิบวินาทีด้วยซ้ำดวงตาของโซโลเบิกกว้างนี่คือครั้งที่สองที่แพ้ให้กับคนอื่น
เพียะ!
"..!?" ทุกสายตาเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นอาคิระยังคงฟาดฟันดาบไปทางอีกฝ่ายอย่างเรื่อยๆและไม่มีทีท่าหยุดลง
เพียะ! เพียะ! เพียะ! เพียะ! เพียะ!
"เพราะความมั่นใจเกินเหตุทำให้นายต้องพ่ายแพ้ หัดมองโลกกว้างซักบ้าง"
แปะ!
ดาบไม้ไผ่เล่มนึงเข้ามากันหน้าของโซโลเอาไว้ดวงตาสีแดงเหลือบไปมองเจ้าของดาบไม้ไผ่นั่นก่อนจะพบกับเด็กสาวผมสั้นสีดำใบหน้าสวย
"ทำเกินไปแล้วนะ นี่เป็นการดวลนะ" เด็กสาวเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจัง
"คุอินะ…" โซโล
อาคิระหันไปมองร่างของโซโลที่มีใบหน้าแดงช้ำเพราะการกระทำของเขา เด็กผู้ชายเรือนผมยาวสีดำถอนหายใจพลางเอาดาบพาดบ่า
"ตายแล้ว~ จริงด้วยโทษทีนะฉันลืมไปเลยว่าเป็นการดวลนายเป็นอะไรรึเปล่าเดี๋ยวฉันขัดหลังให้เป็นการถือโทษแล้วกันนะ" อาคิระกล่าวไปทางโซโลด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและน้ำเสียงเย้ยหยัน
เด็กสาวเมื่อได้ยินก็กัดฟันกรอดขึ้นมาอีกฝ่ายทำเพื่อนและคู่แข่งเธอขนาดนี้แต่กลับพูดด้วยท่าทางยียวนแบบนั้น
"คุณพ่อ หนูขอท้าดวลกับผู้ชายคนนี้ได้ไหม?" อิชิน คุอินะ เธอหันไปถามพ่อของเธอที่เป็นเจ้าสำนัก พร้อมกับแสดงใบหน้าจริงจังออกมา
"คุอินะ...พ่อคิดว่า---"
"เฮ้อ~ จะสู้กันยังขออนุญาตอีกแฮะ ทำเป็นพิธีไปได้เป็นคนญี่ปุ่นรึไงกัน เอ๊ะ? ฉันก็เป็นคนญี่ปุ่นนี่นา? ฮ่าฮ่าฮ่า โทษทีๆพอดีลืมสัญชาติไปชั่วขณะน่ะเพราะคนในโลกนี้พูดภาษาเดียวกันหมดเลย"
อาคิระพูดออกไปพลางหัวเราะทันใดนั้นเองเสียงของคุอินะก็เอ่ยขึ้นมา
"นี่เธอคงจะบ้าหรือ พ่อแม่ไม่สั่งสอนสินะถึงได้ไร้มารยาทแบบนี้"
"อาห์~ เจ็บจังแฮะ ฉันไม่เคยได้รับความรักจากพวกท่านเลยพล่ามแต่บอกว่าให้ใช้ชีวิตในฐานะชนชั้นสูงเหยียบย่ำพวกต่ำต้อยกว่าตัวเองเหมือนกับสิ่งนั้นเป็นแค่แมลง"
อาคิระกล่าวด้วยสีหนัาเศร้าสร้อยก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มร่าเริงแล้วกล่าวต่อ
"เพราะงั้นสำหรับฉันแล้ว ฉันเกลียดพวกเขาสุดๆไปเลยล่ะ!"
แต่ละคำพูดแผ่จิตสังหารที่รุนแรงออกมาคนในโรงฝึกเมื่อได้ยินและรู้สึกได้ก็ต่างพากันตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แม้แต่อีวานคอฟที่มองเด็กตรงหน้าด้วยใบหน้าดำคร่ำเครียด
"อ๊ะ! นี่ฉันนอกเรื่องไปไกลแล้วแฮะ ตกลงว่าไงอยากดวลกับฉันรึเปล่า?"
"เรื่องนั้นแน่นอน แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้นึกถึงเรื่องของครอบครัว" คุอินะกล่าวด้วยใบหน้าเรียบนิ่งแต่ในใจสั่นระริกเพราะถึงแม้ตัวของเธอจะเป็นเด็กแต่ก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากอีกฝ่าย
"เริ่มการดวล!"โคจิโร่ถึงแม้ในใจจะหวั่นๆแต่ก็ประกาศออกไป
ทั้งสองยืนอยู่นิ่งไม่ขยับเขยื้อนไปไหนก่อนที่คุอินะจะบุกเข้ามาพร้อมกับฟาดดาบไม้ไผ่ออกไปอย่างรวดเร็วและหนักหน่วงไม่เผยช่องว่างให้เขาได้รับรู้
อาคิระเอียงตัวหลบและมองเด็กสาวตรงหน้าก่อนจะแววตาลุกวาวเมื่อเห็นเพลงดาบญี่ปุ่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน รอยยิ้มมุมปากของเด็กชายยกขึ้นสูงแล้วแหย่อีกฝ่าย
"หน้าตาสวยไม่เบานะเธอเนี่ย"
คุอินะฟาดดาบไปด้วยใบหน้าจริงจังแต่อาคิระก็หลบมันได้หมดพร้อมกับหยอกล้อเธอต่อ
"ฉันน่ะไม่ชอบพวกที่จริงจังเกินเหตุแต่กับเธอฉันกลับมองว่ามันน่ารักนะ"
"นี่ฉันว่ามันแปลกๆนะ" เด็กในโรงฝึกซุบซิบกัน
อาคิระตาโตก่อนจะเอาดาบขึ้นมาป้องกันดาบไม้ไผ่ของอีกฝ่ายคุอินะเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง
"ช่วยจริงจังหน่อยได้ไหม? หรือเพราะเห็นฉันเป็นผู้หญิงเลยไม่เอาจริงงั้นหรอ?"
"ใครบอกล่ะ ฉันกำลังศึกษาเธออยู่ตังหาก"
อาคิระกล่าวพร้อมผลักดาบของเธอออกไปก่อนที่ดาบไม้ไผ่ของเขาจะกระหน่ำแทงร่างของเด็กสาวตรงหน้า
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
คุอินะล้มลงไปนอนกับพื้นนี่เป็นครั้งแรกที่เธอพ่ายแพ้ให้คนอื่นนอกจากพ่อของเธอ หรืออาจเป็นเพราะเธอเป็นผู้หญิงจึงไม่สามารถเอาชนะเด็กผู้ชายตรงหน้าได้
"คุอินะ!!" โซโลตะโกนเรียกอีกฝ่ายทันทีนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอพ่ายแพ้
อาคิระยกดาบไม้ไผ่ขึ้นมาพาดบ่าพลางมองไปยังเด็กสาวที่ล้มลงไปนอนก่อนที่เขาจะเดินไปหาร่างนั้นและเอ่ย
"แกร่งกว่าที่ฉันคิดนะเธอเนี่ย"
"ฉันไม่ต้องการความเห็นใจจากนาย"
"ฉันพูดจริงๆตังหาก..." อาคิระเอ่ยพลางยื่นมือออกไปพร้อมเอ่ยต่อ"ฉันชื่อ อาคิระ"
"คุอินะ" เธอตอบชื่อให้อีกฝ่ายพร้อมกับพยุงตัวเองลุกขึ้นยืนและเดินออกจากโรงฝึกไป
"สำนักดาบอิชินงั้นหรอ...น่าสนใจกว่าที่คิดแฮะถ้าฉันเรียนรู้วิชาดาบจากที่นี่คงจะเสริมฝีมือของฉันได้เยอะเลยล่ะ"
"แต่ว่าไม่เอาดีกว่าขืนอยู่ที่นี่ฉันก็คงเป็นกบในกะลาสู้ไปเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งข้างนอกดีกว่า"
อากิระเอ่ยด้วยใบหน้าเบื่อหน่ายและน้ำเสียงตัดพ้อพลางโยนดาบไม้ไผ่ลงพื้นก่อนจะเดินไปหยิบดาบจากมืออีวานคอฟแล้วเดินออกจากโรงฝึกอิชิน
เวลาล่วงเลยจนตะวันเริ่มตกแสงจันทร์เริ่มสาดส่องลงมาทุกคนในเรือใบนี้ต่างวิตกกันเพราะหัวหน้าของพวกเขายังไม่มีทีท่าว่าจะมาซักที
"ดราก้อนอยู่ไหนเนี่ย…นี่มันเลยเวลานัคหมายแลัวนะ" อีวานคอฟเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าตื่นตระหนก
"น่าๆเดี๋ยวตาลุงนั่นก็มาเองแหละ" อาคิระเอ่ยสบายใจเฉิบพลางล้มตัวนอนกับพื้นเรือ
"จะสบายไปแล้วนะ แล้วนี่เธอแน่ใจแล้วใช่มั้ยที่จะเข้าร่วมกับคณะปฏิวัติน่ะ?"
"เข้าร่วม? เอ่อ...ไม่รู้สิ?"
"หา?" อีวานคอฟที่ได้ยินก็มึนงงกับคำตอบ
"ชีวิตของฉันคือการผจญภัยและก็แค่อยากทำในสิ่งที่อยากทำเท่านั้น"
อาคิระเอ่ยอีวานคอฟมองเด็กผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา เขาไม่รู้เลยว่าดราก้อนคิดยังไงถึงต้องการเด็กคนนี้มาเข้าร่วมคณะปฏิวัติ
"คุณดราก้อน?!"
อีวานคอฟหันไปมองทันทีเมื่อได้ยินชื่อคุ้นหูก่อนจะพบเด็กผู้ชายผมสีบอนร์มีแผลโดนไฟเผาที่ตาซ้ายหมดสติในอ้อมแขนของดราก้อน
"อาการสาหัสมาก!" สมาชิกในคณะปฏิวัติพูดก่อนจะพาตัวของซาโบ้ไปรักษาทันที
อาคิระมองร่างของน้องชายร่วมสาบานด้วยความเจ็บปวดและเคียดแค้นพวกเผ่ามังกรฟ้าที่ทำแบบนี้ สักวันเขาจะต้องล้างบางเจ้าพวกนี้ให้หมดสิ้นไปจากโลกที่เน่าเฟะนี้
ดราก้อนที่สังเกตเห็นอาคิระปล่อยจิตสังหารออกมาก็เดินเข้าไปลูบหัวและกล่าว
"เก็บความแค้นนั้นเป็นพลังแล้วจงแข็งแกร่งขึ้นตอนนี้เธอเป็นคนของคณะปฏิวัติแล้ว อาคิระ"
อาคิระปัดมือหนาออกพร้อมหันไปเอ่ยใส่ด้วยน้ำเสียงดุดัน
"อย่ามายุ่งนะตาลุงถ้าไม่อยากโดนฉันฆ่า"
รอยยิ้มมุมปากของดราก้อนผุดขึ้นก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องพักผ่อนของตัวเอง
✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤✤
ตอนนีัรีนะครับให้อาคิระเข้าร่วมกับคณะปฏิวัติแทนตอนแรกกะจะให้อยู่ในหมู่บ้านชิโมสึกิและก็ช่วยคุอินะไม่ให้ตาย แต่ผมคิดว่านางตายก็น่าจะดีกว่าเพื่อเป็นแรงผลักดันให้โซโลเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
การเขียนฟิคนิยายต้องเข้าถึงตัวละครไม่ใช่สักแต่ว่าเขียน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

315 ความคิดเห็น
-
#309 armmyza007 (จากตอนที่ 10)วันที่ 27 ธันวาคม 2563 / 02:16นักดาบของโกเปลี่ยนเป็นนักดาบที่เเข่งเเกร่งที่สุดน่าจะดีกว่านะครัล#3090
-
#291 YukikoWarashi (จากตอนที่ 10)วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 / 00:50สังเกตมานานและ.... ป่วยดาบก็มา555#2910
-
#286 Caramel_Star^^ (จากตอนที่ 10)วันที่ 26 มิถุนายน 2563 / 16:52ชอบประโยคสุดท้ายของไรท์มาก!!! ต้องเข้าถึงตัวละครไม่ใช่สักแต่ว่าเขียน //ชูป้ายหัวใจ#2860
-
#234 Soluger (จากตอนที่ 10)วันที่ 21 มิถุนายน 2563 / 13:37นิสัยทำตามใจแบบนี้เป็นโจรสลัดดีกว่า#2340
-
#203 poomreal (จากตอนที่ 10)วันที่ 18 มิถุนายน 2563 / 15:05มาต่อเถอะนะอยากอ่านจะตายห่าอยู่แล้วนะเฟ้ย!?#2030
-
#201 RIKIRIKA (จากตอนที่ 10)วันที่ 9 มิถุนายน 2563 / 18:31รออ่านตอนต่อไปอยู่น้าา~#2010
-
#197 Kafae-kun (จากตอนที่ 10)วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 / 00:22น้องเก่งมั่กๆเลยยค้าบบ รอตอนต่อไปนะคับ#1970
-
#196 สีขาวผู้โง่เขลา (จากตอนที่ 10)วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 / 21:34อ่านมาตั้งหลายตอนดิฉันเพิ่งโฟกัสดาบ//กีดร้องงง//(คาแรคเตอร์ก็คะชูดาบก็คะชูกร้าวจายยยยยยย~อรั้ยย~ดาบจะกลายร่างเป็นคนได้ไหมคะ55555+)#1961
-
#196-1 7124 (จากตอนที่ 10)20 พฤษภาคม 2563 / 14:34ไปนอนไป#196-1
-
-
#192 KimTmmm (จากตอนที่ 10)วันที่ 10 พฤษภาคม 2563 / 14:33ปักป้ายรอแปบ!!!! รู้สึกว่าลูกเก่ง#1920
-
#187 Billx (จากตอนที่ 10)วันที่ 29 เมษายน 2563 / 00:14รอตอนต่อไปครับ#1870
-
#183 cake08234 (จากตอนที่ 10)วันที่ 15 เมษายน 2563 / 18:33อากิระไม่ออ่นโยน5555รังแกเด็กอะเรา5555สงสารโซโล#1830
-
#179 นักอ่านยามวิกาล (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 เมษายน 2563 / 12:11ดีแล้วครับ เพราะเพลงดาบยังอ่อนอยู่#1790
-
#178 [Shiro-san] (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 เมษายน 2563 / 12:04เย้!!!ตบโซโลเลย!สั่งสอนให้เด็กมันรู้~✨#1780
-
#177 โลลิค่อน (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 เมษายน 2563 / 11:58สนุกกกก#1770
-
#176 kangza45782 (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 เมษายน 2563 / 11:45จบซะละ#1760
-
#175 poomreal (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 เมษายน 2563 / 01:21โคตรเลยค้างสุดโค่ย!?#1750
-
#174 MindDe (จากตอนที่ 10)วันที่ 12 เมษายน 2563 / 23:18สงสารน่าจะโดนมากกว่านี้นะ5555#1740
-
#172 Zero100548 (จากตอนที่ 10)วันที่ 12 เมษายน 2563 / 22:36สนุกมากกกกก#1720
-
#171 โลลิค่อน (จากตอนที่ 10)วันที่ 12 เมษายน 2563 / 21:33สนุกมากค่าาาา#1710
-
#170 [Shiro-san] (จากตอนที่ 10)วันที่ 12 เมษายน 2563 / 21:06จ้าาาแต่น่าจะให้น้องโชว์เทพกว่านี้ให้ดราก้อนดูแล้วค่อยโดนกระทืบทีหลัง😂😂#1700